“ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ!”
มาร์ลีนกรีดร้องด้วยความเดือดดาลขณะถูกแบกอยู่บนไหล่ของออสตินอย่างช่วยไม่ได้ ผ่านไปประมาณ 5 นาทีแล้วนับตั้งแต่ที่พวกเขา ‘หลบหนี’ ออกมา ออสตินคอยรักษาความเร็วของเขาอยู่ตลอดในขณะที่เขามุ่งไปข้างหน้า ความเร็วของเขาไม่ลดลงเลย
“อย่างน้อยก็บอกฉันหน่อยสิว่าเรากำลังจะไปไหน?”
ในที่สุดมาร์ลีนก็เลิกต่อต้านและล้มตัวลงนอนอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะถามขึ้นมา
ในที่สุดออสตินก็พูดขึ้นมา
“ฉันกำลังพยายามมองหาดินแดนมรดกหรือเมืองที่สาบสูญอยู่”
คำพูดของเขาทำให้มาร์ลีนคิดก่อนจะตอบกลับไป
“นายกำลังพยายามหาทางแย่งอุปกรณ์ที่ผนึกฉันอยู่เหรอ?”
“ใช่ ถ้าเราอยู่ในดินแดนมรดกหรือเมืองที่สาบสูญ เราจะสามารถซ่อนและเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้นมาก เธอเองก็น่าจะรู้เรื่องนี้หนิ ใครก็ตามที่กำลังหมายหัวเธออยู่นั้นมีจำนวนมากกว่าเรา และพวกมันทั้งหมดสามารถติดตามเธอได้”
คำพูดของออสตินทำให้มาร์ลีนเงียบลงพร้อมกับกัดริมฝีปากด้วยความโกรธที่แผดเผาอยู่ภายในตัว ก่อนที่เธอจะหันไปมองยังไหล่อีกข้างของออสตินที่แบกแคทเธอรีนที่กำลังสลบอยู่
“อย่างน้อยก็พักสักหน่อยเถอะ เราต้องดูว่าแคทเธอรีนสบายดีไหม”
มาร์ลีนกล่าวซึ่งออสตินก็โต้กลับ
“ไม่จำเป็นหรอก บาดแผลส่วนใหญ่ของเธอได้รับการจัดการแล้ว ไม่ว่าใครก็ตามที่หมายหัวพวกเธออยู่นั้นพวกมันต้องการให้แคทเธอรีนมีชีวิตอยู่และไม่ใช่ปางตาย”
คำพูดของออสตินทำให้มาร์ลีนถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่ในหัวใจของเธอรู้สึกเบาลงเล็กน้อย
เมื่อพูดจบออสตินก็เคลื่อนไหวต่อไป เพียง 5 นาทีต่อมาเขาก็บังเอิญสะดุดเข้ากับบางอย่าง
“นายหยุดทำไมเนี่ย?”
มาร์ลีนถาม เนื่องจากเธอถูกอุ้มอยู่ที่ไหล่ของเขาจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างหน้า
“ดูเหมือนว่าเราจะพบตาข่ายนิรภัยของเราแล้ว”
นั่นคือทั้งหมดที่ออสตินพูดก่อนจะกระโจนออกไปสู่หน้าผา! เขาไม่แม้แต่ปล่อยให้มาร์ลีนประมวลผลสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนจะกระโดดลงจากหน้าผาสู่ช่องแคบที่เหมือนเหว แต่กลับขัดกับความเชื่อเรื่องความตายแทนที่จะตกลงไปทั้ง 3 คนกลับหายตัวไปในทันที!
ความรู้สึกอึดอัดที่ทำให้หายใจไม่ออกเกิดขึ้นกับมาร์ลีน ขณะที่เธอรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองถูกกระแทกด้วยน้ำหนักบางอย่าง แต่นั่นก็อยู่ได้ไม่นานเมื่อประสาทสัมผัสของเธอกลับมาอีกครั้ง
‘กะ…..เกิดอะไรขึ้น?’
เธอรู้สึกถึงร่างกายที่อ่อนนุ่มที่อยู่ข้างใต้ตัวเองขณะที่ดวงตาของเธอสั่นก่อนจะเปิดขึ้น ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาในจิตใจของมาร์ลีน ขณะที่เธอวางมือลงไปยังพื้นนุ่มด้านล่างเพื่อพยายามลุกขึ้น
“อุ๊ฟฟ…มันเจ็บนะรู้ไหม?”
ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงของออสตินที่ดังขึ้นมา ทำให้เธอกลับมามีสติอีกครั้งและบังคับให้เธอก้มหน้าลงไปมองยังที่มาของเสียงก่อนจะพบเข้ากับออสตินที่กำลังยิ้มขณะมองเธอ เขามีท่าทางซุกซนขณะพูด
“เธอก็รู้ว่าฉันไม่รังเกียจที่จะทำมัน แต่เธอจะว่ายังไงถ้าเอาไว้เราค่อยมาทำกันทีหลังหล่ะ?”
