“พวกมันมีสมบัติที่ทรงพลังมาก”
ออสตินพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ในขณะที่สายตาของเขากวาดมองไปยังบริเวณรอบๆ ผู้คนที่ล้อมรอบตัวเองอยู่ ขณะที่มาร์ลีนยืนอยู่ข้างเขาด้วยดวงตาที่ลุกโชนด้วยความเกลียดชังจนส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวเธอ
“นี่มันทำให้ง่ายต่อการซุ่มโจมตีจริงๆ”
คนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำซึ่งเป็นมนุษย์สัตว์แมวระดับต้นกำเนิดขั้น 5 พูดขึ้นมา ในขณะที่มือของเขาจับเชือกที่มัดแคทเธอรีนไว้อยู่ เธอหมดสติขณะที่ลอยอยู่โดยมีอาการบาดเจ็บรอบตัวที่ดูรุนแรง
“นี่ทำให้ฉันเริ่มสงสัยแล้วสิว่าองค์กรไหนกันนะที่มีอำนาจมากพอที่จะเป็นเจ้าของเครื่องมือโบราณที่สูญหายไปอย่างน้อย 2 ชิ้นนี้”
ออสตินพูดขึ้นมาพร้อมกับสีหน้าที่เริ่มผ่อนคลาย มือของเขาส่งสัญญาณมือที่ซ่อนอยู่ให้มาร์ลีนเพื่อป้องกันไม่ให้เธอลงมือทำอะไรอย่างกะทันหัน
“เธอรู้ไหมว่าพอเห็นคนอยากฆ่าเธอเยอะขนาดนี้แล้วก็ทำเอาฉันเริ่มไม่กล้าไปเยี่ยมทะเลแล้วสิ”
ออสตินพูดด้วยรอยยิ้มอันขมขื่นกับมาร์ลีนที่จู่ๆ ก็ตกใจกับท่าทางผ่อนคลายของออสตินขณะที่เขามองเธอโดยไม่สนใจกองทัพที่มารวมตัวกันเพื่อฆ่าพวกเขาโดยสิ้นเชิง
“ไอ้สารเลวที่กำลังมองหน้าฉันอยู่นี่ไม่ใช่คนในกลุ่มของฉันและเมื่อเรื่องนี้จบลง ทุกคนที่พวกมันรักจะต้องรับผลที่ตามมาจากการกระทำของพวกมัน”
มาร์ลีนพูดด้วยเจตนาฆ่า คำพูดของเธอทำให้ชาวทะเลรอบๆ สะดุ้ง บางคนถึงกับตัวสั่นด้วยความกลัวเมื่อเริ่มจำได้ว่าพวกตัวเองกำลังต่อกรกับใครอยู่ พลังของมาร์ลีนอาจถูกระงับไว้อยู่ แต่ข่าวลือต่างๆ ของเธอยังคงทำให้เกิดความกลัวโดยไม่รู้ตัวถึงชาวทะเลทั้งหลายได้อยู่
“แกดูผ่อนคลายจังนะ ไม่กลัวความตายหรือไง?”
มนุษย์สัตว์แมวพูดพร้อมกับหรี่ตาลง ซึ่งออสตินก็ยักไหล่
“นายคงรู้จักตระกูลของฉันใช่ไหม?”
ออสตินถามขึ้นมา
เมื่อเอ่ยถึงตระกูลของเขาขึ้นมาก็ทำให้เกิดความหวาดกลัวต่อคนบนผืนดิน ทันใดนั้นทุกคนก็จำความบ้าคลั่งของตระกูลที่ยืนอยู่ข้างหลังออสตินได้
เมื่อเห็นความกลัวในตัวพวกเขา ออสตินก็ยิ้มเยาะขณะที่เขากวักมือ
“ถึงแม้การขัดขืนอาจทำให้ฉันตาย แต่ฉันจะตายโดยรู้ว่าทุกคนที่ยืนอยู่ที่นี่จะตามฉันไปสู่นรกในไม่ช้า”
คำพูดของออสตินทำให้แม้แต่ผู้นำของพวกมันยังเงียบ เหมือนมีมือขนาดใหญ่ขยับไปพันรอบคอของทุกคน ออสตินยิ้มแย้มขณะที่เขาจ้องมองทุกคนที่ยืนอยู่
“ไม่สำคัญว่าพวกนายจะซ่อนมันได้ดีแค่ไหนหรือซ่อนไว้ไกลแค่ไหน แต่ว่าทุกๆ คนที่พวกนายรัก ทุกคนที่โชคร้ายที่ได้รู้จักพวกนาย พวกเขาทุกคนจะถูกสังหาร บางทีตระกูลของฉันไม่ต้องแม้แต่เคลื่อไหวด้วยซ้ำ พวกนายรู้ไหมว่า..…อาจารย์ของฉันโคตรโหดเลย”
เมื่อเขาพูดจบเท่านั้นแหละก็ทำให้ทุกอย่างที่ตามมากระจ่างขึ้น ออสตินได้รับการสนับสนุนจากอีกบุคคลหนึ่ง คนผู้ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ ผู้สืบทอดของจักรพรรดินีธนูและสิ่งนี้ก็นำมาซึ่งเรื่องราวทั้งหมดที่แพร่กระจายออกไป เอเลนอร์ในช่วงเวลาแห่งการผจญภัยของเธอเป็นพลังที่ต้องคำนึงถึง เธอไร้ปราณี, เธอโหดเหี้ยมและเธอเผด็จการ
“อึ๊กกก……”
กลิ่นความกลัวอันกว้างใหญ่เข้าครอบงำไปทั่วพื้นที่ แรงผลักดันที่เหล่าศัตรูแบกอยู่ถูกทำลาย ชาวทะเลต่างกลัวมาร์ลีน ในขณะที่ชาวแผ่นดินกลัวออสติน เมื่อเห็นทั้งหมดนี้รอยยิ้มของออสตินก็มีแต่กว้างขึ้นเท่านั้น
‘การมีผู้สนับสนุนเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ชักสงสัยแล้วสิว่าโลกจะเป็นอย่างไรเมื่อสถานะของเราในวิหารทั้ง 2 แห่งถูกเปิดเผยออกมา?’
