ตอนที่ 325 จ่ายร้อยล้านซื้อบ้าน
วันศุกร์หลังกินอาหารเช้าเสร็จมู่เถาเยากับเหลียงจีก็กลับหมู่บ้านเถาหยวนซาน
บินด้วยความเร็วปกติ เครื่องลงจอดตอนเวลาอาหารกลางวันพอดี
หยวนเหยี่ยกับพวกเป่ยซีรู้ว่าพวกเธอจะกลับมาก็ตั้งใจรอกินข้าวด้วยกัน
อาหารแบบบ้านๆ แต่วัตถุดิบรสชาติดี ทำให้คนที่ลิ้มรสแต่อาหารเลิศหรูกินอย่างอิ่มหนำสำราญได้
กินข้าวเสร็จก็ย้ายไปที่ห้องรับแขก หยวนเหยี่ยถาม “เสี่ยวเยาเยา คนป่วยอาการไม่ดีเหรอ ถึงต้องให้หนูกับอาจารย์อาเล็กอยู่เฝ้า”
“สาหัสมากค่ะ แต่พ้นขีดอันตรายแล้ว อาจารย์อาเล็กอยู่ที่นั่นต่อก็เพื่อให้หัวหน้าซังกับคนครอบครัวฝานสบายใจค่ะ”
“งั้นก็ดี”
มู่เถาเยายิ้มตาโค้งพูดกับลู่จือฉิน “อาจารย์สามคะ หนูจองบ้านของอาจารย์หลี่ที่เรือนอุ่นรักให้แล้วนะคะ อยู่ด้านหลังบ้านของอาจารย์ใหญ่พอดี หนูกับอาสะใภ้แล้วก็พี่สะใภ้ไปดูกันมาแล้ว บ้านถูกดูแลรักษาไว้ดีมาก เครื่องเรือนทั้งหลังเป็นความทุ่มเทของอาจารย์หลี่ทั้งนั้นเลยค่ะ”
ลู่จือฉินยิ้มพูด “เธอชอบอาจารย์ก็ชอบ”
“ค่ะ รอเปิดเทอมกลับเมืองเย่ว์ตูค่อยนัดอาจารย์หลี่ไปโอนบ้านกัน จริงสิ อาจารย์หลี่มีบ้านเก่าอีกหลังที่บ้านนอก มีแปลงปลูกผักด้วย พื้นที่เยอะพอสมควร เหมาะที่จะให้ย่าลู่กับน้าลู่ไปอยู่ ไม่รู้ว่าศิษย์น้องกับย่าลู่อยากซื้อบ้านใหม่หรือเปล่า เรายื่นขอสร้างใหม่ได้”
ถ้าศิษย์น้องกับครอบครัวไม่อยากซื้อ งั้นเธอก็จะซื้อไว้เอง อย่างไรเสียเธอก็ยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเองในเมืองเย่ว์ตู
“เดี๋ยวอาจารย์ถามหันซูกับย่าให้นะ”
“ค่ะ”
ตี้อู๋เปียน “ซาลาเปาน้อย พวกเธอจะเข้าเขตป่าชั้นในเมื่อไรเหรอ”
“พรุ่งนี้กับวันมะรืนพวกเราจะไปตัดเถาวัลย์ตี้หวัง พาพวกศิษย์พี่ไปด้วย จะได้ช่วยขนกลับมา เอากลับเย่ว์ตูไปพร้อมพวกเกาหม่าวันจันทร์”
เหล่าคนสูงวัยก็อยากช่วย แต่ช่วยไม่ไหวจริงๆ
ต่อให้เสี่ยวเยาเยากลับมาก็มีแค่ตอนเย็นที่อยู่บ้าน ตอนกลางวันงานยุ่งเสียจนหาตัวไม่เจอ
เป่ยซีพูดด้วยความรู้สึกสงสารลูก “เสี่ยวเยาเยา พักบ้างนะ”
“แค่นี้ไม่เหนื่อยค่ะ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”
“ลูกยังเด็ก ต้องพักผ่อนให้มากๆ ถึงจะเติบโตได้ดี”
“กลางคืนนอนแปดชั่วโมงก็เพียงพอให้หนูใช้ชีวิตกลางวันได้ปกติแล้วค่ะ หนูจะรักษาสุขภาพค่ะ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”
“…จ้ะ”
ลูกสาวสดชื่นกระปรี้กระเปร่าทุกวัน เธอจะมองข้ามหาว่าลูกเหนื่อยก็ไม่ได้
อีกทั้งเด็กวัยเท่านี้เดิมทีก็พลังเต็มเปี่ยม กอปรกับเรียนต่อสู้ ยิ่งพละกำลังดีกว่าคนทั่วไป
มู่เถาเยาดื่มชากับทุกคนสักพัก จากนั้นคนสูงวัย พวกเด็กๆ และตี้อู๋เปียนก็ไปนอนกลางวันกัน
