ตอนที่ 507 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่สี่ (7)
ฟ่านจิ่นเดินตามหลงฉีและคนอื่นๆ กลับมา แต่ทันทีที่มาถึง เขาก็เห็นอาจารย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัวและทหารของกองทัพรุ่ยหลินกำลังปะทะกัน กว่าจะผ่อนคลายอารมณ์ตึงเครียดลงได้ กลับต้องตึงเครียดจนถึงขีดสุดอีกครั้ง
“ท่านปู่ซวี่ ให้พวกเขาหยุดต่อสู้เร็วเข้าขอรับ! สู้กันไม่ได้! สู้กันไม่ได้ขอรับ!” ฟ่านจิ่นเกือบจะร้องไห้กับหนานกงซวี่
นี่มันเรื่องอะไรกัน!
“หยุด!” หนานกงซวี่เอ่ยฉับพลัน เหล่าอาจารย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัวหยุดทันที และหันกลับมามองเขาเป็นตาเดียว
หรงเหิงและศิษย์ของยอดเขาเทียมเมฆาอีกสองสามคนก็รีบปรี่เข้าไปรักษาอาการบาดเจ็บของทหารทุกคนอย่างไม่รอช้า
“ตกลงว่าเกิดอะไรขึ้น ฟ่านจิ่นคนที่อยู่ข้างๆ เจ้าพวกนั้นมาจากไหน เหตุใดถึงมาจับตัวคนของสำนักศึกษาเฟิงหัว! คิดว่าคนในสำนักศึกษาเฟิงหัวของเรารังแกง่ายอย่างนั้นหรือ ถ้าวันนี้ไม่ให้คำตอบที่ดีกับข้า ต่อให้เจ้าอยู่ด้วยข้าก็ไม่มีทางยุติเรื่องนี้ด้วยดี” หนานกงซวี่ขมวดคิ้ว เขาดูแลความปลอดภัยในงานล่าวิญญาณมาโดยตลอด แต่วันนี้เหล่าศิษย์สำนักเฟิงหัวกลับถูกกองกำลังอื่นลักพาตัวไปท่ามกลางงานล่าวิญญาณ ซึ่งเป็นเป็นการละเมิดศักดิ์ศรีของสำนักศึกษาเฟิงหัวอย่างไม่ต้องสงสัย
ฟ่านจิ่นกล่าวว่า “ไม่ใช่เช่นนี้ขอรับ ท่านปู่ซวี่ ท่านเข้าใจผิดแล้ว…”
“เข้าใจผิด? ความจริงเห็นอยู่ต่อหน้าต่อตาข้า ข้าตาบอดกระนั้นรึ” หนานกงซวี่คำรามในลำคออย่างเย็นชา
ใบหน้าอันแข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยวของหลงฉีซ่อนความขุ่นเคืองอยู่รางๆ เขาเหลือบมอง จวินอู๋เสียโดยไม่มีใครจับพิรุธได้ และเมื่อเห็นจวินอู๋เสียพยักหน้าเล็กน้อย เขาก็ไม่ระงับอารมณ์เดือดดาลที่ระอุในใจอีก
“ข้าคิดว่าท่านตาบอดจริงๆ ท่านเห็นแต่ศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวถูกคุมตัวอยู่ที่นี่ แต่ท่านรู้หรือไม่ว่าทำไมพวกเขาถึงถูกคุมตัวอยู่ที่นี่” หลงฉีกล่าวด้วยท่าทางเย้ยหยัน ความประทับใจที่มีต่อสำนักศึกษาเฟิงหัวลดน้อยลงจนเกือบถึงจุดต่ำสุด
