บทที่ 343 วัตถุเซียน
บทที่ 343 วัตถุเซียน
“ในที่สุดก็ได้ปลดประจำการเจ้านี่เสียที” อู๋ฝานพึมพำกับตัวเองขณะมองรองเท้าเมฆาล่องที่ใส่อยู่
รองเท้าเมฆาล่องเป็นเพียงแค่อุปกรณ์สวมใส่ระดับทองแดง นับเป็นอุปกรณ์ชิ้นที่ระดับต่ำที่สุดเท่าที่อู๋ฝานใช้สวมใส่ หากนำไปเทียบกับชิ้นอื่นที่เป็นระดับเงินและระดับทองแล้ว มันจึงกลายเป็นของทรุดโทรมไป
ยังไม่กล่าวถึงความจริงที่ว่าช่างตีเหล็กซุนสามารถสร้างอุปกรณ์สวมใส่ระดับเกินกว่าทอง กระทั่งอู๋ฝานเองก็สามารถสร้างระดับเงินขึ้นมาได้ ดังนั้นคิดหารองเท้าระดับเงินหรือสูงกว่ามาสวมใส่สักคู่หนึ่ง จึงไม่ใช่เรื่องยากเย็นแต่อย่างใด
แต่อู๋ฝานไม่เคยหารองเท้าระดับเงินมาเปลี่ยน เพราะทักษะพยัคฆ์ทะยานที่มาพร้อมกับตัวอุปกรณ์ มันสามารถช่วยเหลือเขาไว้ได้ในหลากหลายสถานการณ์
ทว่าตอนนี้เมื่อได้รับวิชานางแอ่นถลาลมมาแล้ว ขอเพียงฝึกฝน ความสามารถการกระโดดของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ดังนั้นรองเท้าเมฆาล่องที่มีสถานะธรรมดา จึงได้เวลาปลดระวาง
อู๋ฝานตบตำรา ‘วิชานางแอ่นถลาลม’ ด้วยฝ่ามือ จากนั้นตำราจึงกลายเป็นแสงไหลเข้าสู่กายของเขา ไม่นานในใจของชายหนุ่มก็ได้รับการเติมเต็มด้วยความรู้หลากหลาย พร้อมความรู้สึกที่ร่างกายเบากว่าก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด
อู๋ฝานลองออกแรงกระโดดเล็กน้อย พบว่าทั้งร่างกระโดดได้สูงเกือบสองเมตร มันไม่ได้ด้อยไปกว่าพยัคฆ์ทะยานก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย และที่ทดลองนี้ยังเป็นเพียงแค่ขั้นที่หนึ่งเท่านั้น หากฝึกฝนต่อ ความสามารถจะยิ่งเพิ่มพูน เมื่อนั้นความสามารถจะยิ่งสูงส่งกว่านี้ อย่างที่รองเท้าเมฆาล่องไม่มีทางเทียบได้
อู๋ฝานลองออกแรงเตะเท้าเล็กน้อย พบว่าสามารถทะยานไปได้ไกล ความว่องไวเดิมของเขาก็ไม่ต่ำอยู่แล้ว เมื่อรวมเข้ากับความเร็วสองเท่าจากการเรียนรู้วิชานางแอ่นถลาลม มันจึงยิ่งเร็วกว่าที่เคยเป็น ทั้งตัวคนเป็นประหนึ่งลูกธนูหลุดจากสายที่พร้อมพุ่งทะยานออกไป
“ตึง!”
อู๋ฝานเห็นต้นไม้ใหญ่ตรงหน้า จึงส่งเสียงดังจากลำคอครั้งหนึ่ง ก่อนจะทะยานออกไป เหยียบยอดต้นไม้ด้วยเท้าขวา และด้วยแรงดีดกลับนั้น ทั้งตัวคนจึงทะยานออกไป เพียงชั่วพริบตา ชายหนุ่มก็ไปถึงต้นไม้อีกต้นหนึ่งแล้ว จากนั้นจึงอาศัยต้นไม้ต้นที่สองนี้ เหยียบด้วยเท้าซ้าย ทะยานร่างออกไปอีกครั้ง กระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ เท้าของเขาไม่ได้แตะพื้นแม้แต่ครึ่งครั้ง!
ด้วยเหตุนี้ อู๋ฝานจึงได้โอกาสทดลองใช้วิชานางแอ่นถลาลมท่องป่า เท้าของเขาไม่เคยต้องสัมผัสพื้น และช่วงเดินทางกลับนั้น เขาไม่ถีบเท้ากับยอดไม้อีกต่อไป เพียงแค่ใช้พุ่มไม้หรือหญ้าบนพื้น ก็มากพอจะทำให้เกิดแรงทะยานเดินทางอีกครั้ง
“ยอดมาก! เยี่ยมเกินไปแล้ว!” อู๋ฝานที่นั่งพักเริ่มพึมพำกับตัวเอง
วิชานางแอ่นถลาลมนี้ทำให้กายของเขาเบาหวิวประดุจนกนางแอ่น วิชาระดับโลกาทรงอำนาจอย่างไร้ข้อกังขา ด้วยวิชาตัวเบานี้ ภายหน้าหากคิดไล่ตามศัตรูหรือหลบหนีจะยิ่งทำได้ง่ายดายมากขึ้น
หลังทดลองใช้วิชานางแอ่นถลาลมจนสาแก่ใจ อู๋ฝานจึงนำรางวัลชิ้นสุดท้ายของภารกิจออกจากกระเป๋าหลัง
ขวดบรรจุสรรพสิ่ง!