เธอกับลู่จือฉินอยู่คุยกันในห้องรับแขก
“อาจารย์สามคะ ศิษย์น้องกับย่าลู่อยากซื้อบ้านไหมคะ”
ลู่จือฉินพยักหน้า “พอได้ยินว่ามีแปลงปลูกผักก็เริ่มหวั่นไหว แต่กังวลเรื่องราคา”
ราคาบ้านในชนบทของเมืองเย่ว์ตูก็ไม่ได้ถูก แล้วนับประสาอะไรกับการรื้อสร้างใหม่ที่ต้องใช้เงินอีกมากพอสมควร
ถึงแม้ขายโสมกับหลิงจือจะได้เงินก้อนใหญ่ แต่ลู่หันซูยังเด็ก ถ้าเรียนยาวไปจนถึงดอกเตอร์ อีกหลายปีข้างหน้าก็มีแต่รายจ่าย
พวกเธอกังวลว่าเงินจะหมดเสียก่อน
มู่เถาเยาเข้าใจความกังวลของสองย่าหลาน
จ่ายเงินร้อยล้านเพื่อซื้อที่สร้างบ้าน คนแก่ย่อมรู้สึกเสียดาย
แต่โอกาสมาไม่ง่าย มู่เถาเยาไม่อยากให้ครอบครัวศิษย์น้องพลาดไป
ถ้าไม่ใช่เพื่ออนาคตของศิษย์น้อง เธอก็กะจะซื้อไว้เองแล้ว
“งั้นให้เวลาศิษย์น้องกับย่าลู่ได้คิดก่อน ถ้าไม่เอาจริงๆ หนูจะซื้อเอง บอกอาจารย์หลี่ไว้แล้วค่ะ”
“ขายบ้านให้พวกเรา อาจารย์หลี่ก็ย้ายไปที่เผ่าได้อย่างสบายใจ ดีไม่ดีวันหน้าเธอก็จะได้เจออาจารย์หลี่ที่เผ่า นี่ก็ถือเป็นวาสนานะ”
“ใช่ค่ะ แต่อาจารย์หลี่ยังไม่รู้นะคะว่าอีกหน่อยหนูจะไปอยู่ที่เผ่า”
“มีวาสนาได้เจอกันอีก ถือเป็นเซอร์ไพรส์”
“ค่ะ หนูไปดูพวกเกาหม่าก่อนนะคะ”
“อาจารย์ไปด้วย”
“ค่ะ”
ทั้งสองคนไม่ได้ออกทางประตูใหญ่ แต่เหาะจากลานบ้านไป
“เกาหม่า เสี่ยวเซวี่ย เสี่ยวเหยี่ย”
ทุกครั้งก่อนเข้าไปใกล้ มู่เถาเยาจะส่งเสียงไปก่อน เพราะม้าสายตาไม่ดีเท่าไร
ครอบครัวเกาหม่าสามตัวพอเห็นมู่เถาเยาก็ดีใจร้องฮี้ไม่หยุด
มู่เถาเยายิ้มตาโค้งลูบพวกมันทีละตัว
“พรุ่งนี้ฉันจะไปหาของอร่อยมาฝากพวกแก อีกสองวันจะส่งพวกแกไปอยู่ฟาร์มแล้วนะ”
ถ้าเธอไม่เข้าเขตป่าชั้นใน ให้พวกมันรอเปิดเทอมแล้วไปพร้อมกันก็ได้บราวนี่ออนไลน์
แต่เธอเข้าเขตป่าชั้นในครั้งนี้มีความเป็นไปได้ว่าอาจไปทีครึ่งเดือน อย่างไรเสียอาจารย์ใหญ่ก็ช่วยฝังเข็มให้ตี้อู๋เปียนแทนได้ เธอไม่ต้องรอครบเวลาต้องออกมาแล้ว
ขณะที่กำลังคุยกับม้าทั้งสามตัวอยู่นั้น อาหยวนกับอาฉีที่เดิมทีมีหน้าที่ดูแลเสี่ยวเหยี่ยกับเสี่ยวเซวี่ย รวมถึงคาวบอยที่ตี้อู๋เปียนหามาช่วยอีกแรงก็มาถึงพร้อมกัน
“มากันแล้วเหรอ”
อาหยวนแนะนำอาเหนียนให้รู้จัก “นี่คืออาเหนียนที่อีกหน่อยจะมาดูแลเกาหม่าครับ”
อาเหนียนยิ้มกว้างดุจดวงอาทิตย์ ทักทายมู่เถาเยาอย่างเป็นกันเอง
มู่เถาเยาย่อมไว้ใจคนที่ตี้อู๋เปียนหามา จึงไม่ซักประวัติอีก เริ่มพูดเกี่ยวกับเกาหม่าให้ฟัง
อาเหนียนถอนหายใจ พูดด้วยความน้อยใจแต่เต็มไปด้วยความหวัง “บอสครับ เกาหม่าไม่ให้ผมแตะตัวมันเลย”
แต่เขาชอบม้าตัวนี้มากจริงๆ นะ! อยากลูบมันจริงๆ !
