บทที่ 319 สองวิญญาณ
บทที่ 319 สองวิญญาณ
“เจ้าคิดมากไปแล้ว”
ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ ก่อนเอ่ย “ในเมื่อให้หัวใจดวงนั้นกับเขาไปแล้ว ตอนนี้มันก็เป็นของเขา ข้าไม่มีความจำเป็นต้องไปเอาคืนมา”
เขาหลุบตาลงมองมือทั้งสองข้าง มันดูจางลงกว่าแต่ก่อน ริมฝีปากเหยียดตรงเล็กน้อย เอ่ยเสียงเยาะเย้ยตนเองขึ้นมา “กับคนที่ร่างจริงยังไม่มีเช่นข้า มีหัวใจหรือไม่ก็ไม่สำคัญหรอก”
คำพูดเหล่านั้นฟังดูหมดหวังยิ่ง เรากลับว่ายอมแพ้เรื่องตนเองไปแล้ว
ชิงอวี่กำลังจะเอ่ยปากถาม ก็เห็นฝีเท้าของชายหนุ่มหยุดชะงักเสียก่อน
นางจึงเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ “มีอะไร..”
น้ำเสียงนางพลันจางหาย
ที่ด้านหน้าไม่ไกล มีชายคนหนึ่งกำลังยืนอยู่เงียบ ๆ
สถานที่ที่พวกนางเดินตามทางมา คล้ายกับจะกลายเป็นสถานที่จากอีกมิติหนึ่ง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่มีหิมะโปรยลงมาจากฟ้า ตกลงมาทั้งบนผมและบนเสื้อ
แต่ด้วยชิงอวี่นั้นสวมชุดสีขาวทั้งตัว หิมะที่โปรยลงมาใส่นางจึงเห็นไม่ชัดเจนนัก
เงาร่างสีทึบอยู่ในชุดสีดำล้วน เป็นภาพตัดกับฉากหิมะสีขาว แขนเสื้อกว้างยาวสะบัดไปตามแรงลมส่งเสียงดัง เรือนผมและชุดสีดำของเขาทำให้ดูเย็นชาน่ากลัว
แวบหนึ่ง เงาร่างนั้นดูคุ้นตาไม่น้อย
ชายหนุ่มผู้นั้นเองก็เห็นพวกนาง จึงหันมาหา สองเท้าก้าวเข้ามาทีละก้าว เมื่อเขาเข้ามาใกล้ ชิงอวี่จึงได้เห็นใบหน้าของเขาชัดเจน จำได้ทันทีว่าเขาก็คือเหลียนซือ
แต่ชายหนุ่มดูเป็นคนอ่อนโยนอยู่ตลอด ไม่สวมชุดสีเขียวดูสง่าเอาเป็นชุดสีขาวบริสุทธิ์ ดูเป็นคุณชายพูดสุภาพ สะอาด และสดชื่นราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
นับเป็นครั้งแรกที่เห็นเขาอยู่ในชุดสีดำดูเคร่งขรึมเช่นนี้ ทั้งลึกลับเกินหยั่ง ให้กลิ่นอายดูสง่าผ่าเผยและน่ากลัว
ยิ่งเขาเข้ามาใกล้ ชิงอวี่ยิ่งรู้สึกว่าเขาผิดปกติไป
ในอดีต เพราะเขาเล่าเรื่องอดีตของตนเองให้นางฟัง เคยเผยนัยน์ตาสีม่วงให้นางเห็นมาก่อนแล้ว แต่นั่นก็เป็นเพียงพริบตาหนึ่งเท่านั้น ก่อนที่มันจะกลับมาเป็นสีดำสนิทดังเดิม
หากแต่ในตอนนี้ นัยน์ตาของเขาเป็นสีม่วงตลอด ทั้งลึกล้ำน่าจับตา ทั่วร่างปล่อยกลิ่นอายชั่วร้าย เครื่องหน้าที่เดิมทีขาวละอ่อนอยู่แล้ว กลายเป็นซีดมากขึ้น แทบจะเป็นสีขาวซีด ราวกับเผ่าผีดูดเลือดที่รังเกียจแสงตะวันก็มิปาน
ชิงอวี่เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เขากลายเป็น.. เช่นนี้ได้อย่างไร?
