บทที่ 268 มหาเคราะห์ก่อตัว จอมปีศาจคุกรัตติกาลลงมาโลกมนุษย์

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ

บทที่ 268 มหาเคราะห์ก่อตัว จอมปีศาจคุกรัตติกาลลงมาโลกมนุษย์

หนึ่งเดือนต่อมา

หานเจวี๋ยเลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด แต่เขาเป็นจักรพรรดิเซียน เพียงแค่ไม่บาดเจ็บถึงจิตดั้งเดิม อาการบาดเจ็บบนกายเนื้อก็ไม่มีความสำคัญใดๆ

เขายังคงมองไม่เห็นจุดจบของการที่จักรพรรดิปีศาจถูกสาปแช่ง

สมกับเป็นเจ้าพ่อที่ไม่ทราบตบะจริงๆ!

แข็งแกร่งและมีพลังมากเลยนี่!

หานเจวี๋ยดูอายุขัยตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง เพิ่งลดไปไม่กี่หมื่นปี

เล็กน้อยมาก!

หานเจวี๋ยสาปแช่งต่อ

ครั้งนี้เขาตัดสินใจที่จะลดอายุขัยหนึ่งร้อยล้านปีจริงๆ!

ต่อให้จะสาปแช่งจักรพรรดิปีศาจจนตายไม่ได้ แต่ก็ต้องสาปแช่งให้เขาเกิดมารในใจ!

วังสวรรค์กำลังโจมตีวังปีศาจพอดี จักรพรรดิปีศาจจะต้องวุ่นวายใจเป็นอย่างมาก

‘ฝ่าบาท ข้าลอบแสดงพลังอย่างลับๆ จะไม่ทำให้พระองค์ต้องผิดหวัง!’

หานเจวี๋ยคิดอย่างเงียบๆ แต่ว่าเรื่องนี้เขาทำได้เพียงเก็บไว้ในใจเท่านั้น ไม่สามารถพูดออกไปได้ เพื่อป้องกันปัญหาที่งอกเงยตามมา

อู้เต้าเจี้ยนมองเห็นหานเจวี๋ยที่เลือดเต็มหน้า และลอบเจ็บปวด

นายท่านจะต้องพยายามเพื่อหลีกเลี่ยงมหาเคราะห์อย่างแน่นอน

‘เฮ้อ เมื่อใดข้าถึงจะแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องนายท่านได้’

อู้เต้าเจี้ยนแอบทุกข์ใจ และเริ่มปลุกเร้าตัวเองให้ฮึกเหิมใฝ่ความก้าวหน้า

……

วังปีศาจ ตำหนักประทับของจักรพรรดิปีศาจ

ภายในตำหนักมีเงาร่างอันน่ากลัวรวมตัวอยู่หลายร้อยตน ทั้งหมดล้วนเป็นเทพปีศาจ

จักรพรรดิปีศาจฟังเทพปีศาจเฒ่าคนหนึ่งที่กำลังรายงานสถานการณ์รบกับวังสวรรค์ด้วยความวุ่นวายใจอย่างหาที่เปรียบมิได้

“จักรพรรดิสวรรค์สมควรตาย บอกว่าจะแสดงละครเท่านั้นกลับจริงจังถึงเพียงนี้!”

จักรพรรดิปีศาจลอบก่นด่า รู้สึกว่าจักรพรรดิสวรรค์ไม่ได้เรื่อง

ในตอนนั้นเอง ความโชคร้ายรุนแรงโจมตีมาทางเขา เขาสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าท่ามกลางความมืดมิดมีความโชคร้ายอย่างรุนแรงกำลังกลืนกินดวงชะตาและผลกรรมของเขาอยู่ รวมไปถึงพลังมรรคด้วย

หนังสือเล่มนั้นอีกแล้ว!

จักรพรรดิสวรรค์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายคิดจะก่อกวนมรรคจิตของเขา บีบให้เขาเข้าร่วมมหาเคราะห์

ไม่ได้!

ข้าต้องทนให้ได้!

ทหารปีศาจนายหนึ่งพลันบินเข้ามาในตำหนักใหญ่ คุกเข่าอยู่ในท้องพระโรง เขาตะโกนทูลอย่างใจฝ่อ “ฝ่าบาท! เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว! จู่ๆ สำนักพุทธก็เคลื่อนทัพมาโจมตีพวกเรา พระพุทธองค์ พระโพธิสัตว์และอรหันต์ปรากฏกายในดินแดนของพวกเรา สังหารปีศาจประหลาดอย่างกำเริบเสิบสาน ปราบปรามราชาปีศาจ!”