ออสตินแน่ใจว่าหลังจากนั้นคงไม่มีใครในโลกนี้ที่กล้าที่จะทำร้ายเขา แม้แต่ผู้คนที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งก็ยังต้องตัวสั่นและยอมถอยกลับไป
“เราจะปล่อยนายไปก็ได้”
ทันใดนั้นผู้นำก็พูดขึ้นมา ทำให้ลูกน้องที่มารวมตัวกันต่างประหลาดใจและกำลังจะคัดค้านคำพูดของเขา แต่ผู้นำคนนั้นกลับยกมือขึ้นห้ามไว้ซะก่อน
“แน่นอนว่าเราจะปล่อยนายไปคนเดียวเท่านั้น และนายจะต้องลงนามในสัญญามรณะเพื่อเก็บสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ไว้เป็นความลับด้วย”
“ได้”
ทันใดนั้นออสตินก็ตอบกลับไป
“นี่นาย!? นายกำลังจะทรยศฉันงั้นเหรอ!”
เสียงคำรามของมาร์ลีนดังขึ้นทันทีพร้อมกับหอกของเธอที่พุ่งออกมาเพื่อหวังที่จะฆ่าออสติน แต่เขาก็ถอยออกไปก่อนจะมองเธอด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ยทปรากฏบนใบหน้า
“ขออภัยด้วยเจ้าหญิง ฉันเคยช่วยชีวิตเธอไว้ก่อนหน้านี้เพราะมันเป็นสถานการณ์ที่สามารถรอดได้ แต่เมื่อมันมาถึงชีวิตของฉัน การเสี่ยงเพื่อเธอนั้นไม่…ไม่”
“ไอ้สารเลวไม่ใช่ว่านายเป็นเพื่อนฉันงั้นเหรอ?!”
มาร์ลีนกรีดร้องด้วยสีหน้าแสดงความเกลียดชังในขณะที่ดวงตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง แต่รอยยิ้มเยาะเย้ยยังคงอยู่บนใบหน้าของออสตินในขณะที่เขารีบปรากฏตัวข้างๆ ผู้นำที่ยิ้มแย้มซึ่งกำลังเพลิดเพลินกับสถานการณ์ปัจจุบัน
“ยินดีต้อน”
มนุษย์สัตว์แมวพูดขณะจ้องมองออสตินซึ่งตอนนี้ยืนอยู่ข้างตัวเอง ในขณะที่มาร์ลีนกำลังบ้าคลั่งเนื่องจากการทรยศอย่างกะทันหันของออสติน ออร่าของเธอสั่นคลอน ขณะที่เหล่าศัตรูตั้งท่าต่อสู้พร้อมกับค่อยๆ ขยับเข้าไปล้อมรอบเธอ
“ดีจริงๆ ที่ได้มาอยู่ตรงนี้”
ออสตินพูดด้วยรอยยิ้ม
ฉึ๊กกก!
แต่แล้วเสียงของร่างกายที่ถูกเจาะทะลุก็ดังขึ้นพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมา
สถานการณ์ทั้งหมดหยุดชะงักลงเมื่อทุกคนหันไปหาออสตินซึ่งตอนนี้กำลังแทงดาบทะลุหัวใจของผู้นำอยู่ สีหน้าของเขาแข็งทื่อในขณะที่เลือดหยดออกมาจากริมฝีปาก ดวงตาของเขามองไปยังดาบที่ทะลุผ่านหัวใจของตัวเองพร้อมกับอาวุธที่เขาซ่อนไว้เพื่อฆ่าออสตินที่ล่วงลงจากมือของเขา
“แสดงได้ดี…”
เขาพูดก่อนจะล้มลงกับพื้น ร่างกายของเขาพังทลายลงในขณะที่เลือดของเขาย้อมพื้นจนเป็นสีแดง
“ไรลีย์!!”
