ตอนที่ 563 นางเป็นคนดีนี่ ตอนที่ 564 ร่วมมือกันกระทำความชั่ว

ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล

ตอนที่ 563 นางเป็นคนดีนี่

ตอนนี้ทหารขุนนางมากันแล้ว เรื่องปลอมตัวที่ว่านี้ย่อมเป็นความจริงแท้แน่นอน

บรรดาชาวบ้านล้วนกระตือรือร้นขึ้นมาเล็กน้อย

“ข้าก็ว่า ฮั่วหรงเป็นถึงคนดีผู้ยิ่งใหญ่ที่จิตใจดีงามเชียวนะ จะมีมารดาผู้ให้กำเนิดที่ไม่รู้ประสีประสาเช่นนี้ได้อย่างไรเล่า!”

“โชคดีที่ตอนนี้ถูกเปิดโปงแล้ว มิเช่นนั้นหากให้ทั้งครอบครัวนี้เหยียบเข้าประตูบ้านแม่นางฮั่วจริง เช่นนั้นหลังจากนี้แม่นางฮั่วยังจะมีชีวิตที่สุขสบายได้อย่างไร ดีไม่ดีสองแม่ลูกคู่นี้จะต้องถูกทั้งครอบครัวนี้ปองร้ายเอาชีวิตก็เป็นได้!”

“ก็นั่นสิ นี่เพิ่งมาได้สามสี่วันเอง ทั้งวางเพลิงทั้งทุบตีคน บัดนี้ยังก่อเรื่องถึงแก่ชีวิตคนอีก! ข้าว่า…มีความเป็นไปได้เก้าส่วนว่าหญิงชราผู้นี้ถูกเหมียวซื่อฆ่า! แม่นางฮั่วไม่ใช่คนที่ใจดำอำมหิตเช่นนั้นสักหน่อย!”

“ใช่ๆๆ ผู้พิสูจน์หลักฐานก็บอกแล้วมิใช่หรือว่าบาดแผลดูไม่น่าเป็นไปได้!”

“ตอนที่หญิงชราผู้นั้นยังมีลมหายใจแม้ว่าชี้ตัวแล้ว แต่ไม่แน่ว่าเป็นเพราะได้รับการชี้นำก็เป็นได้นี่ เดิมทีหญิงชราผู้นั้นก็มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ตายแล้วยังจะดึงแม่นางฮั่วจมลงไปด้วยได้ ทำให้แม่นางฮั่วไม่มีจุดจบที่ดี ถึงตอนนั้นลูกๆ และหลานๆ ของตัวนางเองก็จะได้ครอบครองผลประโยชน์ที่มีอยู่!”

ครั้นเอ่ยพูดอย่างนี้ ทุกคนก็พลันกระจ่างแจ้ง!

“ท่านขุนนาง! หญิงชราผู้นี้ต้องเป็นฝีมือเหมียวซื่อสังหารแน่นอน! ท่านอย่าได้เข้าใจแม่นางฮั่วผิดไปเชียวนะเจ้าคะ!” ทุกคนพร้อมใจกันบอกกับทหารขุนนางผู้นี้อย่างกระตือรือร้น

เหมียวซื่อนิ่งงันไป ตามด้วยตกตะลึงอย่างยิ่งจนหน้าถอดสี “พวกเจ้าคนเหล่านี้มีใจลำเอียง! แม่สามีข้าบอกแล้วแท้ๆ ว่าเป็นฝีมือนาง!”

“แม่สามีเจ้าเป็นพวกเดียวกับเจ้า สิ่งที่นางบอกกล่าวจึงเชื่อถือไม่ได้!”

“ท่านขุนนาง แม่นางฮั่วเป็นคนดีงามจริงๆ นะเจ้าคะ เป็นผู้ที่อ่อนโยนไม่มีใครเกินแล้วก็ว่าได้ ไม่เชื่อท่านถามแต่ละครอบครัวเลยก็ได้ ผู้เฒ่าและเด็กๆ ของหมู่บ้านเราล้วนชื่นชอบนางทั้งนั้น! นางจะฆ่าคนได้อย่างไรกันเล่า” มีป้าคนหนึ่งกล่าวขึ้นทันควัน

ทุกคนต่างก็รีบร้อนพยักหน้าตามๆ กัน

ซ่งอิงคนผู้นี้ไม่ถือว่าอ่อนโยนอะไรนัก เพียงแต่ว่าผู้ชราชื่นชอบที่นางมีความจริงใจอย่างแท้จริง

