บทที่ 355 เรื่องเข้าใจผิด

ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก

บทที่ 355 เรื่องเข้าใจผิด

“เข้าใจผิดครับ! นี่มันเรื่องเข้าใจผิด!” อู๋ฝานเร่งร้อนโบกมืออธิบาย “ผมไม่รู้เลยสักนิดว่าคุณกลับมาที่นี่ ไม่อย่างนั้นผมจะไปคิดเรื่องแอบดูคุณในห้องน้ำอะไรนั่นได้ยังไง ผมคิดว่าตัวเองเป็นคนเดียวที่อยู่ที่นี่นะ”

เยี่ยเฟยเฟยเดิมทั้งอับอายและโกรธเคือง แต่พอได้ยินคำพูดของอู๋ฝาน สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นแข็งทื่อ จากนั้นจึงตอบกลับ “งั้นคุณก็ไม่ควรจะเข้าห้องน้ำที่มีคนใช้สิ เคาะประตูไม่เป็นรึไง?”

“ก็ผมไม่รู้นี่ว่าด้านในจะมีคนใช้อยู่ นอกจากนี้นะ ประตูห้องน้ำยังเปิดเอาไว้ด้วยซ้ำ ผมจะเคาะมันยังไง” อู๋ฝานตอบกลับ “ทำไมคุณเข้าไปใช้ห้องน้ำแล้วไม่ปิดประตูให้มันเรียบร้อยล่ะครับ?”

“นี่คุณกำลังโทษฉันงั้นเหรอ?” เยี่ยเฟยเฟยแสดงท่าทีโกรธขึ้งออกมา

“ไม่ใช่! ไม่ใช่!” อู๋ฝานเร่งร้อนตอบกลับ

ไม่ว่าจะด้วยอะไร ผู้เสียหายในเรื่องครั้งนี้ก็เป็นเยี่ยเฟยเฟย อู๋ฝานไม่อาจผลักไสความผิดทั้งหมดไปให้เธอได้

เยี่ยเฟยเฟยมองหน้าอู๋ฝานด้วยความโกรธ สุดท้ายก็ตอบคำกลับ “ฉันกลับมาเมื่อคืนนี้และไปเคาะประตูที่ห้องคุณแล้ว แต่ไม่มีใครตอบกลับ เลยนึกว่าคุณออกไปข้างนอกยังไม่ได้กลับมา ใครจะรู้ว่าคุณจะโผล่มากะทันหันแบบนี้?”

เยี่ยเฟยเฟยก็รู้สึกผิดในใจเช่นกัน ปกติเธอคงไม่ต่อว่าแบบนี้ แต่เพราะเธอคิดว่าอู๋ฝานไปเที่ยวเล่นอยู่ข้างนอกตอนกลางคืนไม่ได้กลับมา รวมกับเพราะสะลึมสะลือ สมองยังทำงานไม่เต็มที่ เรื่องไม่ได้ปิดประตูห้องน้ำให้ดีนั้น นับว่าเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้

ในใจเยี่ยเฟยเฟยยังรู้สึกเสียใจแทบตายซะด้วยซ้ำ หากเธอรู้ มีหรือเธอจะสติหลุดเปิดประตูค้างเอาไว้ได้?

อู๋ฝานที่ได้ฟังคำพูดของเยี่ยเฟยเฟยก็เข้าใจ ตอนนั้นเขาอยู่ที่อีกโลกหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่มีทางได้ยินเสียงเคาะประตู จนทำให้หญิงสาวเข้าใจผิดว่าตนไม่ได้อยู่บ้าน เพราะคิดว่าตัวเองอยู่บ้านเพียงคนเดียว เยี่ยเฟยเฟยจึงปล่อยตัวตามสบาย จนนำไปสู่เรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้น

อู๋ฝานที่ไล่เรียงความคิด พวกเขาทั้งสองต่างก็เข้าใจผิดกัน เขาคิดว่าเยี่ยเฟยเฟยคงไม่กลับมา ส่วนเยี่ยเฟยเฟยก็คิดว่าเขาไม่อยู่บ้าน เมื่อความเข้าใจผิดทั้งสองมาบรรจบกัน และรวมกับความจริงที่ว่าคนทั้งสองต้องการใช้ห้องน้ำในเวลาใกล้กัน มันจึงนำไปสู่เหตุการณ์ชวนกระดากใจ

“เข้าใจผิดครับ เข้าใจผิดทั้งนั้น” อู๋ฝานตอบกลับ “ว่าแต่ ทำไมคุณถึงกลับมากะทันหันแบบนี้ ทั้งยังเป็นช่วงกลางดึกด้วยล่ะครับ ต่อให้กลับมากลางดึกจริง แล้วจะไปเคาะประตูห้องผมทำไมกัน?”

