บทที่ 398 กลสังหาร

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 398 กลสังหาร

บทที่ 398 กลสังหาร

คิดถึงการโจมตีสองครั้งเมื่อกี้ของฉู่เหิน สำหรับฉู่เหินแล้วนี่คงถือเป็นภาระที่ไม่น้อย ไม่งั้นก็เป็นไปไม่ได้จะเกิดผลลัพธ์แบบนี้ เดิมที่เจ้าซอมบี้คิดจะตายในสนามรบ แต่ทว่าในตอนนี้มันก็ได้ทิ้งความคิดนั้นไปแล้ว เจ้าซอมบี้ได้แต่แอบหวังให้ฉู่เหินโจมตีแบบเมื่อกี้อีกหลาย ๆ ครั้ง เพราะแบบนี้ต่อให้มันไม่ลงมือเอง อีกเดี๋ยวเจ้าหนุ่มนี้คงก็ล้มลงไปแล้ว!

ฉู่เหินเห็นอย่างชัดเจน สายตาซอมบี้ขั้นราชันดาราที่มองมาเจือการตัดสินใจบางอย่าง จนถึงตอนนั้นเขาก็รู้สึกว่าเห็นท่าไม่ดีแล้ว ดังนั้นไม่มีทางเลือกนอกจากจะแสดงฉากนี้ออกไป คิดไม่ถึงว่าจะเห็นผลจริง ๆ ตอนนี้ดูสายตาที่ซอมบี้ขั้นราชันดาราที่มองมาเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ราวกับแมวหยอกหนู!

พอเห็นแบบนี้ใบหน้าของฉู่เหินก็คล้ายจะขาวซีดไปส่วนหนึ่ง ทว่าในใจกลับแค้นเสียงเย็น เดี๋ยวมันจะได้รู้ว่าสุดท้ายแล้วใครเป็นแมวใครเป็นหนู

ระหว่างที่ก้าวเท้าร่างกายก็ไม่ค่อยมั่นคงอีกครั้ง ชายหนุ่มควงกระบองจตุรธาตุในมือ จากนั้นร่างกายก็กระพริบหายไป การควงกระบองครั้งเดียวที่สามารถทำให้ทหารซอมบี้ตายเป็นพันนั้นได้กระแทกเข้าที่เอวของซอมบี้ขั้นราชันดาราเอาอย่างจัง!

ซอมบี้ขั้นราชันดาราไม่รู้ว่าฉู่เหินใช้วิธีอะไร ทำให้ตอนนี้พลังโจมตีเปลี่ยนเป็นรุนแรงอย่างฉับพลันแบบนี้ ดังนั้นมันจะไม่ยืนโง่ให้อีกฝ่ายโจมตีแบบนี้แน่ จากนั้นก็เห็นเพียงร่างของมันที่หลบไปด้านข้างอย่างรีบร้อน ท่าทางนี้ของซอมบี้ขั้นราชันดาราถูกฉู่เหินมองออกตั้งนานแล้ว ชายหนุ่มรู้ว่าอีกฝ่ายจะต้องยืดเวลาตัวเองไว้ แต่แบบนี้ก็เป็นสิ่งที่ฉู่เหินต้องการเช่นเดียวกัน!

ฉู่เหินโบกกระบองจตุรธาตุตีไปที่ซอมบี้ขั้นราชันดาราที่หนีไปแล้วอีกครั้ง ซอมบี้ขั้นราชันดาราหนีอย่างรีบร้อน ไม่คิดจะประจันหน้ากับฉู่เหินแม้แต่น้อย เมื่อเป็นแบบนี้สองคน พอคนหนึ่งตามมาก็ต้องเปิดฉากโจมตีกันที่นี่เลย

โจมตีใส่กันสักพัก ทั้งสองคนต่างก็พากันหลบการโจมตีไปมา สามชั่วโมงกว่าแล้วที่อาวุธไม่ได้ปะทะกัน แต่ทหารด้านหลังมองเห็นอย่างชัดเจนว่าใบหน้าของฉู่เหินนั้นขาวซีด อีกทั้งร่างกายยังสั่นไหวไม่หยุด

พวกเขาต่างก็จ้องมองด้วยใจสั่นไหว พวกเขาไม่อยากจะคิดว่าถ้านายพลฉู่ของพวกเขาแพ้ล่ะก็ ผลลัพธ์ต่อจากนี้จะเป็นยังไง

แม้ว่าตอนนี้จะมีแสงสว่างปกป้องพวกเขา ทำให้ร่างกายของพวกเขาฟื้นฟูบาดแผลได้อย่างรวดเร็วแล้วพลังวรยุทธ์ต่างก็เพิ่มขึ้น เพียงแต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีสักคนที่จะใส่ใจกับพลังตัวเอง จิตใจของพวกเขาต่างก็จดจจ่ออยู่กับฉู่เหิน เวลานี้ฉู่เหินคล้ายจะมีผลกระทบกับจิตใจของคนในเมืองทุกคนแล้ว