“ดูเหมือนการกลับมาของข้าจะส่งผลถึงเขาอยู่บางส่วน” ชายหนุ่มด้านข้างเหมือนเข้าใจบางอย่าง ดวงตาสีม่วงหรี่ลง เอ่ยเสียงขรึม
ชิงอวี่จึงหันไปมองเขา แต่พริบตานั้นนางก็ชะงักไป ราวกับพบเรื่องแปลกประหลาด
ใบหน้าของชายหนุ่มทั้งสอง แท้จริงแล้ว….. เหมือนกันไม่มีผิด
ชุดที่ทั้งคู่สวมอยู่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คนหนึ่งสีดำ คนหนึ่งสีขาว ราวกับเป็นนิสัยที่ต่างกันสุดขั้ว เงาร่างทั้งสองคือตัวแทนความเมตตาประจันหน้ากับความชั่วร้าย กลิ่นอายที่แผ่ออกจากร่างดูแตกต่างโดดเด่นกันอย่างถึงที่สุด
สุดท้ายแล้ว เหลียนซือผู้ชั่วร้ายในชุดสีดำก็ค่อย ๆ เดินมาตรงหน้าพวกนาง
“ไม่ได้พบกันนาน” เขาเอ่ยคำเสียงเบา ไม่อาจสัมผัสได้เลยว่าน้ำเสียงแฝงความชั่วร้ายอยู่หรือไม่
นัยน์ตาล้ำลึกเย้ายวนอย่างร้ายกาจสีม่วงคู่นั้นดูไร้อารมณ์ มันกวาดผ่านชิงอวี่ไปอย่างรวดเร็ว นางหรี่ตาลงทันที สัมผัสได้ถึงความรู้สึกน่าขนลุกได้ในชั่วพริบตานั้น
“นานมากแล้วจริง ๆ” น้ำเสียงอ่อนโยนนั่น ออกมาจากปากชายหนุ่มด้านข้างชิงอวี่
ราวกับคนทั้งคู่ได้แลกเปลี่ยนวิญญาณกัน
ชิงอวี่ที่ยืนมองอยู่ด้านข้างสับสนอยู่บ้าง ไม่อาจตอบสนองอยู่ครู่หนึ่ง ยังไม่เข้าใจสถานการณ์เบื้องหน้าเท่าไหร่นัก
“เจ้าดูไม่แปลกใจที่ได้เจอหน้าข้า” เหลียนซือชุดขาวผู้อ่อนโยนเอ่ยพร้อมรอยยิ้มมุมปากแทบมองไม่เห็น เปล่งเสียงแผ่วเบาออกมาอย่างเชื่องช้า
เหลียนซือชุดดำหัวเราะหยัน “หัวใจเจ้ายังอยู่ที่นี่ เราจะตายได้อย่างไร”
มันไม่ใช่คำถาม เป็นประโยคยืนยันต่างหาก
เมื่อตอนที่อีกฝ่ายใช้ดวงใจปีศาจฟื้นคืนชีพเขา เขาก็รู้ความจริงข้อนี้แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าเวลาล้านปีจะผ่านไปเช่นนั้น มันนานมากเสียจนเขาแทบจะลืมเรื่องราวทั้งหมดไปแล้ว
หัวใจในร่างของเขาเป็นของผู้ชายตรงหน้า ผู้ที่มีกำลังกล้าแข็งที่สุดในเผ่าปีศาจ ดวงใจปีศาจของบุตรแห่งความชั่วร้ายย่อมไม่ใช่ดวงใจธรรมดา มันมีจิตนึกคิดเป็นของตน และจดจำนายของตนได้
ดังนั้นมันย่อมสัมผัสได้ว่าเจ้าของที่แท้จริงกลับมาแล้ว ถึงได้ตอบสนองรุนแรงเช่นนี้
“มาที่นี่ได้ คงได้ตัดสินใจบางอย่างไปแล้วสินะ ข้าคิดว่าคงถึงเวลาที่จะคืนหัวใจดวงนี้ให้เจ้าแล้ว” เหลียนซือชุดดำมีสีหน้าเย็นชาไร้อารมณ์ น้ำเสียงเอ่ยจำทุกคำ “แม้จะใช้หัวใจเจ้าใช้ชีวิตอยู่มานานหลายปี หากแต่ข้าไม่ได้รู้สึกขอบคุณหรือซาบซึ้งเจ้ายังสักนิด”
ใครใช้ให้อีกฝ่ายมาตัดสินว่าเขาจะอยู่หรือตาย?
หากในตอนนั้นเขาไม่ฟื้นคืนชีพ ผลลัพธ์ก็อาจจะออกมาแตกต่าง คนที่จะถูกจดจำไปตลอดกาลอาจกลายเป็นเขา
เรื่องราวก็จะไม่เป็นเหมือนตอนนี้ที่นางทำตัวห่างเหินกับเขา ทำให้ใจเขามอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน
“ข้าก็ไม่ต้องการความซาบซึ้งจากเจ้า” เหลียนซือชุดขาวว่าพร้อมหัวเราะเบา ๆ จากนั้นมองหน้าอีกฝ่ายแล้วเอ่ยคำต่อ “เพียงแต่ไม่คิดว่าการที่ข้ากลับมาอีกครั้งจะส่งผลถึงเจ้ามากขนาดนี้”
เห็นได้ชัดว่าหน้าตาของเขาในตอนนี้ ดูเหมือนกับเหลียนซือตัวจริงเมื่อหลายปีก่อนไม่มีผิด เป็นตัวตนที่ทรงพลังและทรงอำนาจมากที่สุดในเผ่าปีศาจ ดวงใจปีศาจไม่เพียงกลับกลายสภาพร่างกายของเหลียนซือชุดดำ แต่ยังเปลี่ยนให้มีท่าทางเหมือนกับเจ้าของเดิมด้วย
“แค่เจ้าได้อยู่เคียงข้างหมิงเยว่มาตลอดก็เพียงพอแล้ว การกลับมาของข้าจะไม่เปลี่ยนอะไรทั้งสิ้น” เหลียนซือชุดขาวพูดเสียงเบา
“หึ” สีหน้าเยาะปรากฏขึ้นบนใบหน้าเสี้ยวหนึ่งของเหลียนซือชุดดำ “เคียงข้างหมิงเยว่งั้นหรือ?”
เขายกมือขึ้นแตะใบหน้าช้า ๆ “แม้จะกลายเป็นคนมีหน้าตาเหมือนกับเจ้าขึ้นมา ในใจนางก็ไม่เห็นข้าเป็นตัวแทนของเจ้าด้วยซ้ำ ล้านปีที่ผ่านมาเป็นข้าที่ได้อยู่ข้างกายนาง ทว่าเงาร่างเลือนรางของเจ้าก็ยังไม่อาจเลือนหายไปจากใจนางได้ ในเมื่อเจ้ากลับมาแล้ว เช่นนั้นก็จบเรื่องทุกอย่างเถอะ ผ่านมานานหลายปีเช่นนี้ มันถึงเวลาที่นางจะตื่นจาก….. ความฝันสักที”
ได้ยินแล้ว เหลียนซือชุดขาวก็ดูประหลาดใจเล็กน้อย “ในอดีตเจ้าไม่ได้เป็นเช่นนี้ เท่าที่ข้ารู้ แม้เจ้าจะเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา แต่ก็ยึดมั่นและแข็งแกร่ง ทว่าตอนนี้กลับสูญเสียความมั่นใจนั้นไปเสียแล้วรึ”
“ในสายตาเจ้าข้าเป็นคนเช่นไร?” เหลียนซือชุดดำหัวเราะออกมาเสียงดัง แต่กลับเต็มไปด้วยความขมขื่น “คือคนที่เอาแต่ตามหมิงเยว่ต้อย ๆ ไม่ว่านางจะไปที่ใด เป็นเด็กโง่เง่าคนหนึ่งที่ถูกหลอกใช้ แต่ก็ยังเต็มใจให้ถูกหลอกครั้งแล้วครั้งเล่า”
พริบตาต่อมา อารมณ์ด้านลบของชายหนุ่มก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขาคลี่ยิ้มชั่วร้ายขึ้นมาอีกครั้ง “ข้าทนมามากแล้ว ไม่อยากเห็นใบหน้าที่เหมือนกับของเจ้าอีก ไม่อยากเห็นนางมองใบหน้าบัดซบของเจ้าด้วยความหลงใหลอีกต่อไปแล้ว ให้หัวใจดวงนี้กลับไปหาเจ้าของมันเถอะ!”
