เฉินฮวนฮวนยกมือขึ้น จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นจากพื้นแล้วมองไปที่กู้ไหว่ที่ยืนอยู่แถวหน้าด้วยสายตาที่ว่องไวกระฉับกระเฉง
เธอตื่นเต้นมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นตัวเป็นๆของกู้ไหว่
“คุณชื่ออะไรครับ?”กู้ไหว่ไม่ได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติต่อเฉินฮวนฮวนเป็นพิเศษ ดังนั้นเขาจึงจัดการกับเธอแบบปกติ
“ฉันชื่อเฉินฮวนฮวน”ตอนนี้เฉินฮวนฮวนรู้สึกตื่นเต้นมากเพราะไอดอลอยู่ตรงหน้าของเธอ เธอเริ่มรู้สึกว่ามีเหงื่อออกบนฝ่ามือของเธอ
“เอาล่ะ ร้องเพลงเถอะ”ขณะที่พูดกู้ไหว่ก็นั่งลงตรงหน้าเปียโนไฟฟ้าและถามต่อว่า: “คุณต้องการร้องสดแบบไม่มีดนตรี หรือต้องการดนตรี”
“ฉัน……ฉันขอร้องสด”เฉินฮวนฮวนมักจะแอบฮัมเพลงกับตัวเองและบางครั้งก็ปรับเสียงของเธอด้วยตัวเธอเอง หากมีดนตรีประกอบเธออาจจะไม่สามารถตามจังหวะได้
“รายงานชื่อเพลงมา แล้วเริ่มกันเลย”แม้ว่ากู้ไหว่จะมีรอยยิ้มจางๆ แต่เขาก็ดูจริงจังและเข้มงวดมาก
เฉินฮวนฮวนรู้สึกตื่นเต้นมาก เธอสูดหายใจเข้าลึกๆและขยับมือไปข้างหน้า จากนั้นก็เม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า: “ฉันจะร้องเพลงที่คุณแต่ง เพลงลม”
หลังจากรายงานชื่อเพลงเสร็จ เฉินฮวนฮวนก็เริ่มร้องเพลง เพลงนี้เป็นเพลงโปรดของเธอ และช่วงกลางเพลงเธอก็เรียบเรียงดนตรีใหม่ด้วยตัวของเธอเอง ซึ่งค่อนข้างแตกต่างจากเพลงต้นฉบับเล็กน้อย
ในขณะที่เฉินฮวนฮวนกำลังร้องสดแบบไม่มีเสียงดนตรี ฉินฟางก็อดไม่ได้ที่จะดึงแขนของอันเยว่และกระซิบเบาๆว่า: “เธอร้องเพลงของครูกู้ มันชัดเจนเลยว่าเธอต้องการทำให้ครูกู้พอใจ”
“ฟางฟาง อย่าพูดเรื่องไร้สาระ”อันเยว่เหลือบมองไปทางกู้ไหว่ที่กำลังฟังเฉินฮวนฮวนร้อเพลง และแกล้งทำเป็นเตือนฉินฟาง
“ฉันพูดผิดซะที่ไหน เฉินฮวนฮวนกำลังพยายามทำให้ครูกู้พอใจ เธอดูครูกู้สิยังไม่เรียกให้เธอหยุดร้องเลย”
ฉินฟางกัดฟันกรอด และเธอรู้สึกอารมณ์เสียมาก: “วันแรกที่พวกเราอยู่ในคลาสและตอนที่ทุกคนร้องเพลง ครูกู้ฟังเพียงแค่ไม่กี่ประโยคก็บอกให้พวกเราหยุดร้องแล้ว”
“โอเคๆ เธอไม่ต้องพูดแล้ว ระวังครูกู้ได้ยินเข้านะ”อันเยว่ห้ามเธอ
คนอื่นๆเองก็มีความคิดแบบเดียวกันกับฉินฟาง ทั้งหมดล้วนคิดว่าเฉินฮวนฮวนตั้งใจเลือกเพลงของกู้ไหว่เพื่อทำให้กู้ไหว่รู้สึกพอใจ อย่างไรก็ตามคนฉลาดๆอย่างกู้ไหว่อันที่จริงก็ได้เพ่งเล็งไปยังเด็กฝึกบางคนแล้ว
