บทที่ 327 ช่างเป็นนกพิราบที่กล้าหาญ

เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช

บทที่ 327 ช่างเป็นนกพิราบที่กล้าหาญ

บทที่ 327 ช่างเป็นนกพิราบที่กล้าหาญ

ช่าง… ช่างเป็นนกพิราบที่กล้าหาญเสียจริง!

นี่คือความในใจของเหล่าทหารม้าแห่งต้าเซี่ย

“ฝ่าบาท นกพิราบตัวนี้…”

ทันทีที่หนานกงสือเยวียนยกมือห้าม ชายผู้นั้นก็รีบปิดปากตนให้สนิททันที

เฝ้ามองผู้ที่พวกเขาเรียกขานว่าฝ่าบาทจับนกพิราบลงมาจากบ่า แล้วดึงกระดาษม้วนเล็ก ๆ ออกจากปลอกส่งสารที่ถูกผูกไว้กับขาพิราบขาว

หนานกงสือเยวียนใจเต้นระรัวเร็ว เขามีลางสังหรณ์ว่าสิ่งนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเสี่ยวเป่า

ยังไม่ทันได้อ่านเนื้อหา มุมปากก็พลันยกขึ้นเมื่อได้เห็นคำคำนั้น

นางยังเขียนจดหมายให้พิราบส่งสารมาถึงเขาได้ นั่นหมายความว่าเสี่ยวเป่ายังปลอดภัย

มุมปากยกยิ้มเล็กน้อย โทสะท่วมท้นที่มีมาตั้งแต่รู้ว่าเสี่ยวเป่าถูกลอบสังหาร ก่อนจะหายตัวไปเมื่อวานนี้พลันมลายหายไป เช่นเดียวกับบรรยากาศแสนอึดอัดชวนให้พวกเขาหายใจแทบไม่ออก

พลทหารที่ติดตามเขาต่างถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดฝ่าบาทก็หายคลั่ง QAQ

ผู้ใดไม่เจอกับตัวก็คงไม่เข้าใจหรอกว่ามันน่ากลัวเพียงใดที่ต้องติดตามเขาในห้วงอารมณ์เช่นนั้น มันไม่ง่ายเลยสำหรับพวกเขา

หนานกงสือเยวียนไม่ทันได้สังเกตปฏิกิริยาของผู้คนรอบตัว เพราะกำลังจดจ่ออยู่กับเนื้อหาในจดหมาย

ถึงท่านพ่อที่รัก

ท่านพ่อ เสี่ยวเป่ากับเจ้าเสือทั้งสองหนีเข้ามาในป่าทึบ แต่หาทางกลับออกไปไม่ได้ โชคดีที่พวกเราได้พบคนใจดีช่วยเหลือเอาไว้ แต่โชคร้ายที่เสี่ยวเป่าหนีมาถึงอาณาเขตของอาณาจักรหนานจ้าว ตอนนี้เสี่ยวเป่าปลอดภัยแล้ว อยู่ที่เผ่ากู่ขาว เขียนเยอะไม่ได้ หากท่านพ่อได้รับจดหมาย อย่าลืมตอบกลับเสี่ยวเป่าด้วยนะเพคะ

ปลอกส่งสารมีขนาดเล็กจิ๋ว ทำให้พื้นที่ใส่จดหมายมีจำกัด เสี่ยวเป่าพยายามอย่างหนักเพื่อย่อสารให้สั้นลง

แต่เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว อย่างน้อยก็ได้รู้ว่านางยังปลอดภัย

เผ่ากู่ขาวอย่างนั้นหรือ

หนานกงสือเยวียนหรี่ตาลงเล็กน้อย

ในเมื่อส่งสารถึงมือผู้รับ เจ้านกพิราบก็ตั้งใจจะกระพือปีกบินจากไป ทว่ากลับถูกคว้าตัวไว้เสียก่อน

เจ้าพิราบขาว “!!!”

ตายแล้ว ชายผู้นี้คิดจะฆ่านกพิราบหรือ!

หนานกงสือเยวียน “จะรีบไปที่ใด”

มันเป็นนกพิราบที่เขาต้องใช้ติดต่อกับเสี่ยวเป่า พิราบตัวอื่นจะไปไหนก็ไป ส่วนเจ้ายังไปไหนไม่ได้

หนานกงสือเยวียนไม่มีทางเลือกจำต้องมัดมันไว้บนหลังม้า เพราะเกรงว่ามันจะบินหนีไปเสียก่อน จากนั้นก็รีบควบม้ากลับเข้าเมือง

ตลอดทางนั้นธุลีฝุ่นคลุ้งตลบ ทุกคนต่างเหนื่อยล้าแทบหมดแรง ยกเว้นหนานกงสือเยวียนที่ยังดูปกติดีทุกอย่าง

ด้านบุตรชายทั้งสองอย่างหนานกงฉีอิงและหนานกงฉีหลิงเป็นกังวลอย่างมาก

ทว่ากลับมาจากข้างนอกคราวนี้ เสด็จพ่อดูจะหงุดหงิดน้อยลง พวกเขาพลันนึกถึงต้นตอของสาเหตุที่พอจะเป็นไปได้บราวนี่ออนไลน์

