บทที่ 289 รับรองทรัพย์สิน

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่289 รับรองทรัพย์สิน

มู่เซิ่งเพิ่งเดินไปถึงที่หน้าประตูทางเข้างานประมูล ก็ได้ถูกขวางกั้นห้ามเข้า

นี่ไม่ใช่หน่วยงานของงานประมูลจงใจเจาะเฉพาะตัวมู่เซิ่ง แต่เป็นเพราะเงื่อนไขของงานครั้งนี้สูงมาก นับตั้งแต่มีประวัติจัดงานมา เป็นครั้งหนึ่งที่สูงที่สุด

การจัดงานประมูลบนเกาะนั้นเรียกว่างานประมูลหลงหาง เป็นการประมูลระดับซูเปอร์พรีเมี่ยมของเกาะ และก็เป็นงานของบริษัทการเดินเรือสมุทรแห่งหนึ่ง เห็นว่า ความลึกซึ้งในเบื้องหลังของเขานั้น จัดว่ามีระดับในเยียนจิง สิ่งของต่าง ๆ ที่เอามาประมูลขายในงานประมูลนี้ ก็ล้วนแต่เป็นของล้ำค่าสุดวิเศษที่พวกเขาได้มาในระหว่างการเดินเรือ ทุกครั้งในการประมูล ก็มักจะต้องถูกประมูลซื้อไปในราคาที่สูงมาก

พวกทำธุรกิจการค้าทางทะเลเหล่านี้ ฐานะที่อยู่บนเกาะนี้สูงที่สุด อีกทั้งมีข่าวเข้ามาว่า งานนี้มีคนสำคัญจากเยียนจิงจะมาที่เกาะนี้ และยังมาด้วยธุระเกี่ยวกับธุรกิจการค้าทางทะเลอีกด้วย เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงต้องมีการเตรียมการเป็นพิเศษ ในการใส่ใจกับการประมูลครั้งนี้

เพราะฉะนั้น ระดับความเข้มงวดในการตรวจตราคนเข้างานจึงต้องเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ ต้องจัดว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ทุกคนต่างก็ประหลาดใจ ผู้ยิ่งใหญ่จากเยียนจิงคนนี้จะเป็นใคร ทว่านอกจากผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในบริษัทแล้ว ไม่มีใครรู้ได้ ที่เล่ากันมาก็รู้แต่ว่าผู้ชายคนนี้เป็นผู้ที่สามารถควบรวมธุรกิจการค้าทางทะเลเป็นหนึ่งเดียวได้ อีกทั้งยังเป็นนักเสวียน แน่นอนว่า ข่าวลือประเภทนี้ไม่สามารถจะได้รับการยืนยันได้

พวกเขาเข้าใจได้แต่ว่า จะมีผู้ยิ่งใหญ่กำลังจะมา เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาก็แล้วกัน

“คุณผู้ชายท่านนี้ ถ้าหากคุณต้องการเข้าร่วมในงานประมูลด้วย จำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของเราก่อน” ผู้รักษาความปลอดภัยหน้าทางเข้าขวางห้ามมู่เซิ่งเข้า พูดด้วยสีหน้าแสดงความเสียใจ

“ถ้างั้นผมก็ขอพบเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของคุณ” มู่เซิ่งพูดอยู่นอกประตูทางเข้า

พวกรปภ.ที่อยู่ในขณะนี้ ต่างก็ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างเข้มงวด การดูแลงานประมูลครั้งนี้ จะมีการให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นกับแขกทุกคนที่มาจะให้เกียรติกันเป็นอย่างสูง ได้เอ่ยปากถามว่า “ครับคุณผู้ชาย ไม่ทราบคุณมีนัดไว้ล่วงหน้าหรือยัง?”

“ไม่มี” มู่เซิ่งส่ายหน้า

“ถ้าไม่ได้นัดไว้ ก็คงต้องเชิญไปต่อคิวที่ข้างนอกก่อนนะครับ”

ทางด้านนั้น เห็นต่อแถวกันเป็นคิวยาวอยู่ ถ้าไม่ได้มีนัดไว้ล่วงหน้า ก็จำต้องค่อย ๆ รอคิวตามรายชื่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ

มู่เซิ่งไม่รู้เรื่องที่เหยาเผิงจะมาบนเกาะสองใจนี้ เพราะฉะนั้นก็ให้รู้สึกว่าท่าทางของรปภ.พวกนี้ ดูแปลกตามาก ไม่คิดว่ารปภ.พวกนี้จะมีอัชฌาสัยดีแบบนี้ ยังจะดีกว่าพวกรปภ.ของบริษัทใหญ่โตอื่น ๆ พวกนั้นมาก

“ได้ครับ” มู่เซิ่งผงกหัว เดินไปยังปลายสุดของแถว

รปภ.โค้งคำนับ แสดงความขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ หลังจากนั้นก็เริ่มปฏิบัติหน้าที่เดินตรวจการต่อไป