อายุของเด็กฝึกส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 18-28 ปี อันที่จริงก็ไม่ต่างจากกู้ไหว่มากนัก
เฉินฮวนฮวนเพลิดเพลินไปกับการร้องเพลงของเธอ เธอร้องเพลงโดยหลับตาและไม่ได้สนใจสีหน้าของผู้อื่นเลย ในช่วงเวลานี้เธอเป็นเพียงแค่คนๆหนึ่งที่หลงใหลในเสียงดนตรี
หลังจากที่เธอร้องเพลงจบและลืมตาขึ้น เธอก็ได้พบกับแววตาที่แสดงความชื่นชมของกู้ไหว่ จากนั้นเธอก็เห็นกู้ไหว่ยืนขึ้นมองมาที่เธอและปรบมือ
แม้ว่าส่วนลึกๆของหัวใจเด็กฝึกหัดคนอื่นๆจะรู้สึกไม่พอใจ แต่พวกเธอยังคงทำตามกู้ไหว่และปรบมือให้กับเฉินฮวนฮวน
“ขอบคุณค่ะครูกู้ ขอบคุณค่ะทุกๆคน”เฉินฮวนฮวนโค้งคำนับ
ในส่วนของการร้องเพลงเธอไม่ได้ปิดบังความสามารถอะไรเลย พลังเสียงของเธอไม่ได้สูงมากนัก ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เธอจึงแสดงให้เห็นว่าตัวเธอน่ะเป็นอย่างไร
“ร้องได้ดีมาก การเรียบเรียงดนตรีใหม่ก็ดีมากอีกด้วย ยกเว้นแค่ทักษะเฉพาะบางอย่างเท่านั้น แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการร้องเพลงเพราะ”
กู้ไหว่ยิ้มเบาๆ สีหน้าของเขาดูอ่อนโยน: “แต่ผมอยากจะถามคุณว่าทำไมคุณถึงเลือกเพลงลม?”
เฉินฮวนฮวนผงะไปครู่หนึ่งและไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรไปชั่วขณะหนึ่ง
“อาจเป็นเพราะทำนอง หรืออาจเป็นเพราะเนื้อเพลง จริงๆแล้วฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันฟังเพลงนี้มาเป็นสิบๆปีแล้วและก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย”เฉินฮวนฮวนตอบอย่างใจเย็น: “แม้ว่าชีวิตจะอยู่ในความมืด แต่เพลงนี้ก็ทำให้ฉันรู้สึกมีความหวังเสมอ และมันช่วยทำให้ฉันเติบโตขึ้น”
คำพูดของเธอกระตุ้นความไม่พอใจของเด็กฝึกคนอื่นๆ เด็กฝึกบางคนบ่นว่าเธอประจบประแจงกู้ไหว่
“นี่เป็นเพลงแรกในสายอาชีพนี้ของผมที่ถูกบริษัทซื้อไป และยังเป็นเพลงที่ถูกปล่อยออกไปเป็นเพลงแรกอีกด้วย”เสียงของกู้ไหว่ฟังดูอ่อนโยนมาก เสียงของเขาราวกับสายลมในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกว่าถึงช่วงเวลาแห่งความสงบในหัวใจ
“ที่จริงคนที่ฟังเพลงนี้ไม่ได้มีเยอะมากนัก และเพลงนี้ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นที่นิยม แต่คุณก็ยังจำมันได้ผมรู้สึกขอบคุณจริงๆ”
“นั่งลงเถอะ ผมจะเริ่มคลาสแล้ว”
