บทที่ 356 แดนลับแห่งเขาเทียนเหลียง
สุดท้ายเยี่ยเฟยเฟยก็ไม่รู้ว่าควรจะลงโทษอู๋ฝานอย่างไร เพียงแต่เรื่องนี้เธอจำเอาไว้แล้ว!
คนทั้งสองที่โต้เถียงกันพักหนึ่งพบว่าฟ้าเริ่มสางแล้ว
“ผมขอตัวไปออกกำลังกายก่อนนะครับ เดี๋ยวผมต้องหาอะไรทานมื้อเช้าอยู่แล้ว ถ้าอยากทานด้วย ไว้ผมจะซื้อมาให้” อู๋ฝานเอ่ยขึ้น
“ไม่เป็นไร” เยี่ยเฟยเฟยตอบปฏิเสธ
เมื่อเห็นเยี่ยเฟยเฟยปฏิเสธ อู๋ฝานก็ไม่คิดเซ้าซี้ให้มากความ
ที่สนามกีฬาของมหาวิทยาลัยเจียงโจว หลิ่วเหยียนเอ๋อร์เป็นฝ่ายเข้ามาคุยกับอู๋ฝานเรื่องที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยว
ที่ทำให้อู๋ฝานต้องประหลาดใจคือการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ไม่เรียบง่ายดังที่เคยคิดเอาไว้
“ที่อีกฟากของภูเขาเทียนเหลียงมีพื้นที่หวงห้ามขนาดใหญ่ เคยได้ยินเรื่องไหมคะ?” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์เอ่ยถาม
อู๋ฝานพยักหน้าตอบรับ “ครับ เคยได้ยินมาว่าสภาพแวดล้อมค่อนข้างโหดร้าย รอบด้านมีแต่อันตราย และยังไม่มีสัญญาณ ถ้ามีใครเข้าไปแล้วจะไม่ได้ออกมา”
พื้นที่หวงห้ามแห่งภูเขาเทียนเหลียงมีอยู่จริง บนอินเทอร์เน็ตก็มีข่าวลือสารพัดบอกเล่าต่อ ๆ กันมาอย่างลึกลับ ทำให้หลายคนอยากเข้าไปผจญภัยสำรวจ แต่สุดท้ายกลับไม่มีใครรอดออกมา เรื่องนี้มันยิ่งทำให้พื้นที่หวงห้ามดังกล่าวโด่งดัง ลึกลับ และน่าสะพรึงสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับนักผจญภัย มันกลับเป็นสิ่งเร้ากระตุ้น
“ที่นั่นอันตรายจริง ๆ ค่ะ แต่การที่บอกว่าไม่เคยมีใครรอดออกมาได้นั้นเป็นเรื่องเกินจริงอยู่บ้าง” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์เอ่ยถึงประเด็นนี้ขึ้นมา “อย่างน้อยก็เคยมีผู้ฝึกตนมากกว่าหนึ่งคนที่เคยเข้าไปและออกมาได้อย่างปลอดภัย”
อู๋ฝานครุ่นคิดตาม มองว่าเป็นไปได้ พื้นที่หวงห้ามของภูเขาเทียนเหลียงย่อมอันตรายสำหรับคนทั่วไป แต่ไม่ใช่กับผู้ฝึกตน พวกเขามีพละกำลังและความสามารถที่พร้อมรับมือกับอันตราย ทั้งยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าคนทั่วไป สถานที่ซึ่งคนทั่วไปไม่อาจเอาชีวิตรอดได้ ผู้ฝึกตนอาจสามารถเอาชีวิตรอด
“ผู้ฝึกตนพวกนั้นเข้าไปทำอะไรกันครับ?” อู๋ฝานเอ่ยถามในฐานะคนที่ใหม่ต่อวงการผู้ฝึกตน ชายหนุ่มไม่ค่อยรู้เรื่องเหล่านี้ในแวดวงของพวกเขาสักเท่าไหร่
ภูเขาเทียนเหลียงนับว่าเป็นสถานที่ดึงดูดนักผจญภัยที่เป็นคนธรรมดา พวกเขาเหล่านั้นชื่นชอบเดินทางไปสำรวจยังสถานที่อันตราย แต่ผู้ฝึกตนไม่ใช่เช่นนั้น ประเด็นหนึ่งเพราะมันไม่ได้อันตรายกับพวกเขาจนเกินไป ประเด็นที่สองคือการที่ผู้ฝึกตนมักจะยุ่งกับการฝึกฝนตัวเอง ทำให้แทบไม่ค่อยใส่ใจเรื่องราวทางโลก น้อยครั้งที่พวกเขาจะทำอะไรอย่างไร้ความหมาย
“ล่าสมบัติค่ะ” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ตอบกลับ “มีหลายคนเลยด้วย ที่นั่นมีของที่เป็นประโยชน์กับผู้ฝึกตนอยู่ ไม่ว่าจะสมบัติสวรรค์ประทาน สมุนไพรใช้ทำยา หรือกระทั่งวิชาที่ใช้ฝึกฝน สถานที่ที่คนธรรมดาไม่สามารถเข้าไปได้ มันมีสมบัติที่รอคอยให้ผู้ฝึกตนเข้าไปเก็บเกี่ยวค่ะ”
อู๋ฝานตอบรับ “ถึงขั้นมีวิชาใช้ฝึกฝนด้วยเหรอครับ? วิชาที่ใช้ฝึกฝนไม่ได้ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่าหรอกเหรอ ถ้าเป็นแบบนั้น ที่นั่นเคยมีผู้ฝึกตนอยู่อาศัยมาก่อนอย่างนั้นเหรอครับ?”