หนานกงฉีหลิงรีบถามว่า “เสด็จพ่อ ได้ข่าวคราวน้องหญิงแล้วใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

จวนเจิ้นหนานอ๋องถูกโจมตี แล้วน้องสาวก็หายตัวไป พวกเขากังวลมากจนออกตระเวนตามหากันทั้งคืน

แต่ก็พบเพียงร่องรอยในป่า ส่วนตัวคนหาเท่าไหร่ก็หาไม่พบ

ป่าที่เสี่ยวเป่าหนีเข้าไปนั้นกว้างใหญ่มาก ทั้งในตอนกลางคืนยังมีฝนตกหนักลมพัดแรงจนร่องรอยของเสือทั้งสองกับน้องสาวหายไป

พี่ชายทั้งสองจ้องบิดาอย่างมีความหวัง

หนานกงสือเยวียนตอบเพียงสั้น ๆ และส่งจดหมายให้พวกเขา

“ดูเอาเอง”

ข้อความมีเพียงสามบรรทัด สองพี่น้องอ่านจบอย่างรวดเร็ว พวกเขาโล่งใจแต่ก็เป็นกังวล

“น้องหญิงอยู่ที่หนานจ้าว เราไม่รู้ทางไปเผ่ากู่ขาว แล้วเราจะพานางกลับมาได้อย่างไร”

หนานกงสือเยวียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อย่าเพิ่งพานางกลับมาจะดีกว่า”

สองพี่น้องหันมองหน้ากัน

“นอกจากเราแล้ว อย่าแพร่งพรายที่อยู่ของเสี่ยวเป่า”

หลังจากใคร่ครวญแล้ว หนานกงฉีหลิงก็เข้าใจความต้องการของบิดาได้อย่างรวดเร็ว

“จริงด้วย น้องหญิงอยู่ที่เผ่ากู่ขาว ทั้งยังมีเสือทั้งสองคอยคุ้มกัน ปลอดภัยกว่าพานางกลับมาที่นี่!”

พวกหนานจ้าวคงคิดไม่ถึงว่าองค์หญิงน้อยที่พวกมันต้องการตัวเพื่อใช้ต่อรองพวกเขาจะอยู่ในอาณาจักรของพวกมัน

พวกหนานจ้าวเคยพบหน้าเสี่ยวเป่าอยู่ไม่กี่คน ส่วนที่เหลือย่อมไม่รู้จักเสี่ยวเป่า

ตราบใดที่คนเผ่ากู่ขาวไม่คิดร้ายต่อนาง น้องสาวอยู่ที่นั่นย่อมปลอดภัยกว่ากลับมาที่นี่

“เช่นนั้นเสด็จพ่อรีบเขียนจดหมายตอบน้องหญิงเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

สองพี่น้องเฝ้ามองบิดาเขียนจดหมายตาปริบ ๆ ก่อนจะหันไปสั่งให้คนนำธัญพืชหลากหลายชนิดและน้ำมาเลี้ยงดูปูเสื่อเจ้านกพิราบ

ทันทีที่มันถูกปล่อยตัว มันก็ร้องประท้วงเสียงดังลั่น แม้พวกเขาจะฟังภาษานกไม่เข้าใจ แต่ก็พอเดาได้ว่ามันกำลังก่นด่า

ทว่าพอหนานกงสือเยวียนมอง เจ้าพิราบขาวกลับรีบปิดปากเงียบ ทั้งยังกางปีกคลุมหัวพร้อมกับถอยตัวเข้าไปหลบซ่อน

หนานกงฉีอิง “…”

หนานกงฉีหลิง “…”

เจ้านกพิราบตัวนี้ขี้ขลาดเกินไปแล้ว

หลังจากกินดื่มจนอิ่มแล้ว เจ้าพิราบขาวก็ออกเดินทางอีกครั้ง แต่กลับไปคราวนี้มันมีเรื่องต้องฟ้องเจ้านาย!

ณ เผ่ากู่ขาว

เสี่ยวเป่าเข้ามาในเผ่ากู่ขาวเพียงวันเดียวก็กลายเป็นเด็กหญิงผู้มีอิทธิพลในหมู่บ้านไปเสียแล้ว

เหตุผลก็คือนางมีเสือสองตัว เด็กคนอื่นจึงไม่อาจรังแกนางได้!

“อาเหนียงของข้าบอกว่ามหาปุโรหิตแห่งหนานจ้าวจะจับเด็กไปสังเวย เลวมาก”

แม้เผ่ากู่ขาวจะปลีกตัวอยู่อย่างสันโดษ แต่ก็ยังสามารถรับรู้ข่าวสารจากภายนอกได้

“เผ่ากู่ดำชั่วร้ายเกินไปแล้ว!”

“คนพวกนั้นเป็นคนชั่วช้า อาเหนียงบอกว่าพวกเขาชอบจับเด็กไปกินด้วย!”

