ตอนที่ 290 เป็นชายสักหน

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

เมื่อ​เห็น​สายตา​ที่​สงสัย​ของ​แม่เล้า​ ​เจียง​ซื่อ​ทำท่า​ปัดฝุ่น​ที่​เดิม​ไม่มี​อยู่​บน​ชุด​ ​พลาง​พยักหน้า​ลง​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ ​“​เจ้า​พอ​เถอะ​ ​ข้า​ขอตัว​ล่ะ​”

“​หา​…​”​ ​แม่เล้า​อ้า​ปาก​หวอ​ ​ได้​แต่​กลืน​ความ​งงงวย​ลง​ไป

ก็​เหมือนก่อน​หน้า​นี้​ที่นาง​พูด​ ​ทำงาน​นี้​ก็​เพื่อ​เงิน​ ​พวก​นาง​ไม่จำเป็น​ต้อง​กังวล​และ​สงสัย​ใน​เรื่อง​อื่น

เจียง​ซื่อ​เดินผ่าน​แม่เล้า​ออก​ไป​ข้างนอก​ ​เหล่า​ฉิน​ที่อยู่​ห่าง​ออก​ไป​ประมาณ​คืบ​หนึ่ง​ ​เดินตาม​อยู่​เงียบๆ

ขณะที่​เดินผ่าน​แม่เล้า​ ​เหล่า​ฉิน​ชำเลืองตา​มอง​แม่เล้า​แวบ​หนึ่ง​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ไม่ได้​ส่งเสียง​พูด​อะไร​ ​ทว่า​แม่เล้า​กลับ​รู้สึก​เหมือน​ถูก​น้ำเย็น​ราด​ตั้งแต่​หัว​ลงมา​ ​ภายใน​ห้องโถง​อบอวล​ไป​ด้วย​บรรยากาศ​ขมุกขมัว​ ​มัน​รู้สึก​เหมือน​ตกลง​ไป​ใน​อุโมงค์​น้ำแข็ง​อัน​หนาวเหน็บ​ใน​ช่วง​ฤดูหนาว​ช่วงเดือน​สิบสอง​อย่างกะทันหัน

แม่เล้า​ริมฝีปาก​ซีดเซียว​โดยพลัน​ ​นัยน์ตา​ฉายแวว​ความกลัว​ออกมา

คน​เช่นนี้​ ​มือ​จะ​ต้อง​เคย​เปื้อน​เลือด​มา​แล้ว​แน่นอน​!

และ​เรื่อง​พวก​นี้​ก็​ไม่ใช่​เรื่อง​ที่นา​งค​วร​จะ​สงสัย

ถึงแม้ว่า​ตอนนี้​เหล่า​ฉิน​จะ​เดินตาม​เจียง​ซื่อ​ทัน​แล้ว​ ​เดิม​ไม่ได้​มอง​สีหน้า​ของ​แม่เล้า​ ​ทว่า​นาง​ก็​ยัง​เผย​รอยยิ้ม​ประจบ​เอาใจ​ออกมา

รีบ​ไป​เถอะ​พ่อ​คน​อำมหิต​ ​และ​หลังจากนี้​ก็​ไม่ต้อง​มา​อีก

เมื่อ​หันหน้า​ไป​เห็น​อิง​อิง​ที่​ยืน​จับ​ราวบันได​อยู่​ที่​ชั้นสอง​ ​แม่เล้า​ก็​หน้า​ชา​ไป​ครู่หนึ่ง

แย่​แล้ว​ ​นัง​เด็ก​นั่น​บอกว่า​พรุ่งนี้​ตอนค่ำ​อาจจะ​มา​อีก

แต่​ไม่นาน​แม่เล้า​ก็​สังเกต​ได้​ถึง​ความผิดปกติ​ ​เมื่อ​ครู่​เห็นได้ชัด​ว่า​เด็ก​นั่น​อยาก​เจอ​อิง​อิง​ ​ทว่า​เหตุใด​สุดท้าย​กลับ​ไม่สน​ใจ​ ​แล้ว​เดิน​ออก​ไปล่ะ

คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​แม่เล้า​ก็​นึกถึง​เด็กหนุ่ม​รูปงาม​ที่​เดินลง​มาจาก​บันได​คน​นั้น