การต่อสู้ของทั้งสองคนตอนนี้กำลังเปลี่ยนเป็นดุเดือด คล้ายจะไม่มีใครตามใคร และใครก็ทำอะไรใครไม่ได้เช่นกัน เดิมทีฉู่เหินอยากจะรีบจบสงครามนี้ซะ เพราะเขามีความมั่นใจว่าอาศัยพลังโจมตีของเขาแล้วในตอนนี้ ขอเพียงแค่อีกฝ่ายสู้กับตัวเองตรง ๆ ก็คงใช้เวลาไม่นานนักที่จะฆ่าอีกฝ่าย

แต่ซอมบี้ตัวนี้กลับไหลลื่นอย่างกับลูกแก้ว แม้ว่าฉู่เหินจะคิดว่าตัวเองเร็วแล้ว แต่ความเร็วของอีกฝ่ายก็ไม่ได้ช้าเช่นกัน แบบนี้การต่อสู้ของทั้งสองเลยเปลี่ยนเป็นไล่ตามซะงั้น ซึ่งใครก็ทำอะไรใครไม่ได้เลย ฉู่เหินกังวลว่าถ้าเป็นแบบนี้นานเข้าอีกฝ่ายจะมองจุดประสงค์ของตัวเองออก ถึงตอนนั้นก็ท่าไม่ดีแล้ว!

หลังจากกลอกตาครุ่นคิด ฉู่เหินก็คิดออกอย่างหนึ่ง ตอนที่เขากำลังไล่ตามอยู่นั้นเท้าก็สะดุดพื้น เขากำกระบองแน่น ทว่าสายตาเจือไปด้วยความอ่อนแรง

พอซอมบี้เห็นดังนั้น มันก็อดที่จะหัวเราะยกใหญ่ไม่ได้ แต่ทว่าเจ้าซอมบี้ก็ยังคงมองอย่างระมัดระวังในตอนแรก มันกล้าเข้ามาที่ตัวฉู่เหิน ทว่ากลับเลือกที่จะค่อย ๆ ลอยขึ้นไปในอากาศ

หลังจากเลือนขั้นราชันดารา ร่างกายของมันก็สามารถลอยบนอากาศได้ แต่ไม่ถึงกับลอยไปไหนมาไหนได้ มีเพียงขั้นจักรพรรดิดาราที่แท้จริงเท่านั้นถึงจะสามารถบินได้!

ทว่าในตอนนี้หลังจากที่ซอมบี้ขั้นราชันดาราลอยอยู่กลางอากาศ ใช้ลมดึงตัวเองแบบนี้ฉู่เหินเองก็สามารถทำได้ ชายหนุ่มจ้องเขม็งไปที่ซอมบี้ขั้นราชันดารา มองว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรกันแน่

ทหารและชาวบ้านในเมืองพอเห็นฉู่เหินล้มใบหน้าขาวซีดต่างก็เตรียมจะพุ่งออกจากเมืองมา เพื่อปกป้องนายพลฉู่ของพวกเขา

ทว่ากลับเป็นฉู่ฉุนที่ขัดขวางทหารที่เตรียมออกจากเมืองเอาไว้ ริมฝีปากของฉู่ฉุนพูดเพียงไม่กี่คำว่า “ทุกคนเชื่อใจนายพลฉู่!”

“หัวหน้าฉู่คุณถอยไปเถอะ พวกเราตายก็ไม่เท่านายพลฉู่ตาย!” ทหารและชาวเมืองตอบกลับแบบนี้

เห็นฉากนี้หากบอกว่าไม่ซาบซึ่งใจก็คงโกหก ไม่ว่าจะฉู่ฉุนหรือว่าเสี่ยวชิงและสัตว์อื่น ๆ ที่ได้รับบาดเจ็บทุกคนต่างก็ซาบซึ้งใจจนน้ำตาไหล แต่เมื่อเทียบกับอารมณ์ความรู้สึกแล้ว พวกเขาต่างก็เชื่อมั่นในตัวฉู่เหิน

“ทุกคนใจเย็นก่อน คนที่นอนอยู่ข้างนอกนั้นคือพี่ชายของฉันเอง หากพูดว่าร้อนใจล่ะก็ฉันร้อนใจยิ่งกว่าพวกคุณซะอีก แต่ทุกคนได้โปรดเชื่อ ฉันเชื่อว่าพี่ชายสามารถทำได้! เพราะเขาคือฉู่เหิน เขาไม่มีวันแพ้!” พอทุกคนได้ยินฉู่ฉุนพูดต่างก็เงียบไปอึดใจ

ต่อมาก็มองไปด้านนอกด้วยความเป็นห่วง เพราะตอนนี้จิตใจของพวกเขาอยู่ที่ตัวฉู่เหินทั้งหมด พูดได้ว่าตอนนี้เพียงฉู่เหินขยับนิดเดียว ก็ส่งผลต่อจิตใจของคนทั้งเมือง

ด้านบนกำแพงเมือง อากงมองลงไปด้านล่างด้วยสายตาลุกไหม้ มือเขากำข้อมือของหญิงสาวนางหนึ่ง หญิงสาวคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เธอก็คือเวินสุ่ยเซี่ยนั้นเอง! หากฉู่เหินชนะก็ช่างมันไปเถอะ แต่ถ้าฉู่เหินตายล่ะก็เธอก็คงไม่อาจมีชีวิตต่อไป! หญิงสาวไม่อยากทิ้งให้ฉู่เหินอยู่ใต้พื้นดินเพียงคนเดียว!

