ตอนที่ 499 คิดถึงบ้าน (2) / ตอนที่ 500 คิดถึงบ้าน (3)
ตอนที่ 499 คิดถึงบ้าน (2)
“คุณชายมู่ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี อีกทั้งหลินอ๋องก็ได้อนุมัติให้เขาสามารถระดมทหารของกองทัพรุ่ยหลินไม่เกินสิบนายเป็นพิเศษ เพื่อช่วยเขาหลอมโอสถวิเศษด้วยขอรับ” หลงฉีกล่าวเสียงเรียบ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าหางเสียงของเขานั้นเจือความรู้สึกชื่นชมมู่เฉินมากทีเดียว
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย
กองทัพรุ่ยหลินเป็นดั่งลูกรักของจวินเสี่ยน ในเวลานั้น แม้แต่เจ้าของร่างก็ยังไม่สามารถใช้ทหารของกองทัพรุ่ยหลินได้แม้แต่นายเดียว แค่คิดก็รู้แล้วว่าจวินเสี่ยนไม่ชอบใจที่จะให้ใครระดมกองทัพนี้ตามอำเภอใจ แต่ตอนนี้เขากลับอนุญาตให้มู่เฉินระดมทหารของกองทัพรุ่ยหลินไม่เกินสิบคนได้ เห็นได้ชัดว่าไว้ใจมากจริงๆ
จากท่าทีของจวินเสี่ยน ทำให้จวินอู๋เสียทราบว่ามู่เฉินคงจะปฏิบัติตามข้อตกลงที่ได้ตกลงไว้กับนางก่อนหน้าด้วยความจริงใจอย่างแท้จริง
ช่างเป็นคนมีน้ำใจจริงๆ
“ท่านปู่กับท่านอาเล็ก…เป็นอย่างไรบ้าง” คำถามที่ค้างคาใจ ติดอยู่ในลำคอไม่กล้าเอื้อนเอ่ยมาโดยตลอด หลังจากนิ่งเงียบไปนานจวินอู๋เสียก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น
นางไม่เคยรู้ว่าความคิดถึงเป็นเช่นไร ทว่านับตั้งแต่จากจวนหลินอ๋องมา นางก็รู้ว่าอะไรคือความรู้สึกที่เรียกว่าคิดถึงบ้าน
นางคิดถึงรอยยิ้มอันอ่อนโยนของจวินเสี่ยน คิดถึงเสียงหัวเราะที่เบิกบานของจวินชิง แม้ว่านางพยายามไม่จดจำ แต่ภาพเหล่านั้นก็มักจะปรากฏขึ้นมาในห้วงความคิดของนางเสมอ
หลงฉีมองจวินอู๋เสียด้วยแววตาที่อ่อนลง ในแววตานั้นซ่อนรอยยิ้มไว้ แต่เขารีบก้มศีรษะลงอำพรางรอยยิ้มนั้น “หลินอ๋องและท่านอ๋องน้อยสบายดีขอรับ พวกเขาแค่…คิดถึงท่านมาก”
เสียงหัวใจที่เต้นตึกตักพลันแจ่มชัดขึ้นมา
จวินอู๋เสียหลับตาลง สลัดความเศร้าสร้อยในดวงตาส่วนลึกออกไป
นางก็คิดถึงท่านปู่กับท่านอาเล็กเช่นกัน แต่นางยังกลับไปไม่ได้
นางกลัว กลัวว่าเมื่อตัวเองกลับไปแล้วจะเฉื่อยชาลง เพราะอาลัยอาวรณ์ความอบอุ่นของครอบครัว
สิ่งที่เกิดขึ้นบนเทือกเขาเมฆาทำให้นางตระหนักได้อย่างชัดเจนว่า ถึงแม้นางจะไม่ก่อเรื่องยั่วยุใคร แต่เพราะการดำรงอยู่ของบัวหิมะซังอวี้ คนอื่นก็จะเห็นนางเป็นเป้าหมายในการไล่ล่าอยู่ดี
แม้ว่าน้ำพุสวรรค์เทียนเฉวียนที่บรรจุอยู่ในกาสวรรค์เทียนหูจะสามารถซ่อนเร้นไม่ให้ใครตามหานางพบ แต่การมีชีวิตรอดไปวันๆ เช่นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่นางปรารถนา
ตราบใดที่บัวหิมะซังอวี้ยังคงเป็นวงแหวนภูติวิญญาณของนาง ตราบใดที่นางยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ อันตรายอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เวลานี้นางยังอ่อนแอเกินกว่าจะต้านทานทั้งสิบสองตำหนักได้ เมื่อใดก็ตามที่ทั้งสิบสองตำหนักทราบถึงฐานะของนาง ไม่เพียงแต่นางเท่านั้น แต่ทั้งสกุลจวินและกองทัพรุ่ยหลินทั้งหมดล้วนต้องประสบเคราะห์กรรมไปด้วย
ความสามารถของสามโลกชั้นกลาง จวินอู๋เสียได้สัมผัสมาด้วยตัวเองแล้ว ความสามารถอันแข็งแกร่งที่ทำให้คนรู้สึกสิ้นหวัง สามารถทำลายทุกสิ่งที่นางครอบครองได้ในพริบตา
ครอบครัวของนาง คนที่นางรัก
นางไม่สามารถกลับไปได้!
