ตอนที่ 293 ชัยชนะครั้งใหญ่
การต่อสู้ที่นําโดยเหลียนป๋อได้สิ้นสุดลงในตอนเที่ยง
ผลลัพธ์การต่อสู้นี่ยิ่งใหญ่มาก!
กองทัพ 1.3 ล้านนายที่เข้ามาสนับสนุนเมืองผิงกวงกว่า 500,000 นายถูกไฟคลอกจนเสียชีวิต กองทัพทั้งหมดตกอยู่ในความโกลาหลและถูกสังหารโดยทหารชั้นยอดของเหลียนป๋อเกือบ 500,000 นาย เหลือเพียง 300,000 นายที่หลบหนีกลับค่ายไปได้
นี่เป็นเพราะเหลียนป๋อ กังวลว่า หากเขาไล่ตามทหารที่เหลือไป ทหารทั้งหมดภายในค่ายจะออกมาสนับสนุน ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าไล่ตามไปเพราะผลลัพธ์ที่ได้อาจจะกลายเป็นเลวร้ายมากขึ้น
ด้วยผลลัพธ์เท่านี้ก็ทําให้เหลียนป๋อพอใจมากแล้ว
อาณาจักรหงเป่ามีกองกําลังทั้งหมด 3.5 ล้านนาย เสียชีวิตไปมากกว่า 2.8 ล้านนาย
สําหรับทหารของเหลียนป๋อ เขาสูญเสียทหาร 80,000 นายจากการถูกสังหารในการต่อสู้ป้องกันก่อนหน้านี้ บวกกับการสูญเสียจากการปิดล้อมและสังหารศัตรูอยู่ที่ประมาณ 100,000 นาย
ทั้งหมดเขาสูญเสียกําลังพลไปประมาณ 180,000 นาย ส่วนศัตรูกลับสูญเสียมากกว่า 2.8 ล้านนาย!
ผลลัพธ์ครั้งนี้ยิ่งใหญ่มาก!
แน่นอนว่าเหลียนป๋อ รู้ว่าผลลัพธ์ทั้งหมดนี้ประสบความสําเร็จได้เพราะแผนของ กั่วเจีย ไม่เช่นนั้น นับประสาอะไรกับการตัดศีรษะศัตรูนับ 2.8 ล้านนาย แม้เขาจะต้องการปกป้องเมือง ถึงต้องเสียทหารไป 800,000 หรือ 900,000 นายก็คงไม่อาจป้องกันไว้ได้
เมืองผิงกวงเมื่อคืนกองกําลัง 1.5 ล้านนายของอาณาจักรหงเป่าเร่งเข้ามาเสียชีวิตภายในเมืองผิงกวง
ในหมู่พวกเขามีน้อยกว่า 200,000 นายที่ตายภายใต้ฝนลูกศร
คนอื่น ๆ ทั้งหมดถูกไฟคลอกตาย
“มันจบแล้ว,จบสิ้นแล้ว!”
หลี่ซานอี้ มองไปที่ซากศพจํานวนมากภายในเมืองผิงกวง เขาได้ทรุดลงกับพื้นทันที
เขาไม่สามารถโทษใครได้นอกจากตัวเอง
หากไม่ใช่เพราะว่าเขามั่นใจตนเองหลงเชื่อกั่วเจีย ฟูหลี่หยวน คงไม่นํากองกําลัง 1.5 ล้านนายเข้ามาภายในเมือง
เพียงเพราะแผนของกัวเจีย ทําให้ทหารจากอาณาจักรหงเป่ากว่า 1.5 ล้านนายเสียชีวิต!
ทุกอย่างจบสิ้นลง
“พี่หลี,ท่านยังคิดว่า ฟูหลี่หยวน จะยังมรโอกาสรอดจากการปิดล้อมอยู่หรือไม่?”กั่วเจีย มองไปที่หลี่ซานอี้
หลี่ซานอี้ มองไปที่ กั่วเจีย และ ยิ้มอย่างขมขื่น เขาได้ใช้กําลังทั้งหมดเพื่อลุกขึ้นยืนจากพื้นและพิงกําแพงเมือง
เขานึกไม่ถึงเลยว่า กั่วเจีย จะเป็นพวกชอบตีหินตอนร้อน เขามองไปที่ กั่วเจียด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น”ข้า หลี่ซานอี้ แพ้แล้ว!”
“ฮ่าฮ่า!”
