บทที่ 318 ได้เห็นแสงอีกครา
บทที่ 318 ได้เห็นแสงอีกครา

ไม่ได้มีชีวิตอยู่จริง ๆ อีกต่อไปหมายความว่าอะไรกัน?

ชายหนุ่มยกมุมปากขึ้น เอ่ยเสียงเรียบเรื่อยออกมา “ครั้งนั้น ข้าตายไปแล้วจริง ๆ วิญญาณข้าไม่สมบูรณ์ด้วยซ้ำ ข้าที่เจ้าเห็นในตอนนี้เป็นเพียงเงาที่ยังหลงเหลืออยู่ จากการรวบรวมผสานดวงจิตเข้าด้วยกัน ในระยะเวลาล้านปีที่ผ่านมาเท่านั้น”

ได้ยินดังนั้น ชิงอวี่ก็อึ้งไปน้อย ๆ ราวกับไม่อยากเชื่อ

นางพลันยื่นมือออกไปหมายจะลองแตะ ชายหนุ่มยังยืนยิ้มไม่ตื่นเต้น ไม่มีท่าทีจะหลบแต่อย่างไร

หากแต่พริบตาต่อมา ชิงอวี่ก็เห็นว่ามือที่เอื้อมออกไปทะลุผ่านร่างของชายหนุ่ม

“ได้ไง…..”

ชิงอวี่มองมือตนเองด้วยความประหลาดใจก่อนจะมุ่นหัวคิ้ว “แต่….. เมื่อครู่เจ้าตัวเล็กตรงนั้นดึงดาบท่านเห็น ๆ…..เช่นนั้นดาบเป็นของจริงหรือ?”

ชายหนุ่มยิ้มแต่ไม่ตอบคำ ก่อนยื่นดาบในมือให้เด็กสาว ให้ลองสัมผัสด้วยตนเอง

ชิงอวี่เอื้อมมือออกไป เป็นไปดังคาด นางคว้าได้เพียงอากาศเท่านั้น

นางหันไปมองเจ้าตัวเล็กที่อยู่ข้างหลังสายตาเคลือบแคลงทันที

แม้เจ้าตัวจะมีอายุกว่าหมื่นปี แต่ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูแปลกใหม่ไปหมด ตากลมโตเป็นประกายทองตรงนั้นตรงนี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ราวกับว่าที่ก้นทะเลสาบแห่งนี้มันน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก

ดูท่าเขาจะสัมผัสได้ถึงสายตามองประเมินจากชิงอวี่ จึงหันมายิ้มให้ ดูใสซื่อบริสุทธิ์เสียเหลือเกิน

“เช่นนั้นเขา……”

ชิงอวี่อดรู้สึกสงสัยไม่ได้ แล้วเจ้าตัวเล็กนี่ดึงดาบของเขาออกมาได้อย่างไร? ทั้งยังแตะต้องตัวเขาได้อีก??

ดูเหมือนเขาจะสัมผัสถึงความพิศวงของนางได้ ชายหนุ่มจึงเริ่มอธิบาย “เป็นเพราะเจ้าตัวเล็กนี่เหมือนกับข้า อยู่ในร่างมนุษย์แต่ไร้ร่างเนื้อที่แท้จริง อีกทั้งเถาวัลย์ปีศาจเพลิงดินเป็นพืชปีศาจ ดังนั้นจึงมีความเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทำให้เขาสามารถสัมผัสตัวข้าได้”

แท้จริงแล้วชายหนุ่มมองร่างจริงของเจ้าเด็กน้อยออกมาโดยตลอด

ชายหนุ่มส่งสายตาไปมองอีกด้านหนึ่ง มองไปยังไปหน้าสงบนิ่งของเด็กหนุ่มผมทอง แววตาเขามีแววความสนใจประดับอยู่ “ทว่าเด็กคนนี้ ข้าสัมผัสได้เพียงว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ แปลกนักที่ไม่อาจเห็นร่างจริงเขาได้”

ได้ยินชายหนุ่มเอ่ยถึง จั้งไหมจึงเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาเรียวยาวสีทองและเงินส่องประกายมืดมิดแวบหนึ่ง ก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็ว

“เขาเป็นจิตวิญญาณอาวุธของข้า คู่หูคนสนิทที่เติบโตมาพร้อมกับข้า ไม่แปลกที่ท่านมองร่างจริงเขาไม่ออก เพราะเขาเป็นอสูรวิญญาณประเภทจิตวิญญาณอาวุธที่หายากมาก”

ชิงอวี่ยกมุมปากขึ้น เอ่ยพร้อมรอยยิ้ม

“อสูรวิญญาณประเภทจิตวิญญาณอาวุธ?”

