บทที่ 311 ข้อตกลงของพวกเรา
บทที่ 311 ข้อตกลงของพวกเรา
“[JW อันดับที่ 58 ในรายชื่อแฮ็กเกอร์ระดับโลก]”
ลู่เฉินอ่านชื่อนี้และเปิดเว็บไซต์เพื่อค้นหาวิดีโอของ JW ในการแข่งขันทักษะแฮ็กเกอร์ในปีนั้น
เทคนิคการแฮ็กนั้นตรงกันอย่างสมบูรณ์
สองปีมานี้ JW หายไปจากเว็บไซต์ แต่คนที่เคยอยู่ในทีมเดียวกันกับ JW ยังอยู่ ลู่เฉินไล่ตามหาจนพบกับเวยป๋อของอีกฝ่าย
พอลองค้นหาดูก็พบกับบุคคลที่คุ้นเคยคนหนึ่ง อวิ๋นจิ้งหว่าน
พวกเธอเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
จิ้งหว่าน JW
ที่แท้ก็เป็นเธอนี่เอง!
ลู่เฉินจับจ้องไปยังข้อมูลในจอคอมพิวเตอร์ เขาเดาได้เลยว่าตัวเองกำลังแหวกหญ้าให้งูตื่น จึงรีบโทรศัพท์ติดต่อไปหาเจ้าหน้าที่เหลียง “คนร้ายคืออวิ๋นจิ้งหว่าน”
ปฏิกิริยาตอบกลับของอีกฝ่ายดูนิ่งเฉย “[มีหลักฐานไหมครับ?]”
ลู่เฉินตอบ “ผมมีวิธีของผม มีความเป็นไปได้สูงว่าตอนนี้เธอจะรู้แล้วว่าผมตามหาเธอเจอ”
สำหรับแฮ็กเกอร์ ข้อมูลในเว็บมืดนั้นส่งต่อไปไวมากกว่าในเว็บไซต์ปกติ
เขาจะต้องรีบจับตัวเธอให้เร็วที่สุด มิเช่นนั้น หากอวิ๋นจิ้งหว่านเอาตัวซูหยินย้ายไปที่อื่น จะทำให้การตามหาซูหยินยากมากยิ่งขึ้น
เจ้าหน้าที่เหลียงเข้าใจความหมายของลู่เฉิน “[ตำรวจสามารถเข้าจับกุมอวิ๋นจิ้งหว่านได้ในทันที แต่ถ้าหากภายใน 24 ชั่วโมงนี้ไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันว่าเธอเป็นคนร้ายได้ เธอจะพ้นผิดทันที]”
“[สิ่งที่พวกเราจะต้องคิดทบทวนตอนนี้ก็คืออวิ๋นจิ้งหว่านเอาตัวซูหยินไปขังไว้ที่ไหน?]”
ลู่เฉินเดินไปเดินมาอยู่ในห้องหนังสือ “คุณได้ตรวจสอบที่อยู่ล่าสุดของอวิ๋นจิ้งหว่านแล้วหรือยัง?”
“[ตรวจสอบดูแล้วครับ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้ไปไหนจากบ้านตระกูลฮัวเลย เธอออกจากบ้านครั้งสุดท้ายตอนไปงานแถลงข่าวเมื่อคืนนี้ หลังจากที่เธอสลบก็ถูกส่งไปโรงพยาบาลเป๋าไป่ ผมส่งคนไปตามเธอจนการถ่ายทอดสดจบลง]”
หรือว่าอวิ๋นจิ้งหว่านไม่ได้ลงมือเมื่อคืนนี้ ไม่ใช่เพราะไม่อยากทำ แต่เป็นเพราะยังทำไม่ได้
น้ำเสียงเรียบนิ่งของลู่เฉินดังขึ้น “ซูหยินอยู่ในบ้านตระกูลฮัว”
จากการถ่ายทอดสด ช่วงเวลาที่คนร้ายและซูหยินอยู่ด้วยกันนั้นไม่น้อยเลย ถ้าหากว่าอวิ๋นจิ้งหว่านให้ซูหยินไปอยู่ที่อื่น เธอไม่มีทางถ่ายวิดีโอที่ยาวขนาดนี้สำเร็จ
เจ้าหน้าที่เหลียงพยักหน้า “[ประธานลู่ ผมคงทำได้เพียงต้องเชื่อคุณดูสักครั้งแล้วแหละครับ]”
หลังวางสายไป เจ้าหน้าที่เหลียงทำเรื่องแสดงสิทธิ์ขอหมายค้นทันที
โรงพยาบาลเป๋าไป่
อวิ๋นจิ้งหว่านกำลังนอนดูข้อความจากเพื่อนสนิทที่ส่งมาอยู่บนเตียง
[เธอยังจำ L ผู้ชนะอันดับหนึ่งในการแข่งขันทักษะการแฮ็กเกอร์ในปีนั้นได้ไหม? คนที่ไม่มีใครเหนือกว่าเขาเลยสักคน?]