กู้ไหว่ไม่ได้พูดอะไรมาก แต่หัวใจของเขาที่มองเฉินฮวนฮวนมีมุมมองที่แตกต่างออกไปจากเดิม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เฉินฮวนฮวนเรียบเรียงดนตรีใหม่ เขารู้สึกว่ามันดีกว่าเวอร์ชั่นเดิมของเขา และเขารู้สึกว่าเฉินฮวนฮวนมีพรสวรรค์ที่สามารถสร้างได้
เฉินฮวนฮวนไม่รู้ว่ากู้ไหว่กำลังคิดอะไร เธอนั่งลงบนพื้นและเริ่มฟังคลาสเรียนของกู้ไหว่อย่างตั้งใจ
ในช่วงพัก อันเยว่ถูกล้อมรอบไปด้วยเด็กฝึกครึ่งหนึ่งในคลาส โดยเฉพาะฉินฟางที่ตัวเกาะติดอยู่กับอันเยว่
เฉินฮวนฮวนและติงเซียงยืนอยู่ข้างๆ เธอจิบน้ำและพยายามทบทวนวิธีการร้องเพลงที่กู้ไหว่สอนในคลาสเมื่อครู่นี้
เมื่อได้ยินเสียงของเฉินฮวนฮวน ฉินฟางก็ปล่อยมือของอันเยว่และตรงไปที่เฉินฮวนฮวนทันที เธอพ่นน้ำเสียงอย่างเย็นชาว่า: “ครูกู้ไม่ชอบคนประจบสอพลอ ดังนั้นเขาไม่สนใจเธอหรอก”
เฉินฮวนฮวนมองไปที่หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหน้าเธออย่างงุนงงและสงสัยว่าฉินฟางกำลังคุยกับเธออยู่หรือไม่
“อย่ามามองฉันแบบนั้น ฉันก็พูดกับเธอนั่นแหละ”ฉินฟางมองไปที่เธอด้วยสายตาเยาะเย้ย: “มาถึงก็ทำให้ครูวีวี่เคืองแล้ว เลยรีบไปเอาใจครูกู้สินะ?”
“ฉินฟาง พวกเราไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกัน ฉันไปทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจตอนไหน?”เฉินฮวนฮวนเดิมทีที่นั่งอยู่บนพื้นก็ยืนขึ้น และมองตรงไปยังสายตาที่เยาะเย้ยของฉินฟาง
ไม่ได้มีความรู้สึกกลัวเลย
“โอ๊ะ! เธอไม่ได้ทำให้ฉันไม่พอใจเลย! ฉันก็แค่…ไม่ถูกชะตากับเธอ! “ฉินฟางพ่นลมหายใจและหันหลังเดินกลับไปหาอันเยว่
เฉินฮวนฮวนพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง
“ฮวนฮวน อย่าไปสนใจเลย ฉินฟางก็เป็นคนแบบนี้แหละ เธอคิดตัวเองเต้นเก่งและพยายามเกาะอันเยว่ แถมเธอยังชอบดูถูกคนอื่น”
ติงเซียงตบไหล่เฉินฮวนฮวน เธอกระซิบเบาๆข้างหูเฉินฮวนฮวน: “เธอร้องเพลงได้ไม่ค่อยดีนักและเธอก็ชอบครูกู้ แต่ครูกู้ไม่ค่อยสนใจเธอมากนัก ดังนั้นฉินฟางเลยรู้สึกอิจฉาเธอ”
“เอาเถอะ”เฉินฮวนฮวนแสดงออกอย่างหมดหนทางและส่ายหัวเบา ๆ
ในขณะเดียวกันกู้ไหว่ก็เดินเข้ามา และเด็กฝึกคนหนึ่งก็พูดว่า: “ครูกู้ เวลาพักของเรายังไม่หมดเลย!”
“พวกคุณพักกันต่อเลย เฉินฮวนฮวน คุณมาที่ห้องทำงานของผมสักครู่”กู้ไหว่ยืนอยู่ตรงประตู เขากวักมือเรียกเฉินฮวนฮวนที่อยู่มุมด้านในสุด
เฉินฮวนฮวนที่กำลังคุยกับติงเซียงและเมื่อเห็นกู้ไหว่เรียกตัวเอง เฉินฮวนฮวนก็กระตือรือร้นและรีบเดินออกไปหาทันที
“ครูกู้ คุณเรียกหาฉันเหรอคะ?”