เวินสุ่ยเซี่ยยังคิดแบบนี้แล้วเสี่ยวชิงล่ะคิดเหมือนกันไหม? ทว่าหญิงสาวคนนี้ใจกล้ายิ่งกว่าเวินสุ่ยเซี่ยเสียอีก อย่างวันนี้หากเธอรู้เธอจะไม่ก่อปัญหาให้ฉู่เหินอีก ต้องเข้าใจด้วยว่าเธอรู้จักกับฉู่เหินมานานขนาดนี้ มีหรือที่จะไม่เคยได้ยินความลับของฉู่เหิน

ถ้าฉู่เหินมีวิชาลับแบบนี้ล่ะก็ อย่างงั้นเขาก็คงไม่เผยแพร่ให้คนอื่นหรอก ต้องเข้าใจว่าถ้าทุกคนมีความลับแบบนี้กันหมด หากตอนนั้นพวกเขาร่วมมือกัน น่ากลัวว่าซอมบี้ขั้นราชันดารานี้คงกลายเป็นศพไปแล้ว ดังนั้นเสี่ยวชิงสามารถเดาได้ว่าฉู่เหินไม่ได้มีวิชาลับเลื่อนระดับขั้นอะไรแบบนั้นแน่

นอกจากนี้ยังมีอีกอย่าง เธอสงบใจตัวเองแล้วครุ่นคิด นั่นก็คือเพราะว่าวันนี้ในสนามรบ ตอนที่เธอแพ้แล้วกลับมารักษาอาการบาดเจ็บ จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าท้องของตัวเองไม่ปกติ อาศัยพลังวรยุทธ์ขั้นราชันดาราของตัวเองในตอนนี้มาตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุ

หลังจากตรวจสอบไปสักพักเสี่ยวชิงก็ตกใจเมื่อพบว่าตัวเองตั้งท้องแล้ว นี้เป็นเรื่องที่เธอเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน! พอคิดดี ๆ ก็จำได้ว่าครั้งสุดท้ายของพวกเขาสองคนคือหลังจากที่เธอทะลวงระดับขั้นในนิกายกิเลนที่พวกเขามีอะไรกัน! ถ้าคำนวณเวลาจนถึงตอนนี้ยังไม่ถึง 1 เดือนเลย

นี้ก็เพราะเวลาในเมืองโบราณนั้นผ่านไปเร็วกว่า ไม่งั้นตอนนี้เกรงว่าผ่านไปครึ่งเดือนก็คงไม่พบ และก็เพราะเธอกำลังจะเป็นแม่คน ดังนั้นหญิงสาวจำเป็นต้องใช้สติแก้ปัญหาให้มากเข้าไว้ ตอนนี้ในท้องของเธอมีเด็กให้รับผิดชอบเพิ่มอีกคนหนึ่งแล้ว!

ขณะที่ทุกคนในเมืองกำลังเป็นห่วง ซอมบี้ขั้นราชันดาราก็เหาะมาถึงตัวของฉู่เหินแล้ว มันลอยอยู่กลางอากาศพลางสังเกตฉู่เหินอย่างละเอียด ถ้าฉู่เหินขยับนิดเดียวเจ้าซอมบี้จะหายตัวทันที เพราะตอนนี้มันรู้สึกไม่ค่อยวางใจฉู่เหินเท่าไร ยังรู้สึกว่าเจ้าหนุ่มนี้มีลูกเล่นเยอะเกินไป

อย่างไรก็ตามหลังจากที่เจ้าซอมบี้มองสังเกตฉู่เหินอยู่นาน มันก็พบว่าอาการบาดเจ็บของฉู่เหินเป็นของจริง เพราะเจ้าซอมบี้สัมผัสได้ว่าลมปราณของฉู่เหินอ่อนแรงมาก จุด ๆ นี้ไม่ว่าใครก็ไม่อาจโกหกได้ เห็นได้ชัดว่าถูกพลังย้อนกลับแล้ว เพราะเป็นขั้นราชันดาราเหมือนกัน กระทั่งเจ้าซอมบี้ยังระดับเหนือกว่าฉู่เหินหนึ่งขั้นด้วยซ้ำ ดังนั้นในจุดนี้มันจึงมองออกอย่างชัดเจนเลยล่ะ!

หลังจากเห็นดังนี้ซอมบี้ขั้นราชันดาราก็หัวเราะออกมา “เจ้าหนุ่ม แกก็มีวันนี้เหมือนกันสินะ แกเตรียมตัวตายได้เลยฉันจะล้างแค้นให้กับซอมบี้ของฉันที่ถูกแกทำลายล้างอย่างโหดเหี้ยมเอง!” ทันทีที่สิ้นเสียงซอมบี้ขั้นราชันดาราก็โบกสะบัดมือทั้งสองข้างที่กำกระบองสั้นไว้ฟาดลงไปที่ฉู่เหินอย่างบ้าคลั่ง