ตอนที่ 252 ผู้ที่ฟ้ากำหนด

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 252 ผู้ที่ฟ้ากำหนด
ที่ซีเหลียงกลายเป็นแคว้นที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่เพราะเขามีรากฐานที่แข็งแกร่ง และไม่ใช่เพราะมีอำนาจทางการเมืองที่แข็งแกร่ง แต่เป็นเพราะซีเหลียงมีกองทัพทหารม้าที่ห้าวหาญดุดัน กองทัพทหารม้าแข็งแกร่ง กองทัพก็พลอยแข็งแกร่งไปด้วย เมื่อกองทัพแข็งแกร่ง แคว้นย่อมแข็งแกร่ง!

ซีเหลียงมีดินแดนติดกับหรงตี๋ มีพื้นที่ราบสูงอันกว้างใหญ่ไพศาล พื้นที่ราบสูงเหมาะสำหรับเลี้ยงม้าพันธุ์ดี ทว่า แคว้นต้าจิ้นไม่มีข้อได้เปรียบเช่นนี้

การเลี้ยงม้าในแคว้นต้าจิ้นต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก การเลี้ยงม้าตัวหนึ่งมีค่าใช้จ่ายมากกว่าเลี้ยงคนสามสิบชีวิตเสียอีก หลายปีมานี้แคว้นต้าจิ้นล้วนทำการค้าขายแลกเปลี่ยนกับซีเหลียงและหรงตี๋ ทว่า ข้อเสียก็คือความสามารถในการรบของแคว้นต้าจิ้นจะถูกจำกัดโดยแคว้นอื่น

ไป๋ชิงเหยียนวิเคราะห์ให้รัชทายาทฟังอย่างละเอียด “ที่สำคัญองค์ชายต้องการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง เช่นนั้นเราต้องทำสงครามชี้เป็นชี้ตายกับหรงตี๋และซีเหลียงอยู่แล้ว หากรอให้หรงตี๋มีเวลารวบรวมกำลังจนมีความสามารถมากพอที่จะหันมาต่อกรกับต้าจิ้น ไม่สู้อาศัยช่วงที่หรงตี๋กำลังวุ่นวายยึดแคว้นหรงตี๋มาก่อนดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ!”

“ทว่า ดินแดนที่ซีเหลียงให้เป็นค่าชดเชยในครั้งนี้มีสถานที่ที่เหมาะสำหรับเลี้ยงมาแล้วนะ” รัชทายาทครุ่นคิด “เราคิดว่าเสด็จพ่อคงรับเครื่องประดับมีค่าและม้าเหล่านั้นไว้ เพราะดินดินที่ซีเหลียงแบ่งให้เรามีอาณาเขตติดต่อกับหรงตี๋ หากต้าจิ้นต้องการเลี้ยงม้าที่นั่น เราจำเป็นต้องผูกมิตรกับหรงตี๋ไว้”

“รัชทายาทมีความเห็นเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนถาม

“เราคิดว่าควรรับเครื่องประดับและม้าเอาไว้ จากนั้นดูเรื่องสนุกอยู่เฉยๆ เป็นดีที่สุด” รัชทายาทเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเบาๆ

“สงครามที่หนานเจียงในครั้งนี้ กองทัพของเราก็สูญเสียมากเช่นกัน พวกเราต้องการเวลาฟักฟื้น ที่สำคัญจุดประสงค์ของต้าเหลียงไม่ชัดเจน หากกองทัพต้าจิ้นเข้าช่วยเหลือหรงตี๋แล้วต้าเหลียงอาศัยจังหวะนี้โจมตีต้าจิ้น ต้าจิ้นของเราอาจตกอยู่ในอันตรายได้”

ไป๋ชิงเหยียนเม้มปาก ไม่กล่าวโน้มน้าวอีก

การยึดหรงตี๋เป็นการปูทางสำหรับการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง เดิมทีก็คือการพนันครั้งยิ่งใหญ่ จักรพรรดิของต้าเหลียงไม่กล้าเสี่ยง จักรพรรดิและรัชทายาทของต้าจิ้นก็ไม่กล้าเสี่ยงเช่นเดียวกัน

จู่ๆ รถม้าของรัชทายาทหยุดลงอย่างกะทันหัน ถ้วยน้ำชาหกราดจนเปื้อนไปทั้งโต๊ะ เฉวียนอวี๋และคนบังคับม้ารีบลงจากรถม้า

จู่ๆ ด้านนอกก็มีเสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายดังขึ้น

“กวางขาว!”

“กวางศักดิ์สิทธิ์!”

“กวางศักดิ์สิทธิ์…กวางศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ด้วย ดูสิ!”

“ให้ตายเถอะ นั่นมันกวางขาวศักดิ์สิทธิ์ในตำนานนี่หนา!”