“อืม ทำไมเหรอ?”
เพื่อนสนิทมีท่าทีตื่นเต้น [เขากำลังตามหาเธอในเว็บมืด!]
[หรือว่าเขาจะรู้แล้วว่าคุณมีพรสวรรค์ เลยอยากจะรับคุณเข้ามาร่วมทีม?]
อวิ๋นจิ้งหว่านนิ่งไป เธอลงชื่อเข้าใช้บัญชีเว็บมืดที่เธอไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้มาเป็นเวลานาน
โพสต์ยอดนิยมคือการประกาศหาคนที่ L โพสต์เมื่อเช้า คนอื่นคิดว่าสิ่งที่ L อธิบายนั้นมันไม่ชัดเจน แต่มีเพียงอวิ๋นจิ้งหว่านเท่านั้นที่รู้ว่าคนที่เขาพูดถึงนั้นคือเธอ!
เป็นเวลานานแล้วที่เธอไม่ได้ปรากฏตัว นอกจากสองวันก่อนที่เธอถ่ายทอดสดซูหยินเห่าเหมือนหมา เพื่อป้องกันไม่ให้ตำรวจค้นหาตำแหน่งที่ชัดเจน เธอจึงลงมือเล่นขำ ๆ
แต่กลับถูกตามตัวจนเจอไวขนาดนี้เลยเหรอ
หรือว่าแฮ็กเกอร์ในเว็บมืดที่ชื่อ L นี้จะรู้จักกับซูหยิน!
อวิ๋นจิ้งหว่านทำอะไรไม่ถูก ตำรวจคงกำลังจะเดินทางมาที่นี่แน่ ๆ
แต่เธอยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่จำเป็นต้องทำ นั้นคือการโอนหุ้น!
โชคดีที่ตอนนี้เธออยู่ที่โรงพยาบาล ไม่อย่างนั้นคงไม่ทันการ
เธอหยิบสัญญาการโอนหุ้นขึ้นมาจากกระเป๋าสองฉบับ ฉบับหนึ่งเป็นของอวิ๋นจิ้งหว่าน อีกฉบับเป็นของลูกที่ยังไม่เกิด
ตอนแรกที่ทั้งสองแต่งงานกัน ตระกูลฮัวแสดงความจริงใจโดยการมอบหุ้นของโรงพยาบาลเป๋าไป่ 5 % เพื่อเป็นสินสอดทองหมั้นให้กับอวิ๋นจิ้งหว่าน
และตอนที่อวิ๋นจิ้งหว่านท้อง คุณปู่ฮัวตัดสินใจโอนหุ้นอีก 10 %ให้กับลูกของเธอที่ยังไม่ได้เกิดมา
ตอนนี้ยังมีหุ้นอีก 36 % ที่อยู่ในกำมือของตระกูลฮัว มันคือหุ้นก้อนใหญ่ที่สุดของโรงพยาบาลเป๋าไป่
แต่จะไม่ใช่อีกต่อไปแล้วในเร็ว ๆ นี้
อวิ๋นจิ้งหว่านเคาะประตูห้องทำงานของผู้อำนวยการเซิน
เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าเป็นเธอก็ตกใจขึ้นมา “คุณนายฮัว ทำไมคุณถึงมีเวลามาที่นี่ได้? ร่างกายดีขึ้นแล้วเหรอครับ”
“อืม”
อวิ๋นจิ้งหว่านขี้เกียจทำตัวสุภาพ เธอรีบเอาสัญญาการโอนหุ้นวางไว้ตรงหน้าเขา “ผู้อำนวยการเซิน ลองดูนี่สิ”
ผู้อำนวยการเซินกวาดตาดู อีกนิดเขาเกือบจะกระโดดขึ้นมาแล้ว เขารีบไปปิดประตูห้องทำงานในทันที
และส่งเสียงออกมาด้วยความประหลาดใจ “คุณนายฮัวนี่มันหมายความว่าอะไรครับ?”
