“ไม่ใช่ ฉันไม่ใช่แฟนของเขาค่ะ” เฉินฮวนฮวนพูดออกมาทันที
เธอไม่ได้เป็นแฟนของเฟิงหานชวนจริง ๆ แต่เป็นภรรยาของเฟิงหานชวน พวกเขามีทะเบียนสมรสกัน
แต่ว่าถ้าหากเธอพูดออกมา แบบนั้นจะ…
“ไม่ใช่เหรอ?” คุณหนีซวงสีหน้าผิดหวังในทันที น้ำเสียงของเธอยังแฝงไปด้วยความดูถูก
ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าที่แท้เฉินฮวนฮวนก็แค่ผู้หญิงที่เฟิงหานชวนเลี้ยงดูคนหนึ่งเท่านั้นแหละ งั้นก็ไม่มีอะไรน่ากลัวแล้ว
ก็แค่ผู้หญิงที่พาไปออกหน้าออกตาไม่ได้
“ค่ะ ไม่ใช่ค่ะ” เฉินฮวนฮวนส่ายหน้าช้า ๆ และก็ไม่ได้อธิบายอะไรมากเกินไป
ตอนนี้เธอสับสนมาก สับสนมากจริง ๆ
เธอรู้ว่าเฟิงหานชวนดีกับเธอ แต่ความดีแบบนี้ เธอไม่ต้องการ
ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ผิดชอบชั่วดี แต่เธอมีเหตุผลของตัวเอง
“ครูหนีคะ ฉันขอไปเอาโทรศัพท์มือถือที่คุณน้าคุมหอโทรหาเฟิงหานชวนได้ไหมคะ?” เธอมีเรื่องจะคุยกับเฟิงหานชวนให้ชัดเจน
“อืม ก็ได้ เธอจำไว้ว่าอย่าให้คนอื่นเห็น ไม่อย่างงั้นคนอื่นจะพูดได้ว่าฉันไม่ยุติธรรม เพราะตามหลักแล้วไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์” รอยยิ้มบนใบหน้าของคุณหนีซวงหายไปนานแล้ว สีหน้าของเธอเคร่งขรึมขึ้นเยอะ
“คุณวางใจได้ค่ะ ฉันจะรีบคุยให้เสร็จ” เฉินฮวนฮวนรีบออกจากห้องทำงาน แล้ววิ่งไปทางหอพัก
ได้รับการยินยอมจากคุณหนีซวง คุณน้าหวังคนคุมหอพักเอาโทรศัพท์ของเฉินฮวนฮวนให้เธอ เฉินฮวนฮวนป้องกันไม่ให้คนอื่นเห็น จึงหลบไปโทรศัพท์อยู่ตรงมุมหนึ่ง
ในไม่ช้าก็ต่อสายติด
“อาหาน ฉันเองค่ะ” น้ำเสียงของเฉินฮวนฮวนรีบร้อนมาก
“ผมรู้” เฟิงหานชวนหัวเราะเบา ๆ แน่นอนว่าเขารู้ว่าเป็นเฉินฮวนฮวน ถึงแม้จะไม่ได้ดูชื่อ แค่ได้ยินเสียงก็สามารถฟังออกได้
“คุณโทรหาผู้อำนวยการของหวาเถิงให้ทีมงานดูแลฉันเป็นพิเศษใช่ไหมคะ?” เฉินฮวนฮวนพูดตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม
บริษัทหวาเถิงคือผู้จัดการแข่งขันของการคัดเลือกไอดอลในครั้งนี้ เป็นบริษัทบันเทิงชั้นนำของจีน
“ใช่ ผมไม่อยากให้คุณเหนื่อย ดังนั้นจึงบอกพวกเขาไป” ประเด็นหลักก็คือเฉินฮวนฮวนเข้าไปเป็นตัวสำรองชั่วคราว เฟิงหานชวนเกรงว่าจะมีเรื่องที่ไม่ค่อยสะดวก
“อาหาน ฉันขอบคุณคุณมากค่ะที่ช่วยฉัน แต่ว่าฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ และฉันก็ไม่ได้หวังว่าคุณจะช่วยฉัน” เฉินฮวนฮวนรู้ว่าตัวเองเป็นแบบนี้ใจดำเกินไป แต่ท่าทางของเธอเด็ดเดี่ยวมาก
เธอรู้สถานะของเฟิงหานชวน และก็รู้ว่าเฟิงหานชวนเป็นผู้ชายที่ดีเลิศขนาดไหน ยิ่งไปกว่านั้นเธอรู้ว่าเพียงแค่คำพูดประโยคเดียวของเฟิงหานชวน เธอก็สามารถมีชื่อเสียงในรายการคัดเลือกไอดอลได้
