บริษัทอาร์
ห้องทำงานประธาน
เซี่ยฉิงเคาะประตู และได้ยินเสียงเย็นชาสองคำ “เข้ามา”
เธอชินกับนิสัยแบบนี้ของเฟิงหานชวนแล้ว เปิดประตูเดินเข้าไป เดินตรงไปหน้าโต๊ะทำงาน นำเอกสารปึกหนึ่งวางบนโต๊ะ
เวลานี้เฟิงหานชวนไม่ได้นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน แต่ยืนอยู่ข้างหน้าหน้าต่าง ในมือยังจับมือถืออยู่ เหมือนเพิ่งวางสายไป
หลังจากที่เห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นเมื่อสองวันก่อน สภาพการทำงานของเธอในวันนี้ก็แย่มาตลอด
ในหัวเธอเต็มไปด้วยเรื่องของเด็กผู้หญิงคนนั้น เป็นผู้หญิงของเฟิงหานชวนหรือเปล่ากันแน่ ทำไมถึงปรากฏตัวห้องทำงานประธาน ทั้งสองคนมีความเกี่ยวข้องอะไรกันแน่
คำตอบเป็นที่แน่ชัดแท้ๆ แต่เธอกลับไม่ยอมรับความจริงมาตลอด ถึงขนาดยังคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นไม่เกี่ยวอะไรกับเฟิงหานชวน
“ประธานเฟิง เอกสารที่คุณต้องการ วางบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว” เซี่ยฉิงเม้มริมฝีปาก มองด้านหลังของชายหนุ่ม พูดรายงาน
ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยง เป็นตอนที่แสงแดดเจิดจ้าที่สุดของวัน แสงแดดส่องอยู่บนตัวของเฟิงหานชวน เสริมให้เขาดูสูงใหญ่ขึ้น
เซี่ยฉิงเหมือนมองจนเคลิบเคลิ้มไป
เธอรู้ประธานเฟิงหลายปีมานี้ เป็นโสดมาตลอด ไม่เคยคบกับผู้หญิง ถึงขั้นไม่ยอมให้ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้
แม้ว่าวันธรรมดาเธอก็ไม่สามารถเข้าใกล้เขา ทำงานทุกครั้ง เขาเพียงแค่สั่งอย่างเย็นชา ไม่มีคำพูดมากเกิน เซี่ยฉิงผิดหวังทุกครั้ง
ถ้าหากวันใด เฟิงหานชวนพูดกับเธอมากขึ้นหนึ่งประโยค วันนั้นเธอก็จะมีความสุขมากๆ มีความสุขจนนอนไม่หลับ
แต่ความน่าจะเป็นนี้ เหมือนหลังจากเธอเข้าทำงาน เคยมีแค่สองถึงสามครั้งมั้ง
“ออกไปเถอะ” เฟิงหานชวนมองไปที่ไกลๆ น้ำเสียงยังเย็นชาเหมือนเดิม
ปฏิบัติติต่อคนอื่น เขาไม่เคยพูดอะไรมาก เฉินฮวนฮวนเป็นข้อยกเว้นเดียว
เขาก็ไม่เคยคิด วันหนึ่งตัวเองจะตกอยู่ในกำมือของผู้หญิง
แต่เขาไม่ได้รู้สึกเสียใจภายหลัง แต่กลับมีความสุขมาก เพียงแต่วันนี้เฉินฮวนฮวนตัดไมตรี ทำให้เขาผิดหวังเล็กน้อย
ถ้าหากเปลี่ยนเป็นผู้หญิงคนอื่น คบกับเขา กลายเป็นภรรยาของเขา ควรจะอยากประกาศให้โลกรู้จนทนไม่ไหวสิ
แต่เฉินฮวนฮวนต่างออกไป เธอไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น เฟิงหานชวนไม่เข้าใจความคิดของเธอ มีความรู้สึกพ่ายแพ้ลึกๆ
เดิมนึกว่าเขาช่วยเธอ เธอจะมีความสุข เธอจะมาขอบคุณเขาเหมือนลูกแมว เหมือนที่เขาพาเธอไปแย่งคฤหาสน์ตระกูลเฉิน เวลาที่สั่งสอนคนในตระกูลเฉิน
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน
“ค่ะ ประธานเฟิง” เซี่ยฉิงรู้ตัวเองส่งเอกสารเสร็จ จะได้รับแค่สามคำนี้ เคยชินจนเห็นเป็นเรื่องปกติ
เธอปกปิดความหงอยเหงาไว้นัยน์ตา หมุนตัวเตรียมจะออกไป กลับถูกเฟิงหานชวนเรียกไว้กะทันหัน
“เลขาเซี่ย รอเดี๋ยว” เฟิงหานชวนหันกลับมา มองไปทางเซี่ยฉิง
มือทั้งสองของเขาล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกงสแล็ค ยืนย้อนแสงกลับดูหล่อขึ้น แสงแดดสาดอยู่บนหน้าด้านข้างของเขา คนทั้งคนเหมือนมีกลิ่นอายของการเป็นมนุษย์
เซี่ยฉิงมองอย่างตื่นตะลึง
เฟิงหานชวนเมื่อก่อน ก็เหมือนประติมากรรมชิ้นหนึ่ง มองไม่เห็นพลังชีวิตใดๆ แต่ครั้งนี้ต่างไป เธอรู้สึกเฟิงหานชวนเหมือนจากเทพกลายเป็นมนุษย์แล้ว
และเมื่อกี้เฟิงหานชวนเรียกเธอไว้ ยังให้เธอ “รอเดี๋ยว?”