อู๋ฝานมองขวดอันเล็กในมือ ขนาดของมันยังไม่ใหญ่เท่าฝ่ามือเสียด้วยซ้ำ เขานึกสงสัยอยู่ในใจพักหนึ่งว่าขวดน้อยใบนี้ใช้ทำอะไรกันแน่? เหตุใดนามของมันถึงดูยิ่งใหญ่ขนาดนี้
หลังส่งวิชาตรวจสอบไปสำรวจ อู๋ฝานถึงกับต้องอ้าปากค้างด้วยอาการตื่นตะลึง
[ขวดบรรจุสรรพสิ่ง วัตถุเซียน เล่าขานกันว่ามันสามารถดูดซับน้ำของทะเลสาบทั้งห้าและคาบสมุทรทั้งสี่เข้าไว้ภายใน มันคือสมบัติอันล้ำค่าที่สุดแห่งวงศ์ตระกูลเซียน หากใช้งาน จะสามารถกักเก็บของเหลวตามแต่ผู้เล่นปรารถนาจะกักเก็บ สามารถกักเก็บของเหลวได้จำนวนเก้าชนิด ไม่มีขีดจำกัดในด้านปริมาณการกักเก็บของเหลว และสามารถเรียกของเหลวที่กักเก็บออกมาได้ทุกที่ทุกเวลา]
เลิศล้ำ!
อู๋ฝานมองคำอธิบายของขวดบรรจุสรรพสิ่งพร้อมปากที่ยังคงอ้าค้างตื่นตะลึง
มันถึงขนาดสามารถกักเก็บและปลดปล่อยของเหลวเก้าชนิดทุกที่ทุกเวลาได้ อีกทั้งมันยังไม่มีขีดจำกัดปริมาณที่สามารถกักเก็บ!
หรือก็คือ ตราบใดที่อู๋ฝานต้องการ เขาสามารถใช้งานขวดใบนี้เพื่อกักเก็บน้ำจากทั่วทุกแห่ง ดูดน้ำเหล่านั้นมาให้หมด และกักเก็บเอาไว้ภายใน
อู๋ฝานไม่เคยคิดว่าขวดน้อยใบนี้ จริง ๆ แล้วจะมีความสามารถวิเศษเลิศล้ำเกินตัวไปมาก แม้จะยังไม่กล่าวว่าความสามารถนี้มีประโยชน์ใดกับชายหนุ่มบ้าง แต่เพียงแค่ความสามารถของตัววัตถุ มันก็มากพอจะเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดไอเทมแล้ว!
“เดี๋ยวนะ!” อู๋ฝานชะงักงันขึ้นมา “อะไรคือวัตถุเซียน? มีอุปกรณ์ใช้งานระดับนี้อยู่ด้วยงั้นหรือเนี่ย?”
ตามความเข้าใจของอู๋ฝานก่อนหน้านี้ ระดับของอุปกรณ์ใช้งานในโลกแห่งนี้ จะถูกแบ่งออกเป็น ขาว ทองแดง เงิน ทอง อำพัน ตำนาน และเทวภัณฑ์ ระดับทั้งเจ็ดเหล่านี้ ไม่มีสิ่งใดที่มีนามว่าวัตถุเซียน
ถ้าอย่างนั้นวัตถุเซียนถูกจัดอยู่ในระดับใด? มันจะเทียบเท่ากับอะไร?
