ตอนที่ 335 กำจัดให้หมดซะ!

I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ

ส่วนหุ่นรบที่ถูกหลิงหลานเตะกระเด็นตัวนั้น หลังจากที่กระแทกกับหุ่นรบของเพื่อนอย่างรุนแรงแล้ว มันก็เด้งกลับมาที่พื้น ไม่ขยับเขยื้อนตัวอีก

ถ้าเกิดมีคนให้ความสนใจก็จะเห็นได้ว่า ตรงกลางห้องคนขับของหุ่นรบตัวนั้นมีปากโพรงรูปร่างแบนยาว เวลานี้เลือด ค่อยๆ ไหลลงมาจากปากโพรง ย้อมพื้นด้านล่างจนเป็นสีแดงอย่างช้าๆ…

หลิงหลานจัดการหุ่นรบสองตัวที่อยู่ข้างกายแล้ว พอเห็นลั่วล่างโจมตีล้มเหลวติดต่อกันสามครั้ง ก็ชูมือขวาขึ้นมา ปืนลำแสงสาดลำแสงสายหนึ่งออกไปอย่างเฉียบขาด ยิงใส่ตรงหัวเข่าของหุ่นรบที่กำลังหลบการโจมตีของลั่วล่างตัวนั้น

หัวเข่าคือข้อต่อที่มีการป้องกันเปราะบางมากที่สุดของหุ่นรบ เมื่อถูกหลิงหลานลอบยิงใส่กะทันหัน ก็ระเบิดออกเป็นประกายไฟขนาดเล็กกลุ่มหนึ่งทันที การเคลื่อนไหวหลบหลีกแต่เดิมของหุ่นรบเชื่องช้าลงทันใด

ตอนนี้เอง ลั่วล่างที่ใช้ก้าวไถลเงาเป็นครั้งที่สี่โดยที่ยังไม่ยอมแพ้พลันกวัดแกว่งอาวุธเย็นในมือฟันไปที่ลำคอของอีกฝ่ายด้วยความโกรธเกรี้ยว บางทีหัวเข่าอาจจะถูกทำลายแล้ว ทำให้หุ่นรบไม่สามารถรักษาสมดุลเอาไว้ได้ กอปรกับดาบที่ลั่วล่างฟันออกมาโดยที่แฝงความฉุนเฉียวเอาไว้นี้ พลังของมันจึงมหาศาลเป็นพิเศษ ฟันหุ่นรบตัวนี้จนล้มลงไปที่พื้นทันที

ลั่วล่างได้เปรียบแล้วก็ไม่ยอมปล่อย กวัดแกว่งอาวุธเย็นขึ้นมาอีกครั้ง ฟันใส่หุ่นรบที่ล้มลงพื้นตัวนั้นอย่างบ้าคลั่งราวกับพายุฝนโหมกระหน่ำ อยากหั่นหุ่นรบตัวนี้เป็นซากกองอย่างโหดเหี้ยมบ้าระห่ำ บางทีหุ่นรบ NPC อาจจะไม่อยากรับการทรมานเช่นนี้ สุดท้ายจึงเลือกระเบิดตัวเอง โชคดีที่ลั่วล่างมีปฏิกิริยาตอบสนองฉับไวหลบหลีกได้ทัน หุ่นรบเลยไม่ได้รับความเสียหายมากนัก

อย่างไรก็ตาม ฉากนี้ทำให้ลั่วล่างเดือดดาลยิ่งกว่าเดิม เขาคิดจริงๆ ว่า ออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักมีปัญหากับเขาอย่างแน่นอน ไม่มีศัตรูของใครระเบิดตัวเองเลย แต่ศัตรูของเขากลับเลือกลากเขาไปตายด้วยกันเนี่ยนะ? เขาพุ่งเข้าไปอีกครั้งก่อนจะเตะซากหุ่นรบที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ซากกองนั้นกระเด็นลอยออกไปทันที และทิศทางที่เตะลอยไปบังเอิญซัดใส่ตำแหน่งของหลิงหลานพอดี…

ขณะนี้เองหลิงหลานกำลังต่อสู้กับหุ่นรบสองตัวอยู่ ปู้หุ่ยของเธอกำลังปะทะเข้ากับอาวุธเย็นของหุ่นรบตัวหนึ่งอย่างดุเดือด ส่วนทางด้านขวา อาวุธเย็นของหุ่นรบอีกตัวกำลังฟันลงใส่ศีรษะของหลิงหลานอย่างบ้าคลั่ง ไม่ใช่ว่าหลิงหลานไม่มีพื้นที่ให้หลบหลีก แต่ตำแหน่งที่เธอกำลังจะหลบไปนั้น กองซากลุกไหม้ที่ลั่วล่างเตะมาดันโผล่ขึ้นตรงนั้นพอดี