คำถามของเขาทำให้มาร์ลีนสับสนเล็กน้อย หลังจากนั้นเธอก็เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของตัวเอง
ตอนนี้เธอกำลังนั่งทับอยู่เหนือออสตินขณะใช้มือยันตัวเองขึ้นมาและเธอก็อยู่ในตำแหน่งที่น่ารังเกียจอย่างยิ่ง
ในขณะเดียวกันออสตินที่นอนอยู่ใต้มาร์ลีนนั้นรู้สึกได้ถึงก้นอันใหญ่โตแต่แน่นอยู่เหนือไม้เท้าของเขา
‘คุ้มค่าแล้วที่เปลี่ยนตำแหน่ง’
ในขณะที่จิตใจของเขามีความคิดที่สกปรก ใบหน้าของเขากลับยังคงปราศจากสิ่งใดๆ ในขณะที่เขายังคงมองมาร์ลีน ซึ่งแม้เธอจะมีผิวที่หนาก็ยังคงสามารถเห็นขอบหูของเธอที่แดงได้ แต่เธอก็ไม่ถอยกลับและมองลงมาที่ออสตินด้วยรอยยิ้ม
“แหมๆ นายเริ่มมีอารมณ์แล้วเหรอ?”
มาร์ลีนพูดด้วยน้ำเสียงเร่าร้อนหรืออย่างน้อยที่สุดเธอก็พยายามทำให้เห็นเป็นอย่างนั้น แต่สุดท้ายกลับไม่เป็นผลดีนักเมื่อเธอพยายามขยับร่างกาย
เธอประเมินต่ำไปว่าร่างกายของตัวเองอ่อนแอลงแค่ไหนหลังจากที่ตัวเองถูกผนึก จึงทำให้ร่างของเธอถอยกลับเข้าไปที่เป้าของออสตินจนทำให้ก้นของเธอถูกับบางสิ่งบางอย่างพอดี
การกระตุ้นอย่างกะทันหันทำให้รอยยิ้มของออสตินแข็งทื่อ เขาพยายามลุกขึ้นและขยับตัว แต่มาร์ลีนก็ไม่เต็มใจที่จะถูกปฏิบัติอย่างคนอ่อนแอขนาดนั้น
“ไม่ต้อง ฉันลุกเองได้”
เธอพูดขณะพยายามขยับขาที่อ่อนล้าของตัวเอง ซึ่งมีแต่จะทำให้ก้นของเธอถูกับส่วนล่างของออสตินแรงขึ้นเท่านั้น
ออสตินพยายามพูดบางอย่างขึ้นมา
“ไม่ อย่-”
แต่มันสายเกินไปแล้วที่จู่ๆ ทั้งสองก็ตัวแข็งทื่อ มาร์ลีนที่พยายามขยับตัวอย่างแข็งกร้าวต้องหยุดลงพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้างเมื่อรู้สึกถึงบางอย่างแข็งๆ ที่ติดอยู่ตรงก้นของตัวเอง
เนื่องจากความแนบชิดของพวกเขาและเพราะเหตุใดก็ไม่รู้ที่ทำให้ชุดของทั้งคู่อยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้อาวุธของออสตินตั้งตรงขึ้นเพื่อย่องเข้าไปหาก้นของมาร์ลีนที่เข้าประกบอาวุธของเขาแน่นอยู่ระหว่างแก้มก้นของเธออย่างง่ายดาย
เวลาดูเหมือนจะหยุดลงสำหรับพวกเขาทั้งสอง ขณะที่ทั้งมาร์ลีนและออสตินต่างมองหน้ากัน คนหนึ่งไม่เชื่อในความรู้สึกและความร้อนที่เธอมี ในขณะที่อีกคนหนึ่งดูเขินอาย ออสตินทำได้เพียงเกาหัวด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยวก่อนจะพูดขึ้นมา
“เธอมาโทษฉันไม่ได้หรอกนะ มันเป็นเพราะเธอที่ใช้ร่างกายเซ็กซี่นั่นมาถูกับฉันเองนะ”
เขาปกป้องตัวเอง แต่สิ่งนี้ทำให้มาร์ลีนหลุดจากความงุนงง
“นะ-นะ-นาย”
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงสิ่งที่หลุดออกมาจากปากเธอและเมื่อเห็นโอกาสออสตินก็ขยับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อขยับมาร์ลีนออกไปจากบนตัวเขา โดยวางเธอลงบนพื้นในขณะที่เขานั่งห่างออกไป