“เพราะเหตุใด” หนานกงซวี่เอ่ยถาม
“ท่านให้พวกเขาพูดเองสิ!” หลงฉีกล่าว
หนานกงซวี่หันไปมองบรรดาลูกศิษย์ ลู่เว่ยเจี๋ยผู้ที่ห้ามปรามมาตั้งแต่ต้นตัวสั่นสะท้าน การจ้องมองของหนานกงซวี่ทำให้รู้สึกชาดิกไปทั่วทั้งร่าง ทุกคนต่างก็รู้ว่าถึงแม้หนานกงซวี่จะปกป้องคุ้มครองสำนักศึกษาเฟิงหัวอยู่ แต่นิสัยของเขาค่อนข้างตรงไปตรงมา พูดได้ทำได้ ปากกับใจตรงกัน และเข้มงวดเป็นธรรม หากมีศิษย์คนใดทำผิด แม้จะเป็นฟ่านจิ่นหรือหนิงซินก็จะถูกลงโทษเช่นกัน
“ลู่เว่ยเจี๋ย เจ้าพูด ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” หนานกงซวี่พูดเสียงเย็น “เจ้าพูดมาก็พอ ถ้ามีใครรังแกศิษย์ของสำนึกศึกษาเฟิงหัวเรา ต่อให้ต้องสู้จนตัวข้าตาย ข้าก็จะทวงความยุติธรรมให้พวกเจ้า”
เมื่อคิดว่าลู่เว่ยเจี๋ยหวาดกลัวหลงฉีจนไม่กล้าปริปาก หนานกงซวี่ยังให้กำลังใจเขา
หลังจากได้ยินคำพูดของหนานกงซวี่แล้ว ลู่เว่ยเจี๋ยก็ยิ่งตัวสั่นมากขึ้นไปอีก
“มะ… ไม่ใช่อย่างนั้นขอรับ…ท่านอาจารย์หนานกง…อันที่จริง…อันที่จริงเป็นพวกเรา… พวกเราเองกำลังวางแผน…คิดไม่ดีกับแม่ทัพเอกหลงพวกเขา ถึงได้ถูกพวกเขา…จับตัวเอาไว้…” น้ำเสียงอันสั่นเทาของลู่เว่ยเจี๋ยพูดติดๆ ขัดๆ ขาดเป็นห้วงๆ
คราวนี้ หนานกงซวี่ตกตะลึงพรึงเพริด ความเย่อหยิ่งที่มีตั้งแต่แรก พลันมลายหายไปในพริบตา
“จะ…เจ้าพูดว่าอะไรนะ”
“วางแผนคิดไม่ดีหรือ ฟังดูดีนี่!” หรงเหิงผู้ซึ่งรักษาบาดแผลของทหารกองทัพรุ่ยหลินพูดโพล่งออกมาอย่างทนไม่ได้ เอี้ยวหน้าไปบ้วนน้ำลายก่อนจะเอ่ยว่า “เจ้าบอกอาจารย์ของพวกเจ้าไปเลยว่า พวกเจ้าจงใจล่อสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติมา ต้องการจะฆ่าพวกเราให้ตาย! ถ้าพวกเราไม่บังเอิญหนีรอดออกมาได้ ป่านนี้คงกลายเป็นผีตายโหงอยู่เฝ้าป่าอย่างเดียวดายไปแล้ว! ไม่มีตรงไหนให้ร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม!”
“อะไรนะ!” หนานกงซวี่สะท้าน คำพูดของหรงเหิงเป็นดั่งก้อนหินที่กระแทกเข้ากลางหัวใจของเขา เขาหันขวับในบัดดล มองไปยังลู่เว่ยเจี๋ย กลับเห็นลู่เว่ยเจี๋ยก้มหน้าคอตกด้วยความรู้สึกผิดด้วยสีหน้าหวาดหวั่น
ตอนที่ 508 ตบหน้าอย่างต่อเนื่องครั้งที่สี่ (8)
อากัปกิริยาที่ลู่เว่ยเจี๋ยแสดงออกมา ได้ยืนยันทุกอย่างแล้ว และไม่ต้องการคำอธิบายใดอีก
“สำนักศึกษาเฟิงหัวเป็นที่เลื่องชื่อในนามของสามสำนักศึกษาชั้นยอด แต่กลับแสดงพฤติกรรมต่ำช้า! ศิษย์วางแผนชั่วช้าช่วงชิงทรัพย์สินทำร้ายชีวิตคน อาจารย์ถือว่าตนมีกำลังมากรังแกผู้อื่น ช่างเวทนาสมญานามนี้จริงๆ น่ารังเกียจนัก!” หรงเหิงไม่เห็นสำนักศึกษาเฟิงหัวอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย ถึงอย่างไรก็มาจากสำนักชิงอวิ๋น ที่ซึ่งเป็นสำนักใหญ่อันดับหนึ่งของแผ่นดิน ก่อนที่สำนักชิงอวิ๋นจะถูกทำลาย ถึงอาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาเฟิงหัวจะไปเยี่ยมเยี่ยนเป็นการส่วนตัวก็ตาม พวกเขาก็ไม่แยแส…
แล้วนับประสาอะไรกับหนานกงซวี่
ผู้แข็งแกร่งพลังวิญญาณระดับสีครามแล้วอย่างไร
ขุนนางต่างรัฐที่มาทำงานให้กับสำนักชิงอวิ๋นพวกเขามีผู้ใช้พลังวิญญาณระดับสีครามเต็มไปหมด!
แม้ว่าสำนักชิงอวิ๋นจะไม่มีอยู่แล้ว แต่ท่านอาจารย์มู่เฉินของพวกเขาคือผู้อาวุโสที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวของสำนักชิงอวิ๋น เพียงคำพูดคำเดียวจากมู่เฉิน ผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนล้วนเต็มใจเสียสละชีวิตเพื่อเขา
ทหารของกองทัพรุ่ยหลินได้รับบาดเจ็บสาหัสเพราะปกป้องพวกเขา หรงเหิงก็โกรธมากพอแล้ว เวลานี้ยิ่งได้เห็นอาจารย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัวหยาบคายไร้เหตุผลเช่นนี้ ความเกรี้ยวกราดยิ่งเพิ่มทวีคูณจนถึงที่สุด!
หนานกงซวี่หน้าแดง ถูกคนต่อว่าสำนักศึกษาต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ เขาเริ่มโกรธขึ้นบ้างแล้ว
“เจ้าเป็นใคร มาประณามเหยียดหยามสำนักศึกษาเฟิงหัวเราได้อย่างไร!”
หรงเหิงหัวเราะเยาะ พูดว่า “ข้าคือหรงเหิง ลูกศิษย์ของผู้อาวุโสมู่เฉินแห่งยอดเขาเทียมเมฆา!”
ความโกรธบนใบหน้าของหนานกงซวี่หายวับไปกับตาและถูกแทนที่กลายเป็นความตกใจ!
ยอดเขาเทียมเมฆา!
ไม่นานมานี้ ยอดเขาเทียมเมฆาอาจไม่โด่งดัง แต่หลังจากที่สำนักชิงอวิ๋นถูกล้มล้างไป ยอดเขาเทียมเมฆากับมู่เฉินก็เลื่องชื่อระบือนามดังก้องไปทั่วทั้งแผ่นดินด้วยกัน! ผู้อาวุโสเพียงหนึ่งเดียวที่ดำรงอยู่ของสำนักชิงอวิ๋น และลูกศิษย์เพียงกลุ่มเดียวที่ยังคงหลงเหลืออยู่!
ตอนนี้หลังจากที่สำนักชิงอวิ๋นหายไป มู่เฉินก็กลายเป็นตัวแทนของสำนักชิงอวิ๋นทั้งสำนัก!
ความหมายของคำคำนี้ ได้เกินจินตนาการของใครหลายคนไปไกล!
