ตอนที่ 258 ไม่มีวันล้มลง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 258 ไม่มีวันล้มลง
เสียงฝีเท้าชัดเจนของม้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ น้ำตาของต่งซื่อไหลพรั่งพรูออกมาจนมองเห็นร่างของบุตรสาวอย่างพร่ามัว

“กลับมาก็ดีแล้ว…กลับมาก็ดีแล้ว!”

ฮูหยินสามหลี่ซื่อมองดูบุตรสาวที่ตามหลังไป๋ชิงเหยียนมา ทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ นางใช้ผ้าเช็ดหน้ากดหน้าอกของตัวเองเอาไว้ หันกลับไปมองบรรดาสะใภ้แล้วพลางออกมา

“กลับมาได้เสียที ในที่สุดข้าก็วางใจได้แล้ว!”

คุณหนูห้า คุณหนูหกและคุณหนูเจ็ดถลาลงมาจากบันได โบกมือให้ไป๋ชิงเหยียนและไป๋จิ่นจื้อทั้งน้ำตาพลางตะโกนออกมาดังลั่นอย่างไม่เหลือมาดกุลสตรีตระกูลสูงศักดิ์

“พี่หญิงใหญ่”

“พี่หญิงสี่”

ยิ่งใกล้ถึงจวนไป๋ ไป๋ชิงเหยียนก็ยิ่งรู้สึกแสบร้อนขึ้นเรื่อยๆ

นางไม่เคยรู้สึกรีบร้อนอยากกลับบ้านเช่นนี้มาก่อน

เมื่อเห็นน้องสาวทั้งสามที่โบกมือมาทางนางไม่หยุดหย่อน เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดีใจของหลูผิง ไป๋ชิงเหยียนรีบเร่งความเร็วม้า จากนั้นกระโดดลงจากหลังม้าอย่างรวดเร็ว

ไป๋จิ่นจื้อกระโดดตามลงมาเช่นเดียวกัน สาวน้อยมองดูมารดาที่ใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากร้องไห้แต่ดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม นางเอ่ยเรียกมารดาเสียงสะอื้น “ท่านแม่…”

หลูผิงรีบเข้าไปรับเชือกม้าจากไป๋ชิงเหยียน กล่าวด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

“คุณหนูใหญ่กลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้วขอรับ! กลับมาอย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว!”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า ยื่นหอกเงินหงอิงให้หลูผิง จากนั้นพาไป๋จิ่นจื้อไปหยุดยืนอยู่หน้าประตูจวน เงยหน้ามองดูมารดาและบรรดาสตรีของตระกูลไป๋ทุกคน ทั้งสองคุกเข่าลงบนพื้น ก้มศีรษะคำนับแนบพื้น

ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้าทั้งน้ำตา “ท่านแม่ ท่านอาสะใภ้รอง ท่านอาสะใภ้สาม ท่านอาสะใภ้สี่ ท่านอาสะใภ้ห้า! ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ทำให้ตระกูลไป๋เสียเกียรติ ไป๋ชิงเหยียนนำชัยชนะกลับมา พาน้องหญิงสี่กลับมาถึงเมืองหลวงอย่างปลอดภัยแล้วเจ้าค่ะ!”

“ไป๋จิ่นจื้อคุณหนูสี่แห่งตระกูลไป๋กลับถึงเมืองหลวงอย่างปลอดภัยเจ้าค่ะ!” ไป๋จิ่นจื้อก็น้ำตานองหน้าเช่นเดียวกัน

ต่งซื่อมองดูบุตรสาวที่คุกเข่าอยู่บนพื้นโดยมีแสงอรุณจากท้องฟ้าส่องกระทบจนร่างเปล่งประกาย น้ำตาของนางไหลทะลักออกมาในทันที “ดี…ดี!”

ไม่รู้ว่าสามีของนางไป๋ฉีซานจะมองเห็นหรือไม่ บัดนี้…ลูกสาวของเขากลับมาเมืองหลวงพร้อมชัยชนะเช่นเดียวกับที่เขาเคยทำ

ไม่รู้ว่าสามีของนางจะมองเห็นหรือไม่ ลูกสาวของของเขาปกป้องชาวบ้านแถบชายแดนที่เขาสละชีพปกป้องเอาไว้ได้แล้ว!

ไม่รู้ว่าสามีของนางจะภูมิใจในตัวลูกสาวคนนี้หรือไม่

ไป๋ชิงเหยียนที่คุกเข่าอยู่หน้าประตูจวนมองดูต่งซื่อ กล่าวอย่างสะอึกสะอื้น

“ท่านแม่ อาเป่าแย่งท่านพ่อกลับมาได้แล้วเจ้าค่ะ ทว่า ไม่รู้ว่าต้องทำสงครามอีกนานเท่าใด ข้าจึงฝังร่างท่านพ่อไว้ที่เทียนเหมินกวน ฝังร่างท่านไว้ในที่ที่ท่านปกป้องคุ้มครองมาตลอดชีวิตเจ้าค่ะ!”