ในไม่ช้าบรรยากาศที่น่าอึดอัดใจก็เกิดขึ้นระหว่างทั้ง 2 คนขณะที่พวกเขาต่างจ้องมองกันและกัน
โชคดีที่บรรยากาศนี้อยู่ได้ไม่นานเพราะการไอบางอย่างทำให้ทั้งคู่เรียกสติกลับมา
“แค่ก…แค่ก…ที่นี่คือที่ไหนกัน?…”
เสียงอันแผ่วเบาของแคทเธอรีนทำให้ทั้ง 2 คนส่ายหัวอย่างรวดเร็ว
มาร์ลีนตอนนี้นั้นอ่อนแรงจนไม่สามารถขยับตัวได้ ส่วนออสตินนั้นรีบเข้าไปหาแคทเธอรีนที่กำลังนอนอยู่ใกล้พวกเขาอย่างรวดเร็วก่อนจะใช้มือพยุงเธอที่หลังและค่อยๆ ยกเธอขึ้น
แคทเธอรีนที่ยังคงอยู่ในสภาวะอันตรายลืมตาขึ้น ดวงตาสีฟ้าเข้มที่สวยงามของเธอเปิดขึ้น ในขณะที่ผมสีน้ำตาลแดงของเธอสกปรก
หูที่เหมือนเหงือกของเธอซึ่งซ่อนเร้นอยู่สว่างขึ้น ในขณะที่เธอมองดูคนที่พยุงตัวเองด้วยความสับสน
“ออสติน?”
เธอถามด้วยเสียงแหบแห้ง ซึ่งออสตินก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
“ใช่…นี่ฉันเอง เธอเป็นยังไงบ้าง?”
คำพูดของเขาทำให้แคทเธอรีนขมวดคิ้วและดูสับสน ก่อนที่เธอจะเบิกตากว้าง
“ฉัน…..คือ…..ใช่!…ฉันถูกโจมตี!”
คำพูดของเธอแพร่กระจายออกมา ทำให้ดวงตาของเธอหรี่ลงด้วยความสงสัยขณะที่เธอมองไปที่ออสติน
“ไม่ต้องกังวล เขาเป็นคนที่ช่วยพวกเราเอาไว้”
ทันใดนั้นก็เสียงของมาร์ลีนก็ดังขึ้น ทำให้แคทเธอรีนเอียงศีรษะมาหาเธอก่อนจะดวงตาเบิกกว้างอีกครั้ง
“มาร์ลีน?!”
“ใช่แล้ว หนึ่งเดียวคนนี้นี่แหละ”
มาร์ลีนตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
แคทเธอรีนที่เห็นแบบนั้นก็พยายามจะขยับ แต่เธอเองก็เหมือนมาร์ลีนที่ตอนนี้อ่อนแอและได้รับบาดเจ็บ
“อย่าเคลื่อนไหวมากเกินไปสิ ตอนนี้ร่างกายของเธอยังไม่ได้อยู่ในสภาพดีที่สุดนะ”
ออสตินตอบในขณะที่เขาประคองร่างของแคทเธอรีน
ศีรษะของเธอหันกลับมาหาออสตินอีกครั้ง ความระวังของเธอก่อนหน้านี้หายไปแล้วขณะที่เธอมองเขาด้วยสายตาขอบคุณ
“ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ขอบคุณนะ”
“ไม่เป็นไร ตอนนี้เธอรีบไปดื่มนี่เถอะ”
ออสตินพูดพร้อมกับหยิบขวดน้ำออกมา
เขาค่อยๆ ประคองร่างของเธอขึ้นก่อนจะวางขวดไว้ที่ปากของเธอ
เนื่องจากเธอได้รับบาดเจ็บ แคทเธอรีนจึงไม่สามารถขยับมือของตัวเองได้ ทำให้เธอต้องจิบน้ำโดยได้รับความช่วยเหลือจากออสติน
“ฮ่าาาาาา…ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะมีสักวันที่ตัวเองต้องการใครสักคนช่วยเพื่อจะดื่มน้ำ”
แคทเธอรีนพูดออกมาหลังจากดื่มน้ำจนพอแล้ว
เมื่อเห็นแบบนั้นออสตินก็ขยับไปหามาร์ลีนและพยายามจับร่างกายของเธอในลักษณะเดียวกัน แต่มาร์ลีนกลับปฏิเสธและดื่มน้ำจากขวดด้วยความยากลำบากแทน
‘มันคงเป็นการต่อสู้ที่ยาวนาน’
ออสตินคิดในขณะที่เขาจ้องมองไปที่สาวสวย 2 คนที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าของเขาในขณะที่นึกถึงแผนการในอนาคต
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต