บทที่ 294 เว่ยฉิงหึง

เว่ยชิงหันศีรษะของเขาและเห็นซุนฮ่วย ใบหน้าของเขาเย็นชาทันที

ซุนฮ่วยทำท่าประจบสอพลอ แล้วยังมีเด็กสาวคนหนึ่งอยู่ข้าง ๆ เขา นางมองเว่ยฉิงอย่างเขินอาย

“เหตุใดท่านถึงได้มาดื่มอยู่แต่ผู้เดียวเล่า อนุญาตให้ข้ากับลูกสาวดื่มเป็นเพื่อนได้หรือไม่?”

ก่อนที่เว่ยฉิงจะเอ่ยปาก ซุนฮ่วยก็ทรุดกายลงนั่งตรงข้าม เขาขยิบตาให้ลูกสาวไปนั่งข้าง ๆ เว่ยฉิง เด็กสาวมองเว่ยฉิงด้วยหัวใจเต้นระรัว ใครเล่าจะไม่ชื่นชอบชายรูปงามกัน?

ในขณะที่นางจะหย่อนกายลงนั่ง เว่ยฉิงกลับยื่นมือมาดึงเก้าอี้ที่อยู่ข้างเขาออกไป เห็นได้ว่าไม่ยอมให้นางนั่งข้างเขา นางชะงักมองเว่ยฉิงอย่างเศร้าสร้อย หญิงสาวที่อ่อนหวานมีเสน่ห์ย่อมเป็นที่ชื่นชอบแก่ชายหนุ่มทั่วไป ยกเว้นเว่ยฉิง เขาไม่เหลือบมองนางเลย แต่กลับมองซุนฮ่วยพูดอย่างจริงจังว่า

“วันนี้ข้าอยากดื่มเพียงลำพัง นายท่านซุนควรหาโต๊ะใหม่แทน”

ซุนฮ่วยจึงได้แต่นั่งที่โต๊ะถัดไปพร้อมลูกสาว วันนี้เป็นโอกาสดีที่เขาไม่ควรพลาด บุตรสาวของเขาสวยงามถึงเพียงนี้ รองเจ้าคณะมณฑลจะไม่โปรดปรานได้อย่างไร หรือว่าเขาจะไม่ชอบผู้หญิง? ซุนฮ่วยอดคิดไม่ได้

เว่ยฉิงไม่ได้สนใจสองพ่อลูกคู่นี้เลยจริง ๆ เขาเอาแต่ดื่มสุรา

“เหตุใดวันนี้เถ้าแก่เนี้ยถังจึงไม่เข้าร้านหรือ?”

“เจ้าเอาแต่คิดถึงเถ้าแก่เนี้ยถังระวังนายท่านตู้จิ้มตาให้ล่ะ”

“ว่าแต่เถ้าแก่เนี้ยถังกับนายท่านตู้เป็นสามีภรรยากันหรือเปล่านะ?”

“พวกเขาอยู่ด้วยกันทุกวันก็น่าจะเป็นสามีภรรยากันกระมัง วันก่อนข้าเห็นนายท่านตู้หอมแก้มเถ้าแก่เนี้ยถังด้วย ไม่เห็นเถ้าแก่เนี้ยจะโวยวายอะไร”

“ถ้าเช่นนั้นเถ้าแก่เนี้ยถังคงมีเจ้าของแล้ว อย่าได้ไปคิดถึงนางอีกเลย”

เว่ยฉิงที่นั่งฟังอยู่ที่โต๊ะหูของเขาแดงก่ำ ใบหน้ามืดครึ้มลงทันที

เขารู้เรื่องที่ตู้ชิงหยู่คืออาจารย์จิ่วถิงผู้เป็นนักปราชญ์เลื่องชื่อ อีกทั้งยังเป็นอาจารย์ของบุตรชายเขาทั้งสองคนอีกด้วย นางเป็นวีรสตรีผู้กล้าหาญ ยามที่ภรรยาของเขาพูดถึงตู้ชิงหยูน้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความชื่นชม สนิทสนมรักใคร่ ตอนนั้นเว่ยฉิงไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก แต่ยามนี้เมื่อได้ยินว่าตู้ชิงหยูหอมแก้มภรรยาของเขา หัวใจของเว่ยฉิงฝาดเฝื่อนขึ้นมาทันที

