บทที่ 288 ไฟฉายวิเศษ!

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 288 ไฟฉายวิเศษ!

ซือคุนตกตะลึงจนพูดไม่ออก นี่เจ้าลืมของวิเศษที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ได้ยังไง? รู้ไหมว่าข้าต่อสู้มาจนขนาดนี้ แถมยังสูญเสียลูกน้องไปตั้งมากมาย! อยู่ ๆ เจ้าก็มาบอกว่า ‘ลืม’ เนี่ยนะ?

ท่านยั่วยุซือคุนสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +999

“แล้วจะให้ข้าทำยังไงล่ะ? ข้ามีทักษะและของวิเศษเยอะแยะจนจำได้ไม่หวาดไม่ไหว ทั้งข้าและเจ้าก็ต้องเอาตัวรอดไปพลาง ๆ ก่อนที่ข้าจะนึกออกนั่นแหละ” ซูอันตอบด้วยน้ำเสียงที่แสร้งทำอะไรไม่ถูก

ซือคุนถึงกับนิ่งอึ้ง ฟังที่ไอ้เวรนี่มันพูด! ให้ตายสิ ข้าอยากจะถีบหน้ามันจริง ๆ!

ท่านยั่วยุซือคุนสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +334!

อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องระงับความโกรธและยิ้มออกมา “ถ้าอย่างนั้น ข้าขอรบกวนพี่ซู ช่วยไล่พวกผีดิบออกไปได้ไหม? เราจะได้ช่วยกันสำรวจลึกลงไปในถ้ำมากกว่านี้ ข้ารู้สึกว่ามันน่าจะมีสมบัติที่ล้ำค่าซ่อนอยู่ข้างใน ไปด้วยกันเถอะ แล้วข้าจะให้เจ้าเลือกอะไรก็ตามที่เราเจอเป็นคนแรก ฟังดูเป็นยังไงบ้าง?”

“อืม…ความคิดของเจ้าเข้าท่าดีเหมือนกัน” ซูอันแสดงสีหน้าครุ่นคิดพร้อมกับลูบคางตัวเอง

ฉู่ชูเหยียนคิดจะหยุดซูอันทันที แต่ก่อนที่นางจะได้พูดออกไป นางก็เห็นว่าถึงแม้ชายหนุ่มจะทำหน้าทำตาครุ่นคิด แต่มือข้างที่ถือไฟฉายกลับขยับไฟฉายไม่หยุดพยายามต้อนฝูงผีดิบทั้งหมดไปทางฝั่งของซือคุน เรื่อย ๆ

ใบหน้าของซือคุนบิดเบี้ยวด้วยความโกรธแค้นระคนหวาดกลัว “พี่ซู! เจ้าทำแบบนี้หมายความว่ายังไง?”

“ด้วยความแข็งแกร่งที่น่าเกรงขามของน้องชิท ข้าเชื่อว่าการจัดการกับพวกผีดิบนี่ไม่นับว่าเป็นอะไรได้ ข้าคงไม่กล้าสอดมือแย่งผลงานของเจ้าหรอก!” ซูอันตอบด้วยรอยยิ้ม

เขาย้อนคำพูดของซือคุนคืนกลับไป

“งั้น ข้าขอตัวไปทำธุระส่วนตัวก่อนล่ะนะ” ชายหนุ่มโบกมือและเดินจากไปอย่างเย็นชาพร้อมกับฉู่ชูเหยียนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา

“…” ซือคุน

“…” ผีดิบทหาร

ท่านยั่วยุซือคุนสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +999!