ตูม!

วังจักรพรรดิปีศาจเกิดความวุ่นวายในทันที

เทพปีศาจและจอมปีศาจทั้งหลายล้วนบันดาลโทสะแล้ว

ไม่คาดคิดว่าสำนักพุทธจะแทงข้างหลังพวกเขา!

ตอนที่มหาอริยะผิงเทียนโจมตีวังสวรรค์ในก่อนหน้านี้ เป็นการสมคบกันของวังปีศาจกับสำนักพุทธ เดิมทีคิดว่าพวกเขาสามารถสร้างพันธมิตรที่ยาวนานได้ คิดไม่ถึงว่า…

จักรพรรดิปีศาจก็อดพิโรธไม่ได้

“บรรพชนพุทธมรรคาสวรรค์! ดีมาก! ดีมาก!”

อารมณ์โกรธแค้นโจมตีหัวใจจักรพรรดิปีศาจ ไอปีศาจอันน่าหวาดกลัวล้นทะลักออกจากผิวกายของเขา

ยามนี้ คำสาปที่รุนแรงโจมตีเข้ามาอีกครั้ง!

จักรพรรดิปีศาจสัมผัสได้ถึงเจตนาร้ายกาจของทั้งพิภพ

ราวกับกลุ่มอิทธิพลทั้งหมดทั่วทั้งแดนเซียนล้วนพุ่งเป้ามาที่เขา!

“พวกเจ้าอยากให้วังปีศาจเข้าร่วมเคราะห์หรือ”

“ดีมาก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็อย่าหาว่าข้าบ้าก็แล้วกัน!”

จักรพรรดิปีศาจลุกขึ้นทันที ตะคอกด้วยความโมโห “เรียกเทพปีศาจกลับมาให้หมด ขณะเดียวกันให้เตรียมค่ายกลลับด้วย!”

วาจานี้เอ่ยออกไป ปีศาจประหลาดทั้งหลายล้วนมีสีหน้าเปลี่ยนแปลง

พวกเขาพากันเกลี้ยกล่อมจักรพรรดิปีศาจ ทว่าจักรพรรดิปีศาจยังพิโรธเดือดดาลเป็นอย่างมาก ยากที่จะควบคุมได้

……

หนึ่งปีต่อมา

อายุขัยของหานเจวี๋ยลดลงไปแปดสิบล้านกว่าปี

ปีนี้เขาล้วนสาปแช่งด้วยพลังทั้งหมด

ในที่สุดเขาก็ได้เห็นว่าจักรพรรดิปีศาจถูกสาปแช่งสำเร็จเป็นครั้งแรก

[จักรพรรดิปีศาจศัตรูคู่อาฆาตของท่านเกิดมารในใจ เนื่องด้วยการสาปแช่งของท่าน]

ใช้อายุขัยไปแปดสิบล้านปีเพิ่งจะเกิดมารในใจ!

จักรพรรดิปีศาจช่างสุดยอดมารดามันจริงๆ!

หานเจวี๋ยลอบอกสั่นขวัญแขวน

เขาวางหนังสือแห่งความโชคร้ายลง และเริ่มฟื้นฟูกายเนื้อ

เมื่อฟื้นฟูได้พอประมาณแล้วก็ถึงเวลาที่จะวางมือ

หลีกเลี่ยงการเสพติด

คำว่าเดิมพันน่ากลัวเพียงใดนั้น หานเจวี๋ยรู้ซึ้งดี

ก็ไม่ต่างอะไรกับหนอนแมลงวันในกระดูกข้อเท้า!

หลายวันต่อมา อาการบาดเจ็บของหานเจวี๋ยฟื้นคืนอย่างสมบูรณ์ กลับสู่สภาพสมบูรณ์ขั้นสุดอีกครั้ง

หานเจวี๋ยเริ่มฝึกบำเพ็ญ

รออีกสิบปี เขาจะสาปแช่งจอมปีศาจอินทรีทอง

เจ้าหมอนี่ต้องตายเท่านั้น!