ดีว่าเป็นช่วงเวลาค่ำคืน ถึงแม้จะดูมีแถวยาว แต่ที่รอก็ไม่ได้มากนัก และยังมีบางส่วนที่ขี้เกียจรอปลีกตัวกลับไป ฉะนั้นเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงคิวของมู่เซิ่ง มู่เซิ่งเดินเข้าไปในห้อง ผู้ที่มาดูแลรับเรื่องกับเขาเป็นชายวัยกลางคนคนหนึ่ง

“สวัสดีครับ ผมเป็นเจ้าหน้าที่รับผิดชอบของบริษัทหลงหาง เปาหารครับ จะพบผมด้วยธุระอะไรไม่ทราบครับ?” ผู้ชายที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ถาม

“ผมคิดจะเข้าร่วมงานประมูลของพวกคุณที่นี่ แต่ทางฝ่ารปภ.ของพวกคุณบอกผม ก่อนที่จะเข้าร่วมงาน จำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากพวกคุณถึงจะได้” มู่เซิ่งพูดเข้าเรื่องไปเลยทีเดียว

“ใช่ครับ ท่าน”

เปาหารผงกหัว งานประมูลไม่ว่าที่ไหน ต่างก็มีกฎข้อกำหนด งานประมูลของหลงหางก็เช่นเดียวกันไม่มีกรณียกเว้น:

“การเข้าร่วมงานประมูล เพื่อรับรองว่าคุณไม่ได้ตั้งใจมาก่อกวน มีความสามารถประมูลซื้อได้จริง จึงจำเป็นต้องมีขั้นตอนของการพิสูจน์ทรัพย์สิน และระดับขั้นของการประมูล ก็จะกำหนดโดยหลักฐานการพิสูจน์ทรัพย์สิน เพื่อใช้แบ่งเขต ทั้งหมดเรามีการแบ่งออกเป็นห้าระดับที่แตกต่างกัน”

“ในห้าระดับที่ต่างกันนี้แบ่งเป็นขั้นธรรมดาที่สุด ไปถึงขั้นสูงสุดระดับวี.ไอ.พี.ในห้องพิเศษ ในขั้นธรรมดาที่สุดนั้น เงื่อนไขคือจะต้องมีการรับรองทรัพย์สินไม่น้อยกว่าห้าล้านขึ้นไป จึงจะเข้าไปนั่งข้างในนั้นได้ ระดับที่สอง ก็คือ…….”

เปาหารกำลังจะสาธยายรายละเอียดต่อในแต่ละระดับขั้น มู่เซิ่งพูดตัดบทไปว่า “จัดการพิสูจน์หลักฐานทรัพย์สินเถอะ ผมคิดว่า ผมมีคุณสมบัติพอที่จะนั่งที่ชั้นสูงสุดในห้องพิเศษ”

พูดจบ มู่เซิ่งก็ควักบัตรเครดิตธนาคารสีเงินออกมาใบหนึ่ง ร่อนโยนลงบนโต๊ะ

เปาหารถึงกับต้องมองมู่เซิ่งไปอีกหลายตลบ

เขาเห็นเศรษฐีเจนเนอรัลที่สองมามากมาย เห็นที่บ้านมีเงินมากหน่อย ก็ทำเขื่องวางมาดใหญ่โต มู่เซิ่งดูก็น่าจะใช่ประเภทเศรษฐีเจนเนอรัลที่สอง เข้ามาที่นี่นั่งในระดับที่อยู่ก็คงได้ แต่ทว่าจะไปขั้นสูงที่สุดหรือ?น่ากลัวยังคงต้องอีกไกลกว่าจะพอ

ต้องรู้ว่า เงื่อนไขสำหรับห้องพิเศษชั้นสูงสุดนั้นต้องพิสูจน์แล้วว่ามีทรัพย์สินห้าพันล้านขึ้นไป มีวงเงินหมุนไม่น้อยกว่าหนึ่งพันล้านขึ้นไป ถึงจะมีคุณสมบัติพอที่จะเข้าไปนั่งในนั้น ชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้านี้ดูท่าทางอวดวางตัวเองไว้สูงค่ามาก หากได้ยินเงื่อนไขขนาดนี้ คงต้องสะดุ้งล้มหงายกระแทกกรามหลุดเป็นแน่

เปาหารก็ไม่ได้พูดตรง ๆ ไปตามนั้น แต่กลับอยากเห็นท่าทางมู่เซิ่งเมื่อตอนที่รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์อยู่ในระดับสูงขนาดนั้นแล้วจะออกท่ายังไง ฉะนั้นจึงรับบัตรเครดิตธนาคารใบนั้นมา โยนให้เลขาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ สั่งไปว่า “ไปจัดการตรวจสอบที ระวังตรวจพิสูจน์ให้ชัดเจนนะ”