แต่ว่าที่เธออยากได้มันไม่ใช่แบบนี้
เธออยากใช้ความพยายามของตัวเอง อยากเป็นคนที่ดีเลิศ แทนที่จะเป็นเหมือนเหล่าศิลปินหญิงที่ขายร่างเพื่อเงิน พึ่งพาผู้ชายแลกกับตำแหน่ง
เธออยากที่จะให้ตัวเองเก่งขึ้น แบบนี้ตัวเองถึงจะมีสิทธิ์ยืนอยู่ข้างเฟิงหานชวน แน่นอนว่าเธอไม่ได้เพียงแค่เข้าร่วมการคัดเลือกไอดอลเพื่อที่จะได้คู่ควรกับเฟิงหานชวน
ดังนั้นถ้าเฟิงหานชวนเข้าแทรกการคัดเลือกของเธอ แบบนั้นเธอจะไม่มีทางประสบความสำเร็จได้ด้วยความสามารถของตัวเอง เพราะว่าไม่ว่าจะมากหรือน้อย เธอจะขาดความช่วยเหลือจากเขาไม่ได้อีก
แบบนั้นแล้ว ถึงเธอจะพยายามยังไง ถึงสุดท้ายแล้วเธอมีชื่อเสียง งั้นเธอจะไม่รู้สึกถึงความสำเร็จใด ๆ จะไม่มีทางรู้สึกว่าตัวเองเก่ง
“ฮวนฮวน การกระทำของผม ทำให้คุณโกรธมากใช่ไหม?” เฟิงหานชวนเข้าใจความหมายของเฉินฮวนฮวน จู่ๆ ก็อารมณ์เสียเล็กน้อยที่เข้าไปแทรกแซงในเรื่องนี้
เขาพูดเบา ๆ น้ำเสียงแสดงความขอโทษ “ผมแค่เป็นห่วงคุณ”
“อาหาน เมื่อกี้ครูหนีถามฉัน ว่าฉันเป็นแฟนของคุณใช่ไหม ฉันตอบว่าไม่ใช่ แต่ฉันก็ไม่ได้พูดว่าตัวเองเป็นภรรยาของคุณ”
เฉินฮวนฮวนเม้มปาก แล้วพูดต่อ “เธอไม่ได้ถามต่อ คุณบอกว่าพวกเราเป็นแค่เพื่อนกัน ให้รายการปฏิบัติต่อฉันอย่างยุติธรรม ไม่ต้องดูแลเป็นพิเศษ”
ศอกของเฟิงหานชวนวางอยู่บนโต๊ะทำงาน เขาบิดจมูก สูดลมหายใจเข้าลึก แล้วตอบกลับ “ตกลง เอาตามที่คุณว่า”
“ฉันคุยกับคุณนานเกินไม่ได้ ฉันวางสายก่อนนะคะ เจอกันอีกครึ่งเดือนหลัง” เฉินฮวนฮวนถึงแม้ว่าจะรู้สึกเศร้า แต่เธอไม่สามารถคุยกับเฟิงหานชวนได้อีกต่อไป
เธอตัดไฟตั้งแต่ต้นลมดีกว่า ไม่ได้รอให้เฟิงหานชวนตอบกลับ เธอก็วางสายโทรศัพท์ไป แล้วปิดมือถือ ยื่นให้กับคุณน้าหวังคนคุมหอพัก
ฟังเสียง “ตู๊ดตู๊ดตู๊ด” ที่ปลายสายอีกด้านของโทรศัพท์ เฟิงหานชวนสีหน้าเคร่งขรึมลง
เดิมทีเขานึกว่าเฉินฮวนฮวนจะดีใจ แต่คิดไม่ถึงว่าเขายังรู้จักเธอไม่มากพอ
แต่เวลาที่พวกเขารู้จักกันก็สั้นเกินไปจริง ๆ เขาไม่รีบร้อน เรื่องพวกนี้ค่อยเป็นค่อยไป
ในเมื่อเฉินฮวนฮวนไม่อยากให้เขาเข้าแทรกเรื่องนี้ งั้นเขาก็ทำในสิ่งที่เฉินฮวนฮวนต้องการ เขาเปิดบันทึกรายชื่อขึ้น โทรหาผู้อำนวยการของหวาเถิงอีกครั้ง
…
ในตอนที่เฉินฮวนฮวนเดินเข้าห้องเรียนนั้น เดิมทีทุกคนที่ตั้งใจเต้นกันอยู่ จู่ ๆ แต่ละคนก็หยุดเคลื่อนไหว สายตานับไม่ถ้วนมองมาทางเธอ
เธอมีลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมาในทันที หรือว่าทุกคนรู้ความสัมพันธ์ของเธอกับเฟิงหานชวนแล้ว?