พอเห็นฉากนี้เข้า ไฟโทสะของลั่วล่างที่เดิมทีพุ่งขึ้นสูงก็มอดลงทันที เขารู้สึกได้เพียงไอเย็นสายหนึ่งพรั่งพรูออกมาจากส่วนลึกข้างใน ภายในใจมีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น นั่นก็คือเขาตายแน่ๆ…เขาพลันตัวสั่นระริกตะโกนเสียงดังว่า “ลูกพี่ หลบไป”

เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์อับจนที่ไม่ว่าเลือกอย่างไรก็ต้องถูกกระแทกอย่างแรง หลิงหลานได้แต่เตะเท้าออกไปอย่างใจเย็น หลังจากนั้นก็ควงปู้หุ่ยในมือหนึ่งรอบแล้วฟาดตรงไปที่เปลวไฟกลุ่มนั้นอย่างรุนแรง เธอซัดเปลวไฟกลุ่มนั้นเข้าไปหาหุ่นรบศัตรูที่ถูกเธอเตะจนอยู่ห่างออกไปครึ่งก้าว หุ่นรบศัตรูตัวนั้นไม่คาดคิดเลยว่าลูกไฟกองซากที่บินไปหาคู่ต่อสู้จะลอยมาหาตนกะทันหัน เขาถูกกระแทกโดยพลัน พลังมหาศาลทำให้เขาถอยหลังไปโดยที่ควบคุมไว้ไม่อยู่สี่ห้าก้าวถึงค่อยหยุดฝีเท้าลง

ถึงแม้ว่าหลิงหลานจะหลบเภทภัยที่มาอย่างไม่คาดฝันครั้งนี้พ้น แต่เธอกลับไม่มีเวลาบังคับหุ่นรบให้หลบการโจมตีของหุ่นรบอีกตัวที่ฟันลงมาตรงศีรษะ ทว่าเรื่องที่น่าอัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้น หุ่นรบของหลิงหลานอาศัยแรงฟาดนั้นไถลออกไปยังทิศทางตรงข้ามหนึ่งเมตร และหนึ่งเมตรนี้ทำให้เธอหลบการฟันอย่างอำมหิตของหุ่นรบตัวนั้นได้อย่างหวุดหวิด

หลังจากที่หลิงหลานหลบแล้วก็ฉวยโอกาสที่กระบวนท่าโจมตีของหุ่นรบตัวนั้นอยู่ช่วงท้าย ทำการตวัดกลับ รัศมีเย็นเยียบส่องวาบ ปู้หุ่ยตัดแขนขวาของหุ่นรบศัตรูลงมา การโจมตีของหลิงหลานไม่ได้มีเพียงแค่นั้น เธอกระทืบเท้าขวาแรงๆ ต่อทันที ร่างของหุ่นรบทะยานขึ้นไปบนอากาศ ห่างจากพื้นประมาณเจ็ดแปดเมตร ขาขวาพลันยกขึ้นมาก่อนจะเตะลงไปที่ด้านข้างอย่างเหี้ยมโหดอีกครั้ง

เสียง ‘ตูม’ ดังสนั่น ขาขวาถีบหุ่นรบที่มือขวาโดนฟันขาดตัวนั้นอย่างรุนแรง พลังมหาศาลที่ลงมาจากด้านบนนี้เตะหุ่นรบตัวนั้นจนล้มลงไปบนพื้น…

ในตอนที่หุ่นรบของหลิงหลานร่วงตามลงมานั้น ปู้หุ่ยในมือวาดออกไปเป็นเส้นโค้งวงกลมที่สวยงามกลางอากาศ ท้ายที่สุดคมดาบก็ตกลงไป แทงไปที่ห้องคนขับของหุ่นรบโดยพลัน การเคลื่อนไหวรอบนี้เสร็จสิ้นภายในชั่วพริบตา…

เมื่อลั่วล่างเห็นหลิงหลานหลบเภทภัยไม่คาดฝันที่เขาเตะเข้าไปได้พ้น เขาก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่งด้วยความโล่งอกทันที แต่ยังไม่ทันที่เขาเริ่มแอบฉลองก็ได้ยินหลิงหลานเอ่ยอย่างเย็นยะเยือกว่า “ลั่วล่างกลับไปแล้วฝึกฝนในห้องประลองส่วนตัวหนึ่งอาทิตย์!” หลิงหลานกล่าวคำพูดนี้ไปพลาง ค่อยๆ ชักปู้หุ่ยที่เสียบเข้าไปในห้องคนขับของหุ่นรบศัตรูอย่างเย็นชาไปพลาง