เห็นที​ทั้งสอง​คน​นี้​ต้อง​มี​อะไร​แน่

แม่เล้า​รีบ​เดิน​เลียบ​บันได​ขึ้นไป​ชั้นสอง​อย่างรวดเร็ว​ ​แล้ว​เอ่ย​พูด​กับ​อิง​อิง​ออก​ไป​ ​“​เข้าไป​ใน​ห้อง​”

พอ​เข้าไป​ใน​ห้อง​อิง​อิง​ ​แม่เล้า​ก็​ถาม​ขึ้น​ ​“​คุณชาย​ที่​เพิ่ง​ออก​ไป​เมื่อ​ครู่​ ​ทำ​อะไร​กับ​เจ้าที่​นี่​”

อิง​อิง​ตะลึง​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​ออกมา​ ​“​มา​หม่า​พูด​เช่นนี้​ ​แขก​มาหา​ข้า​ ​ข้า​จะ​ทำ​อะไร​ได้​”

แม่เล้า​ใช้​สายตา​มอง​สังเกต​พินิจ​พิจารณา​อิง​อิง​ขึ้น​ลง​อย่างละเอียด​ ​ราวกับ​ไฟ​ที่​สว่างจ้า

อิง​อิง​ก้มหน้า​ลง​เล็กน้อย​ ​“​มา​หม่าม​อง​ข้า​เช่นนี้​หมายความว่า​อย่างไร​”

แม่เล้า​เอ่ย​ขึ้น​ช้าๆ​ ​“​เวลา​…​มัน​สั้น​ไป​หน่อย​รึเปล่า​”

คุณชาย​ผู้​นั้น​ดู​ไม่​เหมือน​ผู้​ที่​สวย​แต่​รูป​จูบ​ไม่​หอม​เลย​ ​เสร็จ​เร็ว​ขนาด​นี้​เชียว​หรือ​ ​เทียบ​ไม่ได้​กับ​เจ้า​โง่​แห่ง​หมู่บ้าน​หลิน​เหอ​ผู้​นั้น​เลย​ด้วยซ้ำ

พูดถึง​เจ้า​โง่​ ​ที่จริง​เขา​ไม่ได้​โง่​หรอก​ ​เพียงแค่​สมอง​เขา​ช้า​เท่านั้นเอง​ ​หาก​เกิด​ใน​ตระ​กู​ที่​ร่ำรวย​ก็​คง​ไม่มีผล​อะไร​หรอก​ ​แต่​น่า​เสียง​ดาย​ที่เกิด​มา​จน​จึง​ต้อง​ลำบาก​ ​ยังไง​โต​ขึ้น​ก็​ไม่มี​สตรี​คน​ไหน​ยอม​แต่งงาน​ด้วย

แต่​ถึงอย่างไร​ชาย​ที่​สมอง​ช้า​อย่างไร​ก็​เป็น​บุรุษ​ ​มีเงิน​ใน​มือ​เล็กน้อย​ก็​มาที​่​หอ​เยี​่​ยน​ชุน​แล้ว

แล้ว​โอกาส​หาเงิน​เช่นนี้​แม่เล้า​จะ​ปล่อยไป​ได้​อย่างไร​ ​เจ้า​โง่นั​้น​ไม่คู่ควร​ที่จะ​ได้​คณิกา​ที่​โดดเด่น​หรอก​ ​แต่​คณิกา​ที่​มีอายุ​หน่อย​นั้น​พอได้​อยู่

สุดท้าย​คณิกา​นาง​นั้น​ถูก​เจ้า​โง่​กระทำชำเรา​อยู่​ทั้งคืน​ ​จึง​วิ่ง​พลาง​ร้องไห้​ผมเผ้า​กระเซอะกระเซิง​ออกมา​

อะ​แฮ่ม​ๆ​ ​เห็นที​เจ้า​โง่​ก็​มี​ข้อดี​เมื่อ​เทียบ​กับ​ที่​คุณชาย​รูปงาม​จาก​ตระกูล​ร่ำรวย​เช่นนั้น​อยู่​เหมือนกัน

“​มา​หม่า​ ​ท่าน​กำลัง​พูด​อะไร​อยู่​!​”​ ​อิง​อิง​เอ่ย​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ตำหนิ