“ไม่เลวเลยนะคะ” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ตอบรับ “ผู้ฝึกตนหลายคนชอบที่จะเข้าไปยังส่วนลึกของภูเขาและป่า เพื่อหาสถานที่รกร้างผู้คนและทำการฝึกฝน สาเหตุหนึ่งก็เพราะมันบริสุทธิ์ สาเหตุที่สองก็เพราะอากาศของที่นั่นสะอาดสดชื่น เป็นสภาพแวดล้อมที่ดีเหมาะกับการฝึกฝน โดยเฉพาะกับผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปค่ะ”
อู๋ฝานพยักหน้าตอบรับ ในเมืองใหญ่ที่วุ่นวาย เรื่องราวทางโลกมีเข้ามาไม่ขาด แต่เมื่อไหร่ที่ได้ไปอาศัยอยู่ในส่วนลึกของภูเขาหรือว่าป่าใหญ่ เมื่อนั้นย่อมได้รับความสงบใจ สุดท้ายจึงเป็นผลดีแก่การฝึกฝน
“ได้ยินว่าไม่นานมานี้มีคนค้นพบแดนลับด้านในภูเขาเทียนเหลียงด้วยนะคะ เรื่องนี้เปิดเผยออกเป็นวงกว้างในหมู่ผู้ฝึกตน หลายคนรีบเดินทางไปที่นั่น มีกระทั่งผู้ฝึกตนต่างชาติที่เดินทางมาเพราะได้ทราบข่าวด้วยค่ะ” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ยังคงพูดต่อ
“แดนลับอะไรกันครับ?” อู๋ฝานนึกถึงไหน่ไชกับอาจารย์ของอีกฝ่ายขึ้นมา การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของผู้ฝึกตนจากราชอาณาจักรช้าง มันเกี่ยวข้องกับสถานที่ลับนั่นด้วยรึเปล่า?
“แดนลับนั้นคือสถานที่ที่ผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งใช้ฝึกฝนและตายจากไป ปกติแล้วก็ต้องมีสมบัติที่ผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งหลงเหลือไว้ ดังนั้นทุกแดนลับจึงถือเป็นสิ่งล่อตาล่อใจให้ผู้ฝึกตนไปตามล่าหาสมบัติ แต่สถานที่พวกนั้นอันตราย ผู้แข็งแกร่งรู้ดีว่าถ้าตัวเองตายไป สมบัติที่นำมาด้วยจะทำให้คนรุ่นหลังจ้องตาเป็นมัน ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการปล้นชิงสุสาน บ่อยครั้งจึงมีการติดตั้งกับดักและจุดสกัดในแดนลับ เพื่อขัดขวางและทดสอบทายาทหรือผู้บุกรุกค่ะ” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ร่ายยาวออกมา
หลิ่วเหยียนเอ๋อร์รู้ดีว่าแม้อู๋ฝานไม่ได้อ่อนแอ แต่ก็เป็นหน้าใหม่ในแวดวงผู้ฝึกตน ทั้งยังไม่ทราบเรื่องที่ทุกคนในแวดวงต่างก็รู้กันดี ดังนั้นหญิงสาวที่มักไม่ค่อยพูดจา หรือพูดเพียงเล็กน้อยสั้นกระชับ ครั้งนี้กลับเป็นฝ่ายบอกเล่าเรื่องราวมากมายออกมาให้ชายหนุ่มได้รับฟังบราวนี่ออนไลน์
อู๋ฝานพยักหน้าตอบรับ ทันใดนั้นเองเขาต้องหันมองหลิ่วเหยียนเอ๋อร์พร้อมกับเอ่ยถาม “สาเหตุที่คุณเลือกไปเที่ยวภูเขาเทียนเหลียง ก็เพราะแดนลับนั่นอย่างนั้นเหรอครับ?”