เสียงกรีดร้องแหบแห้งจากหญิงสาวคนหนึ่งในหมู่ศัตรูดังขึ้นขณะที่เธอรีบวิ่งมาหาไรลีย์ที่นอนอยู่บนพื้น ตามความเป็นจริงแล้ว ออสตินไม่สามารถบอกเรื่องเพศได้มากนัก เนื่องจากทุกคนที่โจมตีพวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยเสื้อคลุมสีดำ
วิธีเดียวที่เขาสามารถระบุได้ว่าคนเหล่านี้เป็นมนุษย์สัตว์ก็เนื่องมาจากรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกมันที่ไม่ได้ถูกซ่อนไว้
“น่าเสียดายที่เขาต้องมาตายตั้งแต่อายุยังน้อย”
ออสตินพูดขณะที่เขาปรากฏตัวข้างมาร์ลีนอีกครั้งโดยมีแคทเธอรีนยังคงสลบอยู่บนไหล่ของเขา
“แสดงได้ดีหนิ”
ออสตินพูดในขณะที่เขาจ้องมองไปที่ศัตรูที่กำลังฉายรังสีเจตนาฆ่าของพวกเขาออกมา การทรยศอย่างกะทันหันทำให้พวกเขาเกิดความโกรธที่ก่อตัวขึ้น
“ขอบคุณ นายเองก็ไม่ได้แย่ไปกว่าครึ่งเลย”
มาร์ลีนพูดด้วยรอยยิ้มเพลิดเพลินกับเสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างศพของไรลีย์
“ดูเหมือนพวกเขาจะเป็นคู่รักกันนะ”
ออสตินพูดขณะมองดูฉากเรียกน้ำตา ซึ่งมาร์ลีนก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงมีความสุข
“ดี พวกมันสมควรได้รับแล้ว ฉันคงจะสนุกกับการฆ่านังนั่นแน่ๆ”
“น่าเสียดายนะ แต่ฉันคงปล่อยให้เธอทำแบบนั้นไม่ได้ในตอนนี้”
ออสตินพูดขณะที่เขาหยิบเครื่องมือบางอย่างออกมาจากแหวนมิติ รูปลักษณ์ของมันทำให้ทุกคนชะงักก่อนที่หนึ่งในพวกมันจะตะโกนออกมา
“หยุดเจ้านั่นไว้!”
แต่มันก็สายเกินไปแล้วเมื่อออสตินส่งมานาเข้าไปที่อุปกรณ์นั้นก่อนจะมีการระเบิดออกมา สร้างความกดดันที่ทำให้ทุกคนที่ล้อมรอบออสตินต้องนิ่งงัน
ร่างกายของพวกมันสั่นเทาแต่ความสิ้นหวังของพวกเขาก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อมีภาพล่วงตาของผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏขึ้นเหนือออสติน รูปร่างของมันเหมือนกับผู้หญิงที่พร่ามัวที่กำลังถือธนูอยู่
“บ๊าย…บาย”
ออสตินพูดก่อนจะโบกมือ ทำให้ลูกธนูเพียงลูกเดียวออกมาจากร่างของเงานั่น และภายในไม่กี่วินาทีทุกคนที่ล้อมรอบเขาอยู่ก็ถูกระเบิดหัวออกมา
“ธนูดอกเดียวฆ่าร้อยก็ไม่เลว”
ออสตินพูดขณะที่เขามองดูฉากน่ากลัวที่ทำให้ใครหลายๆ คนต้องอาเจียนออกมา
“ทำไมนายถึงใช้สมบัติแบบนี้กันหล่ะ? ด้วยความแข็งแกร่งของนาย นายน่าจะสามารถจัดการมันทั้งหมดได้ไม่ใช่เหรอ?”
มาร์ลีนถามขณะที่เธอมองไปที่ออสตินซึ่งส่ายหัวตอบกลับมา
“ก็อาจจะเป็นแบบนั้น แต่เธอลืมไปแล้วเหรอ? ว่าตำแหน่งของเธอกำลังถูกติดตามอยู่”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา มาร์ลีนก็หน้าซีด แต่ก่อนที่เธอจะทันได้โต้ตอบ ร่างกายของเธอก็ถูกยกขึ้นไปอยู่บนไหล่อีกข้างของออสติน
“นี่นาย! ปล่อยฉันลงนะ!”
มาร์ลีนโบกมือไปมาขณะที่เธอตะโกน หอกของเธอถูกถอดออกไปแล้ว
“ฉันทำแบบนั้นไม่ได้หรอก…เกาะแน่นๆ หล่ะ!”
ออสตินตะโกนก่อนจะพุ่งออกไปโดยที่ไหล่แต่ละข้างของเขามีอนาคตผู้ปกครองท้องทะเลห้อยอยู่ หากภาพเช่นนี้เกิดขึ้นในทะเล เขาคงถูกตามล่าอย่างแน่นอน
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต