ตอนที่ 348 หลบหนีด้วยความเร็วสูง!

I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ

เมื่อผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาของซีซาร์ฟื้นสติกลับมาอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น เขาก็มาถึงจุดคืนชีพของฐานที่มั่นซวิ่นหลงแล้ว

อันที่จริงจุดคืนชีพของฐานที่มั่นซวิ่นหลงคือห้องขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ปกติแล้วประตูห้องจะปิดสนิท ทหาร NPC จะไม่เข้ามาในนี้เอง เนื่องจากออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักตั้งค่าไว้ว่าจุดคืนชีพเป็นจุดปลอดภัย ขอเพียงคนที่ฟื้นคืนชีพในนี้ไม่ออกไปนอกห้องก็จะไม่ถูกทหาร NPC ค้นพบ

ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาของซีซาร์ลุกขึ้นมาด้วยความเสียใจ แต่แล้วเขาก็สังเกตเห็นว่ามีคนกำลังชะโงกหัวมองที่หน้าประตูห้อง…เส้นผมสีดำสนิท ผิวเหลือง ย่อมเป็นชาวหัวเซี่ยที่ตายไปพร้อมเขาคนนั้นแน่นอน เขาชักกริชที่เสียบอยู่ด้านข้างน่องขาออกมาแล้วพุ่งเข้าไปโดยไม่ลังเล

คนผู้นั้นได้ยินเสียงลมที่ถูกแหวกอากาศมาก็กลิ้งตัวหลบไปทีหนึ่ง เขาหันหน้ากลับมามอง แววตาพลันหดลง “ชาวซีซาร์” เขาคือผู้ช่วยผู้บัญชาการที่เสียชีวิตอยู่ภายใต้ปืนใหญ่ลำแสงพลังงานแม่เหล็กคนนั้นนี่เอง เขาเพิ่งจะออกมาจากจุดคืนชีพ เนื่องจากด้านนอกห้องมีทหารฐานที่มั่นลาดตระเวนอยู่ เขาเลยจำเป็นต้องรั้งตัวอยู่ที่นี่ แน่นอนว่าเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าด้านนอกเกิดเรื่องอะไรขึ้น

“คราวนี้ นายยังต้องตายในเงื้อมมือฉัน!” ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาของซีซาร์ถาโถมเข้าไปท่ามกลางเสียงลำพองใจ

ผู้ช่วยผู้บัญชาการได้ยินคำกล่าวก็อึ้งไป พริบตาเดียวเขาก็นึกอะไรบางอย่างได้ แววตาของเขาหดลงฉับพลัน พุ่งกายหลบหลีกการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง ปากก็เอ่ยถามว่าแค้นเคืองว่า “ปืนใหญ่ลำแสงพลังงานแม่เหล็ก พวกนายเป็นคนจัดการเปิดใช้งานสินะ?”

ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาของซีซาร์ถือกริชพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มหยันว่า “ดูเหมือนนายยังไม่โง่นะ จริงๆ แล้วถ้าเกิดพวกเราไม่ได้ปรับการตั้งค่า ผู้บัญชาการสูงสุดของที่นี่จะใช้อาวุธระดับสุดยอดของฐานที่มั่นเพื่อยานรบเล็กๆ หนึ่งลำได้ยังไง”

ที่แท้ข้อความสุดท้ายที่ D1 ส่งไปนั้นมอบให้ผู้บัญชาการสูงสุดของฐานที่มั่นเป็นหลัก นั่นก็คือกำจัดผู้บุกรุกโดยไม่คำนึงถึงค่าตอบแทนใดๆ แน่นอนว่าเมื่อเปิดใช้งานอาวุธระดับสุดยอด สมาชิกกลุ่มสุดท้ายของซีซาร์ที่ซ่อนตัวอยู่ในยานบินซีซาร์สามารถรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาเกิดเรื่องแล้ว

ถ้าหากตอนนั้นเสี่ยวซื่อระมัดระวังสักนิดก็สังเกตได้ทันที จากความสามารถของเสี่ยวซื่อ เขาสามารถแก้ไขคำสั่งนี้ได้อย่างสมบูรณ์ ถึงขนาดที่สามารถอาศัยเบาะแสนี้ค้นหายานบินซีซาร์ที่อำพรางตัวอยู่รวมถึงชาวซีซาร์ที่ซ่อนอยู่ในยานบินได้ และกำจัดพวกเขาอย่างเงียบเชียบจนหมด จัดการอย่างไร้ข้อผิดพลาดอย่างแท้จริง

เช่นนั้นพวกหลิงหลานรวมถึงทหารสหพันธรัฐก็คงไม่ตกอยู่ในสภาวะตกอับเช่นในตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องผ่านวิกฤติภัยอันตรายล้อมรอบครั้งแล้วครั้งเล่า ย่อมหลบหนีจากฐานที่มั่นซวิ่นหลงได้อย่างสบายๆ…พูดได้แค่เพียง เสี่ยวซื่อที่เรียนรู้ความรู้สึกของมนุษย์ ในขณะเดียวกันก็เรียนรู้ข้อบกพร่องบางอย่างของมนุษย์ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ความประมาทเลินเล่อ หรืออย่างเช่น ชอบซ่อนความลับเล็กๆ น้อยๆ บางอย่างที่เขาคิดเอาเองว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญและไม่ได้สร้างความเสียหายในภาพรวม…

คำพูดของผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาซีซาร์ทำให้ผู้ช่วยผู้บัญชาการแสดงสีหน้าที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ความจริงเขาคิดไม่ออกมาตลอดว่า โดยปกติแล้ว อาวุธระดับสุดยอดจะไม่เปิดใช้งาน นอกเสียจากเกี่ยวข้องกับความอยู่รอดของฐานที่มั่นถึงค่อยถูกเปิดใช้งาน แต่พวกเขาแค่ยึดยานรบหลบหนีออกจากฐานที่มั่น ไม่ได้ทำลายความปลอดภัยของฐานที่มั่นเลย ดังนั้นเดิมทีอาวุธระดับสุดยอดไม่ควรถูกเปิดใช้งาน

เมื่อได้รับคำอธิบายของฝ่ายตรงข้าม ทุกอย่างนี้ก็สมเหตุสมผลแล้ว ผู้ช่วยผู้บัญชาการมองชาวซีซาร์ตรงหน้าด้วยความขุ่นแค้น ตอบกลับอย่างมุ่งร้ายว่า “ฉันไม่มีทางตายในเงื้อมมือแกเป็นครั้งที่สองหรอก” ปืนใหญ่ลำแสงพลังงานแม่เหล็กทรงพลังมากเกินไป เขาต้านทานไม่ไหว ดังนั้นเขาจึงไม่มีความข้องใจที่เสียชีวิต แต่เขาไม่มีทางตายในเงื้อมมือศัตรูที่เป็นมนุษย์เหมือนกันโดยเด็ดขาด

ทั้งคู่คุมเชิงกันอยู่หลายวินาที ทันใดนั้นเองพวกเขาก็พุ่งเข้าไปหาอีกฝ่ายพร้อมกัน ผู้ช่วยผู้บัญชาการชักมีดสั่นออกจากหลังเอวแล้วแทงใส่คู่ต่อสู้อย่างโหดเหี้ยม

“เคล้งๆๆ…” อาวุธเย็นกระทบกันอย่างรุนแรง ทั้งสองคนเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาเหมือนกัน ทักษะการต่อสู้มือเปล่าจึงไม่ด้อยเช่นกัน ต่อสู้ได้อย่างสูสี ยากจะแยกว่าใครเหนือกว่ากันไปชั่วขณะหนึ่ง

แววตาของผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาเผยความตื่นเต้นออกมา อย่างที่คาดไว้เลย คนที่กล้าลากเขาให้ตายตกตามกันเป็นคู่ต่อสู้ที่ร้ายกาจสุดขีดจริงๆ เนื่องจากการวางแผนจัดการอย่างชาญฉลาดของหลิงหลาน ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาซีซาร์ไม่คาดคิดเลยว่า ความจริงแล้วเขาจำคู่ต่อสู้ผิดคนแล้ว

ส่วนผู้ช่วยผู้บัญชาการ เนื่องจากเขาฟื้นคืนชีแล้วก็อยู่แต่ในห้องตลอด ไม่รู้สถานการณ์เหล่านี้เลย เขาแค้นเคืองอีกฝ่ายที่เปิดใช้งานอาวุธระดับสุดยอดมาทำร้ายเขาจนเขาต้องติดอยู่ในฐานที่มั่นซวิ่นหลง กอปรกับได้รู้ว่าทุกอย่างนี้ล้วนเป็นแผนสกปรกของซีซาร์ เขาก็เห็นอีกฝ่ายเป็นศัตรูของตัวเองทันที แทบอยากจะสังหารอีกฝ่ายทิ้งเหลือเกิน

ด้วยเหตุนี้เอง เหตุผลต่างๆ บวกกับแผนการอันเฉลียวฉลาดของหลิงหลาน ทำให้ฝีมือของเธอถูกปกปิดไว้โดยสมบูรณ์ จนกระทั่งถึงตอนสุดท้าย สหพันธรัฐหัวเซี่ยกับจักรวรรดิซีซาร์ไม่ได้สังเกตเลยว่า ยังมีกลุ่มอำนาจที่สามซ่อนตัวอยู่ในหมู่พวกเขา

……

หลิงหลานจัดการผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาซีซาร์แล้วก็หอบพักหายใจเฮือกหนึ่งในที่สุด ความจริงแล้วฉากสุดท้ายเป็นของปลอมที่เสี่ยวซื่อทำขึ้นหมดเลย สิ่งที่เรียกว่าการระเบิดของเครื่องยนต์ หุ่นรบสูญเสียการควบคุมล้วนเป็นของปลอม ดาบแสงก็เป็นสิ่งที่เธอจงใจโยนทิ้งเพื่อใช้หลอกศัตรูให้เกิดความสับสน ส่วนห้องคนขับของหลิงหลานที่ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาเห็นว่าถูกแทงนั้น แน่นอนว่าเป็นภาพลวงตาเช่นกัน ดาบแสงของหุ่นรบไพ่ราชาไม่อาจแทงทะลุห้องคนขับของหุ่นรบระดับราชันได้ ดาบแสงแค่เฉียดผ่านเอวหุ่นรบของหลิงหลานเท่านั้น ไม่ได้สร้างความเสียหายให้หุ่นรบของหลิงหลานเลยแม้แต่น้อย

ท้ายที่สุด ในชั่วพริบตาที่ฝ่ายตรงข้ามดีใจและผ่อนคลายจิตใจลงนั้นก็สับเปลี่ยนปู้หุ่ยที่ถูกเตรียมไว้นานให้เป็นอาวุธติดตั้งอย่างเฉียบขาด ก่อนแทงเข้าไปในห้องคนขับของอีกฝ่าย ความคมเป็นพิเศษของปู้หุ่ยสำแดงผลอีกครั้ง เปลือกนอกของหุ่นรบไพ่ราชายังคงต้านทานความคมของปู้หุ่ยไม่ได้ มันจึงแทงเข้าไปข้างในอย่างหมดจด สังหารอีกฝ่ายทันที

อย่างไรก็ตาม การควบคุมเข้าต่อสู้กับการวางแผนในรอบนี้ทำให้จิตใจของหลิงหลานเหนื่อยล้าจนถึงขีดสุดจริงๆ ความทรหดอดทนของร่างกายก็ใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว หลิงหลานรู้ว่าเธอต้องรีบกลับเข้าไปในยานอวกาศให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่เช่นนั้น หากควบคุมหุ่นรบระดับราชันต่อไป ร่างกายของเธอจะยืนหยัดไม่ไหวแล้ว

เมื่อบรรดาทหารหัวเซี่ยในห้องควบคุมหลักของยานอวกาศเห็นผู้ช่วยผู้บัญชาการในกองทัพตนตัดสินใจตามด้วยกันกับศัตรู ทุกคนต่างหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด…พวกเขาจำเป็นต้องทอดทิ้งเพื่อนร่วมรบที่ช่วงชิงโอกาสให้พวกเขาเพื่อเอาชีวิตรอดกลับไปรายงานสถานการณ์ของที่นี่ให้กับทางกองทัพ ความรู้สึกแบบนี้ทำให้พวกเขาปวดใจมาก เรื่องเดียวที่ปลอบโยนความรู้สึกของพวกเขาคือ ตอนนี้พวกเขาอยู่ในโลกเสมือนจริง ขอเพียงไม่มีผีซวี เพื่อนร่วมรบของพวกเขาก็แค่ติดอยู่ที่นี่ชั่วคราวเท่านั้น ไม่มีอันตรายใดๆ ถึงแก่ชีวิต

เวลานี้เอง ลูกทีมที่รับหน้าที่เฝ้าจับตามองความคืบหน้าของการสั่งสมพลังงานอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอดพลันตะโกนขึ้นมาว่า “รายงานผู้บัญชาการ สั่งสมพลังงานถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้วครับ”

ผู้บัญชาการได้ยินคำกล่าวก็ลืมตาโดยพลัน เขาฝืนข่มกลั้นความกังวลใจที่มีต่อผู้ช่วยผู้บัญชาการ แววตาฉายร่องรอยการตัดสินใจอย่างเด็ดขาดออกมาแวบหนึ่ง ก่อนจะสั่งการทันทีว่า “เปลี่ยนเป็นเกียร์สูงทันที!”

ตอนนี้เอง ลูกทีมที่รับผิดชอบควบคุมการสับเปลี่ยนความเร็วก็ดันปุ่มความเร็วไปที่เกียร์สูงโดยไม่ลังเล

“รับคำสั่ง: ปรับเปลี่ยนการทำงานของยานอวกาศ สับเปลี่ยนจากความเร็วต่ำไปที่ความเร็วสูง…คำเตือน ระดับความสูงจริงไม่เพียงพอ แรงดึงดูดมากเกินไป อาจจะสร้างความเสียหายให้กับยานอวกาศได้ คำเตือน พลังงานไม่เพียงพอ คงการแล่นด้วยความเร็วสูงได้เพียงเจ็ดนาทีเท่านั้น โปรดเลือกอย่างระมัดระวัง โปรดเลือกอย่างระมัดระวัง…” ออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักของยานอวกาศตรวจสอบสภาพความเป็นจริงและทำการตัดสินใจออกมา ส่งเสียงเตือนฉุกเฉินทันที เตือนผู้ควบคุม ยานอวกาศว่า สับเปลี่ยนเป็นความเร็วสูงในตอนนี้คือความผิดพลาด และไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง

ลูกทีมที่รับผิดชอบสับเปลี่ยนความเร็วได้ยินคำเตือนของออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักก็เงยหน้ามองไปที่ผู้บัญชาการของพวกเขาด้วยความตื่นตระหนกโดยพลัน ถึงอย่างไรพวกเขาไม่ใช่ผู้ควบคุมยานอวกาศที่เชี่ยวชาญ เมื่อเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันแบบนี้ เขาก็มือไม้ลนลานอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี

จากนั้นก็เห็นผู้บัญชาการตบมือตัวเองอย่างรุนแรง เอ่ยอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “สับเปลี่ยนเป็นความเร็วสูง พวกเราต้องเดิมพันแล้ว” ถ้าหากเขาอืดอาดชักช้าต่อไป พอศัตรูยิงปืนใหญ่ลำแสงพลังงานแม่เหล็กรอบที่สามได้สำเร็จ พวกเขาก็หนีไม่รอดแล้วจริงๆ เขาจะเสียเวลาที่ผู้ช่วยสละชีวิตแลกมาไม่ได้เป็นอันขาด จะต้องพาพวกลูกทีมกลับไปที่เขตศูนย์กลางให้จงได้ และราบงานสถานการณ์ของที่นี่ให้กับกองทัพทันที แบบนี้ถึงจะสามารถช่วยชีวิตของผู้ช่วยบัญชาการได้เร็วยิ่งขึ้น…

“ยืนยันการเปลี่ยนเป็นเกียร์สูง เริ่มนับถอยหลังตั้งแต่บัดนี้ 5 4 3 2 1 เปลี่ยนเป็นความเร็วสูงสำเร็จ เริ่มนับถอยหลังการบริโภคพลังงาน 420 419 418…” ออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักปฏิบัติตามคำสั่งดำเนินการความเร็วสูง เมื่อถึงเวลา ยานอวกาศที่เดิมทีค่อยๆ ไต่สูงขึ้นพลันบินขึ้นไปบนฟ้าอย่างเร็วไวในชั่วพริบตาราวกับลูกศรที่ยิงออกไป

เนื่องจากสับเปลี่ยนเป็นความเร็วสูงโดยที่ยังไม่ถึงเงื่อนไขขั้นต่ำสุด เกราะส่วนหนึ่งของหางยานอวกาศจึงแตกร้าวและหลุดลงมา ก่อนจะร่วงลงจากความสูง 1800 เมตรภายใต้ปฏิกิริยาต่อกันระหว่างแรงดึงดูดกับแรงขับเคลื่อนพลังงาน…

ทว่ายานอวกาศยังคงบินขึ้นไปบนฟ้าอย่างแข็งขัน ส่วนหางปล่อยควันดำออกมา เตรียมพร้อมทะลุผ่านชั้นบรรยากาศเข้าสู่ทะเลแห่งดวงดาว!

……

“ผู้บัญชาการ ตอนนี้จะทำยังไงดีครับ?” เมื่อเห็นยานอวกาศเร่งความเร็วกะทันหัน ลอยขึ้นไปบนฟ้าราวกับบินไปก็ไม่ปาน ปืนใหญ่ลำแสงพลังงานแม่เหล็กที่กำลังเตรียมยิงสูญเสียเป้าหมายฉับพลัน ทหารที่รับผิดชอบการโจมตีในครั้งนี้จึงรายงานผู้บัญชาการสูงสุดของฐานที่มั่นทันที

ผู้บัญชาการสูงสุดวางกล้องโทรทรรศน์ออโรร่าลงอย่างเงียบงัน อานุภาพของปืนใหญ่ลำแสงพลังงานแม่เหล็กน่าหวาดหวั่นมากจริงๆ แต่เมื่อเป้าหมายเข้าสู่น่านฟ้าสูงแล้ว โดยเฉพาะยานอวกาศที่แล่นด้วยความเร็วสูงสุดขีดแบบนี้ ยากมากที่จะแสดงประสิทธิภาพออกมา สุดท้ายเขาได้แต่เอ่ยด้วยความเสียใจว่า “ช่างเถอะ ปิดผนึกอาวุธระดับสุดยอดอย่างเป็นทางการ ครั้งนี้ถือว่าพวกเขาโชคดี ไม่นึกพวกเขาจะหนีออกไปจากฐานที่มั่นซวิ่นหลงได้จริงๆ”

“ครับ! ผู้บัญชาการ!” นายทหารที่รับผิดชอบปืนใหญ่ลำแสงพลังงานแม่เหล็กรีบจัดการปิดผนึกปืนใหญ่ลำแสงพลังงานแม่เหล็กและเลื่อนมันลงไปทันที

ผู้บัญชาการสูงสุดกล่าวจบแล้ว ก็หยิบกล้องโทรทรรศน์ออโรร่าขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้ มองยานรบที่กำลังบินออกจากชั้นบรรยากาศลำนั้น เขาผุดความคิดขึ้นมาก่อนจะวางกล้องโทรทรรศน์ลง แล้วออกคำสั่งให้กับนายทหารที่อยู่ข้างกายว่า “สั่งการลงไป ให้ทหารทุกคนของกองยานรบซวิ่นหลงรวมตัวกันและขึ้นยานทันที สามสิบนาทีให้หลัง บินขึ้นอย่างเป็นทางการ ไล่โจมตียานรบของเราที่ถูกปล้นไปอย่างสุดกำลัง ต้องทำลายมันภายในขอบเขตชายแดนเนบิวลาให้ได้”

“ครับ ผู้บัญชาการ!” ผู้ช่วยที่อยู่ข้างกายรีบรับคำสั่งแล้วหันกายออกคำสั่งฉุกเฉินนี้ลงไป

หลายวินาทีต่อมา เสียงแจ้งเตือนฉุกเฉินดังแสบหูไปทั่วทั้งฐานที่มั่น เสียงแจ้งเตือนของ DMC ฐานที่มั่นดังขึ้นในค่ายทหารทั้งหมด “แจ้งเตือนฉุกเฉิน ทหารทุกคนของกองยานรบซวิ่นหลงโปรดขึ้นไปรวมกลุ่มในยานรบของแต่ละคนภายในสามสิบนาที อีกสามสิบนาทีให้หลัง กองยานรบจะบินขึ้นอย่างเป็นทางการ…แจ้งเตือนฉุกเฉิน ทหารทุกคนของกองยานรบซวิ่นหลงโปรดขึ้นไปรวมกลุ่มในยานรบของแต่ละคนภายในสามสิบนาที อีกสามสิบนาทีให้หลัง กองยานรบจะ…”

ทั่วทั้งฐานที่มั่นซวิ่นหลงเริ่มวุ่นวายขึ้นมา บรรดาทหารของกองยานรบทั้งหมดทยอยกันรีบไปที่ยานรบของตัวเอง สามสิบนาที เวลากระชั้นชิดอย่างยิ่ง พวกเขาไม่อาจเสียเวลาได้เลยแม้แต่น้อย

————————–