“ดูสิ นายท่านตู้กับเถ้าแก่เนี้ยถังมาแล้ว”

จู่ ๆ ก็มีคนตะโกนขึ้นมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหยอกเย้า

เว่ยฉิงหันหน้าไปมอง เห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งโอบไหล่ภรรยาเขาอย่างสนิทสนม ชายหนุ่มผู้นั้นโน้มตัวเข้าไปกระซิบที่ข้างหูของถังหลี่ ภรรยาเขาหันไปมองหน้าด้วยท่าทางกระเง้ากระงอดดูแปลกตา

ชายคนนั้นโอบเอวนางก่อนจะหอมแก้มนาง เส้นเลือดบนหน้าผากของเว่ยฉิงกระตุก หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความหึงหวง เขากำหมัดแน่นขึ้น แม้จะรู้ว่าเป็นหญิงสาวปลอมตัวเป็นผู้ชายแต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะหึงหวง

เว่ยฉิงสูดลมหายใจเข้าลึกสองสามครั้ง จ้องภรรยาตาไม่กะพริบ เฝ้าดูคนทั้งคู่เดินจูงมือเข้ามาภายในร้าน

ถังหลี่และตู้ชิงหยูเดินขึ้นไปที่ชั้นสองเมื่อถังหลี่เห็นเว่ยฉิง ดวงตาของนางเป็นประกายขึ้นมา

สามีของนางมาที่นี่จริง ๆ เว่ยฉิงมองถังหลี่ ตู้ชิงหยูมองตามสายตาของถังหลี่ นางเห็นเว่ยฉิง ตู้ชิงหยูรู้จักผู้คนมากมาย นางเห็นชายคนนี้สวมชุดดำ คิ้วหนา ตาโต เขามีรูปลักษณ์ที่หล่อเหล่าหากท่าทางเหี้ยมโหด

ตู้ชิงหยูไม่รู้จักบุรุษผู้นี้มาก่อน หากสายตาของชายหนุ่มกลับจ้องเสี่ยวถังหลี่ตาแทบไม่กะพริบ ตู้ชิงหยูโกรธจนแทบอยากจะควักลูกตาคนผู้นี้ออกมาเลยทีเดียว

ออกไป! ออกไปให้ห่างเสี่ยวถังหลี่นะ แม้ว่าตู้ชิงหยูจะดูเป็นชายหนุ่มที่งามสง่า แต่ยามที่เขาทำท่าเย็นชาดูน่ากลัวไม่น้อย ผู้ชายคนนั้นลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงเข้าไม่หาโดยไม่หวั่นกับสายตาที่จ้องมองอย่างคุกคามของตู้ชิงหยู เขาเห็นเพียงถังหลี่ในสายตาเท่านั้น ตอนนี้เขาเดินมาหยุดที่หน้าถังหลี่ สายตาเขาไม่ได้เย็นชาอีกต่อไป อีกทั้งมีรอยยิ้มที่เจิดจ้าราวกับแสงตะวันที่อบอุ่นในฤดูใบไม้ผลิ

“แม่นาง ปิ่นปักผมเจ้าเอียง” ถังหลี่มองเขาอย่างแปลกใจ

“ข้าจะช่วยจับให้ตรงเอง” ว่าแล้วเขาก็เอื้อมมือไปหาถังหลี่

“คนลามก!”

ตู้ชิงหยูทนมองต่อไปไม่ไหว เขาใช้ฝ่ามือประดุจมีดโจมตีเว่ยฉิงราวกับลมกรรโชก เว่ยฉิงพลิกหลบอย่างเร็วเขาถอยหลัง นี่เป็นร้านอาหารของภรรยาเขา จะทำข้าวของพินาศไม่ได้ เขาก้าวเดินไปที่หน้าต่างกระโจนลงไปข้างล่าง ตู้ชิงหยูไม่ยอมแพ้เช่นกันนางกระโดดตามลงไปทันที ทั้งสองคนปะหมัดกันบนถนน ผู้คนต่างเปิดทางให้พวกเขาต่อสู้กันอย่างเต็มที่ ถังหลี่นั่งลงที่เก้าอี้ของเว่ยฉิงเท้าคางดูพวกเขา นางจึงได้เห็นสิ่งที่เว่ยฉิงได้เรียนรู้ในช่วงสองปีที่ผ่านมา