“กวางขาวศักดิ์สิทธิ์! ช่างเป็นกวางขาวศักดิ์สิทธิ์ที่งดงามอันใดเยี่ยงนี้!”

รัชทายาทได้ยินเช่นนี้จึงรีบแหวกม่านชะโงกดูด้านนอก

กวางยักษ์สีขาวบริสุทธิ์ที่ร่างกายแข็งแรงกำยำ บนศีรษะมีเขาขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านราวกับกิ่งไม้ ดูราวกับราชาก็ไม่ปาน ลำคอเรียวระหงงดงามเชิดขึ้นอย่างหยิ่งผยอง จ้องมองมาทางคณะเดินทาง ขนสีขาวสะอาดทั้งร่างถูกแสงอาทิตย์ยามอัสดงส่องกระทบจนเกิดเป็นแสงสีทองระยิบระยับ

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของแคว้นต้าจิ้นคือกวางขาว!

รัชทายาทเคยเห็นกวางขาวมามาก ทว่า เขาเพิ่งเคยเห็นกวางยักษ์สีขาวที่งดงามเช่นนี้เป็นครั้งแรก!

รัชทายาทลงมาจากรถม้าอย่างทนไม่ไหว เขามองไปยังเนินสูงตรงหน้า

จางตวนรุ่ยก็ตะลึงกับกวางยักษ์สีขาวที่งดงามตัวนี้เช่นเดียวกัน

จู่ๆ ไม่รู้ว่ากวางขาวตกใจสิ่งใด มันวิ่งทะยานมายังขบวนกองทัพอย่างรวดเร็ว ขาทั้งสี่ข้างเรียวเล็กและสวยงามมาก ทว่า พละกำลังดูมหาศาลจนน่าทึ่ง!

จางตวนรุ่ยคุ้มกันรัชทายาทให้อยู่ทางด้านหลังตน ชักดาบออกมาพลางตะโกนลั่น “คุ้มกันองค์ชาย! เร็ว! คุ้มกันองค์ชาย! องค์ชายรีบขึ้นไปบนรถม้าเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

เหล่าทหารล้วนชักดาบ ชักโล่และง้างสายธนูป้องกันอยู่ด้านหน้ารถม้าของรัชทายาท หากกวางขาวพุ่งเข้ามา มันต้องตายอย่างแน่นอน

รัชทายาทตกใจจนหน้าขาวซีด เขาหันหลับกลับเตรียมจะขึ้นไปบนรถม้า ทว่า แขนถูกไป๋ชิงเหยียนรั้งไว้เสียก่อน “องค์ชาย อย่ากลัวพ่ะย่ะค่ะ มันจะศิโรราบแก่องค์ชาย เชื่อกระหม่อมเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”

รัชทายาทหันไปมองไป๋ชิงเหยียนที่มีสีหน้าเคร่งขรึมและสงบนิ่งทันที หญิงสาวพยักหน้าให้รัชทายาทน้อยๆ น้ำเสียงหนักแน่น ยัดบางอย่างใส่มือของรัชทายาท “องค์ชาย เชื่อกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อเห็นว่ากวางยักษ์ตัวนั้นวิ่งลงมาจากเนินเขาด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม และยิ่งควบคุมสติไม่ได้ยิ่งกว่าเดิม แม้ว่าหน้ารถม้าของรัชทายาทจะมีคนคุ้มกันอยู่อย่างแน่นหนา ทว่า จางตวนรุ่ยก็ยังคงหวาดกลัวอยู่เช่นเดิม เขาชูดาบขึ้นสูงพลางตวาดลั่น

“องค์ชาย รีบขึ้นไปบนรถม้าพ่ะย่ะค่ะ!”

คิ้วของรัชทายาทกระตุก ไป๋ชิงเหยียนต้องการยืมมือเขาจับผู้ใดที่ไหนกันเล่า นี่มันต้องการให้กวางขาวฆ่าเขาชัดๆ

ฟางเหล่าที่ลงมาจากรถม้าวิ่งเข้าไปหารัชทายาทอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเขาซีดเผือด ตะโกนเสียงดังลั่น “องค์ชาย! รีบขึ้นไปบนรถม้าพ่ะย่ะค่ะ!”

“กวางขาวคือสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของแคว้นต้าจิ้น หากสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ยอมศิโรราบแก่องค์ชาย…เช่นนั้นองค์ชายก็คือผู้ที่ฟ้ากำหนด หากทรงมอบสิ่งนี้เป็นของขวัญวันเกิดให้ฝ่าบาทจะเป็นสิริมงคลมากเพียงใดพ่ะย่ะค่ะ!”

สถานที่เลือกเป็นภูเขาอวี้ชิงดีหรือไม่ขอรับ! แม้ที่นั่นจะเป็นทางบนภูเขา ทว่า พื้นที่กว้างขวางมาก ปล่อยมันออกมาที่นี่จะถูกจับได้ง่ายเกินไป

เป้าหมายของพวกเราคือให้มันไปหารัชทายาทท่ามกลางสายตาของทุกคน ศิโรราบแก่รัชทายาท ให้รัชทายาทจับมันไปมอบให้ฝ่าบาท ไม่ใช่สังหารมัน! หากมันเกิดตายขึ้นมา สิ่งที่พวกเราทำลงไปก็สูญเปล่ากันหมด!

ใจของรัชทายาทเต้นรัว มองดูไป๋ชิงเหยียนที่ผลักจางตวนรุ่ยออกพลางลากเขาออกไปจากวงล้อมของเหล่าทหารที่คุ้มกันอยู่ ดังนั้น…ตอนนั้นพวกไป๋ชิงเหยียนกล่าวถึงกวางขาวตัวนี้อย่างนั้นหรือ

นางต้องการให้กวางขาวตัวนี้ศิโรราบแก่เขาต่อหน้าทุกคน ต้องการให้เขาเป็นคนจับมันไปมอบให้เสด็จพ่อด้วยตัวเองอย่างนั้นหรือ!

“หลีก!” ไป๋ชิงเหยียนจับข้อมือรัชทายาทแน่นพลางตะโกนออกมา

จางตวนรุ่ยมองรัชทายาทอย่างรอคำสั่ง “องค์ชาย!”

ไป๋จิ่นจื้อขี่ม้าเข้ามา โยนธนูเซ่อรื้อในมือให้ไป๋ชิงเหยียน “พี่หญิงใหญ่! ธนูเซ่อรื้อเจ้าค่ะ!”

มือหนึ่งของไป๋ชิงเหยียนรับธนูเซ่อรื้อ อีกมือหนึ่งรับกระบอกธนู ดวงตาสีดำเป็นประกาย

“องค์ชาย เวลาไม่คอยท่าพ่ะย่ะค่ะ!”

รัชทายาทกวาดสายตามองไปยังธนูเซ่อรื้อที่อยู่ในมือของไป๋ชิงเหยียน ใจเต้นรัว ฝีมือการยิงธนูของไป๋ชิงเหยียนไม่เคยพลาด มีนางอยู่คงไม่เกิดอันใดขึ้นหรอก!

ทว่า ก้นบึ้งในใจของรัชทายาทยังคงหวาดกลัวไป๋ชิงเหยียน เขาไม่ได้เชื่อใจนางขนาดนั้น

ต่อให้เขาจะเข้าใจบทสนทนาที่เขาได้ยินหญิงสาวกล่าวจากห้องข้างๆ แล้ว ทว่า ตรงนั้นมีกวางยักษ์สีขาวซึ่งมีเขาแหลมคมที่กำลังพุ่งทะยามมาจากเนินเขา หากไป๋ชิงเหยียนจงใจยิงพลาด เขาต้องตายอย่างแน่นอน

รัชทายาทยังคงมองไปยังสัตว์ร่างใหญ่ที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ในฐานะคนธรรมดาเขารู้สึกหวาดกลัว ตอนนี้เขาเป็นถึงรัชทายาทแล้ว เขาต้องใช้วิธีเสี่ยงอันตรายเช่นนี้ทำให้ตำแหน่งของเขามั่นคงอีกหรืออย่างไร

ขณะที่รัชทายาทกำลังลังเล ไป๋ชิงเหยียนหยิบธนูออกมาดอกหนึ่ง หักหัวธนูออก ฉีกชายเสื้อของตัวเองออกมาแล้วพันธนูดอกนั้นเอาไว้ จากนั้นเล็งยิงไปที่กวางยักษ์สีขาวตัวนั้น

รัชทายาทกำมือแน่น จากนั้นจึงสัมผัสถึงสิ่งที่ไป๋ชิงเหยียนยัดใส่มือเขา เขากำหมัดแน่น เงยหน้าตะโกนลั่น “หลีก!”

จางตวนรุ่ยมองไปยังกวางยักษ์สีขาวที่พุ่งเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ยกมือตะโกนออกมา “หลีก!”

ลำคอของรัชทายาทตีบตัน เขาเดินไปยังทิศทางที่กวางยักษ์ตัวนั้นพุ่งเข้ามาโดยมีไป๋ชิงเหยียนคุ้มกันอยู่ด้านข้าง

ร่างของรัชทายาทเกร็งแน่น ฝ่ามือเต็มไปด้วยเหงื่อ เมื่อเห็นว่ากวางยักษ์ตัวนั้นพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วโดยไม่มีทีท่าจะลดความเร็วเลยแม้แต่น้อย ใจของเขากระตุกวูบ

ฉินซ่างจื้อกลั้นหายใจมองดูรัชทายาทและไป๋ชิงเหยียนที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดของขบวน เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าไป๋ชิงเหยียนต้องการจะทำสิ่งใด