“เฉินฮวนฮวน ผู้อำนวยการหนีพาเธอไปห้องทำงาน คุยอะไรกับเธอเหรอ?” ซูเวยหยุดเพลงแจ๊ซลง แล้วเดินไปทางเฉินฮวนฮวน ถึงแม้จะจี้ถาม แต่น้ำเสียงอ่อนโยนเป็นอย่างมาก
ในเมื่อเป็นนักเรียนฝึกหัดที่หนีซวงยิ้มรับ ซูเวยไม่กล้าชี้นิ้วสั่งเฉินฮวนฮวนอีก
“ครูหนีคุยกับฉันเกี่ยวกับเรื่องการคัดเลือก ฉันมาใหม่ ดังนั้นครูหนีจึงอธิบายกับฉันเพียงลำพังค่ะ” เฉินฮวนฮวนอธิบายคลุมเครือ
ดูท่าว่าทุกคนไม่รู้ว่าหนีซวงเรียกหาเธอเพราะอะไร อาจจะแค่สงสัยเฉย ๆ ดังนั้นพวกเขาจึงแสดงความประหลาดใจต่อเธอ
“จริงเหรอ? งั้นเธอได้พูดนินทาฉันกับหล่อนไหม?” ซูเวยหรี่ตามองเธอไปที่เฉินฮวนฮวน
ตอนเฉินฮวนฮวนเพิ่งเข้ามา เธอมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อเฉินฮวนฮวน แต่ว่าเด็กที่ไม่รู้จักหนักเบาคนนี้ จะถือโอกาสไปฟ้องหนีซวง
“ครูซูคะ ฉันจะไปนินทาครูได้ยังไงคะ?” เฉินฮวนฮวนรู้สึกตลกมา
เธอนึกว่าซูเวยกร่างขนาดนี้ ไม่กลัวนรกสวรรค์ คิดไม่ถึงว่าจะกลัวหนีซวง
“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันก็แค่ถามเฉยเฉย เช้าวันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี ร้ายกับเธอไปหน่อย เธออย่าเก็บไปใส่ใจนะ” จู่ ๆ ซูเวยก็หัวเราะขึ้นมา แล้วยื่นมือออกมาตบบ่าของเฉินฮวนฮวน เหมือนกับสนิทสนมกับเธอ
สำหรับการเปลี่ยนแปลงของซูเวย เฉินฮวนฮวนรู้สึกระแวงเล็กน้อย
ซูเวยมองดูเธอ ไม่เห็นมีอะไรแปลกไป จึงให้เฉินฮวนฮวนกลับไปตำแหน่งของตัวเอง
เธออยากจะรู้ว่าเฉินฮวนฮวนเป็นใคร เป็นไปไม่ได้ที่หนีซวงจะต้อนรับนักเรียนฝึกหัดคนใหม่ด้วยความยินดีอย่างไร้ที่มาที่ไป ไม่แน่เฉินฮวนฮวนอาจจะมีเบื้องหลังอะไรอยู่จริง ๆ
ตอนนี้ซูเวยไม่กล้าละเลยเฉินฮวนฮวนอีกต่อไป ในชั่วโมงถัดไปของการเรียน เธอดูแลเฉินฮวนฮวนเป็นพิเศษอีกด้วย
เฉินฮวนฮวนถูกซูหนิงจ้องมอง แต่ก็ไม่คิดจะอวดฝีมือของตัวเอง ดังนั้นจึงแกล้งทำเป็นเรียนรู้ ในความเป็นจริงเหนื่อยมาก
เพราะว่าเธอต้องแสร้งทำเป็นว่าไม่ได้เรียนรู้มากเกินไป บางครั้งยังต้องตั้งใจทำท่าทางผิด
“เฉินฮวนฮวน ความสามารถในการเรียนรู้ของเธอค่อนข้างดีนี่ พัฒนาได้เร็วมาก ดีมาก สู้ ๆ แล้วกัน!” ซูเวยพูดให้กำลังใจบางครั้งคราว
ในความเป็นจริง ในใจของเธอดูถูกเฉินฮวนฮวนเป็นอย่างมาก รู้สึกว่าเฉินฮวนฮวนไม่ได้มีความสามารถอะไรเลย
ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีเส้นสาย เธอมั่นใจว่าเฉินฮวนฮวนจะต้องกลับไปแน่นอน
“ขอบคุณค่ะครูซู” เฉินฮวนฮวนยิ้มอ่อน จากนั้นก็เต้นตามจังหวะต่อ
เด็กฝึกหัดคนอื่นเหลือบมองเฉินฮวนฮวน บางคนก็แอบมองเฉินฮวนฮวนในกระจก บางคนก็หันไปมองโดยตรง เฉินฮวนฮวนแทบจะเป็นจุดเด่นในห้องเรียน
พวกเธอมองเฉินฮวนฮวนเต้นไปด้วย แอบแสดงความรังเกียจทางสายตาไปด้วย
บางคนถึงกับแอบพูดประโยคหนึ่ง “เต้นบ้าบออะไร!”
เฉินฮวนฮวนได้ยินแล้ว แต่ท่วงท่าของเธอไม่ได้หยุดลง และก็ไม่ได้แสดงสีหน้าออกมา
(ผู้เขียนพูดนอกเรื่อง) : วันนี้เป็นวันศุกร์ คนน่ารักทั้งหลายหยุดงานกันแล้วยัง?
วันนี้นักเขียนวางแผนจะอัปเดตอีกหนึ่งตอน น่าจะประมาณสี่ทุ่มครึ่ง ขอตั๋วเงินสนับสนุนหน่อย!
ฮวนฮวนมีแผนของตัวเอง เธอจะแกล้งทำไขสือ