กั่วเจีย ได้หัวเราะออกมา”พี่หลี่ ข้ารู้ว่าท่านคิดอย่างไร แต่ไม่เป็นไร ท่านยังมีกองทหารในค่ายเหลืออยู่ ข้าจะปล่อยท่านกลับไป และ ให้ท่านนํากําลังทหารมาแข่งกับข้าอีกรอบคิดว่าไง?”
“เจ้าคิดจะปล่อยข้าไป?”หลี่ซานอี้ รู้สึกตกตะลึงและมองไปที่ กั่วเจีย อย่างไม่น่าเชื่อ
กั่วเจีย ได้พยักหน้า”ข้ากั่วเจีย เป็นคนรักการต่อสู้ และในความคิดของข้า ท่านได้กลายเป็นคู่ต่อสู้ไปแล้ว ดังนั้นข้าตัดสินใจจะให้โอกาสท่านอีกหนึ่งครั้งมาต่อสู้กันอย่างยุติธรรม”
หลี่ซานอี้ รู้สึกสะเทือนใจ ขณะที่ เขากําลังตัดสินใจจะไป เขาก็มองไปที่ กั่วเจียและยิ้มอย่างสั่นศีรษะ”กั่วเจีย ที่แท้ข้าก็เต้นอยู่ในแผนการของเจ้ามาตลอด”
กั่วเจีย ได้ยิ้มและตอบกลับ”ทําไมท่านถึงพูดแบบนั้นเล่า?”
“ทําไมถึงพูดแบบนั้น?”หลี่ซานอี้ หัวเราะออกมา”กองทัพทั้งหมด 1.5 ล้านนายของอาณาจักรหงเป่า ถูกสังหารพร้อมกับแม่ทัพฟูหลี่หยวน ถ้าเกิดข้ากลับไปที่ค่ายทหาร คิดว่า แม่ทัพที่นั่นจะคิดอย่างไร?”
“คิดว่าข้าต้องร่วมมือกับศัตรูแน่ ๆ แถวกลยุทธ์นี้ก็เป็นข้าที่คิดขึ้นมาพวกเขาย่อมไม่เชื่อข้าอย่างแน่นอน ดังนั้น ถึงพวกเขาจะไม่กล้าฆ่าข้า แต่เจ้าก็สามารถทําให้ความไม่ลงรอยเกิดขึ้นภายในค่ายทหารของเราได้”
“ถ้ากองทัพของเจ้าโจมตีในเวลานี้ และ ข้าจัดเตรียมการป้องกัน แม่ทัพในค่ายย่อมไม่ฟังคําสั่งของข้า และ จะช่วยเปิดโอกาสให้เจ้าเอาชนะพวกเราได้อย่างสมบูรณ์!”
หลี่ซานอี้ มองไปที่ กั่วเจีย และพูดอีกครั้ง”ใคร ๆ ต่างก็ยกยอว่าอัครมหาเสนาบดีแห่งอาณาจักรหนานหยานเจียสวี่ คือบุรุษพิษอันดับหนึ่งของโลก แต่ตอนนี้ ข้าคิดว่า กั่วเจีย เจ้าย่อมไม่น้อยหน้าไปกว่าเขาอย่างแน่นอน!”
กั่วเจีย ได้มองไปที่ หลี่ซานอี้ และ ยิ้มออกมา”สมแล้วที่ข้าคิดว่าท่านคือคู่ต่อสู้ของข้า เพียงแค่อุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยังมองออกสุดยอดมาก!”
“สุดยอดงั้นเหรอ?”
หลี่ซานอี้ หัวเราะเยาะออกมา”ถ้าข้าสุดยอดจริง ๆ ป่านนี้กองทัพ 1.5 ล้านนายก็คงยึดครองเมืองผิงกวงได้ ไปนานแล้ว ข้าหลี่ซานอี้ เป็นคนไร้ความสามารถโดยแท้จริง!”
กั่วเจีย ได้ตอบกลับ”แม้ท่านจะรู้แผนการของข้าแล้ว ข้าก็จะไม่ฆ่าท่านอยู่ดี ไปเถอะ ท่านจะไปยังสถานที่แห่งใดก็ได้”
หลี่ซานอี้ ได้ครุ่นคิดเล็กน้อยและมองไปที่ กั่วเจีย”ถ้าเจ้าปล่อยข้าไป มันจะกลายเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเจ้าแน่นอน!”