อวิ๋นจิ้งหว่านยิ้ม “ฉันอยากทำธุรกิจกับคุณ”
ผู้อำนวยการเซินเดาความคิดของอีกฝ่ายไม่ออก จึงหยิบสัญญาการโอนหุ้นขึ้นมาเปิดดู
ราคาตลาดของโรงพยาบาลเป๋าไป่อยู่ที่ 169 หยวนต่อหุ้น แต่ราคาที่อวิ๋นจิ้งหว่านให้คือราคาหุ้นละ 100 หยวนทุกหุ้น นี่มันเกือบจะครึ่งหนึ่งของราคาเดิมเลยนะ!
มีเพียงแค่ตลาดหุ้นพังทลายเท่านั้น ราคาหุ้นของโรงพยาบาลเป๋าไป่ถึงต้องต่ำถึงขนาดนี้
สิ่งล่อใจนี้มันมากเกินไปแล้ว
มากจนผู้อำนวยการเซินรับรู้ได้ว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติและคงไม่สามาถปล่อยผ่านไปได้
”ผู้อำนวยการฮัวรู้เรื่องนี้หรือเปล่าครับ?”
อวิ๋นจิ้งหว่านกอดอกและพิงตัวลงไปยังโซฟา “คุณคิดว่าไงล่ะ?”
“ถ้าฮัวจิงรู้เข้า เราจบเห่แน่ แต่คุณสามารถเลือกที่จะเซ็นชื่อตอนนี้ได้เลย แบบนั้นคุณก็จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของโรงพยาบาลเป๋าไป่ ฮัวจิงก็ทำอะไรคุณไม่ได้”
หุ้นในส่วนของผู้อำนวยการเซินมีเพียง 22 % รวมกับหุ้นในมือของอวิ๋นจิ้งหว่านก็จะเป็น 37 % มากกว่าตระกูลฮัวอยู่ 1 %
หัวใจของผู้อำนวยการเซินเต้นแรงขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงอำนาจที่อยู่ที่ปลายนิ้วของเขา “คุณอวิ๋นมีขอเสนออะไรล่ะครับ?”
ช่างเป็นคนที่มีไหวพริบดีจริง ๆ เปลี่ยนจากคุณนายฮัวเป็นคุณอวิ๋นในทันที
“เงินจะต้องเข้าภายใน 24 ชั่วโมงนี้ ถ้าเกินเวลานี้ไป ข้อตกลงของพวกเราจะเป็นโมฆะ”
ผู้อำนวยการเซินขมวดคิ้วแน่น “คุณอวิ๋น เงินในกองทุนตั้งหลายหมื่นล้าน เวลาแค่ 24 ชั่วโมงไม่สั้นไปหน่อยเหรอครับ คุณให้เวลาผมสัก 2-3 วัน…”
อวิ๋นจิ้งหว่านพูดขึ้นอย่างเย็นชา “ผู้อำนวยการเซิน พูดตามความจริง ฉันกำลังตกที่นั่งลำบาก ถ้าผ่านช่วงเวลานี้ไป ฉันก็จะไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ถ้าคุณคิดดีแล้วก็มาหาฉันแล้วกัน”
พูดจบเธอก็หยิบสัญญาการโอนหุ้นและเตรียมเดินออกไป
แต่ผู้อำนวยการเซินรีบรั้งเธอเอาไว้และกัดฟันพูด “คืนนี้ คืนนี้ผมจะโอนเงินเข้าบัญชีให้คุณ”
มุมปากของอวิ๋นจิ้งหว่านยกยิ้มเบา ๆ “งั้นเซ็นชื่อเถอะค่ะ”
ผู้อำนวยการเซินเซ็นชื่ออย่างรวดเร็ว
เพียงแค่รอให้อวิ๋นจิ้งหว่านเซ็นชื่อของเธอลงไปก็มีผลทันที “เงินเข้าบัญชีเมื่อไหร่ คุณจะได้รับสัญญาการโอนหุ้นทันที”
เดินออกมาจากห้องทำงานได้ไม่นาน อวิ๋นจิ้งหว่านก็ถูกตำรวจล้อมตัวเอาไว้ “คุณนายฮัว เราสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของคน ๆ หนึ่ง เชิญคุณตามผมไปด้วยครับ”
อวิ๋นจิ้งหว่านหันกลับมา ก็เห็นผู้อำนวยการเซินกำลังยืนมองเธอมาจากในห้องทำงาน
เธอเปิดปากขึ้น “อย่าลืมข้อตกลงของพวกเราล่ะ”
ตำรวจใส่กุญแจมือและนำตัวเธอไป
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่คนในโรงพยาบาลเป๋าไป่เยอะมากที่สุด พนักงานและคนไข้หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย
แต่ทุกคนต่างพากันส่งสายตาแปลก ๆ
“คนที่ถูกจับเป็นภรรยาของผู้อำนวยการนี่?”
“ทำเรื่องอะไรไว้กันนะ?”