ชายหนุ่มที่มีสีหน้าไม่สนใจอะไรมาตลอดกลับฉายแววประหลาดใจ เขามองเด็กหนุ่มอีกครั้งหนึ่ง สายตาจั้งไหมหันมาสบตาเขาเข้าพอดี ม่านตาสีทองและเงินมาบรรจบกับดวงตาสีม่วง

ช่างเป็นดวงตาที่งดงามเป็นเอกลักษณ์จริง

ร่างจริงของเขา…..

ชายหนุ่มยังพยายามคาดเดาเมื่อเห็นแสงสีเงินส่องออกมาจากดวงตาสีแปลกคู่นั้น ก่อนม่านตาจะกลายเป็นรอยแยกดูชั่วร้าย

“เผ่าอสรพิษ?” ชายหนุ่มเอ่ยปากขึ้นทันที

“ข้าไม่ใช่เผ่าอสรพิษธรรมดา” จั้งไหมเสียงต่ำดูเย็นชาเล็กน้อย ราวกับไม่อยากให้ใครมารุกล้ำความเป็นส่วนตัวอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้

ชายหนุ่มหัวเราะแล้วละสายตาไปจากเด็กหนุ่ม

จากนั้นทั้งสองก็ไม่คุยกันอีก ด้วยหนทางเบื้องหน้าทะเลสาบสั้นลงเรื่อย ๆ แสงที่ส่องอยู่เหนือศีรษะเริ่มจ้าขึ้นจนแสบตา

ชิงอวี่หรี่ตาลงแล้วมองไปด้านบน หรือพวกนางกำลังจะออกไปจากที่นี่ได้แล้ว?

สุดท้ายนางก็คิดถูกจริง ๆ

ร่างของชายหนุ่มขึ้นมาเหนือน้ำก่อนเป็นคนแรก

อยู่ใต้ทะเลสาบเย็นเฉียบและมืดแสงมานาน เมื่อสัมผัสแสงจ้าและอากาศด้านบนเขาก็รู้สึกไม่คุ้นเคยอยู่เล็กน้อย เวียนหัวไปหมด มองอะไรไม่ชัดเจน ใช้เวลาพักใหญ่ ๆ จึงจะกลับเป็นปกติ

เขาอดยกยิ้มจนใจขึ้นไม่ได้ จากนั้นหลุบตาลงมองสองมือตนเองซึ่งดูเลือนรางมากขึ้นในชั่วพริบตา

ดูท่าเขาคงจะเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว!

——————————

อีกฝั่งนึง ในขณะที่ชิงอวี่กำลังขึ้นมาจากทะเลสาบ หูที่ได้ยินเสียงดีเป็นพิเศษของโร่วโร่วก็พลันขยับขึ้น มันสูดจมูกเล็ก ๆ ฟุดฟิดไปยังทิศทางหนึ่ง ก่อนจะแสดงสีหน้ายินดีปรีดาออกมา

“เป็นกลิ่นท่านแม่!” มันร้องขึ้นด้วยความดีใจ

“ว่าอะไรนะ?” ชิงเป่ยที่อุ้มเจ้าอสูรตัวน้อยได้ยินคำพูดของมันแล้ว ก็อดร้องเสียงประหลาดใจไม่ได้

โร่วโร่วกะพริบตาแล้วหันไปมองเด็กหนุ่ม “เป็นท่านแม่! ข้าได้กลิ่นนางแล้ว”

“จริงหรือ? มั่นใจหรือว่าเป็นชิงอวี่?”

แม้เขาจะมีพลังประสาทสัมผัสแข็งแกร่ง แต่เทียบกับความสามารถในการดมกลิ่นอันเฉียบแหลมแต่กำเนิดของอสูรวิญญาณแมวเงามืดแล้ว เขาก็ยังด้อยกว่านัก ดังนั้นจึงร้องถามให้มั่นใจด้วยเสียงเป็นกังวล

ได้ยินคำถามแล้ว โร่วโร่วก็เผลอกลอกตา รู้สึกขุ่นใจอยู่บ้างที่เด็กหนุ่มกล้าสงสัย แต่เจ้าอสูรน้อยก็ยังตอบเด็กหนุ่มแต่โดยดี ให้คำยืนยันที่เขาต้องการ

“กลิ่นของท่านแม่เพิ่งจะปรากฏ ข้าไม่มีทางผิดแน่ อีกทั้งดูท่านางจะอยู่ไม่ไกลจากเราด้วย” โร่วโร่วย้ำคำหนักแน่น

โหลวจวินเหยาเปิดปากเอ่ยเสียงทุ้มออกมา “เจ้าพอจะระบุตำแหน่งนางได้หรือไม่?”