“อ๋อย…” ลั่วล่างร้องครางออกมา เขาแค่ระบายความโกรธเท่านั้น แต่ไม่นึกเลยว่าจะได้รับผลแบบนี้ อยู่ภายใต้การทรมานของลูกพี่หลานในห้องประลองส่วนตัวหนึ่งอาทิตย์ เขายังสามารถเอาชีวิตรอดมาได้หรือเปล่า?

“ยังไม่สู้ต่ออีก? นายอยากเตรียมตัวฝึกในห้องประลองสองอาทิตย์หรือไง?” ยังไม่ทันที่เสียงร้องครางของลั่วล่างจะหยุดลง เสียงเย็นเยียบของหลิงหลานก็ดังขึ้นในช่องสื่อสารของทีมอย่างน่าขนลุกอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้เอง เสียงร้องครางด้วยความรันทดแต่เดิมของลั่วล่างพลันเปลี่ยนเป็นเสียงกู่ร้องอย่างเหี้ยมโหด จากนั้นเขาก็กระโจนเข้าไปหาหนึ่งในหุ่นรบที่เหลืออยู่ไม่กี่ตัว ราวกับหมาป่าอำมหิตก็ไม่ปาน

พวกฉีหลงสี่คนเพิ่งจะจัดการคู่ต่อสู้ของตัวเองเสร็จก็ได้ยินคำพูดที่หลิงหลานเตือนลั่วล่าง พวกเขารู้สึกได้ถึงไอเย็นฝ่าตรงเข้าไปในใจ จากนั้นก็จับอาวุธถาโถมเข้าไปหาหุ่นรบหลายตัวที่เหลืออยู่อย่างเหี้ยมโหดทันทีโดยไม่ใคร่ครวญเลยสักนิดเดียว…

โฮๆๆ ลูกพี่ พวกเราแสดงฝีมือได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ อย่าเอาความโกรธมาระบายใส่ตัวพวกเราเลยนะ ถ้าอยากปิดห้องประลองส่วนตัว ได้โปรดไปหาลั่วล่างที่เป็นตัวการที่ทำผิดหลักก็พอ อย่ามาหาพวกเราเลยนะ

ปัจจุบันนี้ความโหดร้ายของการฝึกฝนในห้องประลองส่วนตัวทำให้พวกฉีหลงห้าคนไปถึงระดับแค่เอ่ยถึงก็หน้าถอดสีแล้ว เพื่อไม่ให้ตัวเองลิ้มรสความทรมานที่สลักลึกในใจแบบนี้อีก พวกฉีหลงห้าคนจึงปล่อยกำลังรบออกมาอย่างเต็มพิกัด โจมตีกดดันฝ่ายตรงข้าม ทำให้คู่ต่อสู้ไม่มีช่องทางในการตอบโต้เลยแม้แต่น้อย…

ขณะนี้หลี่ซื่ออวี๋ได้ต่อสู้กับศัตรูคนสุดท้ายแล้ว เขาเหลือบมองพวกฉีหลงห้าคนอย่างงุนงง ไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาเหมือนกับกินยาชูกำลังออกฤทธิ์ได้ผลชะงัดเข้าไปก็ไม่ปาน เมื่อเทียบกำลังรบปัจจุบันกับเมื่อสักครู่นี้แล้ว มันอยู่กันคนละระดับโดยสิ้นเชิง… ‘การฝึกฝนในห้องประลองส่วนตัวมีความลับอะไรหรือไง? บางทีมันอาจจะเป็นประโยชน์ต่องานวิจัยพัฒนาศักยภาพร่างกายมนุษย์ของเขาก็ได้ เขาควรจะไปหาหัวหน้าหลานเพื่อทำความเข้าใจดีๆ หรือเปล่า?’ หลี่ซื่ออวี๋คิดเช่นนี้

ทันใดนั้นเองพวกฉีหลงหลายคนที่กำลังพยายามสังหารศัตรูอย่างสุดความสามารถก็รู้สึกได้ถึงไอหนาวเหน็บสายหนึ่งพรั่งพรูออกมาจากในส่วนลึกของกระดูก…หรือว่าลูกพี่มีความคิดเกี่ยวกับการฝึกฝนในห้องประลองส่วนตัวกับพวกเขาจริงๆ? เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ พวกเขาก็แสดงฝีมือโหดเหี้ยมมากกว่าเดิม อยากกำจัดหุ่นรบตรงหน้าทิ้งไปทันทีแล้วมาบอกลูกพี่ว่า พวกเขาไม่จำเป็นต้องกลับไปฝึกฝนหล่อหลอมที่ห้องประลองส่วนตัวอีกต่อไปแล้วอย่างแน่นอน