“ไม่รู้สิ ดูเป็นผู้หญิงเงียบขรึมแบบนั้น หรือว่าจะจับผิดคน”
“คงไม่มั้ง นี่ถึงกับใส่กัญแจมือเลยนะ”
“พวกคุณว่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่ซูหยินหายไปไหม?”
“อ่า! แต่เมื่อวานนี้เธอยังช่วยผู้อำนวยการฮัวชี้แจงอยู่เลยนะ สิ่งที่เธอพูดดูใจกว้างมากเลย”
“จุดพลิกผันของคนรวย พวกเราจะไปเข้าใจได้ยังไง”
“เมื่อเช้าฉันยังไปวัดอุณหภูมิให้เธอที่ห้องคนไข้อยู่เลย พวกคุณพูดแบบนี้ฉันกลัวแล้วนะ”
อวิ๋นจิ้งหว่านมาถึงสถานีตำรวจ เธอถูกขังอยู่ในห้องสอบปากคำ
ถือว่าเจ้าหน้าที่เหลียงยังเกรงใจต่อเธอมาก พอทักทายเสร็จก็ชงชาให้เธอแก้วหนึ่ง “คุณนายฮัว คุณมีอะไรที่อยากจะพูดกับพวกเราไหมครับ?”
อวิ๋นจิ้งหว่านเอียงหัวและคิดอย่างจริงจังอยู่สักพัก “ขอเข้าห้องน้ำได้ไหม?”
นั่นคือคำปฏิเสธการให้การสารภาพ
เจ้าหน้าที่เหลียงไม่เสียเวลาอีกต่อไป “อย่างนั้นก็คงต้องเชิญให้คุณนายฮัวพักผ่อนอยู่ที่นี่สักพักแล้วล่ะครับ”
เขาเดินออกมาจากห้องสอบปากคำ และนำทีมตำรวจชุดที่สอง สาม และสี่ ออกไปค้นหาคนในบ้านของตระกูลฮัว
ต้องใช้รถตำรวจเจ็ดหรือแปดคันในการบรรทุกคนไปจนหมด
ระหว่างทางเจ้าหน้าที่เหลียงโทรศัพท์ไปแจ้งฮัวจิงเรื่องการเข้าตรวจค้น แม้ว่าฮัวจิงจะไม่พอใจ แต่ก็ทำได้เพียงต้องยินยอม
ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถเข้าไปในบ้านของตระกูลฮัวได้โดยไม่มีใครห้าม
หลังจากที่กู่อวี๋เฉิงและซูโย่วอี๋ได้รับข่าวก็รีบตามไปที่บ้านตระกูลฮัวทันที
พวกเขาเจอกันที่หน้าประตูบ้านของตระกูลฮัวและเข้าไปพร้อมกัน
ตำรวจกำลังค้นหาจากพิมพ์เขียวของคฤหาสน์โยให้ความสนใจเป็นพิเศษกับห้องมืดและห้องใต้ดิน
สุนัขตำรวจและสุนัขที่มีหน้าที่ตรวจหาสารเสพติดยังคงวิ่งไปรอบ ๆ ตัวบ้าน
คนรับใช้ยืนเข้าแถวสองแถวกันอย่างเป็นระเบียบด้วยความไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
มีคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างกล้าหาญ “คุณตำรวจ พวกเราส่วนใหญ่เป็นคนเก่าคนแก่ที่ทำงานอยู่ในตระกูลฮัวมานานกว่า 5 ปีทั้งนั้น ทุกที่ภายในบ้านหลังนี้ พวกเรารู้จักดี พวกคุณจะหายังไงก็ไม่สู้ถามพวกเราหรอกคะ”
“ใช่ค่ะ เอาสุนัขเข้ามาดมไปทั่วตั้งหลายตัว ทำให้คนอื่นตกใจตายเลย”
“คุณชายและคุณนายของพวกเราเป็นคนดี พวกคุณน่าจะเข้าใจผิดแล้วนะคะ”
เจ้าหน้าที่เหลียงไม่ได้สนใจหันไปมองด้วยซ้ำ “ทุกท่านแค่เงียบเอาไว้ก็พอ”
ถ้ามีสถานที่ลับอยู่จริง ในฐานนะคนรับใช้ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่รู้
พวกตำรวจค้นหาไปเรื่อย ๆ
ที่นี่มีห้องลับอยู่สามห้อง ห้องต่าง ๆ ที่ตำรวจสั่งมาก็เข้าไปดูหมดแล้ว แต่ซูหยินก็ไม่ได้อยู่ในนั้น
จนกระทั่งตอนที่ฟ้าใกล้จะมืดลง ฮัวจิงก็กลับมา
“เจ้าหน้าที่เหลียง ยังหาตัวคนไม่เจออีกเหรอครับ? แวะพักกินข้าวเย็นกันก่อนไหมครับ?”