“ก็เพราะครอบครัวของฉันน่ะสิ!” เยี่ยเฟยเฟยเองก็เข้าใจแล้วว่าเรื่องครั้งนี้เป็นเหตุบังเอิญทั้งสิ้น แต่หลังนึกถึง ใจของเยี่ยเฟยเฟยก็ยังยากจะสงบลงได้ “แม่ของฉันโทรหาเมื่อคืน บอกว่าวันพรุ่งนี้เช้าจะมาเยี่ยม หรือก็คือเช้าวันนี้นี่แหละ พวกท่านใกล้มาถึงแล้ว คุณแม่กับคุณพ่อจะมาเยี่ยมฉัน เพราะแบบนั้นฉันถึงต้องกลับมาก่อนยังไงล่ะ เพื่อทำให้ดูเหมือนกับว่าฉันใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ทุกวัน ตอนที่ไปเคาะประตูห้องคุณ ก็เพราะต้องบอกให้เข้าใจตรงกันเอาไว้ ไม่งั้นคุณอาจเผลอหลุดพูดอะไรออกมาจนทำเสียเรื่อง”

“เป็นแบบนี้นี่เอง” อู๋ฝานรับคำด้วยความเข้าใจ

พ่อและแม่ของเยี่ยเฟยเฟยไม่ได้เห็นด้วยที่ลูกจะมาเรียนที่ไกลห่างแบบนี้ และเยี่ยเฟยเฟยเองก็เพิ่งเคยออกมาอยู่ไกลบ้านเป็นครั้งแรก ไม่แปลกหากพ่อและแม่ของเธอจะเป็นห่วง หญิงสาวที่ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องผิดพลาดใดขึ้น จึงต้องรีบกลับมา

“ครอบครัวของฉันก็นะ ฉันโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ทำไมยังคิดว่าฉันจะดูแลตัวเองไม่ได้อยู่อีกกัน?” เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ทำให้เยี่ยเฟยเฟยแอบบ่นครอบครัวของตัวเองส่วนหนึ่ง หากพวกเขาไม่ได้มาเยี่ยมกะทันหัน เธอคงไม่ต้องเร่งร้อนกลับมาที่นี่ จนทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

“ครอบครัวของคุณก็แค่ห่วงคุณเองครับ” อู๋ฝานตอบกลับ

“ไม่ต้องบอกก็รู้!” เยี่ยเฟยเฟยจ้องตาอู๋ฝานตอบกลับ แม้เธอจะรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่อีกฝ่ายก็ถือเป็นคนลามกเรียบร้อยแล้ว ทำให้หญิงสาวยังไม่อาจวางใจลงได้

อู๋ฝานเพียงยักไหล่ตอบรับ หยุดพูดตอบโต้ ส่วนเยี่ยเฟยเฟยที่โมโห ตอนนี้ราวกับพร้อมจะพูดอะไรออกมา

ตอนนี้เองที่เยี่ยเฟยเฟยเพิ่งได้ตระหนักว่าร่างกายท่อนบนของอู๋ฝานก็ไม่ได้สวมเสื้อผ้าสักชิ้น ส่วนเธอเองก็สวมเพียงแค่กางเกงขาสั้นที่ไม่ต่างจากชั้นใน ชั่วพริบตานี้ใบหน้าของเธอก็แดงระเรื่อขึ้นมาพร้อมร้องเสียงดัง “ทำไมคุณแต่งตัวแบบนี้เนี่ย?!”

อู๋ฝานมองสภาพตัวเอง ก่อนจะเผยยิ้มกระดากใจออกมา “ก็เหมือนคุณนั่นแหละ เพราะไม่คิดว่าในบ้านมีคนอื่น ผมก็เลยแต่งตัวตามสบายน่ะสิ”

“ไปแต่งตัวให้ดีเดี๋ยวนี้!” เยี่ยเฟยเฟยหันหน้าหนี ประหนึ่งไม่กล้าเผชิญหน้ากับอู๋ฝานบราวนี่ออนไลน์

อู๋ฝานที่จนใจ ทำได้เพียงแค่เดินกลับเข้าห้องตัวเองไปแต่งตัว เพียงแต่ในใจยังบ่นว่าเมื่อกี้คุยกันอยู่ได้นานสองนาน มองจนเหมือนชินชาแล้ว ทำไมตอนนี้กลับทำเป็นหนีหน้าไม่กล้ามอง

แต่เยี่ยเฟยเฟยที่ได้ยินเสียงอู๋ฝานกลับเข้าห้องไปแล้ว จึงหันกลับมามองทางเดิม ทว่าภาพของอีกฝ่ายที่ได้เห็นนั้นยังคงตรึงแน่นในห้วงความคิด

“ไม่นึกเลยว่าร่างกายจะดูดีได้ขนาดนั้น ได้ยินเสี่ยวอวิ๋นเล่ามาอยู่หรอกว่าหุ่นเขาดี ตอนนั้นก็ไม่ได้เชื่ออะไร ตอนนี้ได้เห็นกับตาตัวเองแล้ว หุ่นของเขาดีกว่านายแบบมืออาชีพซะอีก” เยี่ยเฟยเฟยพึมพำครุ่นคิด “ไม่ได้สิ! เฟยเฟย เธอกำลังคิดอะไรอยู่กันเนี่ย? ถึงเขาจะหุ่นดีแค่ไหน แต่มันใช่ประเด็นสำคัญเหรอ อย่าลืมสิว่าเมื่อกี้นี้เขาเห็นอะไรไปบ้าง ไม่ว่าเหตุผลจะเป็นมายังไง เธอนั่นแหละที่เป็นคนโดนล่วงละเมิด เรื่องนี้จะมองข้ามไปไม่ได้นะ!”

