ตอนที่ 336 ติดกับแล้ว!

I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ

พอเห็นสถานการณ์แบบนี้ พลโทคนหนึ่งที่บนบ่ามีดาวอยู่สองดวง เขาคือผู้รับผิดชอบที่นี่ก็รีบสั่งแพทย์เฉพาะทางเข้ามาตรวจสอบดู แพทย์เฉพาะทางสองคนที่สวมเสื้อกาวน์สีขาวหยิบอุปกรณ์พกพาขนาดเล็กด้วยท่าทีช่ำชอง แต่ละคนต่างไปตรวจสอบแคปซูลล็อกอินสู่โลกเสมือนจริง

อุปกรณ์เชื่อมต่อกับคนที่นอนอยู่ด้านในอย่างรวดเร็ว เมื่ออ่านข้อมูลที่ส่งกลับมาจากในอุปกรณ์ สีหน้าของผู้เชี่ยวชาญทั้งสองต่างดูย่ำแย่มากขึ้นเรื่อยๆ ท้ายที่สุดก็ได้แต่ส่ายหน้ายืนขึ้นมา บอกทุกคนด้วยความเสียใจว่า สมองของทั้งสองคนที่อยู่ในแคปซูลล็อกอินสู่โลกเสมือนจริงถูกทำลายโดยสมบูรณ์แล้ว หรือก็คือ ภาวะสมองตายในทางการแพทย์ ต่อให้หัวใจของพวกเขายังคงเต้น แต่ความจริงพวกเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว

“นี่มันเป็นไปได้ยังไง พวกเขาเป็นผู้มีความสามารถชั้นยอดในกรมของเรานะ พวกเขาไม่มีทางตายได้ นายต้องวินิจฉัยผิดแล้วแน่นอน” พอได้ยินคำประกาศของผู้เชี่ยวชาญ พลตรีอายุประมาณสี่สิบที่อยู่ในหมู่คนเหล่านั้นพลันตำหนิขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุมได้

“วิลสัน นายใจเย็นลงหน่อย!” ท่านพลโทตะโกนเสียงดังลั่นทันใด ทำให้วิลสันที่โกรธเกรี้ยวจนแทบจะสูญเสียความเยือกเย็นได้สติกลับมาโดยพลัน เขากุมศีรษะคุกเข่าลงอย่างเสียการควบคุม ปากก็เอ่ยเสียงแผ่วเบาด้วยความไม่อยากเชื่อว่า “เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมพีทกับคาร์เตอร์ตายได้ล่ะ? หรือว่าแผนการของพวกเราถูกหัวเซี่ยล่วงรู้เข้าแล้ว?”

“พวก D1 บอกว่าทุกอย่างราบรื่นไปด้วยดีไม่ใช่เหรอ?” วิลสันคล้ายกับนึกอะไรบางอย่างได้แล้ว เขาเงยหน้าขึ้นมาฉับพลัน สายตาเฉียบคมจ้องไปยังคนผู้หนึ่งในกลุ่มคน นั่นก็คือชายวัยกลางคนที่มียศพลตรีเหมือนกับเขา

“ถึงพวก D1 แทรกซึมเข้าไปในโลกเสมือนจริงของทางสหพันธรัฐหัวเซี่ยได้สำเร็จแล้ว แต่ข้อจำกัดมีเยอะมาก พวกเขาไม่สามารถส่งข่าวคราวมาได้ ทำได้เพียงรอคอยคนที่พวกเขาส่งกลับมาเท่านั้นจะรู้อะไรได้บ้าง และข่าวล่าสุดคือข่าวเมื่อสองวันก่อน พวกเขาสงสัยว่าทางหัวเซี่ยส่งคนเข้ามาตรวจสอบ พวกเขาถึงได้ยื่นคำขอให้ย้ายผีซวีเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้แน่ใจว่าแผนการจะสำเร็จลุล่วง….” พลตรีคนนั้นขมวดคิ้ว อธิบายสถานการณ์ให้วิลสันฟัง

พลตรีวิลสันยังคงอยากพูดอะไรบางอย่าง เวลานี้เอง ท่านพลโทเดินเข้ามาตบบ่าของเขาเบาๆ เอ่ยปลอบใจว่า “ถึงแม้ว่าพีทกับคาร์เตอร์ตายแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแผนการล้มเหลว เพื่อจักรวรรดิแล้ว การเสียสละชีวิตบางส่วนคือสิ่งจำเป็น พวกเรารออีกห้านาที ก็รู้ได้ว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไร”

การปลอบใจของท่านพลโททำให้วิลสันไม่พูดอะไรอีก แต่ว่าอดทนรอคอยห้านาทีสุดท้ายนี้ เขาเองก็หวังว่าแผนการจะสำเร็จลุล่วงได้ เช่นนั้นการพลีชีพของพีทกับคาร์เตอร์ก็เปลี่ยนเป็นคุ้มค่าแล้ว

……

ภายในโลกเสมือนจริง D2 ที่กำลังนั่งรักษาการณ์อยู่ในศูนย์วิจัยลับของฐานที่มั่นซวิ่นหลงเห็นหน่วยหุ่นรบที่เขาส่งออกไปล่าสุดสองหน่วยสกัดศัตรูที่แทรกซึมเข้ามาได้สำเร็จในที่สุดตรงบริเวณจัตุรัสกลางของฐานที่มั่น เขาก็วางใจลงชั่วคราวแล้วเพ่งความสนใจไปที่มอนิเตอร์กล้องวงจรปิดของจัตุรัสกลาง มองดูสถานการณ์ต่อสู้ของทั้งสองฝ่าย ในเวลาเดียวกันก็ไม่ลืมสอบถามแฮคเกอร์ใต้บังคับบัญชาเรื่องความคืบหน้าการวิวัฒนาการของไวรัส T

เวลาเข้าใกล้ขั้นตอนเสร็จสิ้นมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหน่วยหุ่นรบที่แทรกซึมเข้ามากลุ่มนั้นยังคงพัวพันกับหน่วยรบของฐานที่มั่นลับสองหน่วย พอถึงตอนนี้ หัวใจของ D2 ค่อยสงบลงในที่สุด….

หลังจากที่ผ่านการต่อสู้ช่วงนี้ไปแล้ว เวลานี้หุ่นรบเก้าตัวที่แอบบุกเข้ามาพังเสียหายไปแล้วหกตัว ส่วนหน่วยรบของฐานที่มั่นสองหน่วย ตอนนี้ก็เหลือเพียงหุ่นรบห้าตัวสุดท้าย ต่างฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บจากสงคราม แต่ D2 ไม่สนใจ อย่างไรเสีย หน่วยหุ่นรบที่คุ้มกันฐานที่มั่นลับต่างเป็นหน่วยหุ่นรบทางการของฐานที่มั่นซวิ่นหลง ไม่มีความเกี่ยวข้องกับพวกเขาเลยสักนิดเดียว

D2 เป็นห่วงแค่ว่า หน่วยหุ่นรบจะทำภารกิจหยุดยั้งหุ่นรบพวกนั้นจนกว่าจะเพาะเลี้ยงไวรัส T ได้สำเร็จหรือเปล่า และตอนนี้หน่วยหุ่นรบแสดงผลงานได้ไม่เลวเอามากๆ ทำภารกิจที่เขามอบหมายลงไปได้สำเร็จลุล่วง

เวลานี้ต่อให้อีกฝ่ายจัดการหุ่นรบห้าตัวสุดท้ายของหน่วยหุ่นรบได้ พวกเขาก็ไม่มีเวลาวิ่งเข้ามาขัดขวางปฏิบัติการของพวกเขาแล้ว ตรงหน้า D2 คล้ายกับผุดภาพที่เขากลายเป็นรัฐบุรุษที่สร้างคุณูปการสูงสุดของจักรวรรดิ เขารับเครื่องราชอิสริยาภรณ์สูงสุดที่จักรพรรดิมอบให้ และมาถึงตรงหน้าอาคารรัฐสภาเสพสุขการเลื่อมใสบูชาอย่างบ้าคลั่งของพวกคนในประเทศ

……

ในห้องลับอีกแห่งหนึ่ง ผีซวีสองคนที่ต่อสู้กับหลี่หลานเฟิงมาตลอดหอบหายใจแฮกๆ อย่างเหนื่อยล้า พวกเขาแทบจะใช้พลังผีซวีทั้งหมดแล้ว ทว่าไม่สามารถพังการป้องกันของอีกฝ่ายได้

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมอีกฝ่ายยิ่งต่อสู้ยิ่งแข็งแกร่ง? ตอนแรกพลังป้องกันของเขายังเกิดการปั่นป่วน ถึงขนาดที่มีช่องโหว่ ทำไมตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อนถึงเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งจนไม่อาจทำลายได้แล้ว? พวกเราโจมตีนานขนาดนี้ แต่ไม่มีผลเลยสักนิดเดียว?” คาร์เตอร์ถามพีทที่อยู่ข้างกายด้วยความงุนงงท่ามกลางเสียงหอบหายใจ นี่ไม่สอดคล้องกับสามัญสำนึกในการต่อสู้ของผีซวีเลยจริงๆ

เดิมทีพีทไม่คิดอะไรมากนัก แต่เมื่อได้ยินคำถามของคาร์เตอร์ หัวใจพลันกระตุกขึ้นมา เขากำลังอยากพูดอะไรบางอย่าง ทว่ายังไม่ทันได้เอ่ยปาก หัวใจก็สะดุ้งขึ้นฉับพลัน นี่คือลางบอกเหตุที่มาจากพลังผีซวีโดยเฉพาะ สีหน้าของทั้งคู่เปลี่ยนไปอย่างยิ่งยวด รีบดึงพลังผีซวีที่ปะทะกับอีกฝ่ายกลับมา ทว่ามันสายไปแล้ว

พลังงานที่แข็งแกร่งและท่วมท้นครอบคลุมพลังผีซวีของพวกเขาไว้ทันที หลังจากนั้นก็บดขยี้จนแหลกละเอียด พวกเขาได้ยินแค่พลังจิตของตัวเองถูกอัดราวกับลูกโป่งน้ำ เสียงดัง ‘โพละ’… แล้วก็ไม่มีหลังจากนั้นอีกเลย

ไม่มีใครเห็นว่าร่างกายของพวกเขากำลังเปลี่ยนเป็นอณูค่อยๆ สลายหายไป นี่หมายความว่า สตินึกคิดของพวกเขาถูกกำจัดสำเร็จแล้ว

“ลูกพี่ ภารกิจสำเร็จลุล่วง!” เสี่ยวซื่อกลับเขาไปในห้วงสติของหลิงหลาน รายงานให้หลิงหลานฟังด้วยความภาคภูมิใจ

ความจริงแล้วนับตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน เสี่ยวซื่อสกัดการโจมตีของทั้งสองคนอย่างเงียบเชียบ ส่วนหลี่หลานเฟิงงุนงงสับสนเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่บ้างว่า ทำไมจู่ๆ ผีซวีสองคนที่โจมตีเขาก็หายวับไป เนื่องจากพลังของเสี่ยวซื่อแข็งแกร่งมากเกินไป การซ่อนเร้นก็เหนือชั้น หลี่หลานเฟิงเลยไม่รู้ความจริง

หลิงหลานลูบหัวเสี่ยวซื่อด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะจ้องมองประตูเบื้องหน้า เอ่ยถามว่า “เสี่ยวซื่อ เป็นที่นี่ใช่หรือเปล่า?”

“อื้อ พวกเขาอยู่ข้างใน ฉันสัมผัสได้ว่าด้านในมีพลังงานที่คุ้นๆ ถ้าหากไม่ใช่เพราะลูกพี่ไม่ยอมให้ฉันเข้าไปละก็ ฉันคงไปตรวจสอบนานแล้วว่าพลังงานนั้นคืออะไรกันแน่” เสี่ยวซื่อบ่น

“จะพานายเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ ในที่สุดก็จะได้รู้คำตอบสุดท้ายของภารกิจเสียทีว่าคืออะไรกันแน่” หลิงหลานสั่งเสี่ยวซื่อให้เตรียมพร้อมเปิดประตู ตอนนี้หลิงหลานเก็บหุ่นรบกลับมาแล้ว สองฝั่งของหน้าประตูคือพวกฉีหลงแปดคนที่เก็บหุ่นรบกลับมาเช่นเดียวกัน พวกเขาต่างคนต่างถืออาวุธเลเซอร์ เตรียมตัวพุ่งเข้าไปทันที จากนั้นก็ควบคุมสถานการณ์ด้านในโดยพลัน