ในเผ่ากู่ขาว แม้เป็นเด็กก็ต้องรู้ข้อมูลของศัตรู รวมถึงภูมิหลังของเผ่าตนเองที่พวกเขาต้องได้รับการสั่งสอนตั้งแต่อายุยังน้อย

เสี่ยวเป่านั่งมองพวกเด็ก ๆ คุยกันระหว่างจับแมลงเล่น บางคนลงทุนคลานไปตามพื้นเพื่อจับแมลง เสี่ยวเป่าเองก็เข้าร่วมโดยไม่ถือตัว

ที่นี่มีแมลงมากมายสารพัดชนิด

“ใช่แล้วล่ะ คนเลวพวกนั้นจับตัวท่านอาสี่ของข้าไปเพราะต้องการเล่นงานท่านพ่อกับพี่ชายข้า!”

เด็ก ๆ เริ่มแสดงความเห็นอกเห็นใจนางทันที

“อาสี่ของเจ้าถูกจับตัวไปที่นั่นสินะ อาเตี่ยของข้าบอกว่าที่เผ่ากู่ดำอันตรายมาก คนชั่วพวกนั้นชอบฝังกู่เข้าไปในตัวคน”

เสี่ยวเป่าเป็นกังวลกว่าเดิม “เช่นนั้นท่านอาสี่ของข้าจะไม่ถูกฝังกู่ด้วยหรือ!”

ไม่ได้การแล้ว นางจะต้องหาทางช่วยท่านอาสี่ให้ได้!

“ข้าไม่รู้ว่าท่านอาสี่ถูกจับตัวไปไว้ที่ใด พอจะมีทางแอบเข้าไปในพระราชวังหนานจ้าวบ้างหรือไม่”

มีความเป็นไปได้สูงที่ท่านอาสี่จะถูกจับไว้ในพระราชวังหนานจ้าว ท่านอาสี่ของนางเก่งกาจออกปานนั้น คนธรรมดาไม่มีทางจับตัวเขาไปได้!

“ข้าเองก็ไม่รู้ เดี๋ยวพวกเราไปถามอาเตี่ยให้”

“ไปถามท่านหัวหน้าเผ่าสิ”

จากนั้นเสี่ยวเป่ากับเด็ก ๆ ก็รีบวิ่งไปหาปู้หนานอี

ทันทีที่ได้ยินคำขอของเสี่ยวเป่า นางก็พลันขมวดคิ้วเป็นปม “ไม่ได้”

เสี่ยวเป่า “แล้วข้าจะช่วยท่านอาสี่ได้อย่างไร”

ปู้หนานอี “มหาปุโรหิตมีอาคมแกร่งกล้า เจ้ายังเป็นเพียงเด็กไม่ประสา นอกจากจะช่วยอันใดไม่ได้แล้ว ยังจะนำภัยร้ายมาสู่ตน”

เสี่ยวเป่ารีบแย้ง “ไม่อันตรายหรอก กู่พวกนั้นไม่กัดข้า!”

แม้แต่กู่ในตัวท่านพ่อยังกลัวนาง นางหาได้กลัวกู่พวกนั้นไม่

นางต้องการพิสูจน์ให้ปู้หนานอีเชื่อ ทันใดนั้นเสี่ยวเป่าก็เหลือบไปเห็นงูในกรง

ที่เผ่านี้มีแมลงและงูที่ปู้หนานอีเลี้ยงไว้มากมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสัตว์มีพิษ เสี่ยวเป่าเอื้อมมือเข้าไปจับงูสีสันสดใสพิษร้ายแรง

จู่ ๆ งูที่ถูกจับก็เริ่มเลื้อย ปู้หนานอีที่เห็นเช่นนั้นหวาดกลัวจนแทบเป็นลม

นางคือบุตรสาวของเทพสงคราม หากเกิดสิ่งใดขึ้นกับนาง เผ่ากู่ขาวของพวกเขาคงไม่เหลือซากแน่!

แต่น่าประหลาดใจที่แม้ว่างูจะถูกรบกวน แต่มันทำเพียงพันตัวของมันไว้รอบข้อมือของเสี่ยวเป่า ไม่มีท่าทีจะกัดนางแม้แต่น้อย

งูพิษชนิดนี้เคลื่อนไหวรวดเร็ว มีพิษร้ายแรง นิสัยดุร้าย มันจะฉกทันทีที่ถูกรบกวน ปกติงูที่พอจะจับได้จะเป็นงูที่มีความยาวประมาณเจ็ดชุ่น แต่นอกจากผู้เชี่ยวชาญแล้วก็ไม่มีผู้ใดกล้าจับ

แต่งูพิษที่เสี่ยวเป่าจับนั้นยาวเสียยิ่งกว่าเจ็ดชุ่น งูพิษที่ได้ชื่อว่าดุร้ายพันตัวรอบแขนเล็กอวบอ้วนประดุจรากบัวอย่างเชื่อฟัง โดยไม่มีท่าทีว่าจะทำร้ายนางเลยสักนิด