ที่เขาไม่ลงมือเองเป็นเพราะมีแต่เจ้าของหัวใจเท่านั้นที่รู้วิธีนำมันออกจากร่าง ตัวเขาลงมือทำอะไรเองไม่ได้เลย
ได้ยินแล้ว เหลียนซือในชุดขาวก็ถอนหายใจเสียงเบา “จำเป็นต้องทำเช่นนั้นด้วยหรือ? นางเพียงยังไม่รู้ใจตัวเองเท่านั้น สักวันนางจะรู้เองว่าเจ้าเหมาะสมกับนางที่สุด”
“เจ้าก็กลับมาแล้วไม่ใช่หรือ? เจ้าคิดหรือว่าข้ายังมีโอกาสให้นางส่งสายตามาทางข้าสักครั้งยามที่มีเจ้าอยู่?”
“ข้าไม่ได้กลับมา เพียงแต่มาที่นี่เพื่อทำตามคำขอเท่านั้น หากทำสำเร็จแล้ว ข้าก็จะไม่อยู่ต่ออีก” เหลียนซือชุดขาวเอ่ยช้า ๆ พลางมองอีกฝ่าย
ทำตามคำขอ?
เหลียนซือชุดดำหันมองชิงอวี่ ประหลาดใจอยู่บ้าง แม่นางน้อยผู้นี้….. โน้มน้าวให้เขาช่วยนางได้จริง ๆ หรือ?
ส่วนเรื่องที่ช่วยเป็นเรื่องอะไร เขาไม่จำเป็นต้องคาดเดาด้วยซ้ำ
“อย่าเสียเวลาอีกต่อไป แล้วพาข้าไปหาหมิงเยว่จะได้หรือไม่? ยิ่งถ่วงเวลาไว้ เจ้าก็จะยิ่งเปลี่ยนไป สุดท้ายเจ้าอาจเข้าสู่ทางมารได้” เหลียนซือชุดขาวเอ่ยคำแล้วส่ายหน้าจนใจ “กว่าเจ้าจะได้ร่างอมตะมา ต้องใช้แรงกายไปไม่น้อย อย่าให้มันสูญเปล่าเลย”
เหลียนซือชุดดำเงียบไปครู่หนึ่ง คล้ายกำลังคุณคิดถึงความจริงใจในประโยคนั้น ชั่วอึดใจต่อมา เขาก็ตอบตกลง
แต่ยังไม่ทันได้ลงมืออะไร ก็ได้ยินน้ำเสียงเย็นชาของสตรีผู้หนึ่งดังก้องขึ้น
“ในที่สุดก็เจอตัวแล้วแม่นางน้อย เจ้าหนีไปได้เช่นนี้ ประมาทเจ้าไปจริง ๆ…..”
ชิงอวี่ชะงักค้าง ทั่วร่างเกร็งขึ้นด้วยความระมัดระวังก่อนจะหันไปทางต้นเสียง
บนพื้นที่มีหิมะปกคลุมจนทั่ว มีคนกลุ่มหนึ่งที่พลันปรากฏขึ้น ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นสตรี
สตรีที่นำหน้ามามีใบหน้างดงามยิ่งนัก เย็นชาทว่าน่าดึงดูด สีหน้าของนางนั้นเยียบเย็นเปล่ากับน้ำแข็งพันปีที่ไม่อาจละลาย แค่มองก็รู้สึกราวก็จะถูกแช่แข็งได้
“เหยี่ยนพั่ว?”