คำนี้ เฟิงหานชวนไม่เคยพูดกับเธอมาก่อน ตอนนี้หัวใจของเซี่ยฉิงถูกกระชากขึ้นสูง รอคำพูดหลังจากนี้ของเฟิงหานชวนด้วยใบหน้าคาดหวัง
“ประธานเฟิงมีเรื่องอะไรเหรอคะ?” เธอรอไม่ไหว เอ่ยถามอย่างร้อนอกร้อนใจ
“คุณเคยมีแฟนไหม ?” จู่ ๆ เฟิงหานชวนถามประโยคนี้ออกไป
หลังจากถามเสร็จ เขาหุนหันพลันแล่นไปหน่อย ถามเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องแบบนี้กับลูกน้อง ดูไม่ค่อยเหมาะสมหรือเปล่า ?
“อุ๊ย ประธานเฟิง คุณ…ทำไมจู่ ๆ คุณถามคำถามนี้กับฉัน?” เซี่ยฉิงตะลีตะลานขึ้นทันที หัวใจเริ่มเต้นแรง
หรือว่าเฟิงหานชวนจะสนใจเธอ ? เพราะงั้นถึงถามคำถามนี้กับเธอ ?
“ไม่มีอะไร เดิมมีเรื่องอยากขอคำแนะนำหน่อย” น้ำเสียงเฟิงหานชวนเฉยชามาก
เขาเดินไปที่โต๊ะทำงาน พร้อมกับพูดว่า “ออกไปเถอะ”
หัวใจของเซี่ยฉิง เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง ถูกสองประโยคของเฟิงหานชวนทำให้ไม่สบายใจอย่างมาก
แต่เธอเข้าใจความหมายของเฟิงหานชวน เฟิงหานชวนไม่ได้สนใจเธอ แต่อยากหาคนมาซักถาม
“ฉันเคยมีแฟน ประธานเฟิง คุณอยากถามอะไร สอบถามได้ค่ะ” เซี่ยฉิงพูดออกไปอย่างกังวล “ฉันสามารถนำสิ่งที่ฉันรู้ บอกคุณทั้งหมด”
เธอฉลาดมาก เธอเข้าใจเฟิงหานชวนหมายถึงอะไร ดังนั้นตามความหมายของเฟิงหานชวน เธอรู้ว่าตัวเองควรตอบกลับยังไง
เดิมเฟิงหานชวนไม่คิดจะถาม แต่เซี่ยฉิงเอ่ยปาก เขาครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ แล้วเอ่ยถาม “เวลาที่คุณกับแฟนอยู่ด้วยกัน คิดอยากจะเปิดเผยไหม?”