“แล้วข้าจะรอ!” กั่วเจีย ได้ยิ้มตอบกลับ
หลี่ซานอี้ ได้หยุดพูดเรื่องไร้สาระและหันหลังจากไป
“ท่านที่ปรึกษา ทําไมท่านถึงปล่อย หลี่ซานอี้ ไป ชายคนนี้ ไม่ได้ไร้ความสามารถในการวางแผนการรบ หากปล่อยเขาไว้จะเป็นอันตรายต่ออาณาจักรในอนาคต!” จางฮั่น มองไปที่ กั่วเจีย ด้วยความสงสัย
กั่วเจีย ได้ยิ้มเล็กน้อย”สบายใจเถอะ หลี่ซานอี้ ไม่อาจไปยังทุกที่ที่เขาไปได้ เพราะเรื่องในวันนี้ ทุกคนจะคิดว่า หลี่ซานอี้ และ ข้าวางแผนสังหารทหารของอาณาจักรหงเป่า 1.5 ล้านนาย ถึงตอนนี้ข้าจะไม่ฆ่าเขาและปล่อยเขาไป ผู้คนก็จะตีหน้าประณามว่าเขาสมคบคิดกับศัตรูและทรยศอาณาจักรตัวเอง”
“ถ้าเขามีความสามารถมากจริง หากกลับไปที่อาณาจักรและสามารถโน้มน้าวจักรพรรดิให้เชื่อใจเขาได้อีกครั้ง ในอนาคต เขาจะต้องกลายเป็น ราชครูในสํานักหลวงอย่างแน่นอนถึงตอนนั้น เราอาจจะยังใช้ประโยชน์ จากกองกําลังของอาณาจักรหงเป่าได้ และ ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นเช่นนั้น ข้าก็ไม่เสียใจ สําหรับข้า หรือ เหวินเหอ เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่แท้จริง เป็นเพียง คู่ต่อสู้ธรรมดาเท่านั้น”
“การฆ่าเขาจึงให้ผลลัพธ์น้อยกว่าการเก็บเขาเอาไว้”
จางฮั่น รู้สึกตัวเมื่อได้ยิน
ความสามารถของ หลี่ซานอี้ ไม่ได้อ่อนแอ แน่นอนว่าเขาจะต้องมีวิธีทําให้จักรพรรดิทรงเชื่อใจเขาใหม่ได้ว่าเขาไม่ได้ร่วมมือกับศัตรู
ในอนาคต สถานการณ์ภายในอาณาจักรหงเป่าก็จะไม่มั่นคง หากจักรพรรดิทรงอนุญาติให้หลี่ซานอี้กลับมา เป็นที่ปรึกษาของกองทัพอีกครั้ง แม่ทัพเหล่านั้นจะต้องไม่พอใจมากอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นก็จะเกิดความขัดแย้งภายในและเป็นโอกาสที่ดีสําหรับอาณาจักรหนานหยาน
หลังจากทําความเข้าใจ จางฮั่น ก็ชื่นชม กั่วเจีย อย่างมาก คนผู้นี้สมแล้วที่ฝ่าบาททรงไว้วางใจ แผนการของเขาช่างคิดอ่านเหนือล้ํากว่าที่จะจินตนาการได้
เมื่อ เหลียนป๋อ กลับมาที่เมืองผิงกวง กองทัพทั้งหมดก็ได้รับข่าวชัยชนะ เขาได้ถอนหายใจออกมาทัน ที่”ไม่แปลกใจที่ฝ่าบาท ทรงไว้วางใจเจ้าให้รับตําแหน่งที่ปรึกษาทางกองทัพ ตอนนี้ ข้าได้รับรู้ถึงความสามารถของเจ้าแล้ว เฟิงเซียว!”
ในเวลาเดียวกัน กั่วเจีย ก็ถอนหายใจออกมา”ฝ่าบาท ทรงมีพระเนตรที่มองผู้คนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เขาสา มารถเข้าใจทักษะและสามารถใช้งานผู้คนได้ตามหน้าที่ที่ถนัด”
“ไม่ว่าจะเป็น เจี้ยสวี่,เกาชุน ลิโป้ หรือแม้แต่ จางซุนหรูจี ที่ปกครองสิบสามมณฑลซีหยาง ข้าได้ยินมาว่าเขาจัดการ สิบสามมณฑลซีหยางได้เป็นอย่างดี ในสายตาของคนธรรมดา ข้า กั่วเจีย ที่สามารถวางแผนสังหาร กองทัพ กว่า 2 ล้านนายได้ในคราวเดียวย่อมเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ แต่สําหรับพวกเขา นี่อาจจะเป็นเรื่องธรรมดา เท่านั้น”