……

“ยังเหลืออีกสี่นาที สามสิบเจ็ดวินาที ไวรัส T ก็จะโตเต็มที่แล้วครับ” ลูกน้องแฮคเกอร์ที่รับผิดชอบเพาะเลี้ยงไวรัส T มาตลอดเห็นข้อมูลที่ส่งกลับมาในหน้าจอก็เอ่ยด้วยความตื่นเต้นยินดี ก่อนหน้านี้พวกเขาได้แต่ประเมินคร่าวๆ มีเพียงตอนนี้ถึงยืนยันเวลาการเกิดของไวรัส T ที่แน่นอนได้จริงๆ

D2 กับ D3 ได้ยินข่าวนี้ก็มาที่ด้านหน้าหน้าจอเพาะเลี้ยงไวรัส T ด้วยความตื่นเต้นทันใด รอคอยช่วงเวลาสี่นาทีกว่าสุดท้ายของการจุติไวรัส T ด้วยกัน และในตอนนี้เอง ประตูที่ปิดสนิทมาตลอดพลันเปิดออก ยังไม่ทันที่พวกเขาจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง ทหารสวมชุดเครื่องแบบปฏิบัติการต่อสู้ในเวลากลางคืนกลุ่มหนึ่งพลันบุกเข้ามา ใช้ปืนพกเลเซอร์ที่กะทัดรัดแต่ทรงพลังในมือเล็งใส่พวกเขา ปากก็สั่งการว่า “อย่าขยับ!”

มีหลายคนที่ตอบสนองรวดเร็วกำลังคิดจะชักปืน แต่ก็ถูกฝ่ายตรงข้ามที่เตรียมพร้อมอยู่นานแล้วยิงใส่แขน ขัดขวางการขัดขืนของพวกเขา D2 เห็นพวกเขาไม่มีโอกาสแล้วก็ส่งสัญญาณให้ทุกคนใจเย็นลง

สถานการณ์ถูกควบคุมอย่างรวดเร็ว เวลานี้เอง เสียงฝีเท้าที่กระจ่างชัดดังมาจากหน้าประตู จากนั้นคนผู้หนึ่งที่ดูเย็นชาทั่วทั้งร่างปล่อยไอเย็นยะเยือกก็เดินเข้ามา สายตาเย็นเยียบกวาดมองทุกคนรอบหนึ่งอย่างไร้ความรู้สึก ทำให้หัวใจของพวกเขาสั่นสะท้านทันใด

“ลูกพี่ ภารกิจสำเร็จแล้ว!” ฉีหลงโบกปืนพกเลเซอร์ให้กับหลิงหลานด้วยความตื่นเต้น ไม่ว่าชีวิตจริงหรือว่าโลกเสมือนจริง พอติดตามลูกพี่แล้วมักจะต้องมีต่อสู้เร้าใจแบบนี้เสมอ ฉีหลงรู้สึกว่าเขาหลงรักชีวิตผจญภัยน่าตื่นเต้นแบบนี้จริงๆ

D2 เห็นคนที่เดินเข้าเป็นคนสุดท้ายก็รู้ว่าเขาติดกับแล้ว เนื่องจากคนผู้นั้นคือทหารหุ่นรบที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งกำลังบังคับหุ่นรบต่อสู้กับคนของหน่วยหุ่นรบในภาพกล้องวงจรปิดเวลานี้

D2 กับ D3 สบตากันแวบหนึ่งตามจิตใต้สำนึก รู้ว่าพวกเขาจำเป็นต้องถ่วงเวลาไว้ ต่อให้พวกเขาทุกคนต้องพลีชีพกันที่นี่ พวกเขาก็ต้องทำภารกิจของพวกเขาให้สำเร็จจงได้