หนานกงซวี่ไม่เคยคิดฝันว่า ลู่เว่ยเจี๋ยและพรรคพวกจะไปข้องเกี่ยวกับยอดเขาเทียมเมฆา
อย่าว่าแต่หนานกงซวี่ที่คิดไม่ถึง แม้แต่ลู่เว่ยเจี๋ยเองก็ไม่เคยนึกมาก่อน…
เดิมทีเขาคิดว่าในบรรดากลุ่มคนเหล่านี้ ผู้ที่สำคัญที่สุดคือพวกหลงฉี แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นพวกหรงเหิงที่ไม่เคยอยู่ในสายตา..
ยอดเขาเทียมเมฆา!
หลังจากที่สำนักชิงอวิ๋นหายไป มู่เฉินและลูกศิษย์ของเขาได้ขึ้นแทนที่…
ตอนนี้ลู่เว่ยเจี๋ยอยากจะตายจริงๆ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าพวกเขาได้หาเรื่องกลุ่มคนที่ไม่น่าไปหาเรื่องมากที่สุด!
ด้วยตำแหน่งฐานะในปัจจุบันของมู่เฉิน ตราบเท่าที่เขาเปิดปาก ผู้แข็งแกร่งมากมายก็พร้อมจะยอมมอบกายถวายชีวิตให้กับเขา! คิดทำร้ายลูกศิษย์ของเขา อย่าว่าแต่ลู่เว่ยเจี๋ยเลย แม้แต่อาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาเฟิงหัวก็ไม่สามารถขัดขืนพลังของมู่เฉินได้!
ลู่เว่ยเจี๋ยตัวสั่นมากขึ้นไปอีก
ใบหน้าของหนานกงซวี่ปรากฏเป็นสีเขียวคล้ำ
“ข้า แม่ทัพเอกหลงฉีแห่งกองทัพรุ่ยหลินและคนอื่นๆ มาที่นี่ ได้พบกับเหล่าศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวของพวกท่าน พวกเขาบอกว่าพวกเขามีแผนที่ของป่าประลองวิญญาณ ดังนั้นจึงทำข้อตกลงพาพวกเรามาที่นี่ แต่คิดไม่ถึงว่าพวกเขามีความคิดที่จะฆ่าคนชิงทรัพย์ คิดจะฆ่าพวกเราที่นี่ และช่วงชิงทรัพย์สินของพวกเราไป!” หรงเหิงพูดอย่างเย็นชา
คราวนี้สติสตังของหนานกงซวี่แทบจะหลุดออกจากร่าง
กองทัพรุ่ยหลิน!
นั่นคือกองทัพที่รบได้ดุดันมากที่สุดในแผ่นดิน!
ก่อนหน้านี้ยังไม่เชื่อในสิ่งที่หรงเหิงพูดอย่างสนิทใจ แต่หลังจากได้ยินคำว่ากองทัพรุ่ยหลินแล้ว หนานกงซวี่ก็เชื่อโดยปราศจากข้อโต้แย้ง กองทัพรุ่ยหลินมีชื่อเสียงที่ไม่ใช่แค่ด้านความสามารถในการต่อสู้เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังได้รับการขนานนามว่าเป็นหน่วยรบเหล็กโลหิต มีวินัยเคร่งครัด ซื่อตรงไม่ย่อท้อ เป็นกองทัพที่ทุกคนเคารพเลื่อมใส กองทัพเช่นนี้ ไม่มีวันคุยโวโอ้อวดอย่างแน่นอน!
หนานกงซวี่จะเป็นบ้าอยู่แล้ว ลู่เว่ยเจี๋ยพวกเขากินดีหมีหัวใจเสือหรืออย่างไร ถึงได้กล้าประทุษร้ายคนกลุ่มนี้ ทั้งศิษย์ของยอดเขาเทียมเมฆา ทั้งแม่ทัพเอกแห่งกองทัพรุ่ยหลิน…
พวกเขากำลังรนหาที่ตายอยู่อย่างนั้นหรือ!