เลขาผงกหัว รีบออกไปจัดการในทันที

“คุณผู้ชายครับ ด้วยว่าขณะนี้อยู่ในสถานการณ์พิเศษ ฉะนั้นนอกจากการขอพิสูจน์ทรัพย์สินแล้ว ยังจำเป็นต้องขอทราบเบื้องหลังของคุณด้วย” เปาหารพูดต่อ

“ยุ่งยากขนาดนั้นเชียว?” มู่เซิ่งถึงกับขมวดคิ้วย่น

ทั้งการพิสูจน์ทรัพย์สิน ทั้งตรวจสอบเบื้องหลัง เพียงเพื่องานประมูลนี้เท่านั้นนะ ทำไมต้องทำยังกับจะตรวจสอบสัมโนประชากรกันเลย

“ในสถานการณ์ไม่ปกติ คุณผู้ชายครับ ขอท่านได้โปรดให้ความเข้าใจด้วยนะครับ”

“ได้เลย” เห็นท่าทางฝ่ายตรงข้ามใช้กิริยาวาจาสุภาพนอบน้อมตั้งแต่ต้นมาตลอด มู่เซิ่งก็ไม่น่าจะพูดว่าอะไรให้มากเรื่อง “เดี๋ยวผมเรียกจางเสวียนหลงมาที่นี่ ให้เขายืนยันเบื้องหลังของผม น่าจะไม่เป็นไรมั้ง?”

“จางเสวียนหลง เขาเป็น?” เปาหารถึงกับชะงัก

ถึงแม้จะไม่สามารถยืนยันเบื้องหลังด้วยตัวเองได้ งั้นอย่างน้อยก็ต้องหาผู้ที่มีชื่อเสียงฐานะในสังคมมาพิสูจน์นะ?

“ลูกน้องของผมคนหนึ่ง แต่ว่าอยู่ที่เจียงหนาน คนทั่วไปจะเรียกเขาว่าท่านหลง” มู่เซิ่งพูดต่อ

“เจียงหนาน ท่านหลง?” เปาหารถึงกับตาพร่าขึ้นมา จางเสวียนหลง?ท่านหลง!สองคำนี้ระเบิดสนั่นลั่นก้องหูเขาไปเลย ทั่วทั้งเมืองเจียงหนาน ทั้งเขตติดต่อใกล้เคียงกับเมืองเจียงหนาน มีใครไม่รู้จักชื่อท่านหลงที่ยิ่งใหญ่นี้?เดิมทีมีอิทธิพลแบ่งครองเจียงหนานกับไป๋เมี่ยนเซียว ตอนนี้ยึดรวมไป๋เมี่ยนเซียวเข้ามา หมดทั้งเจียงหนาน ล้วนอยู่ในมือของเขา

ถ้าบอกว่าให้ท่านหลงมารับรองฐานะของเขา เปาหารจะต้องยอมเชื่อร้อยทั้งร้อย

“ได้ครับ แต่คุณจะต้องทำให้ผมแน่ใจได้ว่าเป็นท่านหลงจริงถึงได้นะครับ” เปาหารพูด

มู่เซิ่งผงกหัว จัดการต่อโทรศัพท์ไปหาจางเสวียนหลงทันที

จางเสวียนหลงพอได้ยินว่ามู่เซิ่งเรียกให้เขาไปเกาะสองใจ คงคิดว่าเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น รีบพาลูกน้องทั้งหมดออกเดินทางในทันทีด้วยอารมณ์ร้อนรน แม้บ้านตัวเองยังไม่คิดสนใจ

กองกำลังจำนวนกว่าร้อยคน ออกเดินทางกันอย่างเป็นการใหญ่

“คุณผู้ชาย ที่จริงแล้ว แค่คุณให้ผมโทรศัพท์ไปที่บริษัทในเครือของท่านหลงเพื่อยืนยันว่าเบอร์โทรฯ.นี้เป็นของท่านหลงจริงก็ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องรบกวนให้ท่านมาเอง……”

ได้ยินมู่เซิ่งถึงขนาดให้จางเสวียนหลงมาด้วยตัวเอง ทำเอาเปาหารเหงื่อผุดออกหน้าผากเป็นเม็ด ๆ ในทันที

“คุณก็ไม่บอก่อนนี่…..” มู่เซิ่งบ่นใส่กลับไป ไอ้หมอนี่เดี๋ยวจะให้พิสูจน์เบื้องหลัง เดี๋ยวจะพิสูจน์ฐานะ ทำเอาจะต้องออกแสดงตนด้วยตัวเอง เล่นกันยุ่งยากวุ่นวายเกินไป

และในเวลานั้นเอง เลขาได้กลับเข้ามาอย่างหน้าตาตื่น มือประคองบัตรเครดิตธนาคารสีเงิน อยู่ในท่าทางเคารพนอบน้อมอย่างที่สุด