“มากับผม ผมต้องการสอบถามข้อมูลพื้นฐานของคุณ”กู้ไหว่กล่าวสั้นๆ จากนั้นก็หันหลังและเดินออกจากประตูไป
เฉินฮวนฮวนรีบเดินตามไปทันที ในใจของเธอรู้สึกมีความสุขอย่างมาก
หลังจากที่พวกเขาออกไป บรรยากาศในชั้นเรียนก็ระเบิดขึ้นอีกครั้ง
“เยว่เอ่อร์ เธอไม่ได้คุยกับครูกู้เกี่ยวกับเรื่องเงินเดือนตามลำพังเหรอ ทำไมเฉินฮวนฮวนถึงถูกเรียกให้ไปคุยตัวต่อตัวล่ะ?”ฉินฟางรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมแทนอันเยว่ อันที่จริงในใจของเธอตอนนี้รู้สึกโกรธมากๆ
เธอเพิ่งจะแซะการประจบสอพลอของเฉินฮวนฮวนไป และในชั่วพริบตาจู่ๆครูกู้ก็เรียกเฉินฮวนฮวนไปคุยตัวต่อตัว เธอรู้สึกโกรธจะตายอยู่แล้วจริงๆ!
“ฟางฟาง เฉินฮวนฮวนเป็นเด็กใหม่และเป็นเรื่องปกติที่ครูกู้ต้องการสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานของเธอ”อันที่จริงแล้วอันเยว่รู้สึกถึงความไม่เท่าเทียมกันเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้แสดงมันออกมา
“อ้อ ฉันถามไปแล้วตอนเที่ยง ครูหนีและเฉินฮวนฮวนไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน เธอบอกว่าเฉินฮวนฮวนเป็นแค่เด็กฝึกธรรมดาๆคนหนึ่ง เธอแค่ให้เฉินฮวนฮวนกรอกข้อมูลเฉยๆ”จ้าวซีพูดขึ้น เธอเป็นเพื่อนร่วมห้องที่ไม่เห็นด้วยกับเกาเหวิน
เกาเหวินและจ้าวซีเป็นเด็กฝึกประเภทเดียวกัน พวกเธอทั้งขายาวและตัวสูง พวกเธอมีเสน่ห์เล็กน้อยและมีคาแรคเตอร์คล้ายๆนางแบบ
คนประเภทเดียวกันมักจะไม่ถูกกันเสมอเพราะว่าต้องแข่งขันกัน ทั้งเกาเหวินและจ้าวซีเป็นคนประเภทที่ยุได้ยากอยู่แล้ว เลยไม่ค่อยจะถูกกันสักเท่าไหร่
“จ้าวซี ครูหนีพูดอย่างนั้นเหรอ? แล้วทำไมเธอถึงดีต่อเฉินฮวนฮวนนัก แถมยังเธอยังจับแขนของเฉินฮวนฮวนอีก ครูหนีต้องไม่ใช่คนดีขนาดนั้นแน่ๆ! ”
“ใช่ๆ ท่าทางแบบนั้นมันน่ากลัวนะ!”
