ตอนที่ 307 ขาดแคลน
“ฮั่วชูปิง!”
“ขอรับ!”
ลู่เฟิง มองไปที่ ฮั่วชูปิง และ ครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนที่จะพูดขึ้น”ข้าจะให้เจ้านําทัพทหารม้า 50,000 นาย ไปยังมณฑลหนานฉ่ผ่านภูเขาเหยียนซาน โดยมองหาโอกาสที่จะโจมตีทหารม้าคนเถื่อนจากทางด้านหลัง เจ้าสามารถทําได้หรือไม่?”
“ข้าน้อยจะทําให้ดีที่สุด!”
ฮั่วชูปิง เต็มไปด้วยความตื่นเต้น หัวหน้ากองเปียวเหยา สามารถนําทหารได้เพียงไม่กี่พันนายแต่ฝ่าบาทก ลับให้เขานํากองทัพทหารม้า 50,000 นายโดยตรง
“ดีมาก!”
ลู่เฟิงมองไปที่ฮั่วชูปิง และพยักหน้า เพื่อพูดกับลิโป้”เฟิงเชี่ยน เจ้าส่งมอบทหารม้าผู้ภักดีและทหารม้าหน้าใหม่ให้กับ ฮั่วชูปิง”
“ข้าน้อยรับบัญชา!”ลิโป้ได้ตอบรับคําสั่งและส่งมอบกองทัพให้กับฮั่วชูปิงทันที
ฮั่วชูปิงรับคําสั่งของลิโป้ด้วยความตื่นเต้น และรีบไปบัญชาการทัพทหารม้า
“เฟิงเชี่ยน ข้ารู้ว่าเจ้ามีข้อสงสัยว่าทําไม ข้าถึงมอบทหารจํานวนมากให้กับ หรานเหมิน และ ฮั่วชูปิง ทั้ง ๆ ที่เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรก?”ลู่เฟิงมองไปที่ลิโป้ด้วยรอยยิ้ม
ลิโป้ ได้พยักหน้าทันที”ฝ่าบาท ข้าน้อยเพียงแค่สงสัยเล็กน้อยเท่านั้น”
เขาไม่ได้อิจฉาพวกเขาแต่แค่อยากรู้ว่าทําไม หรานเหมินและฮั่วชูปิง ที่เพิ่งมาอยู่ใต้พระหัตถ์ของฝ่าบาท ในเวลาไม่ถึงหนึ่งวัน ฝ่าบาทกลับมอบกองทัพขนาดใหญ่ให้พวกเขา ฝ่าบาทไม่กังวลเกี่ยวกับความภักดีของพวกเขาเลยเหรอ?
โดยธรรมชาติแล้ว ลู่เฟิงย่อมไม่บอกลิโป้ ว่าเขามีระบบที่สามารถตรวจสอบค่าความภักดีได้ และเขารู้ว่า ทั้งสองคนจะไม่ทรยศตัวเองอย่างแน่นอน
เขามองไปที่ลิโป้และถอนหายใจออกมา”ข้าเก่งเรื่องการมองคน และข้าเชื่อว่าพวกเขาทั้งสองคนจะไม่ทรยศข้านี่คือสัญชาตญาณของข้า!”
“นอกจากนี้…”
ลู่เฟิงหัวเราะออกมา” ปัจจุบัน ข้ากําลังขาดคนที่มีความสามารถในการนําทัพ จู่ ๆ สองคนนี้ก็เข้ามาพอดี หากไม่ใช้งาน พวกเขาก็คงจะเสียดายแย่ไม่คิดว่างั้นเหรอ?”
ลิโป้เริ่มเข้าใจทันที
เขาหยุดชั่วครู่ก่อนที่จะกล่าวถามออกมา”ฝ่าบาทข้าน้อยมีคําถามสุดท้าย”
“ลองว่ามา!”