แม่เล้า​ดึง​สติ​ตัวเอง​กลับมา​ ​เปลี่ยนเป็น​น้ำเสียง​เย็นชา​ ​“​อิง​อิง​ ​คุณชาย​คน​นั้น​ไม่ธรรมดา​ ​เจ้า​อย่า​ได้คิด​อะไร​ที่​มัน​เป็นไปไม่ได้​นะ​”

อิง​อิง​ยิ้ม​ออกมา​จางๆ​ ​“​มา​หม่า​พูด​อะไร​กัน​ ​นี่​ไม่ใช่​ครั้งแรก​ที่​อิง​อิง​รับแขก​นะ​เจ้า​คะ​ ​ข้า​จะ​คิด​อะไร​กัน​”

“​งั้นก็​ดี​”​ ​แม่เล้า​ถึง​ได้​ลุกขึ้น​กลับ​ไป​ยัง​ห้องโถง​เพื่อ​ต้อนรับ​ส่ง​แขก

หลังจากที่​อวี​้​จิ​่น​ผู้​ไม่รู้​ตัว​ว่า​ถูก​นำ​ไป​เปรียบเทียบ​กับ​เจ้า​โง่​อยู่​ใน​ใจ​ของ​แม่เล้า​ได้​เดิน​ออกจาก​เรือ​บุปผา​ไป​ ​ก็​ไป​แอบ​รอ​อยู่​เงียบๆ​ ​ที่​ริมฝั่ง​ไม่​ไกล​นัก​ ​ในที่สุด​เจียง​ซื่อ​ก็​ออกมา

เจียง​ซื่อ​เห็น​เด็กหนุ่ม​ที่ซ่อน​ตัว​อยู่​ใน​ความมืด​ทันที​ ​มัน​เกิด​ความขัดแย้ง​ขึ้น​มา​ใน​ใจ​อย่างรวดเร็ว​ ​จะ​ไปหา​ดี​ ​หรือว่า​ควร​ทำเป็น​ไม่เห็น​

​นาง​แต่งกาย​เช่นนี้​ ​แถม​ยัง​แต่งหน้า​เพิ่ม​อีกด้วย​ ​บางที​เขา​อาจจะ​ดู​ไม่​ออก​ ​อาจ​เพียงแค่​รู้สึก​ว่า​คล้าย​กัน​ก็ได้​ ​ไม่ผิด​แน่​ ​ด้วย​นิสัย​ของ​อวี​้​ชี​แล้ว​ ​หาก​ตอนนั้น​ดูออก​ก็​คง​อุ้ม​นาง​ออก​ไป​แล้ว​ ​ไม่ใช่​เดิน​ออก​ไป​เฉยๆ​ ​เช่นนั้น

เจียง​ซื่อ​คิด​ในแง่​ดี​พลาง​มั่นใจ​ใน​ความคิด​ของ​ตน​ ​ทำเป็น​มองไม่เห็น​ก็​พอแล้ว​ ​อย่า​เอา​ตัวเอง​ไป​ติดกับ​เลย

นาง​คิด​เช่นนี้​พร้อมกับ​ทำ​สีหน้า​พอใจ​และ​ผ่อนคลาย​เช่นเดียวกับ​แขก​คนอื่นๆ​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​นวยนาด​ไป​ยัง​ทาง​ที่อยู่​ตรงข้าม​กับ​อวี​้​จิ​่น

อวี​้​จิ้น​มองตาม​ ​รู้สึก​ตงิดๆ​ ​ใจ​ขึ้น​มา​เล็กน้อย

ที่​เจอกัน​บน​เรือ​บุปผา​เมื่อ​ครู่​ ​เขา​กลัว​ว่า​คนอื่น​จะจะ​รู้ตัว​ตน​นาง​ ​จึง​พยายาม​ข่มอารมณ์​ไว้​ไม่​ให้​ปะทุ​ออกมา​ใน​ตอนนั้น​ ​แต่​ผลสุดท้าย​ ​ไม่​นึก​เลย​ว่านาง​จะ​ทำ​เหมือนว่า​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​!