การแสดงฝีมืออย่างยอดเยี่ยมทำให้พวกฉีหลงแยกกันไปกำจัดคู่ต่อสู้ของตัวเองได้ภายในหนึ่งนาที เมื่อเห็นเพื่อนร่วมรบที่เดิมทีมีมากมายหลายเท่าถูกศัตรูที่บุกเข้ามาในฐานที่มั่นลับกลุ่มนี้สังหารไปในชั่วพริบตา หุ่นรบที่อยู่ห่างจากหลิงหลานเพราะว่าโดนลูกไฟซากหุ่นรบกระแทกจนถอยหลังติดกันหลายก้าวตัวนั้นกำลังจ้องมองหลิงหลานถือปู้หุ่ยที่มีเลือดหยดติ๋งๆ เดินเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ ด้วยความหวาดกลัว…

เขากุมอาวุธในมือแน่น ดวงตาแดงฉานทั้งสองข้างมองไปยังปีศาจร้ายที่สังหารหุ่นรบของพวกเขาไปเกือบครึ่งในชั่วพริบตาตัวนั้น เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเข้าใกล้ตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดเขาก็คำรามด้วยความเดือดดาล หันหลังวิ่งหนีไป…

“ฮะ? เลือกวิ่งหนีเนี่ยนะ?” หลิงหลานตกตะลึง เดิมทีเธอคิดว่าทหาร NPC จะถูกออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักตั้งค่าให้อยู่ในโหมดต่อสู้จนตัวตายเสียอีก แต่นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะเลือกหนีไปเหมือนกับมนุษย์จริงๆ และในตอนนี้เอง หน่วยหุ่นรบสองหน่วยที่ศัตรูส่งเข้ามาใหม่ได้โผล่ขึ้นในระยะขอบเขตการมองเห็นของพวกเขาแล้ว การสั่นสะเทือนของพื้นเปลี่ยนเป็นรุนแรงอย่างยิ่งยวด…มุมปากของเธอปรากฏรอยยิ้มหยันที่จางสุดขีด ทันใดนั้นก็โบกมือขวาทีหนึ่ง ปู้หุ่ยในมือราวกับแสงเย็นเยียบสายหนึ่งส่องวาบขึ้นมาแทงไปยังหุ่นรบที่กำลังวิ่งหนีตัวนั้นทันที

“อ๊ากกก…” NPC ที่บังคับหุ่นรบตัวนี้ส่งเสียงร้องโหยหวนออกมา ร่างกายของเขาถูกดาบปีศาจเล่มนั้นฟันออกเป็นสองท่อนแล้ว เขาเห็นตับไตไส้พุงของตัวเองทะลักออกมาตามเลือดที่พุ่งราวกับน้ำพุจากตรงเอวที่ถูกฟันขาด ท่ามกลางความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสเหมือนฉีกกระชากวิญญาณของเขา…

เขาต้องมองหน่วยรบของเพื่อนที่อยู่ห่างจากเขาไปแค่ห้าหกร้อยเมตรเท่านั้นด้วยสติที่พร่ามัว เขาอยากบอกกับพวกเขาเหลือเกินว่า รีบหนีไปเร็วเข้า คนพวกนี้คือปีศาจร้าย ไม่ใช่คนที่พวกเขาสามารถต้านทานได้เลย…อย่างไรก็ตาม เขาส่งเสียงออกมาไม่ได้อีกแล้ว เขาคล้ายกับมองเห็นจุดจบสุดท้ายของบรรดาเพื่อนๆ เหล่านี้ที่กลายเป็นวิญญาณพยาบาทกล้ำกลืนความคับแค้นใจอยู่ที่นี่เหมือนกับพวกเขา…

เสียง ‘ฉัวะ’ ดังขึ้นที่ข้างหูเขาทันใด เขาจ้องเขม็งไปยังดาบปีศาจที่ฟันร่างกายของเขาเล่มนั้นกำลังออกไปจากในห้องคนขับของเขา เขารู้ว่ามารร้ายตัวนั้นกำลังเก็บดาบปีศาจของมันกลับไปแล้วแน่อน เขาอยากคว้าดาบปีศาจเอาไว้มากๆ ไม่อยากให้มารร้ายตัวนั้นถือมันไปทำร้ายบรรดาเพื่อนร่วมรบของเขาต่อ เขาใช้เรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายพยายามยื่นมือขวาออกไป…