“ฝ่าบาทให้ หรานเหมิน นําทหารองค์รักษ์นับ 100,000 นาย อ้อมไปยึดเมืองเป่ยกวง นี่เป็นแผนการที่ดี แต่ถ้าเขาต้องการปกป้องเมืองสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ คันศรและลูกศรจํานวนมากเช่นเดียวกับลูกศรหยุดปราณ น่าเสียดายที่พวกเรา…”
เขาได้ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น”พวกเราไม่มีสิ่งเหล่านี้มากนัก ด้วยสิ่งของในปัจจุบัน คงจะ ให้หรานเหมิน ปกป้องเมืองเป่ยกวงได้ไม่นานนัก สิ่งสําคัญสําหรับพวกเราก็คือเร่งหาของสิ่งเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด”
“ไม่งั้นยามพวกคนเถื่อนบุกโจมตีคงตกที่นั่งลําบาก”
ลู่เฟิง ขมวดคิ้วแน่น
แน่นอนว่า นี่เป็นปัญหาใหญ่มาก
อาณาจักรหนานหยาน เป็นเพียงอาณาจักรธรรมดา ยามเขาบุกโจมตี ราชาเมกาทรอนลู่เว่ย เสบียงอาหารก็แทบจะมีปัญหา หากเขาไม่ได้รับทรัพยากรจํานวนมากจากตระกูลขุนนางต่าง ๆ ก็คงไม่อาจทําการบุกโจมตีอาณาจักรซีหยางในตอนนั้นได้
ต่อมาอาณาจักรซีหยางถูกยึดครองพวกเขาได้รับสิ่งต่าง ๆ มากมายจากคลังของอาณาจักรซีหยาง ไม่ว่าจะเป็น เสบียง ทรัพยากร ก็ล้วนไร้กังวล แต่การเผชิญหน้ากับแนวรบสี่ทางนั้น เสบียงอาหาร และทรัพยากรต่าง ๆ ก็เริ่มขาดมือขึ้นไปเรื่อย ๆ
โดยเฉพาะ พวกคันธนูและลูกศร รวมถึง ลูกศรหยุดปราณค่อนข้างขาดแคลน
เมืองฉิวซาน เองก็ต้องการสิ่งเหล่านี้จํานวนมากเฟิงเถียนและเจียสวี่ ที่ต้องสู้ในสิบสามมณฑลซีหยางเองก็ต้องการสิ่งเหล่านี้ แต่เนื่องจากคลังสมบัติเดิมของอาณาจักรซีหยางมีมัน จึงไม่จําเป็นต้องให้อาณาจักรหนานหยานจัดหาให้
อย่างไรก็ตาม ที่ศึกเมืองฉิวซาน และเมืองเร้ดเมเปิ้ล ต่างก็ใช้ทรัพยากรสํารองไปมาก
ดังนั้นสิ่งที่เขามีอยู่ในมือจึงเหลือไม่มากนัก
เป็นอย่างที่ลิโป้ได้กล่าว หากหรานเหมิน ไม่ได้รับอุปกรณ์ที่เพียงพอ แม้เขาจะยึดเมืองเป๋ยกวนได้แต่ ความกดดันในสนามรบด้านหน้าก็จะหนักสาหัสอย่างมาก
ดังนั้นการป้องกันเมืองเป๋ยกวนก็จะเป็นไปได้ยากเช่นเดียวกัน
ตอนนี้ ลู่เฟิง จําเป็นจะต้องชั่งน้ําหนักว่าจะมอบวัสดุเชิงกลยุทธ์ให้กับหรานเหมิน เพื่อป้องกันระยะทางไปยังเป่ยกวนดีหรือไม่
ลู่เฟิง หลับตาลงและชั่งน้ําหนักข้อดีข้อเสียในใจ
หลังจากคิดอยู่พักหนึ่งเขาก็กล่าวพูดเสียงดัง”ให้อุปกรณ์กับหรานเหมินในความพอดี จากระยะทางไปยังเมืองเป๋ยกวน จําเป็นจะต้องได้รับการคุ้มครอง มิฉะนั้นเราจะเผชิญหน้ากับแรงกดดันมากยิ่งขึ้น!”