ส่วนเด็กๆ เหล่านั้น…เป็นความยำเกรงซ่งอิงเสียมากกว่า

เพราะความขัดแย้งของซ่งอิงกับหลี่จิ้นเป่าก่อนหน้านี้ เป็นผลให้หลี่จิ้นเป่าถูกที่ทำการขุนนางตัดสินโทษตาย ในสายตาเด็กๆ นางก็คือสะใภ้สาวน้อยที่ไม่อาจหาเรื่องด้วยได้ อีกทั้งซ่งอิงมีพี่ชายน้องชายฝั่งครอบครัวมารดาห้าหกคน แล้วยังมีอานักเลงที่ดุดันผู้หนึ่งอีกด้วย แม้แต่บุตรชายของนางผู้นั้นก็ได้รับความชมชอบที่สุดในหมู่บ้าน

คนลักษณะนี้ พวกเขาเด็กน้อยเหล่านี้จะกล้ามีเรื่องด้วยได้อย่างไรเล่า!

อีกอย่าง ตัวซ่งอิงเองก็เป็นคนที่เก่งกาจคนหนึ่ง เพราะวิธีการอบรมสั่งสอนเด็กๆ ของนาง เป็นผลให้คนในหมู่บ้านล้วนเรียนรู้จากนาง ทุกวันท้องฟ้ายังไม่ทันสว่าง ทุกคนก็จะถูกต้าหวงตัวนั้นปลุกให้ตื่นนอน ชีวิตแต่ละวันดำเนินไปอย่างลำบากยากเข็ญ บิดามารดาของพวกเขาจึงคอยอบรมพวกเขาทุกวันว่าให้รู้จักเอาซ่งอิงและฮั่วหลินเป็นแบบอย่าง…

นี่เป็นคนที่น่ากลัวเสียยิ่งกว่าอาจารย์สอนหนังสือเสียอีก

บรรดาทหารขุนนางเห็นว่าแม่นางฮั่วผู้นี้ได้รับการพูดถึงในแง่ดีเช่นนี้ จึงกล่าวว่า “แต่ละท่านวางใจได้ คดีความนี้จะมอบให้ท่านนายอำเภอเป็นผู้พิจารณาตัดสิน จะจับมือสังหารตัวจริงได้แน่นอน”

“ท่านขุนนาง ท่านว่าพวกข้าพอจะหาคนไปเป็นเพื่อนสาวน้อยผู้นี้สักสี่ห้าคนได้หรือไม่ ด้วยความที่นางเป็นหญิงเป็นนาง ไปที่ว่าการตามลำพังคงไม่เหมาะสมเช่นกัน” หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยปากพูด

“ย่อมได้อยู่แล้ว” ทหารขุนนางกล่าว

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หัวหน้าหมู่บ้านก็วางใจ เพียงแค่การไต่สวน ไม่ใช่จับคนเข้าคุกใหญ่ น่าจะไม่ถึงขั้นทำชื่อเสียงเสียหาย

ส่วนคนที่เลือกร่วมทางไปด้วยจะเป็นใครนั้น…

ผู้เฒ่าตระกูลซ่งรีบเสนอขึ้นมาทันใด บิดามารดาของซ่งอิงไม่อยู่ข้างกาย ดังนั้นก็ให้ลุงใหญ่และป้าใหญ่ของซ่งอิงไปเป็นเพื่อน แน่นอนว่าเขาเองก็จะตามไปอยู่ข้างๆ ด้วยเช่นกัน

ในหมู่บ้านเกิดเรื่องใหญ่โตอย่างการฆ่าคนตาย หัวหน้าหมู่บ้านซ่งก็ไม่อาจนิ่งนอนใจอยู่ในหมู่บ้านได้ ย่อมต้องติดตามไปด้วยเช่นกันเป็นธรรมดา

ดังนั้น คนจำนวนไม่น้อยจึงตามเข้าตัวอำเภอไปด้วยเช่นกัน

แม้ว่าซ่งอิงต้องสงสัย แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ผู้กระทำผิด อีกทั้งให้ความร่วมมือในการทำคดีความแก่ทางการขุนนางเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นตอนขาไปจึงนั่งรถเกวียนลาของครอบครัวตัวเองไปได้ แต่คนครอบครัวเหมียวซื่อไม่ได้โชคดีขนาดนั้น