เยี่ยเฟยเฟยที่ไม่เคยมีแฟนหนุ่มมาก่อนสักคน ตอนนี้เมื่อถูกอู๋ฝานเอาเปรียบครั้งใหญ่ ในใจก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา

ไม่นานอู๋ฝานก็กลับมาที่ห้องโถงอีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้เขาสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย เยี่ยเฟยเฟยตีหน้าขึงขังจ้องอู๋ฝาน “เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ คุณคิดจะรับผิดชอบยังไง?”

“รับผิดชอบอะไรกันครับ? ผมอธิบายไปแล้วไม่ใช่รึไงว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันน่ะ” อู๋ฝานตอบกลับ

“ต่อให้เป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่ฉันก็เสียหายไปแล้วนะ คุณคิดจะเอาเปรียบกันอย่างนั้นเหรอ!?” เยี่ยเฟยเฟยเอ่ยถาม

“เมื่อกี้ผมไม่เห็นอะไรสักอย่าง ไม่ได้เอาเปรียบอะไรคุณทั้งนั้น และคุณก็ไม่ได้เสียหายอะไรด้วย” อู๋ฝานตอบกลับ

“จะบอกว่าไม่เห็นอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ?” เยี่ยเฟยเฟยถามด้วยความคาดหวังในใจ

หากอู๋ฝานไม่เห็นอะไรเลยก็เป็นเรื่องดีที่สุด แต่เยี่ยเฟยเฟยยังคงสงสัยในคำพูดนั้น

“ใช่ครับ ไม่เห็นอะไรเลยทั้งนั้น!” อู๋ฝานตอบกลับด้วยสีหน้าท่าทีจริงจัง

เรื่องราวจริง ๆ ย่อมไม่ใช่ดังปากพูด อู๋ฝานไม่เพียงแค่เห็น แต่ยังเห็นอย่างชัดเจน อย่างไรตอนนี้สายตาของเขาก็ดีเกินกว่าคนปกติ

“ไม่เห็นไฝที่ต้นขาซ้ายด้านในของฉันจริงเหรอ?” เยี่ยเฟยเฟยถาม

“มีไฝด้วยเหรอ? ขาวเนียนขนาดนั้น ไม่เห็นจะมีไฝนะ” อู๋ฝานตอบกลับไปโดยไม่รู้ตัว

เมื่อจบคำ อู๋ฝานจึงรู้ว่าแย่แล้ว ในใจตอนนี้กำลังร่ำร้องด่าทอตัวเอง

แน่นอนว่าสิ่งที่เขาเห็นย่อมเป็นดวงตาที่มีประกายไฟลุกโชนของเยี่ยเฟยเฟย ประหนึ่งเธอพร้อมจะเชือดเขากินซะเดี๋ยวนี้

“ก็ได้ครับ แล้วจะให้รับผิดชอบยังไง?” อู๋ฝานถามกลับด้วยความจนใจ “หรือให้ผมเปิดของตัวเองให้คุณดูล่ะ จะได้เสมอกัน?”

ถึงกับถูกเด็กน้อยตรงหน้าหลอกถามเอาได้ นับว่าไม่ทันระวังจริง ๆ

“อู๋ฝาน ไอ้คนโรคจิต!” เยี่ยเฟยเฟยที่ได้ยินข้อเสนอของอู๋ฝาน ถึงกับคว้าหมอนบนโซฟาขึ้นมาขว้างเข้าใส่เขาด้วยความอับอาย

อู๋ฝานรับหมอนเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย กระทั่งพึมพำตอบกลับ “นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ แล้วคุณจะโกรธทำไมอีกเนี่ย”

เยี่ยเฟยเฟยจ้องอู๋ฝานด้วยความโกรธเคือง ปรารถนาจะเข้าไปฉีกทึ้งเสียให้รู้แล้วรู้รอด เมื่อกี้เธอยังยินดีอยู่ว่าอีกฝ่ายไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้น แต่ก็เห็นชัดว่าเขาเห็นจนครบถ้วนและชัดเจน ทั้งยังเอ่ยข้อเสนอไร้ยางอายเมื่อกี้ออกมา เธอไม่โกรธจนอยากฆ่าให้ตายก็เป็นเรื่องแปลกแล้ว!