หยานชิงเจ๋อนึกถึงตรงนี้ นวดขมับที่นูนเพราะอารมณ์ขึ้นลงจากการเดินทางไกล
เพราะไม่ใช่ช่วงเวลาเข้างานเลิกงาน ดังนั้นไม่ถึงครึ่งชั่วโมง หยานชิงเจ๋อก็มาถึงใต้คอนโดมิเนียม
ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองโมง ไม่รู้ว่าซูสือจิ่นจะอยู่บ้านหรือเปล่า หรือกำลังนอนกลางวัน?
หยานชิงเจ๋อใช้กุญแจเปิดประตู เดินเข้าไปเงียบๆ
ในบ้านเงียบมาก เขาคิดว่าเธอคงกำลังพักกลางวัน ดังนั้นเลยเอากระเป๋าวางไว้ห้องนั่งเล่น หยิบกล่องหนึ่งจากข้างใน
จำได้เมื่อก่อน เขาออกไปทำงานนอกสถานที่หรือไปเที่ยว มักจะซื้อของขวัญหรือขนมของที่นั่นมาฝากเธอ
หยานชิงเจ๋อจับกล่องในมือ จู่ ๆก็รู้สึกตื่นเต้นนิดๆ จู่ ๆ เขาให้ของเธอ ภายใต้ช่วงความสัมพันธ์ที่อึดอัดหลังการแต่งงานของพวกเขา เธอจะมีปฏิกิริยายังไง?
กำลังคิดอยู่ หยานชิงเจ๋อก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากห้องหนึ่งในบ้าน
เขาจับของขวัญ ลุกขึ้นเดินไปเงียบๆ
“ว้าว ฉันล่ะนับถือฝีมือของตัวเองจริงๆ นี่มันวิเศษสุดๆ!” ซูสือจิ่นมีน้ำเสียงดีใจ
หยานชิงเจ๋อมองเข้าไปจากประตูที่ไม่ได้ปิดอยู่ เห็นซูสือจิ่นนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร
เธอเหมือนดีใจมาก วางมือจากคอมพิวเตอร์ หยิบมัทฉะช็อกโกแลตจากด้านข้างเข้าปาก กินไปพลาง ยังฮัมเพลงไปพลาง
เธอยังคงเป็นเธอเมื่อก่อนคนนั้นที่เขารู้จัก
ดีใจก็แสดงออกมา กระตือรือร้น มีความสุข สามารถนำพาอารมณ์แบบนี้มอบให้คนรอบข้าง
เขาดูอยู่ตรงประตูครู่หนึ่ง กำลังคิดว่าไม่ไปรบกวนซูสือจิ่นก่อน แต่จู่ ๆ เธอกลับยืนขึ้น
ซูสือจิ่นเดิมเห็นว่าน้ำในแก้วหมดแล้ว หมุนตัวจะไปเติมน้ำที่ห้องนั่งเล่น แต่ตอนเธอเงยหน้า ก็เห็นหยานชิงเจ๋อยืนอยู่หน้าประตูห้องเธอ
เธอนิ่งอึ้งไปทันที แก้วในมือเกือบตกลงพื้น
หยานชิงเจ๋อก็อึ้งไปเหมือนกัน เขาเม้มริมฝีปาก กำลังคิดว่าควรพูดยังไง คำพูดคนชราก่อนหน้านี้คนนั้นแว่วดังข้างหูอีกครั้ง
ดังนั้น เขาหยุดไปครู่หนึ่ง เดินเข้าไปในห้องจนมาถึงตรงหน้าซูสือจิ่น แล้วพูดกับเธอ“เสี่ยวจิ่น ฉันกลับมาแล้ว”
เขาไม่ได้ดุเธอ ไม่เย็นชา และไม่ดูถูกถากถาง กลับพูดแบบเรียบง่ายแบบนี้ เขากลับมาแล้ว?!
ซูสือจิ่นจ้องมองหยานชิงเจ๋ออยู่หลายวินาที มุมปากถึงยกขึ้น ยิ้มกว้างให้หยานชิงเจ๋อ
หยานชิงเจ๋อถูกรอยยิ้มของเธอทำให้ตาลายนิดๆ ในเวลาสั่นๆเหมือนไม่รู้จะพูดอะไรดี ดังนั้นเลยยื่นของขวัญในมือออกไป “ให้เธอ”
ซูสือจิ่นมองกล่องเล็กที่สวยหรูที่หยานชิงเจ๋อยื่นให้อย่างไม่อยากจะเชื่อ เธอรู้สึกจังหวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ จนถึงตอนที่เขายื่นให้เธออีกครั้ง เธอถึงรู้สึกตัวรับมันมา
เธอเปิดกล่องเล็ก ด้านในมีสร้อยข้อมือคริสทัลเส้นหนึ่ง ภายใต้แสงแดด สะท้อนแสงหลากหลายออกมา
ซูสือจิ่นเงยหน้ามองหยานชิงเจ๋อ แล้วยืนยันอีกรอบ “ให้ฉัน?”