จ้าวซีหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า: “ครูหนีอารมณ์ดีเลยจับแขนของเฉินฮวนฮวน ไม่ได้มีความหมายอะไรแอบแฝงหรอก”
“จ้าวซี ตอนเที่ยงเธอได้ไปถามครูหนีหรือเปล่า?”อันเยว่ยืนขึ้น มันเป็นเรื่องยากที่เธอจะเป็นคนเอ่ยถามเองก่อน เพราะเธอไม่เคยทำตัวซุบซิบนินทา
“แน่นอน และฉันค่อนข้างมั่นใจ”จ้าวซีเยาะเย้ย: “สรุปแล้วเกาเหวินเป็นคนส่งเธอเข้ามา พวกเธอก็รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเกาเหวิน ฉันไปสืบถามมาละ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่จ้าวซีพูด ทุกคนก็เริ่มมีสีหน้าดูถูกเหยียดหยามและพุ่งเป้าไปที่เฉินฮวนฮวน
เดิมทีคิดว่าเฉินฮวนฮวนมีแค่ภูมิหลังนิดหน่อย ไม่ได้คิดว่าจะมีอะไร
อันเยว่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกในความเงียบ
……
ณ ห้องทำงานของครู
เมื่อกู้ไหว่พาเฉินฮวนฮวนเข้ามา ซูเวยที่กำลังดื่มน้ำอยู่เมื่อเห็นเฉินฮวนฮวนน้ำก็พุ่งออกมาจากปากของเธอทันที
“คุณพาเธอมาที่นี่ทำไม?”ซูเวยขมวดคิ้วและจ้องไปที่เฉินฮวนฮวน
เดิมทีเธอคิดว่าเฉินฮวนฮวนเป็นเด็กฝึกที่มีภูมิหลัง หรือไม่ก็เป็นญาติของหนีซวง ดังนั้นหนีซวงเลยใจดีกับเฉินฮวนฮวน
แต่ใครจะไปรู้เมื่อตอนเที่ยงที่เธอไปถามหนีซวง แต่หนีซวงก็กลับปฏิเสธ และเมื่อพูดถึงเฉินฮวนฮวนเธอก็แอบดูถูกเฉินฮวนฮวนอยู่หน่อยๆ โดยพูดเพียงว่าเฉินฮวนฮวนเป็นเพียงแค่เด็กฝึกธรรมดาๆ
ซูเวยกลัวว่าจะขัดใจหนีซวง เธอเลยให้คำแนะนำทุกอย่างแก่เฉินฮวนฮวนในคลาสเรียนสุดท้ายในตอนเช้า ซึ่งมันไม่มีประโยชน์อะไรเลยจริงๆ
ดังนั้นเมื่อเธอเห็นเฉินฮวนฮวนในตอนนี้ เธอจึงรู้สึกอารมณ์เสียมากๆ เด็กฝึกธรรมดาๆถึงกับได้รับคำแนะนำแบบตัวต่อตัวของเธอ ช่างสิ้นเปลืองพลังงานของเธอเสียจริง
“ทำไม? คุณมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเด็กฝึกเฉินไหม? “กู้ไหว่มองออกว่าซูเวยไม่ชอบเฉินฮวนฮวน เขาจึงถามลองเชิง
“กู้ไหว่ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นคุณพาเด็กฝึกมาที่ห้องทำงาน คงจะรู้สึกพอใจกับเธอสินะ?”ซูเวยอารมณ์ไม่ค่อยดีเลยพูดอย่างตรงไปตรงมา
สีหน้าของกู่ไหว่ดูน่ากลัว เขาพูดอย่างจริงจังว่า: “ซูเวย เรื่องระหว่างคุณกับผมอย่าเอาอารมณ์มาใส่นักเรียนที่ไร้เดียงสาแบบนี้”
“……”ซูเวยถูกกู่ฮ่วยทำให้รู้สึกแค้น สีหน้าของเธอกลายเป็นกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอก้าวขาออกจากห้องทำงานทันที
เฉินฮวนฮวนดูสับสนงุนงงและไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น
ซูเวยปฏิบัติต่อเธออย่างดีในคลาสสุดท้ายในตอนเช้าไม่ใช่เหรอ? ทำไมจู่ๆสีหน้าของเธอดูเปลี่ยนไป เป็นไปได้ไหมที่ซูเวยจะมีสองบุคลิก?
อย่างไรก็ตามเธอไม่ต้องการสนใจเกี่ยวกับทัศนคติของซูเหวยที่มีต่อตัวเอง ตอนนี้ไอดอลของเธอเรียกตัวเองมาที่ห้องทำงานโดยไม่รู้ว่าต้องการที่จะถามอะไรกับเธอ?
“คุณกู้ คุณ…”เฉินฮวนฮวนกำลังจะพูด แต่ก็ถูกกู้ไหว่ขัดจังหวะเสียก่อน