“ย่อมได้ ไม่มีปัญหา” โร่วโร่วผงกหัวเล็ก ๆ ดูมั่นใจยิ่งนัก “หากท่านแม่อยู่ในระยะดมกลิ่นของข้า ข้าต้องหานางพบแน่”

ว่าแล้ว โร่วโร่วก็กระโจนลงมาจากอ้อมแขนชิงเป่ย หลังจากหลับตาลงเล็กน้อยแล้ว มันก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ตากลมโตสีน้ำเงินเปลี่ยนสีไป ส่องประกายด้วยแสงสีเงินระยับ

ดูท่ามันจะกำลังพยายามระบุตำแหน่งที่ชัดเจนว่าควรไปทางใด ด้วยเห็นร่างเล็กหยุดอยู่กับที่ชั่วขณะ ก่อนจะมุ่งหน้าไปอย่างมั่นใจ

ทุกคนเดินตามหลังมันไปทันที

หลังจากที่ผจญภัยมานาน เกือบจะหนีเอาตัวไม่รอด ทุกคนก็หมดความอยากประมือกันเองสิ้น กลับกลายเป็นสมัครสมานสามัคคี ช่วยเหลือกันแทน เพราะการเอาชีวิตรอดย่อมสำคัญที่สุด

และโร่วโร่วก็ช่วยเหลือพวกเขาจากอันตรายมาหลายครั้งหลายหน ได้รับความไว้วางใจจากทุกคน ดังนั้นทุกคนจึงเชื่อใจว่าหากตามอสูรวิญญาณตัวน้อยไปต้องไม่ผิดแน่

และในเมื่อพวกเขาสามารถสัมผัสถึงเบาะแสของชิงอวี่ได้แล้ว คนจากยอดเขาใจสงบก็ย่อมไม่ต่าง

“นางปรากฏตัวแล้วเจ้าเหนือหัว แม่นางน้อยเผยตัวแล้ว” ทันทีที่เหยี่ยนพั่วรู้เรื่อง นางก็รีบมาแจ้งสตรีที่อยู่ในห้องโถงใหญ่ทันที ราวกับพยายามชดใช้ความผิดเมื่อก่อนหน้า

หากแต่ข่าวนี้กลับไม่อาจทำให้นางเปลี่ยนสีหน้าได้เลย ราวกับว่านางคิดไว้แล้วว่าจะเป็นไปตามนั้น

มีแต่นางที่รู้ว่าตนกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ ตอนนี้นางหาตัวเหลียนซือไม่พบ ไม่รู้ว่าเขาไปที่ไหนกันแน่ หรือเขาจะตัดใจจากนางไปแล้วจริง ๆ?

เห็นสีหน้าสงบราบเรียบของสตรีตรงหน้าแล้ว เหยี่ยนพั่วก็ไม่อาจรู้อารมณ์อีกฝ่ายได้ แต่นางก็ยังอยากชดใช้ความผิด จึงอดเอ่ยปากขึ้นไม่ได้ “เจ้าเหนือหัว ให้ข้าไปนำตัวนางกลับมาดีหรือไม่? ไม่เช่นนั้นเกรงว่าอาจเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นได้”

“ลงมือตามที่เจ้าเห็นสมควร” หมิงเยว่ไม่คิดสนใจ เอ่ยคำไปอย่างไร้อารมณ์

ได้ยินดังนั้น เหยี่ยนพั่วก็โค้งคำนับ “ข้าน้อยเข้าใจแล้ว”

จากนั้นเหยี่ยนพั่วก็ค่อย ๆ ถอยออกไปจากห้องโถงใหญ่ จากนั้นรีบหันหลังไปโดยเร็ว นี่เป็นโอกาสที่เจ้าเหนือหัวมอบให้นางได้แก้ตัว ดังนั้นนางจะไม่ทำให้อีกฝ่ายต้องผิดหวังอีกแล้ว

————————————–

ดวงใจของเหลียนซือที่สงบมานานหลายหมื่นปี ไม่รู้เพราะเหตุใดจึงเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

มันเป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เขาหลุบตาลงต่ำเล็กน้อย

เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นวางลงตรงตำแหน่งหัวใจ แต่ก็ไม่อาจมีอะไรที่ทำให้ใจสงบได้เลย ใจดวงนี้ดูท่าจะตื่นเต้นเสียเหลือเกิน ราวกับมีบางอย่างเกิดขึ้น ทำให้มันตื่นเต้นจนบ้าคลั่ง

มันเกิดเรื่อง….. อะไรขึ้นกับเขากันแน่?

ทำไมจู่ ๆ เขาถึงรู้สึก….. ไม่สบายใจเลย…..