หลังครุ่นคิดอยู่ครึ่งค่อนวัน อู๋ฝานก็ยังไม่อาจจำแนกมันได้ ดังนั้นจึงทำได้เพียงแค่หยุดคิดเรื่องที่ไม่จำเป็น รู้เพียงว่ามันคือไอเทมเลิศล้ำ แค่นั้นก็มากเกินพอแล้ว
รางวัลจากภารกิจพิเศษที่ได้รับมาครั้งนี้ ทำให้อู๋ฝานค่อนข้างพึงพอใจไม่น้อย ควรค่าแก่การเป็นรางวัลตอบแทนความพึงพอใจสูงสุด แต่อันที่จริงแล้ว เขาก็เพียงมอบสัตว์เลี้ยงตัวน้อยเป็นของขวัญ แต่พอคิดย้อนกลับไป ก็มองว่าภารกิจนี้เป็นสิ่งที่คู่ควรจะได้รับ
“อืม ที่นี่ที่ไหนกัน?” อู๋ฝานเริ่มสำรวจรอบด้านของตัวเองพลางพึมพำ
ช่วงเวลาที่ใช้เทเลพอร์ตมายังโลกฝั่งนี้ค่อนข้างแตกต่างไปจากปกติ ดังนั้นเวลาที่จะใช้กลับไปก็ต้องแตกต่างกันไปด้วย หลังฟ้ามืด อู๋ฝานก็ยังไม่ถูกส่งตัวกลับไป เมื่อพบว่าไม่ได้ถูกส่งตัวกลับไป ดังนั้นเขาจึงคิดจะออกไปเดินตรวจตาเล่น
ที่นี่ไม่มีแหล่งให้กำเนิดแสงไฟ เมื่อฟ้ามืด รอบด้านก็มืดสนิท สิ่งที่เห็นก็มีเพียงของที่อยู่ห่างไม่กี่จั้ง ดังนั้นอู๋ฝานจึงตัดสินใจที่จะมุ่งหน้าไปยังป่าหน้าหมู่บ้านลำพัง และใช้เวลาที่มีอยู่ออกล่ามอนสเตอร์สะสมค่าประสบการณ์
ดังนั้น ตอนนี้ตัวเขาจึงมายังป่าหน้าหมู่บ้าน แต่ขณะคิดทดลองวิชานางแอ่นถลาลมนั้นเอง เขากลับรู้สึกตื่นเต้น ราวกับเลือดลมสูบฉีดนับสิบเท่าจนออกวิ่งไปทั่ว สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าหมู่บ้านเร้นลับนั้นตั้งอยู่ทิศทางใด
“โฮก!”
ขณะอู๋ฝานกำลังตรวจสอบหาทิศทางที่แน่ชัด ก็มีเสียงคำรามของสัตว์ดังขึ้น จากนั้นอู๋ฝานจึงได้เห็นเสือตัวหนึ่งพุ่งออกมาจากความมืดมิด
[พยัคฆ์หมอกเมฆา เลเวล 30 มอนสเตอร์จู่โจมก่อน กระหายเลือด ดุร้าย ความว่องไวสูง แข็งแกร่ง ทักษะประจำตัว ถล่มแยกปฐพี หมายเหตุ มอนสเตอร์ในช่วงเวลากลางคืนจะแข็งแกร่งขึ้น โปรดระมัดระวัง]
ถึงกับเป็นมอนสเตอร์เลเวลสามสิบ คล้ายว่าที่ตรงนี้จะอยู่ห่างจากรอบนอกของป่าค่อนข้างมาก
แต่ความสามารถของมอนสเตอร์แข็งแกร่งขึ้นในเวลากลางคืนคืออะไร?
ขณะอู๋ฝานยังคงครุ่นคิดว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร พยัคฆ์หมอกเมฆาก็คำรามพุ่งเข้าหาชายหนุ่มเรียบร้อยแล้ว เขี้ยวสีขาวแหลมคมของมันยิ่งดูเป็นประกายภายใต้แสงจันทร์ ทันทีที่พยัคฆ์หมอกเมฆาขยับตัวเข้ามาใกล้ เขาก็ยิ่งได้กลิ่นเหม็นคาวค่อนข้างรุนแรงจากปากของมัน
มันรวดเร็ว แต่เขาก็ไม่ช้า!
อู๋ฝานหลบเลี่ยงพยัคฆ์หมอกเมฆาที่พุ่งทะยานเข้าหาอย่างง่ายดาย ด้วยการเคลื่อนตัวหลบไปด้านข้าง
ความว่องไวส่วนตัวและวิชานางแอ่นถลาลม ทำให้อู๋ฝานรวดเร็วถึงขีดสุด
แต่อู๋ฝานไม่เพียงแค่หลบเลี่ยง หลังหลบพยัคฆ์หมอกเมฆาที่กระโจนเข้าหา กระบี่ยาวในมือของชายหนุ่มพลันแทงออกไปอย่างลื่นไหล
“ฉัวะ!”
คมของกระบี่ยาวสามารถแทงหน้าท้องพยัคฆ์หมอกเมฆาได้อย่างง่ายดาย ทันใดนั้นเองที่มันส่งเสียงคำรามด้วยความเจ็บปวดและโกรธแค้น
อู๋ฝานสะบัดกระบี่ยาวครั้งหนึ่ง ก่อนเท้าจะถีบกับพื้น ทั้งร่างทะยานลอยล่อง หลบเลี่ยงพยัคฆ์หมอกเมฆาที่โจมตีเข้าหาด้วยโทสะ ตัวคนตอนนี้ไปยืนบริเวณสีข้างของสัตว์ร้าย กระบี่ยาวในมือพลันแทงใส่ร่างของมันอีกครั้ง
อู๋ฝานที่ครอบครองอุปกรณ์สวมใส่ระดับแถวหน้า รวมกับทักษะวิชาที่ยอดเยี่ยม แม้เลเวลยังไม่ถึงสิบสองดี แต่การกำจัดพยัคฆ์หมอกเมฆาเลเวลสามสิบก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นจนเกินไป