บทที่ 272 คนทำบัญชีหญิง

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 272 คนทำบัญชีหญิง

“เอาล่ะ ๆ พอแล้ว ๆ” พี่ฝูโบกมืออย่างมีความสุข และพยุงกู้เสี่ยวอี้ขึ้นมาพลางกล่าวอย่างดีใจ “ในชีวิตของข้านี้ ข้าไม่เคยรับลูกศิษย์มาก่อนเลย และในครั้งนี้ข้าก็มีลูกศิษย์แล้ว ดูเด็กนี่สิ ในใจข้ามีความสุขเสียจริง”

กู้เสี่ยวหวานรู้ว่าพี่ฝูนั้นชอบกู้เสี่ยวอี้มาก และรู้ด้วยว่าพี่ฝูคงจะตั้งใจสอนกู้เสี่ยวอี้แน่นอน นางจึงมีความสุขยิ่งนัก

เมื่อเห็นว่าสายแล้ว กู้เสี่ยวหวานจึงวางแผนที่จะไปที่ร้านจิ่นฝู เมื่อมองไปที่ท่าทางที่รีบร้อนของกู้เสี่ยวหวาน พี่ฝูก็เดาได้ว่ากู้เสี่ยวหวานคงมีเรื่องที่ต้องทำอย่างแน่นอน “สาวน้อยเสี่ยวหวาน ถ้ามีเรื่องที่ต้องทำก็รีบไปเถอะ ให้เสี่ยวอี้อยู่กับข้าที่นี่ ข้าจะได้เริ่มสอนนางเลย”

กู้หนิงผิงจึงกล่าวว่า “ท่านพี่รีบไปเถอะ ข้าจะอยู่ที่นี่กับเสี่ยวอี้เอง”

กู้เสี่ยวหวานจึงพยักหน้า มองพี่ฝูด้วยสายตาเกรงใจ “อย่างนั้นก็ต้องรบกวนพี่ฝูแล้ว”

เมื่อพี่ฝูเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานยังสุภาพอยู่จึงกล่าวอย่างโกรธเคือง “เด็กคนนี้ จะเกรงใจไปเพื่ออะไรกัน ถ้ามีเรื่องอะไรก็รีบไปทำเถอะ”

นางโบกมือ กู้เสี่ยวหวานจึงพยักหน้าและจากไป

เมื่ออกจากร้านขายผ้าจี๋เสียง นางรีบตรงไปร้านจิ่นฝูทันที วันนี้เป็นวันที่นัดกับหลี่ฝานเอาไว้ กู้เสี่ยวหวานจึงไม่กล้าไปสาย

กู้เสี่ยวหวานไม่กล้าเข้าหน้าประตูร้านจึงเดินอ้อมไปเข้าประตูหลังแทน ประตูหลังของร้านเปิดกว้างเพราะต้องเอาไว้ส่งวัตถุดิบ

ด้านหลังร้านกำลังยุ่งวุ่นวาย แต่ดีที่นางเห็นลูกจ้างในร้านที่เคยเจอในครั้งที่แล้ว จึงเรียกเอาไว้ เมื่อเด็กรับใช้ผู้นั้นเห็นกู้เสี่ยวหวาน เขาก็ดูมีความสุขในทันที และเขาก็รีบนำกู้เสี่ยวหวานไปหาเสี่ยวเซิ่งจื่อ

พี่เซิ่งจื่อได้บอกเขาไว้แล้วว่าถ้ากู้เสี่ยวหวานมาก็ให้พานางไปหาเขาเลย โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้เขาทราบก่อน

เด็กชายผู้นี้พากู้เสี่ยวหวานไปหาเสี่ยวเซิ่งจื่ออย่างมีความสุข ในตอนนี้เสี่ยวเซิ่งจื่ออยู่ในครัวด้านหลังเพื่อตรวจสอบสุขอนามัยของอาหาร

