ตอนที่ 308 ยอมจํานน?
ลู่เฟิงพยักหน้าและตอบกลับ”ลงไปเตรียมตัวเถอะ ศึกครั้งนี้สาหัสมาก แต่เจ้าต้องชนะ!”
“ขอรับ!”
ลิโป้ รีบลงไปเตรียมตัวทันที
ตอนนี้ หรานเหมิน ได้นํากองทัพเดินทางไปยังเมืองเป๋ยกวนตอนนี้ เขาสามารถปล่อยให้ลิโป้เป็นแม่ทัพแนวหน้าได้เท่านั้น
แม่ทัพแนวหน้าเป็นสิ่งสําคัญสําหรับการต่อสู้
หลังจากลิโป้จากไป ลู่เฟิงก็เดินออกจากเต็นท์ทหารมองไปที่แนวหน้าของเมืองนิวซานและบ่นพึมพัมออกมา”แม่ทัพเฒ่า, เฟิงเซียว ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าแก้ไขปัญหากองทัพของอาณาจักรหงเป่าเสร็จแล้วหรือยัง?”
ก่อนที่จะได้รับรายงานการสู้รบจากลั่วเจียการต่อสู้ในแนวหน้าของเมืองฉิวซานเป็นไปอย่างราบรื่น ศัตรูได้ถูกตัดศีรษะไปมากกว่าสองล้านคนตอนนี้เหลือไม่ถึง 700,000 คน!
เหลียนป่อได้นําทัพและเริ่มการโจมตีครั้งสุดท้าย
บนถนนหนานเซียง จางฮั่น และฉู่ต้าเหว่ย ได้ยืนอยู่บนยอดเขามองไปที่กองทัพของอาณาจักรหงเป่า ที่ถูกขับไล่โดยทหารตันหยางและพลธนู พวกเขาได้สั่นศีรษะเล็กน้อย
ฉู่ต้าเหว่ย ได้กล่าวพูดขึ้น”แม่ทัพจางฮั่น ท่านคิดว่า แม่ทัพอาณาจักรหงเป่าผู้นี้เป็นอย่างไร นี่เป็นครั้งที่เจ็ดแล้ว นับตั้งแต่วกเขาเปิดการโจมตีทั้งหมดเจ็ดครั้ง พวกเขาได้สูญเสียกําลังพลไปมากกว่า 150,000 นาย แต่ ทว่าพวกเขาไม่ได้บุกอย่างเต็มกําลังราวกับว่ากําลังเอาชีวิตทหารมาทิ้งเปล่า ๆ!”
จางฮั่น ได้ยิ้มออกมา”ไม่น่าแปลกทางกลับอาณาจักรหงเป่าถูกพวกเรายึดครองเอาไว้อยู่ นี่มันเท่ากับตัดเส้นทางล่าถอยของพวกเขา ตอนนี้ แม่ทัพเฒ่าเหลียนป้อ กําลังนําทัพหลายแสนนายบุกโจมตีค่ายทหาร พวกเขาจึงต้องโจมตีถนนหนานเซียงแห่งนี้”
“เพียงแค่ใช้ถนนหนานเซียง พวกเขาก็สามรถอยกลับไปยังอาณาจักรหงเป่าได้ มิฉะนั้นก็สู้รอความตายที่นี่ เท่านั้น”
จางฮั่น และ ฉู่ต้าเหว่ย ได้ยึดครองถนนหนานเซียง และ ปิดกั้นมันเอาไว้ อาณาจักรหงเป่า ส่งหน่วยสอดแนมมาหลายสิบคน เพื่อที่จะเตรียมพร้อมส่งกองกําลังสนับสนุน แต่พวกเขาได้ถูกขัดขวางทั้งหมดโดยจางฮั่น
ดังนั้นพวกเขาไม่อาจสือสารระยะไกลได้ ทั้งยังถูกทหารเงาควบคุมทําให้ไม่ได้รับข่าวสารใด ๆ
อาณาจักรหงเป่า ยังไม่ทราบข่าว พวกเขาเชื่อว่า กองทัพ 3.5 ล้านนายของพวกเขาสามารถยึดครองเมือง นิวซาทั้งหมดได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ จินยี่เหว่ย ยังเลียนแบบลายมือของหน่วยสอดแนมเผยแพร่ข้อมูลเท็จไปจํานวนมากทําให้ผู้คนในอาณาจักรหงเป่าเชื่อว่ากองทัพของพวกเขายอดเยี่ยมจึงไม่ได้ส่งกองกําลังทหารอีกต่อไป
ตอนนี้ ถนนหนานเซียงเป็นสิ่งล้ําค่าในมือของจางฮั่นและฉู่ต้าเหว่ย ไม่มีใครสามารถสั่นคลอนได้