เด็กหนุ่ม​สาวเท้า​ก้าวเดิน​ตาม​ไป​พร้อมกับ​ทำ​หน้าตา​บึ้งตึง​ ​จากนั้น​ก็​เข้าไป​ขวางทาง​เจียง​ซื่อ

เจียง​ซื่อ​ทำ​เสียงทุ้ม​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ ​“​พี่ชาย​ ​พวกเรา​รู้จัก​กัน​หรือ​…​”

คำพูด​ต่อมา​กลายเป็น​เสียง​ตกใจ

อวี​้​จิ​่​นนำ​ตัวนาง​ขึ้น​มา​พาดบ่า​ ​พลาง​เอ่ย​เสียง​เบา​ ​“​เดี๋ยว​ก็​รู​็​ว่า​รู้จัก​หรือไม่​รู้จัก​!​”

เหล่า​ฉิน​พุ่งตัว​เข้ามา

​เขา​รู้จัก​อวี​้​จิ​่น​และ​รู้​ว่าความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​ทั้งสอง​ไม่ธรรมดา​เล็กน้อย​ ​แต่​ไม่ว่า​จะ​ไม่ธรรมดา​อย่างไร​ ​การเคลื่อนไหว​ที่อยู่​ตรงหน้า​ก็ได้​เกิดขึ้น​แล้ว

มี​มือ​ข้าง​หนึ่ง​วาง​ลง​บน​บ่า​ของ​เหล่า​ฉิน​ ​หลง​ต้าน​ยิ้ม​พลาง​เอ่ย​พึมพำ​ ​“​เจ้า​น่าจะ​รู้​ว่า​อะไร​ควร​ไม่​ควร​ ​เรื่อง​ของ​เจ้านาย​พวกเรา​จะเข้า​ไป​ยุ่ง​ทำไม​กัน​ ​หาก​ไม่สบายใจ​ ​เช่นนั้น​พวกเรา​มาป​ระ​ลอง​กัน​ไหม​”

อวี​้​จิ​่น​แบก​เจียง​ซื่อ​เข้าไป​ใน​ป่า​ ​แล้ว​เอ่ย​กำชับ​ออก​ไป​โดย​ไม่​หันกลับ​มาม​อง​ ​“​อย่า​ทำให้​มัน​เอิกเกริก​ไปล่ะ​”

ป่า​ขนาดเล็ก​ริมแม่น้ำ​จิน​สุ่ย​ทั้ง​มืด​และ​เงียบ​ ​ทำให้​ได้ยิน​เสียง​ลมหายใจ​ดัง​ขึ้น​เป็นระยะๆ

บางครั้ง​เสียง​พวก​นั้น​ก็​อ่อนหวาน​นุ่มนวล​ ​บางครั้ง​ก็​เจ็บปวด​ทรมาน​ ​ซาบซึ้ง​กินใจ​ ​ไพเราะ​เพราะพริ้ง​เนื่องจาก​เห็น​หน้า​ไม่ชัด​ ​จึง​ทำให้​ผู้​ที่​ได้ยิน​ใจสั่น​ไหว

อวี​้​จิ​่​นก​ลับ​ทำหูทวนลม​ ​พลาง​เงยหน้า​ขึ้น​อาศัย​แสงจันทร์​ทำให้​มองเห็น​ต้นไม้​ใหญ่​ที่​มี​กิ่งก้าน​งอกงาม​ออกมา​ ​เขา​เปลี่ยน​จาก​แบก​มา​เป็น​อุ้ม​ ​โดย​ใช้​มือ​ข้างเดียว​กอด​ไว้​แน่น​ ​ส่วน​มือ​อีก​ข้าง​อาศัย​เกาะ​กิ่งไม้​ที่​ยื่น​ออกมา​ ​ไม่นาน​ก็​ขึ้น​มา​อยู่​บน​ต้นไม้

กว่า​เจียง​ซื่อ​จะ​รู้สึกตัว​ ​ก็​ถูก​นำ​ตัว​มา​วาง​ลง​บน​กิ่งไม้​แล้ว

“​เจ้า​ว่า​มาสิ​ว่า​พวกเรา​รู้จัก​กัน​หรือไม่​”​ ​อวี​้​จิ​่น​หันมา​พร้อมกับ​ลมหนาว​ใน​ฤดูใบไม้ร่วง​ที่​โชย​มา

ท่ามกลาง​ความมืด​สลัว​ ​สามารถ​เห็น​ได้​เพียงแค่​ดวงตา​ที่​เปล่งประกาย​คู่​นั้น

เปล่งประกาย​ขนาด​นั้น​ ​คงจะ​เป็น​เพราะ​ความโกรธ

เจียง​ซื่อ​นึก​ขึ้น​ได้​จึง​ขยับตัว​ ​“​พวกเรา​อาจ​ตกลง​ไป​ได้​…​”