หยานชิงเจ๋อพยักหน้า “อืม”
มือซูสือจิ่นที่จับสร้อยข้อมือค่อยๆกำแน่นอย่างห้ามไม่ได้ จนมุมแหลมของคริสทัลทำให้รู้สึกเจ็บเล็กน้อย เธอถึงปรับลมหายใจกลับมาดีขึ้น หยิบสร้อยข้อมือออกมา
“สวยมาก” ซูสือจิ่นระหว่างที่พูดก็เงยหน้ามองหยานชิงเจ๋อ “ฉันชอบมาก”
“ชอบก็ดีแล้ว” หยานชิงเจ๋อพยักหน้า สายตามองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของซูสือจิ่น
ซูสือจิ่นเห็นปิดมันไว้ “ไม่ให้พี่ดู!”
ท่าทางขี้เล่นของเธอ ทำให้เขานึกถึงเธอในความทรงจำ ไม่บ่อยที่หยานชิงเจ๋อจะยิ้ม “เหมือนเด็กจริงๆ”
ซูสือจิ่นทำปากจู๋ ปิดคอมพิวเตอร์แล้วจับสร้อยข้อมือ อยากจะสวมที่ข้อมือ
แต่เพราะข้อมือเธอเล็ก อยากจะติดเข้าไปด้านในสุดค่อนข้างยาก ลองอยู่หลายครั้งก็ล้มเหลว
หยานชิงเจ๋อเห็น พูดขึ้นเอง “มาฉันช่วย”
พูดอยู่ เขาหยิบสร้อยข้อมือ สวมบนมือให้ซูสือจิ่น
เธอมองจากข้อมือตัวเองเลื่อนไปสุดท้ายไปหยุดบนใบหน้าของหยานชิงเจ๋อ
เขาในตอนนี้ ก้มหน้าดูสงบและจริงจัง ริมฝีปากเขาเม้มเล็กน้อย มุมปากที่ยกขึ้นตั้งแต่เกิดดูอ่อนโยนและสวยงาม ทั้งใบหน้าดูประณีตสวยงาม และคมเข้ม ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน ก็เป็นแบบที่เธอชอบ
“เรียบร้อย” หยานชิงเจ๋อติดสร้อยข้อมือเสร็จ ก็ยืดตัวตรง
ซูสือจิ่นรีบเก็บสายตาที่มองเขา แสร้งทำเหมือนเพิ่งมองไป “ขอบคุณ”
เธอพูดจบ ระหว่างทั้งสองคนเหมือนเงียบไป ดังนั้นเลยพูดอีกว่า “พี่ชิงเจ๋อ เพิ่งลงจากเครื่องมาใช่ไหม ? เหนื่อยหรือเปล่า ฉันไปเปิดน้ำอุ่นให้ แช่น้ำ พักผ่อนหน่อยดีกว่าไหม?”
“ไม่ต้อง หากนอนตอนนี้ ตอนกลางคืนคงนอนไม่หลับ” หยานชิงเจ๋อพูด “ในบ้านมีอะไรกินไหม?”
“พี่ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยง?”ซูสือจิ่นรีบพูด “ฉันไปทำอาหารให้พี่!”
ระหว่างที่พูด เธอรีบออกไปที่ห้องครัว
ตอนอยู่ต่างประเทศ เธออยู่คนเดียว เลยทำกับข้าวเป็น แม้ว่าไม่ดีมากนัก อย่างน้อยก็กินได้
หั่นผักอยู่ ซูสือจิ่นเห็นด้านข้างมีคนหนึ่งมาเพิ่ม หมุนตัวไปเห็นหยานชิงเจ๋อถือแก้วน้ำเข้ามา ยื่นให้เธอ “เมื่อกี้อยากดื่มน้ำไม่ใช่เหรอ?”