ความเกลียดชังระดับหกดาวช่างน่าตกใจจริงๆ หากเขาไม่ตาย หานเจวี๋ยก็ยากที่จะมีชีวิตสงบสุขได้

ขณะนั้นเอง

หานเจวี๋ยพลันสัมผัสได้ถึงคลื่นที่ส่งมาจากป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ จึงรีบนำป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ออกมา

“ผู้อาวุโสมีเรื่องอันใดหรือ” หานเจวี๋ยถาม

ผู้ที่ติดต่อเขาคือตี้ไท่ไป๋

ตี้ไท่ไป๋ทอดถอนใจกล่าว “วังปีศาจบ้าคลั่งไปแล้ว เปิดศึกกับสำนักพุทธและวังสวรรค์ มหาเคราะห์อาจก่อตัวขึ้นเพราะเรื่องนี้ หลังจากนี้โลกมนุษย์ก็อาจถูกม้วนเข้าสู่สงครามวุ่นวายด้วย ข้ามาแจ้งให้เจ้าทราบ เวลาฝึกบำเพ็ญปกติอย่าได้ปิดด่านตาย เพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูอาศัยช่องโหว่มาโจมตีได้”

สีหน้าของหานเจวี๋ยเต็มไปด้วยคำถาม

สำนักพุทธ?

วังเทพ วังสวรรค์ สำนักพุทธและวังปีศาจกำลังเล่นเกมล่ามนุษย์หมาป่าอยู่หรืออย่างไร? เหตุใดถึงบอกว่าเป็นพันธมิตรก็เป็นพันธมิตร บอกว่าจะแทงข้างหลังก็แทงข้างหลังเลย

หานเจวี๋ยเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “สำนักพุทธล่วงเกินวังปีศาจได้อย่างไร”

“ในขณะที่วังสวรรค์โจมตีวังปีศาจ สำนักพุทธก็ถือโอกาสนี้ในการลงมือ จักรพรรดิปีศาจกระหืดกระหอบจนใช้ค่ายกลลับปลุกยอดสมบัติอำมหิตให้ตื่นขึ้นมา แรงกรรมไร้ที่สิ้นสุดกำลังแผ่ขยายไปทั่วทั้งแดนเซียน” ตี้ไท่ไป๋กล่าวอย่างไม่มีทางเลี่ยง

พูดถึงเรื่องนี้แล้วเขาก็ไม่สบายใจเป็นอย่างมาก

แม้จะรู้แต่แรกว่ามหาเคราะห์ไร้ขอบเขตใกล้เข้ามาแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าบอกจะเริ่มก็เริ่มเลย

หานเจวี๋ยหมดคำพูด

สำนักพุทธประสาทไปแล้วหรืออย่างไร!

จะต้องทำเรื่องอย่างนี้ให้ได้ ครั้งนี้มหาเคราะห์ก่อตัวขึ้นก่อนกำหนด ใครก็ไม่อาจใช้ชีวิตอย่างสงบได้

หานเจวี๋ยแอบทอดถอนใจ

ทั้งสองพูดคุยกันอีกครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตัดการเชื่อมต่อพลังจิต

หานเจวี๋ยรู้สึกถึงวิกฤตและฝึกบำเพ็ญต่อ

จักรพรรดิเซียนสองวัฏอ่อนแอเกินไป!

เมื่อมหาเคราะห์มาถึง ต้าหลัวก็ใช่ว่าจะปกป้องตัวเองได้!

……

ส่วนลึกของห้วงอากาศว่างเปล่า

หมอกปีศาจที่น่าสะพรึงกลัวม้วนตัวเข้ามา ราวกับว่าความมืดมิดกำลังกลืนกินทุกสิ่ง

ดวงตาคู่หนึ่งปรากฏขึ้นท่ามกลางหมอกปีศาจ เขาอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ “กลิ่นอายนี้คือ…”

หมอกปีศาจเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ชายชุดดำที่ดูเป็นปีศาจที่ไม่ธรรมดาเดินออกมา ด้านหลังของเขามีปีกหงส์สีดำติดอยู่คู่หนึ่ง มีเปลวเพลิงคุโชนสีดำลุกไหม้

เขาก็คือจอมปีศาจคุกรัตติกาลแห่งวังปีศาจนั่นเอง!

ที่เขามาในครั้งนี้ก็เพื่อทำลายโลกเขย่าพิภพ!

แต่จอมปีศาจคุกรัตติกาลระมัดระวังเป็นอย่างมาก ไม่กล้าหลับหูหลับตาเดินไปมา เขามักคิดว่ามันไม่ง่ายดายเพียงนั้น วังสวรรค์จะต้องวางหลุมพรางไว้แน่

ผลคือเพิ่งมาถึงโลกเขย่าพิภพ เขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคย

ญาติสายโลหิต เผ่าเดียวกัน!

จอมปีศาจคุกรัตติกาลลอบกระวนกระวายใจ “หรือเจ้าหมอนั่นกลับชาติมาเกิดแล้วถูกจักรพรรดิสวรรค์ควบคุมแล้ว และกำลังรอที่จะวางหลุมพรางข้าหรือ”

ร่างเดิมของจอมปีศาจคุกรัตติกาลคือหงส์คุกรัตติกาล หงส์คุกรัตติกาลเป็นผ่าพันธ์สมัยบรรพกาล ถือกำเนิดยามที่เบิกฟ้าครั้งแรก กาลครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว น้องชายแท้ๆ ของจอมปีศาจคุกรัตติกาลล่วงเกินแดนสวรรค์ สังหารเทพเซียนแดนสวรรค์ไปไม่น้อย จึงถูกสี่ยอดมหาจักรพรรดิปราบปราม วิญญาณถูกทิ้งลงในวัฏสงสาร

ผ่านไปนานหลายปีเพียงนี้ จอมปีศาจคุกรัตติกาลก็เกือบลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

แม้พวกเขาจะเป็นพี่น้องกันแท้ๆ แต่จอมปีศาจคุกรัตติกาลดูถูกน้องชายแท้ๆ คนนี้มาโดยตลอด

พรสวรรค์ของสองพี่น้องแตกต่างกันมากเกินไป น้องชายเอาแต่อาศัยอำนาจและชื่อเสียงของจอมปีศาจคุกรัตติกาลเพื่อกระทำผิดอย่างกำเริบเสิบสานมาโดยตลอด ถูกวังสวรรค์ลงโทษก็นับเป็นเรื่องที่ดี

ขณะที่จอมปีศาจคุกรัตติกาลคิดไปพลาง ก็แอบแฝงเข้าไปในโลกเขย่าพิภพอย่างเงียบๆ

เขาใช้วิชาลับทำให้กลิ่นอายของตนเองว่างเปล่า เพื่อที่จะไม่ดึงดูดความสนใจของผู้ใด

เขาบินตามหากลิ่นอายวิญญาณของน้องชายตนเอง เพียงไม่นานก็มาถึงด้านหน้าเขาเพียรบำเพ็ญเซียน

ขณะที่มองดูภูเขาตรงหน้า เขาก็ขมวดคิ้วแน่น

ต้นไม้นั่น…

คาดไม่ถึงว่าจะเป็นต้นฝูซัง! มิน่าเล่าจอมปีศาจอินทรีทองถึงมาที่นี่

ไก่คุกรัตติกาลไม่ได้หวั่นไหว แต่กลับระแวดระวังเป็นอย่างมาก

เขาสะดุ้งตกใจเมื่อพบว่าพลังจิตของเขาไม่สามารถสอดแนมเข้าไปในเขาเพียรบำเพ็ญเซียนได้

มีผนึกต้องห้ามที่แข็งแกร่งและลึกลับปกป้องเขาลูกนี้อยู่!

จอมปีศาจคุกรัตติกาลลังเล ไม่กล้าหลับหูหลับตาเข้าไปตรงหน้า

เขาสังเกตว่าด้านข้างมีสำนักอยู่สำนักหนึ่ง อยู่ติดกับเขาลูกนี้ขนาดนี้ จะต้องมีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นอน

ความคิดเฉียบแหลมผุดขึ้นมาในฉับพลัน เขาตัดสินใจแปลงกายเป็นมนุษย์ และเข้าร่วมสำนักนี้

ใต้ต้นฝูซัง

ไก่คุกรัตติกาลที่กำลังฝึกบำเพ็ญอยู่พลันลืมตาขึ้นมา ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใด เขาถึงรู้สึกไม่สบายใจอย่างแปลกๆ มักรู้สึกว่าภัยพิบัติครั้งใหญ่กำลังจะมาเยือน

……………………………………….