เหลียนซือชุดดำมุ่นคิ้วน้อย ๆ ราวกับไม่คิดว่าจะมาพบนางที่นี่ได้
“ท่านเทพเหลียนซือ ข้าประหลาดใจนักที่เห็นท่านอยู่กับแม่นางน้อย มันทำให้ข้าสงสัยไม่ได้ว่าท่านช่วยนางหนี หรือว่ามีเจตนาเดียวกับข้า คือมาพานางกลับกันแน่”
มุมปากเหยี่ยนพั่วเหยียดตรงดูเคร่งขรึม น้ำเสียงนางเรียบนิ่ง
นางดูจะกล่าวหาว่าเขาจงใจปล่อยชิงอวี่ไป และตอนนี้กำลังแอบช่วยนางหนี
เหลียนซือชุดดำใบหน้าขรึมลงทันตา รอบกายพลันแผ่กลิ่นอายบ้าคลั่ง พลังที่มองไม่เห็นนั่นอาจเอาชีวิตคนได้เลย
เหยี่ยนพั่วย่อมสัมผัสความเปลี่ยนแปลงของชายหนุ่ม อดรู้สึกสะท้านอยู่ลึก ๆ ไม่ได้ กลิ่นอายของเขากลายเป็นชั่วร้ายดุดันเช่นนี้ได้อย่างไร ทั้งยังดวงตาสีม่วงลึกล้ำอย่างน่าตกใจบนใบหน้าชั่วร้ายซีดขาวนั่น ทำให้ดูราวกับปีศาจน่าผวา
เหลียนซือ….. เข้าสู่ทางมารไปแล้วหรือ?
หากแต่เหยี่ยนพั่วมองแต่เขา เมื่อเหลียนซือชุดขาวหันมา นางก็เบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง ทุกคนด้านหลังเองก็เช่นกัน
เห็นคนสองคนหน้าตาเหมือนกันมากเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็คงต้องตกใจเช่นกัน
เกิดอะไรขึ้น? ทำไมมีเหลียนซือสองคนได้!?
วิชามายางั้นหรือ!?
“ใคร….. คือเหลียนซือตัวจริงกันแน่?” เหยี่ยนพั่วนัยน์ตาเย็นชา สายตาจ้องมองทั้งสอง คนหนึ่งชุดดำ คนหนึ่งชุดขาว น้ำเสียงสั่นอย่างลังเล คลางแคลงไม่วางใจ
“อะไรกัน มองไม่ออกหรือ?” เหลียนซือชุดขาวว่าพลางหัวเราะเบา
เห็นได้ชัดว่าเขากำลังทำให้เหยี่ยนพั่วรู้สึกว่าเขานั้นเหมือนกับเหลียนซือที่นางรู้จัก
เหลียนซือที่มักดูอ่อนโยนและอารมณ์ดีต่อหน้าทุกคนอยู่ตลอด นางไม่เคยเห็นเขายามแสดงด้านมืดมาก่อน อีกทั้งเขายังเป็นบุคคลที่ล้ำลึกเกินหยั่งมาแต่ไหนแต่ไร
ดังนั้นเหยี่ยนพั่วจึงรู้สึกประหลาดใจมาก
นางตามมาที่นี่เพื่อจับตัวแม่นางน้อยที่หนีมา แต่กลับต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ได้อย่างไรกัน
ถ้าอ่าน “สาวงามตัวร้าย_ท่านจอมมารได้โปรดโนตกซะทีเถอะ” แล้วยังไม่จุใจ งั้นไปอ่านกันต่อได้ที่เว็บ Enjoybook.co เพราะที่นั่นลงนำไปแล้วกว่า 30 ตอน !!