ในตอนนั้นหัวใจดวงนี้ได้ให้ชีวิตใหม่กับเขา จากนั้นมาเขาก็ได้รับพลังที่แข็งแกร่งขึ้น พร้อมกับความเป็นอมตะที่เขาตามหามาเนิ่นนาน

นอกจากนั้นแล้วก็ไม่มีอะไรอีกเลย

ดวงใจในกายเขาไม่เต้นอย่างของมนุษย์ปกติด้วยซ้ำ เพียงแต่นอนนิ่งอยู่ในอกของเขาอย่างเย็นชา ไม่ขยับสักนิดเดียว ที่มันเต้นแรงได้ถึงขนาดนี้ เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เขารู้ว่าหัวใจดวงนี้ไม่ใช่ของเขา แต่เป็นของคนอีกคนหนึ่ง แม้เขาจะได้พลังแข็งแกร่งมา เขาก็ยังไม่ใช่เจ้าของดวงใจที่แท้จริงอยู่ดี ฉะนั้นนอกจากยืดอายุขัยให้เขาแล้ว ดวงใจนี้ก็ไม่เคยทำอย่างอื่นอีก

แต่ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่? ทำไมมันถึงได้มีปฏิกิริยารุนแรงเช่นนี้?

จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นหรือ? และคงจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชายหนุ่มผู้นั้นเป็นแน่

นี่เป็นหัวใจของเขา ก็คงจะต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับเขา

แต่เขาก็เห็นกับตาตนเองมาแล้วว่าชายหนุ่มสลายกลายเป็นผุยผง ก่อนจะลอยหายไปกับสายลม แม้แต่วิญญาณยังไม่เหลืออีกต่อไป ดังนั้นจึงไม่มีโอกาสที่เขาจะกลับมามีชีวิตได้อีก

หากเขาไม่ได้ฟื้นคืนชีพ แล้วทำไมใจของเขามันถึงเต้นแรงเช่นนี้?

เหลียนซือกำหน้าอกตนแน่นแล้วกัดฟัน สองเท้าพาร่างเขาเดินไปยังทิศทางหนึ่ง

เป็นทางนี้…..

แม้ตัวเขาจะไม่เชื่อ หากแต่หัวใจของเขากลับนำพาให้เขาเดินไปยังทิศทางหนึ่ง

และที่นั่น เขาจะได้พบกับคำตอบที่ตามหา

————————————-

“เจ้าเคยมาที่นี่มาก่อนหรือไม่?”

ชิงอวี่มองชายหนุ่มหน้าตายที่นิ่งเงียบพลางเอ่ยตอบ “ได้ยินจาก….. เหลียนซืออีกคนหนึ่งว่าที่นี่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของคนจากเผ่าเทพ มีหลายส่วนที่ยังเหมือนกับเมื่อกาลก่อน กระทั่งพลังศักดิ์สิทธิ์ในอากาศก็ยังมีอยู่หนาแน่นอุดมสมบูรณ์ยิ่ง”

“อืม” ชายหนุ่มตอบรับเสียงในลำคอ “ที่นี่คือชายแดนระหว่างเผ่าเทพและเผ่าปีศาจ แต่ละฝั่งถือครองแดนคนละครึ่ง ทั้งสองฝ่ายหมายจะครองดินแดนทั้งผืนมาตลอด สุดท้ายมีแต่สูญเสียกันทั้งคู่ ไม่มีใครแพ้ชนะ ท้ายที่สุดก็เกิดการต่อรองกัน ตกลงกันว่าให้สถานที่นี้เป็นเขตแบ่งศูนย์กลาง”

ชิงอวี่เลิกคิ้วประหลาดใจ “อา มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริงด้วยหรือ”

“เขาไม่ได้บอกเจ้าหรือ?” ชายหนุ่มเอ่ยยิ้ม ๆ “เพราะเป็นรายละเอียดปลีกย่อยไม่สำคัญ เขาจึงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องบอกกระมัง”

ชิงอวี่นัยน์ตาเป็นประกาย สีหน้าซับซ้อนอยู่บ้าง นางลังเลเล็กน้อย แล้วเอ่ยปากขึ้น “แท้จริงแล้วข้าอยากถามท่าน ในเมื่อกลับมาแล้ว ท่านจะเอาหัวใจที่ใส่ไว้ในร่างเขาคืนมาหรือไม่? หากทำเช่นนั้นเขาก็จะตาย…..”

ถ้าอ่าน “สาวงามตัวร้าย_ท่านจอมมารได้โปรดโนตกซะทีเถอะ” แล้วยังไม่จุใจ งั้นไปอ่านกันต่อได้ที่เว็บ Enjoybook.co เพราะที่นั่นลงนำไปแล้วกว่า 30 ตอน !!