“เปิดเผย?” รูม่านตาของเซี่ยฉิงขยายใหญ่ แสดงสีหน้าตกใจออกมาบนใบหน้า
แต่เธอปกปิดสีหน้าไว้อย่างรวดเร็ว พยายามทำตัวนิ่ง ตอบกลับว่า “เรื่องนี้ต้องดูสถานการณ์ แต่ฉันรู้สึก ถ้าหากคบกันจริงจังละก็ จะเลือกเปิดเผย ให้คนใกล้ตัวและเพื่อนๆ ได้รู้ แม้แต่คนอื่นก็รับรู้”
“คุณเคยเจอแฟนที่ไม่ยอมเปิดเผยไหม?” เฟิงหานชวนถามอีก สีหน้าดูจริงจังอย่างเห็นได้ชัด
“แฟนที่ไม่ยอมเปิดเผย?” เซี่ยฉิงนิ่งไป ตามมาด้วยการพยักหน้า พูดตรงไปตรงมา “ฉันเคยเจอ ตอนเรียนมหาลัยที่ต่างประเทศ ตอนแฟนเก่ากับฉันคบกัน ไม่ยอมเปิดเผย”
เธอไม่มีความจำเป็นต้องปกปิด ความสัมพันธ์ครั้งนั้น เพื่อนในชั้นหลายคนของเธอก็รู้
“เหตุผลที่เขาไม่ยอมเปิดเผยคืออะไร ?” เฟิงหานชวนถาม
ตอนนี้เฉินฮวนฮวนกับเขาก็เป็นแบบนี้ เฉินฮวนฮวนไม่ยอมเปิดเผย ไม่อยากยอมรับความสัมพันธ์กับเขา
“เพราะเขาไม่มั่นใจจะคบกับฉัน ท่าทีเริ่มต้นอาจจะเพียงแค่อยากทดลอง เพราะฉะนั้นตอนนั้นเขายื่นข้อเสนอว่าจะแอบคบกัน ยังไม่เปิดเผย ฉันเลยรับปาก”
“ต่อมา ฉันรู้สึกตัวเองชอบเขามาก และรู้สึกความรู้สึกพวกเราค่อนข้างมั่นคง ฉันอยากเปิดเผย และเพื่อนของฉันก็รู้ว่าเราคบกันอยู่ ฉันก็เลยเสนอเขา หลังจากนี้ไม่ต้องแอบเดทกันแล้ว หรือทำเหมือนเป็นเพื่อนอะไรแบบนั้น”
“ใครจะรู้เขาทะเลาะอย่างรุนแรงกับฉัน ถ้าหากฉันต้องการเปิดเผย เขาก็จะเลิกกับฉัน ภายหลังฉันถึงรู้ ในใจเขามีแฟนเก่าเขาอยู่เสมอ แฟนเขานอกใจเขา เขาถึงเลิกกัน”
“เพื่อจะได้เขากลับมา ฉันจงใจหาเรื่องเลิก เพราะรู้ว่าเขากลับไปหาแฟนเก่าคนนั้น ฉันผิดหวังในตัวเขามาก เดิมคิดอยากเลิกกันเล่นๆ ผลคือเลิกกันจริงๆ”
ประสบการณ์รักนี้ เซี่ยฉิงไม่ได้แต่งขึ้นมามั่วๆ นี่เป็นเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นกับเธอ ดังนั้นตอนเฟิงหานชวนถาม เธอพูดออกมาจากใจ
เธอไม่รู้เฟิงหานชวนถามพวกนี้กับเธอเพราะอะไรกันแน่ ตอนนี้ เธอเอาตัวเองเป็นแค่เด็กสาวที่เคยเจ็บคนหนึ่ง ระบายความในใจกับเฟิงหานชวน
แต่ ที่เธอได้มาไม่ใช่การปลอบใจจากเฟิงหานชวน แต่เป็นใบหน้าผู้ชายที่มืดมนสุดขีด
“พอแล้ว คุณออกไปก่อนเถอะ” น้ำเสียงของเฟิงหานชวนยังคงเย็นชาเหมือนเดิม ไม่มีความรู้สึกเห็นใจหรือสงสารเลย
เซี่ยฉิงรู้สึกว่าในใจกระตุกไปทีหนึ่ง หรือว่าเพราะตัวเองเคยมีแฟน ดังนั้นเฟิงหานชวนเลยไม่ชอบเธอ?
เขาไม่ชอบผู้หญิงที่เคยผ่านความรักมาเหรอ?
หรือว่า เขาไม่ได้ตั้งใจถามประสบการณ์ความรักของเธอ แต่แค่อยากฟังประสบการณ์คนอื่นมาอ้างอิงเท่านั้น ?
จู่ ๆเซี่ยฉิงก็ค้นพบ คำตอบอาจจะเป็นอย่างหลัง
“ประธานเฟิง ทำไมจู่ ๆ คุณถามพวกนี้? คุณมีแฟนแล้ว กำลังลังเลจะเปิดเผยหรือเปล่า?” เซี่ยฉิงเรียกความกล้า เอ่ยถามอย่างกล้าหาญ “ใช่เด็กผู้หญิงที่ปรากฏตัวในห้องทำงานคุณเมื่อวันเสาร์คนนั้นไหม?”