แรงกดดันที่ลู่เฟิงกล่าวไม่ใช่พวกคนเถื่อนนับล้านเบื้องหน้าของเขา
แต่เป็นคนเถื่อนในทุ่งหญ้าทางตอนเหนือ
ตอนนี้คําสั่งฆ่าของเขาได้แพร่กระจายไปถึงพวกคนเถื่อนทางตอนเหนือแล้ว และหากอาณาจักรอื่น ๆ ส่งคนไปยุยงให้พวกคนเถื่อนทางตอนเหนือบางทีเขานี่แหละจะลําบากที่สุด
หากเขาไม่สามารถหยุดมันได้หลังจากออกคําสั่งฆ่าไปเขาจะกลายเป็นตัวตลกทันที
ถ้าเขาสามารถหยุดมันได้เขาจะสามารถเริ่มแผนการล้างบางพวกคนเถื่อนได้ในเวลาต่อมา
ตอนนี้กุญแจสําคัญก็คือคําสั่งฆ่าของเขาจะมีประโยชน์หรือไม่ขึ้น อยู่กับการหยุดการโจมตีของพวกคนเถื่อนทางตอนเหนือ
ซึ่งก็คือ เมืองเงียกวน
หลังจากยึดเปยกวนได้แล้ว แม้พวกคนเถื่อนในทุ่งหญ้าทางตอนเหนือจะบุกโจมตีด้วยกองทหารม้านับล้าน แต่ด้วยปราการที่แข็งแกร่ง และทหารองค์รักษ์ 100,000 นาย ภายใต้การบัญชาการของหรานเหมิน ที่นั่นน่าจะยึดมั่นไว้ได้นานนับเดือน
ในเวลาหนึ่งเดือนเป็นช่วงเวลาตัดสินว่าจะสําเร็จหรือล้มเหลว
หากเขาสามารถแก้ไขปัญหาวิกฤติพวกคนเถื่อนได้ และมอบความพ่ายแพ้ให้กับ อาณาจักรอู่เซียง อาณาจักรหงเป่า และอาณาจักรไปหลัน อาณาจักรของเขาจะมีอานาจมากที่สุดทางตะวันตกเฉียงใต้ของหยูโจว
พวกเขาจะมีคุณสมบัติที่จะเทียบเท่ากับ นิกายดาบวิญญาณในปัจจุบัน
หากล้มเหลว สามมณฑลทางตอนเหนือจะล่มสลายโดยสมบูรณ์ และอาณาจักรหนานหยาน จะตกอยู่ในอันตรายทันที
ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับว่าหรานเหมินจะปกป้องเมืองเป๋ยกวนได้หรือไม่
ไม่ได้ยินคําสั่งของลู่เฟิง ลิโป้ก็ไม่ได้แปลกใจ เขาคิดอยู่แล้วว่าฝ่าบาทจะต้องเลือกเช่นนี้อย่างแน่นอน
เพราะฝ่าบาทตระหนักได้ถึงความสําคัญของระยะทางในการไปยังเมืองเปยกวน
แต่…
เขามองไปที่ ลู่เฟิงและพูดขึ้น”ฝ่าบาท หากเป็นเช่นนั้น พวกเราจะขาดวัสดุเชิงกลยุทธ์ในสนามรบด้านหน้า”
ลู่เฟิง ได้ครุ่นคิดเล็กน้อย”พวกคนเถื่อนไม่ได้มียอดฝีมือมากนัก ดังนั้นเราจึงไม่ต้องการลูกศรหยุดปราณจํานวนมากเพียงแค่ลูกศรธรรมดาก็เพียงพอ นอกจากนี้ ส่งคําสั่งของข้าออกไปให้อ่องมณฑลเล่ยหยาง และ อ่องมณฑลหยู่ซิง ส่งมอบลูกศรทั้งหมดที่มีมาด้วยความเร็วสูงสุด พวกเรายังคงมีเวลาเตรียมตัวก่อนที่พวกคนเถื่อนจะบุกโจมตีอีกครั้ง”
“นอกจากนี้ ตราบเท่าที่เรา ยึดครองเปยกวนเอาไว้ได้ แรงกดดันที่เราได้รับก็จะน้อยลงอย่างมาก”
“ข้าน้อยรับบัญชา!”
ลิโป้ ตอบกลับเสียงดัง”ฝ่าบาท เช่นนั้น เรื่องของเขื่อนเฟิงเฮยปา?”
“ที่นั่นข้าจะเป็นคนบัญชาการทัพด้วยตนเอง!”ลู่เฟิงกล่าวพูดอย่างเคร่งขรึม
เหตุผลง่าย ๆ เป็นเพราะเขากลัวว่าลิโป้จะดูถูกพวกคนเถื่อนและสั่งทหารม้าให้บุกโจมตีอย่างบ้าคลั่งทําให้แผนการของเขายุ่งเหยิง
ท้ายที่สุดแล้ว ลิโป้ ก็เคยชนะพวกคนเถื่อนมาก่อน ไม่แปลกที่เขาจะดูถูกพวกคนเถื่อนเหล่านั้น
ได้ยินคําพูดของลู่เฟิง เขาก็ตอบกลับทันที”เช่นนั้น ข้าน้อยยินดีอาสาเป็นแนวหน้าภายใต้คําสั่งของพระองค์”