ต่งซื่อกลั้นน้ำตาต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว นางกัดฟันเปล่งเสียงร้องไห้โฮ พยักหน้าอย่างแรง

หนานเจียง คือสถานที่ที่ไป๋ฉีซานปกป้องมาตลอดชีวิตจริงๆ…

เมืองหลวงมีเสื้อผ้าของไป๋ฉีซานเป็นตัวแทนแล้ว นางเชื่อว่า…เทียบกลับการที่นำร่างของสามีกลับมาเมืองหลวง หากปณิธานในการรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งของคนตระกูลไป๋ทุกรุ่นยังไม่สำเร็จ สามีของนางยินดีที่จะปกปักษ์รักษาชาวบ้านอยู่ที่เทียนเหมินกวนมากกว่าแน่ๆ

“ผู้ใดกล่าวว่าต่อจากนี้ตระกูลไป๋จะไม่มีที่ยืนในเมืองหลวงกัน! แม้บุรุษตระกูลไป๋จะตายหมดแล้ว ทว่า สตรีตระกูลไป๋ยังอยู่ครบ!”

ฮูหยินห้าฉีซื่อมองไปยังไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ ทั้งน้ำตา กำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น จากนั้นกล่าวดังลั่น

“ตระกูลไป๋ของพวกเราไม่มีวันล้มอย่างแน่นอน”

ไป๋จิ่นซิ่วที่ยืนอยู่ข้างกายของหลิวซื่อทนไม่ไหว นางวิ่งลงบันไดเข้าไปกอดไป๋ชิงเหยียนอย่างแรง

“พี่หญิงใหญ่!”

ฉินหล่างมองดูไป๋ชิงเหยียนที่อยู่ในชุดเครื่องแบบทหาร หวนนึกถึงภาพตอนที่เขาเคยมาส่งหญิงสาวออกรบ ลูกหลานตระกูลไป๋…ทุกคนล้วนมีความสามารถมากจริงๆ

แม้บัดนี้บุรุษของตระกูลไป๋จะไม่หลงเหลืออยู่แล้ว ทว่า ไป๋ชิงเหยียนยังอยู่ นางยังคงปกป้องดูแลตระกูลไป๋ได้

สตรีที่หยิ่งทระนง แข็งแกร่งและตรงไปตรงมาอย่างไป๋ชิงเหยียนดีมาก ทว่า อาจไม่เหมาะสมกับเขาสักเท่าใด

สายตาของฉินหล่างหยุดอยู่ที่ไป๋จิ่นซิ่ว เขาโชคดีเพียงใดกันนะถึงได้ไป๋จิ่นซิ่วมาเป็นภรรยา เขาควรจะทะนุถนอมนางให้ดีที่สุด

หลายเดือนมานี้ ไป๋ชิงเหยียนอยู่ที่หนานเจียง ไป๋จิ่นซิ่วเป็นห่วงพี่สาวอยู่ตลอดเวลา บัดนี้เห็นว่าพี่สาวกลับมาอย่างปลอดภัย ไป๋จิ่นซิ่วจึงร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ “พี่หญิงใหญ่ได้รับบาดเจ็บหรือไม่เจ้าคะ!”

“ไม่มี…พี่ไม่ได้บาดเจ็บ เสี่ยวซื่อคอยคุ้มกันอยู่ข้างกายพี่ตลอด!” ไป๋ชิงเหยียนเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของไป๋จิ่นซิ่ว

ไป๋จิ่นซิ่วเอื้อมมือไปโอบร่างของไป๋จิ่นจื้อเช่นเดียวกัน “กลับมาก็ดีแล้ว…กลับมาก็ดีแล้ว!”

“พี่หญิงใหญ่!”

“พี่หญิงใหญ่!”

“พี่หญิงใหญ่!”

คุณหนูห้า คุณหนูหกและคุณหนูเจ็ดตระกูลไป๋ต่างวิ่งถลาเข้ามา

พี่สาวน้องสาวคุกเข่าล้อมกันเป็นวงกลม น้องสาวที่อายุยังน้อยร้องไห้จนตัวโยน

ทั้งๆ ที่…มีความสุข ทว่า กลับกลั้นน้ำตาและเสียงสะอื้นเอาไว้ไม่ได้

“เอาล่ะๆ จะคุกเข่าร้องไห้เช่นนี้ได้อย่างไรกัน เร็วๆ รีบลุกขึ้นมา ให้พี่หญิงใหญ่และพี่หญิงสี่ของพวกเจ้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งกายก่อน! เดี๋ยวพวกเราค่อยไปนั่งคุยกันดีๆ”

ฮูหยินสองหลิวซื่อใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา เดินลงมาจากบันไดสูง ประคองไป๋ชิงเหยียนและไป๋จิ่นซิ่วลุกขึ้นด้วยตัวเอง

บรรดาบ่าวรับใช้ สาวใช้ของจวนไป๋ต่างออกันอยู่ที่หน้าจวน เมื่อเห็นคุณหนูใหญ่และคุณหนูสี่กลับมาแล้ว ทุกคนล้วนดีใจมาก

ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองท่านอาสะใภ้สี่ของตัวเอง รู้สึกว่าฮูหยินสี่หวังซื่อดูจะแก่ลงกว่าเดิมสักสิบปี แววตาไม่ได้สุกใสเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป แผ่นหลังค่อมงอเล็กน้อย ในมือถือลูกประคำ แววตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ร่างทั้งร่างดูสงบนิ่งราวกับสายน้ำนิ่ง

สูญเสียทั้งสามีและบุตรชาย เดิมทีท่านอาสะใภ้สี่หวังซื่อก็อ่อนแอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หากไม่ใช่เพราะบุตรสาวทั้งสองคนที่ยังเล็กอยู่ นางคงตามสามีของนางไปนานแล้ว ครั้งนี้…ไป๋ชิงเหยียนนำข่าวของไป๋ชิงเจวี๋ยมาให้ท่านอาสะใภ้สี่ หวังว่าท่าอาสะใภ้สี่จะยืนหยัดขึ้นมาได้อีกครั้ง

“เร็ว! รีบเข้าไปด้านในก่อนเถิด” ต่งซื่อเดินลงจากบันไดไปกุมมือบุตรสาว นางบีบมือแน่น เมื่อรู้สึกถึงความหยาบกระด้างที่ฝ่ามือของบุตรสาว ขอบตาของต่งซื่อร้อนผ่าวยิ่งกว่าเดิม “กลับบ้าน!”

“เจ้าค่ะ!” ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า

อิ๋นซวงที่ยืนอยู่ด้านหลังไป๋จิ่นซิ่วเห็นคุณหนูใหญ่มองมาที่นาง นางจึงฉีกยิ้มให้คุณหนูใหญ่ หยิบลูกอมที่เก็บสะสมไว้นานออกมาจากอกพลางยื่นให้ไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่ทานลูกอมเจ้าค่ะ!”

“ยายเด็กซื่อบื้อนี่!” หลัวหมัวมัวหัวเราะพลางเขกไปที่ศีรษะของอิ๋นซวงเบาๆ หนึ่งทีอย่างอดไม่ได้

เรือนชิงฮุย

ถงหมัวมัวกำลังกำชับให้สาวใช้ทำความสะอาดเรือนใหม่อีกครั้ง

“ทำให้มันกระฉับกระเฉงหน่อย! คุณหนูใหญ่จะมาถึงแล้ว ต้องให้คุณหนูใหญ่เห็นเรือนชิงฮุยที่ไม่มีแม้แต่ฝุ่นสักเม็ด!”

ชุนเถาอยู่ในโรงครัวเล็ก นางกำลังต้มรังนกให้ไป๋ชิงเหยียนด้วยตัวเอง ชุนเถาใช้พัดสะบัดเพิ่มควันในเตาถ่าน เมื่อได้ยินเสียงเอะอะจึงเดินออกมาจากโรงครัว เมื่อเห็นว่าไม่ใช่ไป๋ชิงเหยียนกลับมาเรือนชิงฮุย นางจึงกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง ในใจรู้สึกไม่สงบ ไม่รู้ว่าคุณหนูใหญ่จะได้รับบาดเจ็บบ้างหรือไม่

หลายปีก่อนตอนที่คุณหนูใหญ่ไปออกรบ คุณหนูใหญ่มักได้บาดแผลกลับมาทุกครั้ง

โดยเฉพาะปีนั้น แม้กองทัพจะชนะศึกกลับมา ทว่า คุณหนูใหญ่ถูกแบกกลับมาที่เรือนชิงฮุยโดยสลบไม่ได้สติ ชุนเถาตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่าง

“ขอสวรรค์โปรดคุ้มครองให้คุณหนูใหญ่กลับมาอย่างปลอดภัย หากสมหวัง ชุนเถายินดีอายุสั้นลงสิบปี ยินดีกินมังสวิรัติตลอดชีวิตเจ้าค่ะ”

ตั้งแต่คุณหนูใหญ่ไปออกรบ ชุนเถาภาวนาเช่นนี้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง

“ถงหมัวมัว! คุณหนูใหญ่กลับมาแล้วเจ้าค่ะ! คุณหนูใหญ่กลับมาแล้วเจ้าค่ะ! เดินเข้าประตูชุ่ยหวามาแล้ว ใกล้จะถึงเรือนชิงฮุยแล้วเจ้าค่ะ!”

สาวใช้ที่ถูกถงหมัวมัวส่งไปฟังข่าวที่เรือนหน้าวิ่งกลับเข้ามาในเรือนชิงฮุยด้วยสีหน้าดีใจ ตะโกนออกมาเสียงดังลั่น

เรือนชิงฮุยเหมือนถูกน้ำมันราด ต่างโหวกเหวกโวยวายขึ้นมาทันที

“เอะอะอันใดกัน!”

ถงหมัวมัวควบคุมความดีใจเอาไว้ แสร้งปั้นหน้าอบรบบรรดาสาวใช้