“พวกนายเป็นใคร? มาที่นี่ทำไม?” D2 หันหน้ากลับมาทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรเลย เอ่ยถามด้วยความหวาดหวั่นเหมือนการตอบสนองที่ NPC จะทำ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเงียบงัน เนื่องจากลูกพี่อยู่ที่นี่ พวกฉีหลงย่อมไม่พูดมาก ส่วนหลิงหลาน ตอนนี้กลับถูกเสี่ยวซื่อในห้วงจิตใจดึงความสนใจไปแล้ว

เมื่อเธอเข้ามาในห้องลับนี้ เสี่ยวซื่อพลันตื่นเต้นขึ้นมาแล้ววิ่งออกไปโดยไม่สนใจคำเตือนก่อนหน้านี้ของเธอ ในโลกเสมือนจริง เสี่ยวซื่อสามารถตะลอนไปมาได้อย่างอิสระ ไม่เหมือนกับในชีวิตจริงที่ทำได้เพียงติดตามหลิงหลาน

วินาทีต่อมา เสี่ยวซื่อกลับมาแล้ว ดวงหน้าของเขาเผยสีหน้าประหลาดใจแกมยินดี กล่าวอย่างปกปิดความตื่นเต้นได้ยากว่า “ลูกพี่ ฉันพบของดีเข้าแล้ว”

“อ้อ? คืออะไรล่ะ?” หลิงหลานเอ่ยถามอย่างเฉยชา

“ลูกพี่ เหลือเชื่อเกินไปแล้ว ไม่นึกเลยว่าโลกนี้จะมีของสิ่งนี้อยู่ด้วย” เสี่ยวซื่อทำหน้าเคลิ้มฝัน จนถึงตอนนี้เขาไม่อาจทำความเข้าใจได้ว่า ทำไมของสิ่งนี้ถึงปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ว่าตามเหตุผลแล้ว เทคโนโลยีของโลกใบนี้ไม่น่าจะมีของสิ่งนี้โผล่ออกมาได้

“มันคืออะไรกันแน่?” หน้าผากของหลิงหลานขึ้นขีดดำ เสี่ยวซื่อคนนี้คล้ายกับถูกของสิ่งนั้นทำให้ตื่นตกใจ ทั่วทั้งร่าง ล่องลอย จิตใจเคลิบเคลิ้มไปแล้ว

“มันเป็นไวรัสชนิดหนึ่ง อยู่ตรงนั้น ดูเหมือนพวกเขากำลังเพาะเลี้ยงมันอยู่ ไวรัสชนิดนี้โด่งดังมากๆ ในระบบดาวแมนโดราของพวกเรา ตอนนั้นแทบจะทำลายโลกเสมือนจริงที่ทรงพลังของเรา กำจัดตัวตนทางปัญญาอย่างพวกเราไปแล้ว ยังดีที่พวกเรามีออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักที่แข็งแกร่งมาก สุดท้ายมันเลยถูกพวกเราจัดการลงได้” ท่ามกลางความหยิ่งทระนงของเสี่ยวซื่อยังแฝงไปด้วยร่องรอยความหวาดหวั่น ราวกับหวาดกลัวไวรัสนั้นสุดขีด

หลิงหลานมองไปยังตำแหน่งที่เสี่ยวซื่อชี้ D2 กับ D3 เห็นสายตาของหลิงหลานมองไปทางไวรัส T ในใจพลันสะดุ้งขึ้นมา ร่างของพวกเขากระตุกอย่างไม่อาจควบคุมได้ แต่ว่ามันยังคงถูกพวกเขาฝืนข่มกลั้นเอาไว้ เนื่องจากพวกเขารู้ดีว่า ไม่อาจแสดงความใจร้อนมากเกินไป ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายจะสงสัยได้ ขออีกแค่สามนาทีกว่าๆ สถานการณ์ก็จะพลิกกลับ ความสำเร็จก็จะเป็นของพวกเขาแล้ว

หลิงหลานเดินเข้าไป แฮคเกอร์หนึ่งในนั้นพยายามขัดขวางไม่ให้เธอเข้ามาใกล้ ทว่ายังไม่ทันได้ขยับ เขาก็ถูกลั่วล่างที่ตามหลังหลิงหลานมาติดๆ ผลักออกไป

———————-