“แต่ท่านแม่ทัพ หลี่ซานอี้ ผู้นี้ช่างโชคร้ายยิ่งนัก ท่านที่ปรึกษาเพิ่งจะปล่อยเขากลับไปแต่สุดท้ายก็ถูกจับมา โดยพวกเรา”ฉู่ต้าเหว่ย หันศีรษะไปมองหลี่ซาน ที่อยู่ไม่ไกลจากเขา อีกฝ่ายถูกมัดมือมัดเท้าพร้อมกับปิดผนึกจุดตันเถียน
หลี่ซาน ที่ได้รับการปล่อยตัว เขาตัดสินใจที่จะกลับไปที่อาณาจักรหงเป่าเพื่อเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด
แต่พอเขามาถึงถนนหนานเซียง ก็ถูกจางฮั่นและฉู่ต้าเหว่ยจับอีกครั้ง
จางฮั่น มองไปที่เขาด้วยรอยยิ้ม”ตอนนี้เราไม่สามารถปล่อยเขากลับไปได้ มิฉะนั้นข่าวทั้งหมดที่กระจายออกไป คงสูญเปล่า ข้าคิดมาตลอดว่าการที่ท่านที่ปรึกษาปล่อยตัวเขาไปนั้นเป็นความผิดพลาด และข้าจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นเช่นนั้นอีก”
อีกด้านนึง กั่วเจียและเหลียนป๋อ ได้มองไปที่ค่ายทหารกองทัพของอาณาจักรหงเป่าที่กําลังจะแตกพ่าย พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า
หลังจากการต่อสู้ไม่กี่วันในที่สุดค่ายทหารก็ใกล้จะพังทลายลง
“ตอนนี้ไม่จําเป็นจะต้องกังวลว่าอาณาจักรหงเป่าจะรู้เรื่องแล้วส่งกองกําลังมาสนับสนุนพวกเขา”รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเหลียนป๋อ
“ถูกต้อง,ในที่สุดปัญหาก็จะได้รับการแก้ไข!”กั่วเจียได้ยิ้มออกมา
เขานึกถึงหลี่ซาน
ในความคิดของเขา หลี่ซานอี้เป็นคนที่หยิ่งยโส ตอนนี้เขาได้พ่ายแพ้และคงไม่คิดจะกลับไปที่อาณาจักรหงเป่าทันที แต่ใครจะไปคิดว่า หลี่ซานอี้จะทําสิ่งตรงกันข้าม เขาไม่ลังเลที่จะกลับไปที่อาณาจักรหงเป่า
หากจางฮั่น และจู่ต้าเหว่ย ไม่ได้ใช้ถนนหนานเซียงปิดกั้นเส้นทางเอาไว้ ป่านนี้แผนการของพวกเขาคงล้มเหลวไปแล้ว
นี่เป็นบทเรียนสําหรับกั่วเจียด้วยเช่นเดียวกัน อย่าคิดว่าพอได้เปรียบและจะชนะทุกสิ่ง ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบไปทุกอย่าง
นี่เป็นเรื่องจริงของสงครามและกลยุทธ์เช่นเดียวกัน
ในค่ายทหารของอาณาจักรหงเป่า มีเพียงรองแม่ทัพที่เหลือสี่คนเท่านั้น ทุกคนล้วนถูกอาบไปด้วยเลือด และรวมตัวกันอยู่ในเต็นท์ของกองทัพ
ใบหน้าของพวกเขาน่าเกลียดมากหลังจากพ่ายสงครามค่ายของพวกเขาก็แทบแตก
กองทัพของพวกเขาสูญเสียมากกว่า 300,000 นายในวันนี้
ทหารครึ่งหนึ่งได้เสียชีวิตในการสู้รบที่ถนนหนานเซียงและอีกครึ่งหนึ่งได้ถูกศัตรูบุกโจมตีค่ายและถูกฆ่าตาย
“ตอนนี้จะเอายังไงกันดี?”แม่ทัพอาวุโสคนนึงได้กล่าวถามขณะที่มองไปที่อีกสามคน
“เวรเอ้ย,หากไม่ใช่เพราะหลี่ซานอี้ สมคบคิดกับศัตรู ท่านแม่ทัพจะถูกฆ่าได้อย่างไร กองทัพนับล้านจะถูกไฟคลอกตายในชั่วข้ามคืนงั้นเหรอ ? อย่าให้ข้าพบมันเชียว ข้าจะฉีกร่างมันเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!”แม่ทัพคนนี้ได้ คํารามออกมา
“เฮ้อ!”