คว้าดาบเล่มนั้นเอาไว้ไม่ได้เหรอ? เขามองดาบปีศาจหายไปจากเบื้องหน้าเขาในท้ายที่สุด ออกไปจากห้องคนขับของเขาแล้ว เขาชูมือขวาที่ทำพลาดไปขึ้นมา แต่ก็พบว่านิ้วมือทั้งห้านิ้วของเขากลับหายไปแล้ว…ที่แท้เมื่อสักครู่นี้เขาสัมผัสถูกดาบปีศาจเล่มนั้นแล้ว!

เป็นดาบปีศาจอย่างที่คาดไว้เลย! ท้ายที่สุดเขาก็กล้ำกลืนลมหายใจเฮือกสุดท้ายไว้ท่ามกลางการอุทานด้วยความตกใจ จนกระทั่งเขาตายแล้วดวงตาก็ยังไม่ปิด!

หลังจากที่หลิงหลานเก็บปู้หุ่ยของตัวเองกลับมาก็เห็นหน่วยรบสองหน่วยสุดท้ายที่กำลังเข้ามาใกล้พวกเขาอย่างรวดเร็ว เธอออกคำสั่งของเธอให้กับทุกคนในทีมอย่างเย็นชาว่า “กำจัดให้หมดซะ!”

……

จักรวรรดิซีซาร์อันห่างไกล ภายในห้องโถงทดลองของฐานที่มั่นลับกองทัพแห่งหนึ่ง ทุกคนกำลังเพ่งความสนใจไปยังแคปซูลล็อกอินสามสิบกว่าอันภายในห้องโถง ถึงแม้ว่าพวกเขาอยากรักษาความเยือกเย็นไว้อย่างสุดความสามารถ แต่พวกเขายังยากจะปกปิดความตื่นเต้นและความตึงเครียดเอาไว้

จากเวลาที่คาดการณ์ไว้ อีกไม่กี่นาที แผนการของพวกเขาก็จะสำเร็จแล้ว และผลที่ได้หลังจากความสำเร็จนั้นจะทำให้ทั่วทั้งซีซาร์บ้าคลั่ง มันสามารถทำให้จักรวรรดิซีซาร์กลายเป็นมหาอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดของระบบสุริยะได้ในครั้งเดียว นับตั้งแต่ที่ถูกสหพันธรัฐหัวเซี่ยไล่ตามเมื่อห้าพันปีก่อน พวกเขาก็สูญเสียตำแหน่งมหาอำนาจที่แข็งแกร่งที่สุดไป ได้แต่ร่วมเสพสุขเกียรติยศกับหัวเซี่ย ควรรู้เอาไว้ว่าในประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิซีซาร์ พวกเขาเคยปกครองจักรวาลนี้มาตลอดเจ็ดพันปีเต็มๆ

พวกเขาจะให้คนอื่นมานอนกรนข้างเตียงได้อย่างไร สหพันธรัฐหัวเซี่ยทำให้พวกเขาอดทนมาห้าพันปีแล้ว ทว่าในที่สุดตอนนี้พวกเขาก็สามารถจัดการศัตรูได้ ลิ้มรสความปรารถนาในจิตใจ

“ติ๊ดๆๆ…” ทันใดนั้นเองแคปซูลล็อกอินสองอันส่งเสียงร้องฉุกเฉินออกมาฉับพลัน นี่บ่งบอกว่ามีความเป็นไปได้สูงที่คนในแคปซูลล็อกอินสู่โลกเสมือนจริงอาจจะเกิดปัญหาขึ้นแล้ว หรือบางทีอาจจะมีอันตรายก็ได้

สถานการณ์นี้ทำให้สีหน้าของทุกคนในห้องโถงเปลี่ยนไป พวกเขาทยอยกรูกันไปที่แคปซูลล็อกอินสู่โลกเสมือนจริงสองอันนั้น แคปซูลล็อกอินสู่โลกเสมือนจริงถูกเปิดออกอย่างฉับไว สารอาหารด้านในไหลกลับไปจนสะอาดอย่างรวดเร็ว คนที่ควรจะตื่นขึ้นมายังคงนอนอยู่ด้านในไม่มีการตอบสนอง พวกเขาหลับตาราวกับว่ายังคงหลับสนิทอยู่

—————————-