ทักษะของเขาดีขึ้นมาก มือเท้าคล่องแคล่ว ว่องไว สมควรถูกเรียกว่าปรมาจารย์ ทั้งสองคนผลัดกันไล่ตีไล่ต่อยจนเป็นที่พอใจ หากเป็นคนอื่นอาจจะมองไม่ทันเห็นการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนของพวกเขา ต้องขอบคุณดวงตาที่ชัดเจนของถังหลี่ นางมองเห็นได้อย่างถนัดทุกท่วงท่าทั้งของสามีและตู้ชิงหยูเลยทีเดียว สุดท้ายแล้วเว่ยฉิงเป็นฝ่ายชนะในการต่อสู้ เขาวางมือลงบนคอของตู้ชิงหยูก่อนจะหยุดชะงักพูดว่า

“เจ้าแพ้แล้ว”

เว่ยฉิงเอามือออก ตู้ชิงหยูเอาชนะเขาไม่ได้ นางจึงหันหลังกลับก่อนจะเดินไปกระแทกตัวนั่งที่ข้าง ๆ ถังหลี่ด้วยท่าทางโมโห

เว่ยฉิงเดินตามมานั่งอีกข้างของถังหลี่ ตู้ชิงหยูมองเห็นเว่ยฉิงยังคงจ้องถังหลี่อยู่ ส่วนถังหลี่ก็ไม่ได้มีทีท่ารำคาญใจแต่อย่างใด ตู้ชิงหยูรู้สึกอิจฉา อยากจะแข่งเอาใจถังหลี่กับข้างั้นหรือ? ไม่มีทางหรอก!

“เจ้าเป็นใคร?” ตู้ชิงหยูถาม

“รองเจ้าคณะมณฑลชิงเหอคนใหม่ ‘อู่อวี้’

“อู่อวี้? คนตระกูลอู่หรือ?” ตู้ชิงหยูไม่สนใจคนตระกูลอู่มากนัก

“ข้าคือตู้ชิงหยู” นางพูดแต่แล้วก็ลดน้ำเสียงเบาลง “อาจารย์จิ่วถิงคืออีกตัวตนหนึ่งของข้า” นางพูดกึ่งโอ้อวดหน่อย ๆ

“โอ้…งั้นหรือ?” เว่ยฉิงไม่สนใจ

ตู้ชิวหยูกัดฟันกรอด ไอ้เด็กคนนี้ไม่รู้จักนาง!

“เสี่ยวเอ้อร์ ยกอาหารจานโปรดของเสี่ยวหลี่มาเถอะ”

ตู้ชิงหยูตะโกนสั่งพนักงานจงใจเอ่ยชื่ออาหารจานโปรดของถังหลี่ เมื่ออาหารถูกยกมาให้ที่โต๊ะ เว่ยฉิงหยิบตะเกียบมาเลือกอาหารให้ถังหลี่อย่างเอาอกเอาใจ

ตู้ชิงหยูและเว่ยฉิงต่างแข่งขันกันเอาใจถังหลี่โดยไม่มีใครยอมกัน

ซุนฮ่วยที่นั่งดูข้าง ๆ ถึงกับงงงันไป รู้สึกได้ว่ารองเจ้าคณะผู้นี้ดูแตกต่างไปจากยามปกติ

“ใต้เท้า เหตุใดไม่ให้เด็กน้อยผู้นี้ช่วยให้ความอบอุ่นแก่ท่านเล่า ท่านมีสถานะสูงส่ง…” ซุนฮ่วยพาลูกสาวไปใกล้พลางเจรจาเมื่อสบช่องได้โอกาส

เด็กสาวมองเว่ยฉิงพลางยิ้มอย่าเขินอาย

จู่ ๆ ตู้ชิงหยูก็พูดขึ้นมาด้วยใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม

“นายท่านอู่มีพรสวรรค์ในการดึงดูดผึ้งและผีเสื้อจริง ๆ ถังหลี่เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาทำเช่นนี้กับสาวงามทุกคน”

ดวงตาของถังหลี่จ้องมาที่เขาราวกับรอคำตอบ เว่ยฉิงตัวแข็งไปทันที

……………………………….