ครึ่งหนึ่งคือคำถามที่ถามเป็นมารยาท อีกครึ่งหนึ่งคือการเยาะเย้ย
เมื่อเห็นกู่อวี๋เฉิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ความไม่ชอบใจก็ปรากฏขึ้นมาในดวงตา “รองประธานกู่? คุณไม่ใช่ตำรวจแต่ก็เข้าร่วมการตรวจค้นได้ด้วยเหรอครับ? เจ้าหน้าที่เหลียงนี่คือการทำงานที่ผิดพลาดของพวกคุณนะครับ”
ใบหน้าของกู่อวี๋เฉิงเย็นชา “คุณนายฮัวเข้าสถานีตำรวจไปแล้ว ผู้อำนวยการฮัวยังมีกระจิตกระใจเป็นห่วงคนอื่นอยู่อีกเหรอครับ”
“จะกังวลอะไรไป? ไม่มีอะไรต้องกลัวตราบใดที่เราทำสิ่งที่ถูกต้อง”
เขาถอดเสื้อโคตแล้วนั่งลงบนโซฟา “ผมจะอยู่รอผลลัพธ์พร้อมกับทุกคนเอง”
ทีมค้นหามารวมตัวกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นชั้นหนึ่ง ต่างคนก็ต่างส่ายหน้า “ไม่พบอะไรเลยครับ”
“มีอาคารขนาดเล็กสองชั้นอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ หอนาฬิกาอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ มีห้องเปียโนอยู่ทางทิศเหนือ…”
เจ้าหน้าที่เหลียงกล่าวถึงอาคารอื่น ๆ อีกหลายแห่ง
ฮัวจิงหัวเราะ “เจ้าหน้าที่เหลียง คุณพูดตกหล่นไปนะ ยังมีโรงเครื่องมือที่ถูกทิ้งร้างอยู่ที่มุมทิศตะวันออกเฉียงใต้ด้วย คุณอย่าลืมไปตรวจสอบดูให้หมดล่ะ”
เจ้าหน้าที่เหลียงไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองถูกเขายั่วยุเลย “ขอบคุณมากนะครับที่เตือน พวกเราขอวางแผนแยกค้นหากันก่อน”
เหล่าตำรวจพาสุนัขตำรวจเดินไปแล้ว ในห้องนั่งเล่นจึงเหลือเพียงฮัวจิง เจ้าหน้าที่เหลียง ซูโย่วอี๋ และกู่อวี๋เฉิง
ไม่รู้ว่าบรรยากาศมันน่าอึดอัดเกินไปหรือเปล่า ถึงไม่มีใครเปิดปากพูดอะไรเลย
มีเพียงเสียงจากวิทยุที่รายงานผลการค้นหาเป็นครั้งคราว
“การค้นหาในอาคารขนาดเล็กเสร็จสิ้น ไม่พบอะไรครับ”
หลังจากนั้นยี่สิบนาที
“การค้นหาในหอนาฬิกาเสร็จสิ้น ไม่พบอะไรครับ”
และก็ผ่านไปอีกสักพัก
“การค้นหาในห้องเปียโนเสร็จสิ้น ไม่พบอะไรครับ”
จนกระทั่งค้นหาในอาคารหลักทั้งหมดจนเสร็จสิ้น
ฮัวจิงลุกขึ้นยืน “เอาล่ะ ทีนี้เราก็จะได้กินข้าวได้อย่างสบายใจแล้วสินะ”
เจ้าหน้าที่เหลียงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น “อย่ารีบร้อนไป”
“ยังมีห้องเครื่องมือที่ยังไม่ได้ค้นหา กองกำลังตำรวจทั้งหมดไปรวมตัวที่ห้องเครื่องมือทางมุมตะวันออกเฉียงใต้”
“รับทราบ”
พูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืน “ถ้าว่างขนาดนี้ ไม่สู้ไปดูด้วยกันดีไหมครับ?”
ฮัวจิงทำท่าทางเชื้อเชิญ “พอดีกับความต้องการของผมเลย”
ทั้งสี่คนพากันเดินไปยังห้องเครื่องมือ แต่ยังไม่ทันจะเดินไปถึง
แสงสีแดงของเครื่องวิทยุก็กระพริบขึ้นมา “เจ้าหน้าที่เหลียง พบห้องใต้ดินอยู่ใต้ห้องเครื่องมือครับ!”