แม่ทัพอาวุโสคนนี้จ้องมองไปที่เขาและพูดขึ้น”ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาห่วงเรื่องของ หลี่ซานอี้ พวกเราควรคิดว่าจะทําอย่างไรกันต่อไปดี!”
สูด!
แม่ทัพอาวุโสได้สูดลมหายใจเข้าลึกและพูดขึ้น”ตอนนี้ทหารของพวกเราเหลืออยู่ไม่ถึง 400,000 นาย ในขณะที่ศัตรูมีอย่างน้อย 600,000 นาย ทั้งการสนับสนุนจากด้านหลังก็ยังถูกตัดขาด พวกเราถือว่าพ่ายแพ้ไปแล้วตอนนี้ แต่เราจะป้องกันไม่ให้กองทัพ 400,000 นายตายโดยเปล่าประโยชน์ได้อย่างไร?”
แม่ทัพคนอื่น ๆ ที่ได้ยินก็เงียบไปครู่นึ่ง
เมื่อไม่กี่วันก่อน แม่ทัพ ฟูหลี่หยวน ผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่นําทัพทหารชั้นยอด 3.5 ล้านนาย หนึ่งในนั้นมีทหารพยัคฆ์ลาย 200,000 นาย แต่ก็ถูกจัดการไปทั้งหมด
ช่างเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่
ในเวลาไม่ถึงเดือนกองทัพทั้งหมดแตกพ่ายเหลือทหารไม่ถึง 400,000 นาย ทั้งยังเป็นทหาร 400,000 นายที่ไม่มีทางรอดชีวิต
สิ่งนี้ทําให้หัวใจของพวกเขารู้สึกขมขึ้นอย่างมาก
“ยังไม่มีข่าวจากอาณาจักรอีกงั้นเหรอ?”แม่ทัพคนนึงได้กล่าวถามด้วยเสียงทุ่ม
“ข่าว?”
แม่ทัพอาวุโสหัวเราะเยาะ” หืม,เจ้าคิดว่าจะมีข่าวอะไรมางั้นหรือไม่?ที่แท้จริงเราต่างก็ถูกพวกนกายดาบวิญญาณมันหลอกใช้เท่านั้น”
ไม่ใช่ว่าข่าวของพวกเขาไม่ได้ถูกส่งออกไป แต่อาณาจักรไม่ได้รับข่าวที่แท้จริงเท่านั้น
อย่างไรก็ตามพวกเขาสูญเสียทหารมากเกินไป และยังไม่มีใครในอาณษจักรมาสนับสนุนพวกเขา พวกเขาจะรู้สึกดีได้อย่างไร
“ยอมแพ้ดีหรือไม่?”
แม่ทัพคนนึงได้เสนอความเห็น”ข้าไม่คิดว่าพวกมันจะต้องการทําลายพวกเราทั้งหมดจริง ๆ”
“แม้ว่าข้าจะเต็มใจ แต่พวกท่านคนอื่น ๆ เล่าคิดเห็นอย่างไร?”
แม่ทัพคนอื่น ๆ ได้แต่นิ่งเงียบ
“นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราสมควรทําเท่าไหร่?”แม่ทัพคนนึงมองไปที่คนที่พูดคนนั้น
“ก็จริงที่ว่าการยอมแพ้อาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่เหลียนป๋อและกั่วเจียจะยอมรับงั้นหรือ?”หลังจากนั้นไม่นานแม่ทัพอาวุโสก็กล่าวพูดด้วยความกังวล