ซูสือจิ่นรับมาดื่มลงไป เห็นหยานชิงเจ๋อยังยืนอยู่ที่เดิม เลยพูดว่า “พี่ชิงเจ๋อ พี่ไปพักผ่อนก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวทำเสร็จฉันไปเรียกพี่”
เขาพยักหน้าจากไป เดินไปห้องนั่งเล่นเก็บกระเป๋า
ซูสือจิ่นมองสร้อยข้อมือบนมือ เพราะในห้องครัวแสงจ้า ดังนั้นสร้อยข้อมือยิ่งประกายแสงหลากหลายสี เธอมองไปที่แก้วน้ำที่อยู่ด้านข้างอีกครั้ง รู้สึกว่าแสงในก้นบึ้งในใจ ค่อยๆสว่างขึ้นช้าๆ
เขาเปลี่ยนไปจริงๆ
หลังจากคืนวันนั้น แม้ว่าคืนนั้นเขาจะพูดถึงการหย่า แต่กลับไม่มีสายตาดูถูกเหยียดหยาม มองเธออีกแล้ว
ตอนแรก เธอยังนึกว่าเป็นเพราะเธอไม่สบายไข้ขึ้น แต่กลับมาวันนี้ เขามีของขวัญมาให้เธอ ยังใส่ใจเทน้ำให้เธอเอง…
พูดได้ว่าเขาในวันนี้ กับเขาตอนเธอป่วย แตกต่างไปอีก
ซูสือจิ่นเดิมคิดว่าความหวังที่คลุมเครือของตัวเอง ค่อยๆแจ่มชัด เหมือนแค่ยื่นมือ ก็สามารถสัมผัสโครงร่างได้
เธอทำกับข้าวเสร็จ กำลังจะยกออกไป หยานชิงเจ๋อก็เข้ามา “ฉันเอง เดี๋ยวลวกโดนมือเธอ”
พูดอยู่ เขาวางกับข้าว นั่งลงชี้ไปที่ตำแหน่งตรงข้ามเขา “เสี่ยวจิ่น เธอก็มานั่ง”
ซูสือจิ่นนั่งลง พูดว่า “แต่ฉันไม่หิว”
“อืม กินเป็นเพื่อนฉันหน่อยเถอะ” หยานชิงเจ๋อพูดอย่างนุ่มนวล
ซูสือจิ่นได้ยินว่าเขาอยากให้เธอกินเป็นเพื่อน หัวใจที่อยู่ใต้หน้าอกเธอสั่นอย่างรุนแรง ไม่หิวแท้ๆ ก็ยังหยิบตะเกียบขึ้น ยิ้มแล้วพูดว่า“ได้สิ”
ทั้งสองนั่งตรงข้ามกัน ไม่ได้คุยอะไร จนถึงใกล้จะกินเสร็จ หยานชิงเจ๋อถาม “สองอาทิตย์ที่ฉันไปทำงานนอกสถานที่ เธอไม่ได้ป่วยใช่ไหม?”
รอยยิ้มของซูสือจิ่นยิ่งกว้างขึ้น เธอส่ายหน้า “ไม่”
พูดจบ เธอเหมือนคิดอะไรได้ ก็ถามหยานชิงเจ๋อ “แล้วพี่ล่ะ? ไปทำงานต่างที่เหนื่อยมากใช่ไหม?งานเสร็จหมดหรือยัง?”
“เหนื่อย แต่ทำเสร็จหมดแล้ว ช่วงเวลาสั้นๆคงไม่ได้ออกไปทำงานต่างที่แล้ว” นึกถึงกิจกรรมแข่งขันของAT หยานชิงเจ๋อพูดต่อว่า “แต่เดือนหน้าคงต้องไปอเมริกากับพี่เฉินและพี่สะใภ้”
“พี่สะใภ้ก็ไปด้วย?” ซูสือจิ่นพูดอย่างแปลกใจ
“อืม”หยานชิงเจ๋อพยักหน้า เหมือนคิดอะไรได้ ใบหน้ามีรอยยิ้มเล็กน้อย “พี่เฉินลงทุนในการโอ๋ภรรยามากๆ!”
เขาพูดจบ จู่ ๆนึกถึงระหว่างตัวเองกับซูสือจิ่น เป็นความสัมพันธ์แบบสามีภรรยากันหรือเปล่า?
แวบหนึ่ง บนหน้าของหยานชิงเจ๋อดูแข็งๆ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก้มหน้ากินข้าว
ซูสือจิ่นก็นึกอะไรได้ เดิมกำลังจะพูดปลงๆ ก็กดมันกลับลงไปในท้อง
ดังนั้น ในห้องอาหารดูค่อนข้างเงียบ จนถึงหยานชิงเจ๋อวางถ้วย ลุกขึ้นพูด “ฉันไปล้างจาน”
“ไม่เป็นไร ฉันเอง” ซูสือจิ่นก็ลุกขึ้น
“ฉันเอง น้ำยาล้างจานไม่ดีกับมือผู้หญิง”หยานชิงเจ๋อเดินไปถึงห้องครัวแล้ว
ซูสือจิ่นมองด้านหลังเขา สูดหายใจเข้าลึกๆ
ไม่ว่ายังไง ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากำลังไปในทางที่ดีแล้ว และพวกเขายังเป็นสามีภรรยาที่กฎหมายรับรอง ดังนั้น…
มุมปากเธอยกขึ้น ใบหน้าประกายความสุข
เธอเดินกลับเข้าห้องตัวเองทีละก้าว เปิดคอมพิวเตอร์ แอบจดไดอารี่
เขียนไดอารี่เสร็จ ซูสือจิ่นได้ยินหยานชิงเจ๋อออกมา เธอรีบปิดไฟล์ไดอารี่ แล้วเดินออกมาจากห้อง
กระเป๋าในห้องนั่งเล่นหยานชิงเจ๋อเก็บเสร็จแล้ว ซูสือจิ่นเห็นเขานั่งลงบนโซฟาดูเพลียเล็กน้อย อดพูดไม่ได้ “พี่ชิงเจ๋อ พี่ไปนอนสักพักดีกว่าไหม? แค่ครึ่งชั่วโมงก็ยังดี เดี๋ยวฉันปลุกพี่ ปรับเวลาไม่สามารถทำได้ในวันเดียวหรอก”
“อืม”หยานชิงเจ๋อลุกขึ้น เดินไปทางห้องที่เขานอนก่อนหน้านี้ “เสี่ยวจิ่น งั้นอีก 40 นาทีเธอปลุกฉัน”
“อืม”ซูสือจิ่นพยักหน้า
สุดท้าย ซูสือจิ่นเห็นว่าหยานชิงเจ๋อเหนื่อยมากจริงๆ ไม่กล้าปลุกเขาเร็ว จนผ่านไปหนึ่งชั่วโมงถึงปลุกเขาตื่น
หลังหยานชิงเจ๋อตื่น ก็เดินไปเขียนรายงานที่ห้องหนังสือ และซูสือจิ่นกลับไปห้องตัวเองเขียนแบบต่อ
เวลาผ่านไปช้าๆ เดิมฤดูหนาวจะมืดเร็วมาก ตอนเย็นทั้งสองคนอุ่นกับข้าวเมื่อตอนเที่ยงมากิน แล้วแยกย้ายไปทำงาน
ตอนกลางคืน ซูสือจิ่นอาบน้ำเสร็จ กลับไปในห้องนอนใหญ่ตามปกติ เล่นโน้ตบุ๊ก
ก่อนหน้านี้ หยานชิงเจ๋อยกห้องนอนใหญ่ให้เธอ เขากลับนอนห้องรับแขกข้างๆ
ดังนั้น ซูสือจิ่นก็ไม่ได้คิดมากอะไร ตอนตัวเองเล่นโน้ตบุ๊กเหนื่อยแล้ว ก็ไปบอกหยานชิงเจ๋อที่กำลังทำงานอยู่ในห้องหนังสือ “พี่ชิงเจ๋อ ฉันไปนอนแล้ว ถึงพี่จะเจ็ทแลค ก็อย่านอนดึกมาก”
“อืม” หยานชิงเจ๋อเงยหน้ามา พยักหน้าให้ซูสือจิ่น
“ราตรีสวัสดิ์” ซูสือจิ่นพูดจบ กลับไปห้องนอนใหญ่ ปิดประตูนอน
หยานชิงเจ๋อทำงานถึง 5 ทุ่มครึ่ง เห็นว่าไม่ได้เสียบสายชาร์จ ตอนคอมพิวเตอร์แจ้งว่าแบตเตอรี่ใกล้หมด เขาถึงลุกขึ้นมา
เขาไปอาบน้ำในห้องน้ำ กำลังจะกลับห้องของตัวเอง จู่ ๆระหว่างนั้น ก็หยุดเดิน
ในเมื่อเขาตัดสินใจจะลองอยู่ร่วมกับเธอแบบสามีภรรยา แยกห้องนอนแบบนั้นไม่ใช่เป็นการหลอกตัวเองเหรอ?
นึกถึงตรงนี้ หยานชิงเจ๋อเดินไปทางห้องนอนใหญ่
เขาบิดมือดันประตูออกเบาๆ
ในห้องเงียบมาก มีเพียงเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของซูสือจิ่น
หัวใจเขาเต้นเร็วขึ้น ยืนที่หน้าประตูเกือบสิบนาที ถึงตัดสินใจได้ เดินต่อไป
หยานชิงเจ๋อเช็ดผม มั่นใจว่าผมแห้งหมดแล้ว ถึงวางผ้าขนหนูไว้ด้านข้าง แล้วเดินไปข้างเตียง