เรื่องที่พวกเขาปลอมตัวเป็นผู้อื่นหวังหลอกเอาทรัพย์สินมีหลักฐานชัดเจน ดังนั้นพวกเขาจึงถูกจับมัดไว้และจูงไปตลอดทางกระทั่งถึงสถานที่ราชการ

ตอนที่ 564 ร่วมมือกันกระทำความชั่ว

ตามจริงเหมียวซื่อในฐานะผู้กระทำผิดคดีปลอมตัวไม่ได้มีโทษเรื่องร้ายแรงนัก เพียงแต่เรื่องนี้ทหารองครักษ์ข้างกายใต้เท้าฮั่วเป็นผู้เสนอขึ้นมา ดังนั้นนายอำเภอก็จำเป็นต้องละเอียดถี่ถ้วนหน่อย

เพราะคดีความนี้โทษค่อนข้างเบาจึงไต่สวนเป็นอันดับแรก

เหมียวซื่อมาเยือนศาลพิจารณาคดีความเป็นครั้งแรก ย่อมตื่นกลัวอย่างยิ่งเป็นธรรมดา คนอื่นๆ ในครอบครัวฮั่วก็เช่นกัน หวาดกลัวถึงขั้นตัวสั่นเทา“ท่านแม่ ท่านมิได้บอกว่าซ่งอิงเป็นพี่สะใภ้ของพวกเราหรอกหรือ ทำไมท่านจึงโกหกข้า” ฮั่วเสี่ยวเฉียวไม่เข้าใจจริงๆ

เหมียวซื่อหน้าซีดเผือด “ข้า ข้าจำผิดคนแล้ว! ข้านึกว่าฮั่วหรงเป็นลูกชายของข้า…ใต้เท้า ข้าน้อยผิดไปแล้ว ข้าน้อยไม่รู้ว่าสามีคนแรกกับลูกเป็นตายร้ายดีอย่างไร สถานการณ์ของครอบครัวซ่งอิงผู้นั้นคล้ายคลึงกับครอบครัวข้าอย่างยิ่ง ข้าจึงเข้าใจผิดไปเจ้าค่ะ…”

ทางด้านนายอำเภอมีหลักฐานชัดเจนแล้ว ครั้นได้ยินคำพูดดังกล่าวจึงฟาดมือตบโต๊ะไม้แล้วหัวเราะเยาะ “บังอาจยิ่งนัก เจ้ายังกล้าพูดโกหกอีกหรือ! สามีคนแรกเจ้านามว่าฮั่วต้าโถว! ไม่ได้รูปลักษณ์เหมือนในภาพวาดเหมือนที่เจ้าเอาออกมาแสดงเลยสักนิด! บอกมา ใครเป็นผู้บงการให้เจ้าทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้ หากยังปิดบังก็รอรับโทษสถานหนักได้เลย!”

เหมียวซื่อตัวสั่นระริก ตระหนกตกใจไม่เบานางเตรียมแสร้งเป็นลมหมดสติ แต่ใต้เท้าผู้นี้พบเห็นอะไรมานักต่อนัก หญิงที่ไม่เอาไหนระดับนี้เจอะเจอมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงแสยะยิ้ม จากนั้นให้คนจับตัวฮั่วต้าหู่และฮั่วเฉียงที่อยู่ข้างๆ กดไว้กับพื้น เตรียมให้ลงไม้โบยในทันที

ฮั่วเฉียงผู้นั้นเป็นคนหนึ่งที่ขี้ขลาด ครั้นเห็นท่าทางดังกล่าวก็รีบร้อนกล่าว “ข้าบอกขอรับ! เป็น…เป็นผู้ชายที่ดูดุดันพวกหนึ่ง มองดูเหมือนนักเลง เพียงแต่ครอบครัวพวกเราตกอับหนีความทุกข์ยากมาจึงไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ใด! ใต้เท้าโปรดไว้ชีวิตด้วยขอรับ!”