“​ใคร​บอก​ให้​เจ้า​ขยับ​!​”​ ​อวี​้​จิ​่น​ตะโกน​ด่า​ออก​ไป​ ​พร้อมกับ​พลิกตัว​อุ้ม​นาง​มา​วาง​บน​ตัก​แล้ว​กอด​ไว้​แน่น​ ​“​คุณหนู​เจียง​ ​แต่งตัว​เช่นนี้​มา​เดินเล่น​ที่​แม่น้ำ​จิน​สุ่ย​ ​เจ้า​นี่​มีเรื่อง​ไม่​คาดคิด​ให้​ข้า​ได้​ตลอด​จริงๆ​ ​นะ​”

ที่​เดิม​งั้น​รึ​ ​นึกไม่ถึง​เลย​ว่านา​งกับ​แม่เล้า​จะ​มีที​่​เดิม​!

เด็ก​คน​นี้​หาก​ไม่​ทำให้​เขา​โกรธ​คงจะ​อยู่ไม่สุข​สินะ

อวี​้​จิ​่น​ยิ่ง​คิด​ก็​ยิ่ง​โมโห​ ​แผง​อก​กว้าง​ทว่า​กลับ​บางเบา​เผย​ให้​เห็น​ว่า​มัน​กระเพื่อม​ขึ้น​ลง

เจียง​ซื่อ​รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​กำลัง​นั่ง​อยู่​ท่ามกลาง​ความมืด​มิด​ที่​มอง​อะไร​ไม่เห็น​สัก​อย่าง​ ​และ​ถูก​เขย่า​จน​ทั้ง​ร่าง​อ่อนปวกเปียก

“​บอก​ข้า​เรื่อง​ที่​เดิม​ของ​พวก​เจ้า​มา​”​ ​อวี​้​จิ​่​นก​้​มห​น้า​ลง​เล็กน้อย​ ​ลมหายใจ​ที่​ร้อนผ่าว​พ่น​ออกมา​รด​ที่​แก้ม​ของ​เจียง​ซื่อ

เจียง​ซื่อ​เอียง​หัว​ ​แล้ว​เอ่ย​พูด​ด้วย​ความไม่พอใจ​ ​“​ท่าน​อ๋อง​ ​นี่​คือ​ผู้ปกครอง​สามารถ​ทำผิด​ได้​ ​แต่​สามัญชน​ต้อง​ทำ​แค่​เรื่อง​ที่​ถูกต้อง​งั้น​หรือ​ ​เมื่อ​ครู่​ข้า​เหมือน​เห็น​ว่า​ท่าน​ออกมา​จาก​ห้อง​ของ​แม่นาง​อิง​อิง​”

“​นี่​เจ้า​รู้​ด้วย​รึ​ว่า​อันดับ​หนึ่ง​ของ​หอนาง​โลม​นั่น​ชื่อ​อิง​อิง​”​ ​อวี​้​จิ​่น​โกรธ​จน​หน้านิ่วคิ้วขมวด

เวลานี้​สายตา​ได้​ชิน​กับ​ความมืด​ไป​แล้ว​ ​เจียง​ซื่อ​เห็น​สีหน้า​ที่​เต็มไปด้วย​ความโกรธ​ของ​อีก​ฝ่าย​ได้​อย่างชัดเจน​จึง​เงยหน้า​ขึ้น​ ​“​แล้ว​มัน​เป็น​เช่นไร​”

อวี​้​จิ​่น​ใช้​มือ​ข้าง​หนึ่ง​โอบ​เอว​นาง​ไว้​ ​ส่วน​อีก​ข้าง​ประคอง​ไว้​ที่​ท้ายทอย​ ​จากนั้น​ก็​จูบ​ลง​ไป​อย่างหนัก​หน่วง

สามัญชน​ต้อง​ทำ​แค่​เรื่อง​ที่​ถูกต้อง​บ้าบอ​อะไร​กัน​ ​ต่อหน้า​นาง​เขา​เป็น​แค่​สามัญชน​ที่​ยากจน​ชัดๆ

วันนี้​หาก​เขา​ไม่เอา​คืน​ ​ก็​อย่า​ได้​เป็น​บุรุษ​อีก​เลย​!