แม้คิดถึงมากเพียงใดก็ไม่สามารถกลับไปได้ นับตั้งแต่วินาทีที่ตัดสินใจอยู่ต่อ จวินอู๋เสียได้ตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะติดตามทุกคนค้นหาสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิไปพร้อมกับเฉียวฉู่และคนอื่นๆ เพื่อเอาสมบัติล้ำค่าที่อยู่ในนั้น สืบทอดพลังอันทรงอานุภาพ และขุดรากถอนโคนศัตรูที่สอดส่ายสายตามองหาบัวหิมะซังอวี้ทั้งหมด!
นางต้องแข็งแกร่ง แข็งแกร่งจนไม่มีใครกล้ายุ่งเกี่ยวกับสมบัติของนาง แข็งแกร่งจนไม่มีใครสามารถทำร้ายคนที่นางรักได้แม้เพียงปลายก้อย
นี่คือการตัดสินใจที่เด็ดขาดของจวินอู๋เสีย นางเปลี่ยนความคิดถึงที่มีให้กับจวินเสี่ยนและจวินชิงกลายเป็นแรงผลักดันให้นางแข็งแกร่งขึ้น
มีแต่การทำให้ภัยคุกคามทั้งหมดหายไปจากโลกนี้เท่านั้น นางจึงจะสามารถกลับจวนหลินอ๋องอย่างสบายใจได้ กลับไปยังบ้านที่นางหวงแหนมากที่สุด นางไม่ยอมให้อันตรายใดๆ เข้าใกล้คนที่นางรักเป็นอันขาด
“คุณหนูใหญ่ ท่าน…จะไม่กลับไปจริงๆ หรือขอรับ” หลงฉีมองจวินอู๋เสียที่กำลังหลับตา สะท้านในใจเล็กน้อย
จวนหลินอ๋องที่ขาดจวินอู๋เสีย ก็เหมือนกับขาดพลังจิตวิญญาณไป ตั้งแต่เจ้านายตลอดจนบ่าวไพร่ทั้งหมดต่างก็รู้สึกเป็นทุกข์เหลือเกิน
ตอนที่ 500 คิดถึงบ้าน (3)
แม้ว่าหลินอ๋องกับท่านอ๋องน้อยไม่เคยแสดงอาการห่อเหี่ยวใจ แต่หลงฉีที่รู้จักพวกเขาเป็นอย่างดี กลับรู้ว่าพวกเขาเฝ้าคิดถึงจวินอู๋เสียอยู่ตลอดเวลา
“ยังไม่กลับชั่วคราว” จวินอู๋เสียสั่นศีรษะ
หลงฉีขยับมุมปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะเงียบ
เฉียวฉู่กับฮวาเหยาและคนอื่นๆ เหลือบมองจวินอู๋เสียเงียบๆ ในใจรู้สึกเศร้าเสียใจ
หลงฉีและคนอื่นๆ อาจไม่ทราบว่าเพราะอะไรทำไมจวินอู๋เสียถึงไม่ยอมกลับไป
แต่พวกเขากลับเข้าใจเหตุผลเป็นอย่างดี บัวหิมะซังอวี้ที่อยู่ในตัวของจวินอู๋เสียอาจจะถูกคนของทั้งสิบสองตำหนักพบได้ทุกเมื่อ เมื่อใดที่ถูกพบเข้า มันจะกลายเป็นฝันร้ายทันที
ความล้ำค่าและหายากของภูติวิญญาณประเภทพฤกษา สามารถปลุกสัตว์ประหลาดของทั้งสิบสองตำหนักให้ตื่นได้ เมื่อใดที่พวกเขามุ่งหน้าลงมายังสามโลกเบื้องล่างแย่งชิง แม้จะได้รับการคุ้มกันจากกองทัพรุ่ยหลินอันแข็งแกร่ง จวินอู๋เสียก็ไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้ แม้แต่ครอบครัวของนางและกองทัพรุ่ยหลินทั้งหมดก็จะถูกคนของทั้งสิบสองตำหนักฆ่าล้างบางทั้งหมด
การที่ได้สัมผัสกับความโหดร้ายของทั้งสิบสองตำหนักด้วยตัวเอง เฉียวฉู่และทุกคนไม่เชื่อแม้แต่น้อยว่าคนของทั้งสิบสองตำหนักจะมีจิตใจเมตตากรุณา
ทางเลือกของจวินอู๋เสียคือการปกป้องจวนหลินอ๋องและกองทัพรุ่ยหลิน