นายอำเภอขมวดคิ้วเล็กน้อย “แม่นางฮั่ว เจ้ามีความบาดหมางกับผู้ใดบ้างหรือไม่”

“เรียนใต้เท้า ข้าเปิดร้านค้าแห่งหนึ่ง ในร้านขายพวกสบู่หอม ผู้จัดการร้านชุ่ยเหยียนไจในตัวอำเภอต ลอดจนผู้ดูแลร้านหยวนผู้นั้นค่อนข้างระแวดระวังข้ามาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ยังเคยจ้างคนเจ็ดแปดคนมาดักล้อมข้าด้วย เพียงแต่ตอนนั้นข้างกายข้ามีน้องสาวที่พละกำลังเยอะอยู่ด้วยคนหนึ่งจึงขับไล่พวกเขาไปได้ ข้าคิดว่า…

นักเลงที่ฮั่วเฉียงผู้นี้กล่าวถึงบางทีก็คือคนเหล่านั้นเจ้าค่ะ เพียงแต่ข้าไม่รู้จักเช่นกัน แต่หากอยากจะตามตัวเจอก็ไม่ยากเช่นกัน เชิญผู้จัดการร้านชุ่ยเหยียนไจและผู้ดูแลร้านหยวนมาก็สิ้นเรื่องเจ้าค่ะ”

ร้านชุ่ยเหยียนไจ?

นายอำเภอพลันรู้สึกค่อนข้างลำบากใจชั่วขณะ

ร้านชุ่ยเหยียนไจแห่งนี้ร่ำรวยมหาศาล ในฐานะนายอำเภอ นับแต่ร้านชุ่ยเหยียนไจมาเปิดในเมืองก็เก็บภาษีได้ไม่น้อย ขนาดสินน้ำใจแต่ละวันก็ยังไม่น้อยเช่นกัน

แน่นอนละว่า เขาเองก็ไม่ใช่ขุนนางที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้อง อย่างไรเสียก็มีใต้เท้าฮั่วคอยจับตาดูอยู่ เขาจึงไม่กล้ารับสินบน ส่วนสินน้ำใจที่เขาว่านี้หมายถึงสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นพวกเครื่องประทินโฉมที่เป็นที่นิยม…

นึกถึงใต้เท้าฮั่ว นายอำเภอก็พลันเกรงกลัว “ใครก็ได้มานี่ ไปเชิญผู้จัดการร้านชุ่ยเหยียนไจตลอดจนผู้ดูแลร้านฮั่วมาที”

เจ้าหน้าที่ใต้บังคับบัญชารีบไปทำตามคำสั่งทันที

ซ่งอิงครุ่นคิด จากนั้นกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ใต้เท้า ทะเบียนสำมะโนครัวของคนครอบครัวเหมียวซื่อมีปัญหาบางอย่าง หากไม่มีทางการขุนนางช่วย เกรงว่าจะทำเช่นนี้มิได้เจ้าค่ะ”

“นี่หมายความว่า! เจ้าคิดว่าข้าร่วมมือกระทำชั่วกับคนเหล่านี้หรือ!” นายอำเภอโมโหขึ้นมาทันใด

“ข้ามิบังอาจ เพียงแต่…”

ซ่งอิงยังไม่ทันพูดจบก็ปรากฏเงาร่างคนผู้หนึ่งจากด้านนอก

นายอำเภอลุกพรวดขึ้นมาแล้วรีบเดินเข้าไปยกสองมือขึ้นคารวะทันที “ใต้เท้าฮั่ว”

ฮั่วเจ้ายวนเห็นซ่งอิงคุกเข่าอยู่เบื้องล่าง ทันใดนั้นก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก

เพียงแต่คนที่ขึ้นศาลพิจารณาคดีความ หากไม่มีฐานันดรศักดิ์หากจะยืนหัวโด่ก็ไม่ดีนักเช่นกัน จึงทำได้เพียงกล่าวว่า “พาตัวคนที่ดูแลเรื่องทะเบียนสำมะโนครัวมา”

นายอำเภอตัวสั่นเล็กน้อย จากนั้นพยักหน้าตอบรับทันใด

ไม่นานนักคนดังกล่าวก็มาถึง

อำเภอหลี่ไม่ใหญ่โต ดังนั้นผู้ที่ดูแลด้านทะเบียนสำมะโนครัวมีเพียงสามคนเท่านั้น และยามนี้ก็คุกเข่าอย่างสงบเสงี่ยมว่าง่าย

“บอกมา เรื่องนี้ผู้ใดเป็นคนทำ หากปิดบังแล้วตรวจสอบเจอจักต้องโทษสถานหนัก” ฮั่วเจ้ายวนกล่าว