ก่อนหน้านี้ตอนที่อู๋ฝานได้ยินจากถังอวี่เฟยว่าทั้งเธอและหลิ่วเหยียนเอ๋อร์จะร่วมเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ด้วย เขายังนึกประหลาดใจซะด้วยซ้ำ ด้วยนิสัยเช่นหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ การเดินทางท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะแบบนี้ไม่ใช่สไตล์ของเธอ แต่หลังได้ยินเรื่องแดนลับจากหญิงสาว ตนก็คล้ายจะเข้าใจเรื่องราวขึ้นมา
“ไม่เลวค่ะ” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์พยักหน้าตอบรับ แสดงออกว่าไม่ปฏิเสธ
งั้นก็แน่ใจได้แล้ว!
“การไปเที่ยวครั้งนี้ คงไม่ใช่คุณที่เสนอความเห็นหรอกนะครับ?” อู๋ฝานเอ่ยถาม
แม้หลิ่วเหยียนเอ๋อร์จะเป็นเพียงนักศึกษาคนหนึ่ง แต่เพราะเหตุผลด้านตัวตนและพื้นเพเบื้องหลัง ทำให้เธอมีสถานะออกความเห็นสูงกว่าคณบดีแห่งมหาวิทยาลัยเจียงโจว
การเดินทางไปเที่ยวทัศนศึกษาเช่นนี้ นับเป็นโอกาสที่อาจารย์หลายคนริษยาคิดอยากร่วมทางไปด้วย ทว่ามันกลับตกมาอยู่ในมืออู๋ฝาน ก่อนหน้านี้เขาแค่มองว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แต่หลังจากได้ฟังคำพูดของหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ ตนก็ต้องเปลี่ยนข้อสรุปดังกล่าว
“ค่ะ” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์พยักหน้าตอบรับอีกครั้ง
“ครับ งั้นก็ควรบอกผมตั้งแต่แรกนะครับ ผมเกือบจะปฏิเสธการเดินทางอยู่แล้วเชียว” อู๋ฝานตอบกลับ
อู๋ฝานค่อนข้างสนใจเรื่องที่เกิดขึ้นในแวดวงของเหล่าผู้ฝึกตน โดยเฉพาะกับแดนลับแห่งการผจญภัยดังกล่าว เขายิ่งคิดอยากไปเห็น
“ปฏิเสธตอนนี้ก็สายไปแล้วค่ะ” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ตอบเสียงเบากลับมา
ไม่สำคัญว่าอู๋ฝานจะปฏิเสธทางคณบดีหรืออะไร หรือต่อให้เขาปฏิเสธไปแล้วก็จริง แต่หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ก็มีอำนาจมากพอใส่ชื่ออีกฝ่ายกลับเข้าไป
ทันใดนั้นเองอู๋ฝานถามออกมา “แล้วถังอวี่เฟยรู้เรื่องนี้ด้วยหรือเปล่าครับ?”
หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ส่ายหน้าตอบกลับ “แม้ตระกูลถังจะพยายามอย่างหนักเพื่อเข้าสู่แวดวงของผู้ฝึกตน ไม่นานมานี้ก็ยังได้รับการเบิกทางแล้ว แต่พวกเขายังไม่ถือว่าเป็นคนในแวดวงนี้ค่ะ ดังนั้นเรื่องนี้พวกเขาจึงยังไม่ทราบ”
ก่อนหน้านี้ อู๋ฝานเคยได้ยินมาว่าตระกูลถังเป็นเพียงตระกูลเดียวในห้าตระกูลใหญ่แห่งเจียงโจวที่ยังไม่ได้เข้าสู่แวดวงผู้ฝึกตน มันจึงทำให้พวกเขาอยู่อันดับรั้งท้ายของห้าตระกูลใหญ่ ทั้งยังเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงต้องการเข้าหาคนของสำนักล้ำสวรรค์ นั่นก็เพื่อจะได้ย่างเท้าเข้าสู่แวดวงของผู้ฝึกตน โดยอาศัยเส้นสายจากสำนักนั้น
และตอนนี้ เรื่องนั้นก็เกือบจะเรียบร้อยดีแล้ว แม้พวกเขาจะเหยียบก้าวแรกเข้ามาในแวดวงนี้ได้แล้ว ทว่าพวกเขาก็ยังถือเป็นเพียงหน้าใหม่ในวงการ เพราะอำนาจเบื้องหลังของตระกูล พวกเขาจึงพอได้ทราบเรื่องเบื้องต้นในแวดวงนี้ แต่เรื่องแดนลับยังไม่ใช่อะไรที่พวกเขาสามารถเข้าถึงและรู้ได้