“เอาล่ะ อย่ามัวยืนเหม่ออยู่ตรงนี้เลย พวกเจ้าจะไปตามหาหญ้าวิญญาณวารีไม่ใช่หรือ รีบไปเถอะ ขืนชักช้าสัตว์วิญญาณสมองกลวงนั่นก็หวนกลับมาอีกหรอก” เฉียวฉู่ทนไม่ได้ที่ต้องเห็นจวินอู๋เสียแสดงอาการโดดเดี่ยวอ้างว้าง ครั้นแล้วจึงฝืนแสดงความกระปรี้กระเปร่า ใช้รอยยิ้มมาปัดเป่าบรรยากาศอึดอัดใจ
“ตกลง” หลงฉีเองก็ตระหนักว่าสิ่งที่เขาพูดอาจทำให้จวินอู๋เสียกลัดกลุ้มใจ ดังนั้นเขาจึงทำตามที่เฉียวฉู่พูด
ดูเหมือนทุกคนจะมีความเห็นเป็นเอกฉันท์ไม่มีใครเอ่ยถึงประเด็นนั้นอีกเลย ทั้งหมดเดินมุ่งหน้าไปทางทะเลสาบจันทราวารีกระจ่าง ทหารที่บาดเจ็บก็อาการดีขึ้นมากหลังจากได้รับการรักษา มีเพียงทหารคนที่ต่อแขนกลับเข้าไปใหม่นายนั้น ที่ถูกพันด้วยผ้าพันแผลและมีไม้ดามแผลค้ำแขนอยู่ เขาเดินไปพร้อมทุกคนโดยมีสหายคอยประคอง
จากการรู้จักผ่อนคลายบรรยากาศของเฉียวฉู่ ตลอดการเดินทางจึงเคล้าคลอไปด้วยเสียงหัวเราะไม่ขาดสาย เฟยเยียนร้องเพลงประสานกับเฉียวฉู่ ทำให้จิตใจของทุกคนอบอุ่นขึ้น
จวินอู๋เสียอุ้มเจ้าสัตว์ร้ายสีดำที่กลายเป็นแมวดำตัวน้อยแล้ว ขณะที่เดินท่ามกลางหมู่คณะ หัวใจของนางก็รู้สึกเจ็บแปลบเล็กน้อย ความรู้สึกอันไม่คุ้นเคยนั้น ทำให้นางเข้าใจอย่างกระจ่างว่าอะไรคือความคิดถึง
ท่านปู่กับท่านอาเล็กจะขุ่นเคืองหรือไม่ที่นางจากไปโดยไม่กล่าวคำร่ำลา
“เราจะพบสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิอย่างแน่นอน” ฮวาเหยาที่ไม่รู้ว่ามาอยู่ข้างๆ จวินอู๋เสียตั้งแต่ตอนไหน พูดขึ้นเบาๆ ด้วยน้ำเสียงที่ได้ยินเพียงสองคนเท่านั้น
จวินอู๋เสียเงยศีรษะขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาสงบนิ่งฉายแววประหลาดใจอยู่รางๆ
รอยยิ้มจริงใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันงดงามของฮวาเหยา เขาเงยหน้าขึ้นและลูบศีรษะเล็กๆ ของจวินอู๋เสีย “เมื่อพวกเราแข็งแกร่งมากพอแล้ว พวกเราจะกลับไปพร้อมเจ้าดีหรือไม่”
จวินอู๋เสียชะงัก หัวใจที่เจ็บปวดได้รับการชโลมจากกระแสความอบอุ่นอย่างเงียบๆ ความเจ็บปวดค่อยๆ จางหายไป และถูกแทนที่ด้วยความมึนชาและรวดร้าวใจ
“ทำไม ไม่ยินดีให้พวกเราไปด้วยหรือ” ฮวาเหยาพูดติดตลกอย่างที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก รอยยิ้มของเขายิ่งทำให้ไฝเจ้าน้ำตาเม็ดเล็กๆ ที่หางตาดูพราวเสน่ห์มากขึ้นไปอีก
“ไม่ใช่” จวินอู๋เสียสั่นศีรษะ เหมือนจะเห็นรอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าเล็กๆ ที่เย็นชา “ท่านปู่กับท่านอาเล็กต้องชอบพวกเจ้าแน่ๆ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้” ฮวาเหยาถอนหายใจด้วยความโล่งอก ปกติแล้วจวินอู๋เสีย มักจะดูเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยว แต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าในก้นบึ้งหัวใจอันเย็นชาและแข็งกระด้างของนาง มีความอ่อนโยนซ่อนอยู่ลึกๆ ถึงอย่างไรนางก็เป็นมนุษย์ ความรู้สึกเช่นนี้ทำให้พวกเขาเกิดความรักและเอ็นดูนางมารน้อยขึ้นมาทันที