ปรากฏว่า…ทุกครั้งที่เขายังไม่ทันเข้าไปใกล้ มันก็ขู่จะดีดขาใส่!
มู่เถาเยาลูบคอเกาหม่า ยิ้มแล้วพูดกับอาเหนียน “เกาหม่าใช้ชีวิตอยู่เขตป่าชั้นในของป่าเซียนโหยวที่มีแต่อันตรายมาตลอด มันไม่ไว้ใจมนุษย์ง่ายๆ นายแสดงท่าทีเป็นมิตรบ่อยๆ เดี๋ยวมันก็เข้าใจเอง”
“ครับ”
อาหยวนยิ้มพูด “บอสครับ งั้นพวกเราจะไปเมืองเย่ว์ตูเมื่อไรครับ”
“วันจันทร์ค่ะ พรุ่งนี้กับมะรืนนี้พวกเราจะเข้าเขตป่าชั้นในตัดเถาวัลย์ตี้หวังกลับมา เอาไปเมืองเย่ว์ตูด้วย คอยเสริมเป็นอาหารให้เสี่ยวเซวี่ย หลังเอากลับไปแล้ว คนของฟาร์มจะตากเถาวัลย์ตี้หวังให้แห้ง ไม่อย่างนั้นจะเก็บไว้ได้ไม่นาน นอกจากเอาให้เสี่ยวเซวี่ยแล้ว พวกนายก็เอาให้เสี่ยวเหยี่ยกับเกาหม่ากินบ้าง รวมถึงสิงโตหยกของตี้อู๋เปียนด้วย”
ม้าตัวอื่นคงไม่มีลาภปากนี้
อาหยวน อาฉี และอาเหนียนต่างพยักหน้า
“พวกนายไปอยู่ฟาร์มของตี้อู๋เปียน คนดูแลที่นั่นจะจัดหาที่พักกับอาหารการกินให้ ติดขัดอะไรก็บอกเขาได้ หรือจะโทรหาฉันก็ได้ เกาหม่า เสี่ยวเหยี่ย เสี่ยวเซวี่ย เป็นเพื่อนของฉัน หวังว่าพวกนายจะดูแลมันเหมือนเพื่อนด้วย”
คาวบอยทั้งสามคนตบอกรับประกัน
พวกเขาต่างเป็นคนที่รักม้า พอได้เจอม้าชั้นดีแบบนี้ อย่าว่าแต่มองเป็นเพื่อนเลย ให้มองเป็นเมียหรือบรรพบุรุษยังได้ แม้ไม่มีเงินเดือนให้ก็ตาม!
“พวกนายผ่านการแข่งขันมาก่อน เข้าใจชีวิตม้า ฉันคงไม่พูดอะไรมากอีก”
มู่เถาเยามองออกว่าพวกเขารักม้าจากใจจริง
อาเหนียนยิ้มพูด “วางใจได้ครับบอส พวกเราจะดูแลพวกมันให้ดีแน่นอนครับ”
“อืม”
“อาหยวน ในฟาร์มมีม้าสิงโตหยกอยู่ตัวหนึ่ง เป็นพี่ใหญ่ของฟาร์ม อาจทะเลาะกับเสี่ยวเหยี่ยก็เป็นได้ ระวังไว้ด้วยนะ”
เกาหม่าเก่งที่สุดเรื่องนี้ไม่ต้องสงสัย แต่มันเป็นราชาม้า ไม่มีทางลดตัวไปยุ่ง ‘การทะเลาะกันของเด็กน้อย’
เสี่ยวเหยี่ยนิสัยร่าเริง อีกทั้งทำตัวเป็นพี่ใหญ่ในฟาร์มของเธอจนชิน อยู่ๆ ถูกย้ายไปที่ใหม่แถมยังมีเจ้าถิ่น มันย่อมไม่ยอมแน่นอน
อาหยวนพยักหน้า
“…ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น ฉันก็ยังอยากให้เสี่ยวเหยี่ยผสมพันธุ์กับสิงโตหยก”
“ผมเข้าใจครับบอส”
“อืม พวกนายเล่นกับพวกมันไปนะ ฉันกับอาจารย์จะไปแล้ว”
“ได้ครับ”