ซูอันพร้อมกับฉู่ชูเหยียนมุ่งหน้าลึกเข้าไปในถ้ำ หากก่อนหน้านี้ชายหนุ่มหนีซือคุนพ้นก็คงจะพุ่งตรงไปยังทางออกของถ้ำอย่างแน่นอน เพราะกองทัพผีดิบก็เป็นภัยคุกคามอย่างใหญ่หลวงเช่นกัน หากเลือกได้เขาก็ไม่อยากเสี่ยงเข้าไปให้ลึกกว่าเดิมซึ่งอาจจะเจอพวกผีดิบทหารที่แข็งแกร่งมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้เห็นว่าไฟฉายวิเศษนี้มีผลกับเหล่าผีดิบอย่างเหนือความคาดหมาย เขาก็เปลี่ยนใจ

ประสบการณ์ในเกมและนวนิยายในโลกก่อนหน้านี้ของเขาบอกว่าสุสานอันน่าขนลุกที่อยู่ในตอนนี้เต็มไปด้วยอันตรายที่ซุกซ่อนอยู่แทบทุกซอกทุกมุม แต่เป็นธรรมดาที่ความเสี่ยงยิ่งมาก รางวัลตอบแทนยิ่งสูง เขาคิดว่าจะต้องมีขุมสมบัติล้ำค่ารออยู่ด้านในอย่างแน่นอน

ตั้งแต่ตอนแรก แรงจูงใจของเขาในการเข้ามาในมิติลับหยกจรัสคือการตามหาดอกบัวเร้นลักษณ์เพื่อรักษา ‘ซูอันน้อย’ อีกทั้งตอนนี้มันมีความเป็นไปได้ที่ดอกบัวเร้นลักษณ์จะอยู่ที่ส่วนลึกของสุสานนี้ ดังนั้นเขาจะไม่ยอมละทิ้งโอกาสไม่ว่าชีวิตที่เหลืออยู่ของเขาจะสุขสบายหรือทุกข์ยากไปตลอดชีวิตก็ตาม เขายอมเสี่ยงเดิมพัน!!

เนื่องจากเขามีไพ่ลับอยู่ในมือแล้ว มันคงเป็นการเสียเปล่าหากไม่ใช้มันอย่างเต็มศักยภาพ

“ข้าสงสัยว่า ‘จำนวนครั้งการใช้’ ของไฟฉายนี้คำนวณยังไง?”

ซูอันจำได้ว่าไฟฉายวิเศษสามารถใช้ได้เพียงสามครั้งเท่านั้น ในเมื่อมันยังคงติดสว่างมาตลอด มันหมายความว่าตราบใดที่แสงไม่ดับ มันจะยังถือว่าเป็นการใช้ครั้งเดียวหรือไม่?

โล่งใจจริง ๆ ที่ผนังถ้ำแห่งนี้เปล่งแสงสลัว ๆ ตลอดเวลา ไฟฉายวิเศษจะส่องสว่างในที่ที่มีแสงเท่านั้น ดังนั้นมันจึงยังไม่ดับไป

เพื่อความปลอดภัย เขายังเตรียมม้วนกระดาษที่ติดไฟง่ายถือไว้ในมืออีกข้างหนึ่งด้วย เตรียมที่จะจุดไฟในกรณีที่บังเอิญไปเจอที่ที่มืดสนิท

“ที่รัก เจ้าเห็นการกระทำของซือคุนก่อนหน้านี้มั้ย? เขากล้าที่จะขอให้ข้าร่วมมือกับเขาได้ยังไง หลังจากที่เขาตามฆ่าข้ามาตลอดทาง?” ซูอันบ่น “แต่ว่าการที่ข้าทิ้งพวกเขาไว้แบบนั้น เสวี่ยเอ๋อร์คงไม่น่าจะรอดแน่ ๆ เจ้าโทษข้าหรือเปล่า?”

ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ซือคุนและเฉียวเสวี่ยอิงจะสามารถยืนหยัดต่อสู้กับผีดิบทหารจำนวนมากได้

“ที่รัก ก่อนหน้านี้เสวี่ยเอ๋อร์ช่วยเราไว้สองครั้ง เจ้าคิดว่าข้าใจร้ายเกินไปไหมที่ทิ้งนางไว้ที่นั่น? ข้าควรหันกลับไปช่วยนางไหม? ข้าพนันได้เลยว่าซือคุนจะต้องโกรธมากจนหัวระเบิดได้เหมือนภูเขาไฟ” แค่จินตนาการถึงก็เพียงพอที่จะทำให้ซูอันยิ้มได้แล้ว

“หืม? ที่รัก ทำไมเจ้าไม่พูดอะไรเลย?” ชายหนุ่มเริ่มสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาไม่ได้ยินเสียงของฉู่ชูเหยียนมาระยะหนึ่งแล้ว เขาจึงก้มศีรษะลงมองซึ่งก็เห็นผู้หญิงในอ้อมกอดของเขาหลับตาสนิทใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือด นางแทบจะไม่หายใจแล้วด้วยซ้ำ

ตั้งแต่นางใช้ทักษะต้องห้าม ชีวิตของนางก็เหมือนถูกแขวนอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา ถ้าไม่ใช่เพราะซูอันป้อนยารักษาของหมอเทวะจี้ไปเป็นจำนวนมากให้ นางก็คงหมดลมหายใจไปนานแล้ว

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ซูอันไม่รู้ก็คือการที่เขาเอาแต่อุ้มนางหนีไปเรื่อย ๆ โดยไม่พักทำให้นางไม่สามารถฟื้นฟูสภาพร่างกายได้เลย และยิ่งไปกว่านั้นตัวนางเองก็กังวลในความปลอดภัยของซูอันมาตลอดทาง และเมื่อตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็พ้นอันตรายแล้ว ความตึงเครียดของนางก็ผ่อนคลายลงส่งผลให้นางหมดแรงอย่างรวดเร็ว

“ที่รัก!” ซูอันอุทานด้วยความตื่นตระหนก

เขาอาจไม่ใช่หมอ แต่เขาสัมผัสได้ว่าพลังชีวิตของฉู่ชูเหยียนค่อย ๆ หายไป เขารีบหยิบยาออกมาอีกเม็ดหนึ่งแล้วป้อนเข้าไปในปากของนาง

“ไม่มีประโยชน์ เส้นลมปราณของนางถูกทำลาย ยาของเจ้ายื้อชีวิตนางไม่ได้นานหรอก!” แทบจะในทันทีหลังจากที่ซูอันป้อนยาเสร็จ ก็มีเสียงอันไพเราะดังขึ้นในทันใด และถึงแม้จะเป็นเสียงของผู้หญิงแต่น้ำเสียงนี้กลับแฝงไว้ด้วยพลังอำนาจที่ล้นเหลือ

“เสียงใคร?! ใครเป็นคนพูด!” ซูอันกวาดไฟฉายของเขาไปรอบ ๆ ถ้ำอย่างรวดเร็ว แต่ไม่เจอผู้ใดเลย ทันใดนั้นความเย็นยะเยือกอย่างน่าขนพองสยองเกล้าก็พุ่งลงมาที่กระดูกสันหลังของเขา ผีงั้นเหรอ? ผีที่ไม่ใช่ผีดิบพวกนั้น แต่เป็นวิญญาณจริง ๆ?

“เจ้าไม่จำเป็นต้องสนใจว่าข้าเป็นใคร ข้าจะถามคำถามเจ้าเพียงคำถามเดียว เจ้าต้องการที่จะรักษานางใช่หรือไม่?” เสียงนั้นเหมือนกระซิบเข้ามาในหูของเขา แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ฟังดูเหมือนมาจากสถานที่ห่างไกลเช่นกัน

“แน่นอน ข้าต้องการรักษานาง!” ซูอันตอบกลับ

“ดีมาก! จงเดินลึกเข้ามาอีกแล้วเจ้าจะพบกับสมุนไพรวิญญาณ เก็บพวกมันแล้วป้อนให้นางซะ จากนั้นเจ้าก็จะสามารถรักษาชีวิตของนางไว้ได้” เสียงอันไพเราะแนะนำ