เสี่ยวเซิ่งจื่อซึ่งอยู่ในครัวด้านหลังเพื่อตรวจสอบสุขอนามัยของอาหารในวันนี้ และตรวจสอบความสดของวัตถุดิบที่จัดส่งในวันนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน และก็บอกคนในครัวเป็นระยะว่าอาหารต้องสะอาดถูกหลักอนามัย ผู้คนรอบตัวเขายังคงพยักหน้า แม้ว่าเสี่ยวเซิ่งจื่อจะอายุเพียงสิบขวบ แต่ท่าทางของเขาดูมีทักษะราวกับเป็นผู้ใหญ่ตัวเล็ก ๆ

ลูกจ้างในร้านร้องเรียกเสี่ยวเซิ่งจื่อ ครั้นได้ยินเสียงจึงหันกลับมาอย่างรวดเร็ว ครั้นเห็นกู้เสี่ยวหวาน เขาจึงยิ้มให้ทันทีและโยนส่วนผสมกลับเข้าไปในถุงผ้า บอกกับคนข้าง ๆ แล้วเดินไปทางฝั่งของกู้เสี่ยวหวาน

“สาวน้อยกู้ เจ้ามาแล้ว!”

กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า “ข้ามาสายไปหน่อย”

เสี่ยวเซิ่งจื่อโบกมือ “ไม่สาย ไม่สาย มาได้ประจวบเหมาะเลย บัญชีที่ซื้อในวันนี้จะถูกแยกออก และจะจัดส่งในภายหลัง”

เสี่ยวเซิ่งจื่อเดินนำกู้เสี่ยวหวานออกจากห้องครัวด้านหลังไปที่ห้องรับรองชั้นสอง ในห้องนั้นหลี่ฝานกำลังยุ่งอยู่ แต่เมื่อเขาเห็นกู้เสี่ยวหวานมาจึงรีบกล่าวทักทาย จากนั้นเขาก็นำกู้เสี่ยวหวานไปยังห้องที่ตกลงกันไว้ในสัญญา

เขาเตรียมห้องรับรองห้องในสุดของชั้นสองให้กู้เสี่ยวหวาน หน้าประตูมีแม่กุญแจใหญ่คล้องอยู่ หลี่ฝานไขกุญแจในมือของเขาและนำกู้เสี่ยวหวานเข้าไป

กู้เสี่ยวหวานมองไปรอบ ๆ ห้องรับรองนี้ไม่ใหญ่นัก แต่สะอาดและเรียบง่ายมาก

มีโต๊ะแปดเซียนขนาดใหญ่ตั้งอยู่ และบนนั้นมีสมุดบัญชีวางอยู่

หลี่ฝานเดินนำไปข้างหน้า และมีกู้เสี่ยวหวานเดินตามเข้าไปข้างใน

เขาชี้ไปในห้องและกล่าวว่า “สาวน้อยกู้ นี่คือห้องที่ข้าเตรียมให้เจ้า คราวหน้าเจ้าจะมาคำนวณบัญชีในห้องนี้ และจะได้ไม่ต้องมาปรากฏตัวที่หน้าร้าน”

กู้เสี่ยวหวานพยักหน้าอย่างพอใจ ห้องรับรองนี้อยู่ไกลจากห้องโถงและเงียบสงบ

เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานพึงพอใจมาก หลี่ฝานก็ไม่กล่าวอะไรมาก ทำเพียงชี้นิ้วไปที่โต๊ะที่มีสมุดบัญชีวางอยู่และกล่าวว่า “บัญชีเหล่านี้เป็นของเมื่อก่อนและได้คำนวณเรียบร้อยแล้ว วางไว้ตรงนี้ เจ้าจะได้เอาไว้อ้างอิง”

กู้เสี่ยวหวานตอบรับหนึ่งคำ

“สาวน้อยกู้ต้องการให้ข้าแนะนำสถานการณ์ภายในร้านนี้ก่อนหรือไม่?” หลี่ฝานเกรงว่ากู้เสี่ยวหวานจะไม่เข้าใจและคงเริ่มต้นได้ยาก จึงเอ่ยถามออกไป

กู้เสี่ยวหวานส่ายหน้า “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ เถ้าแก่ไปทำงานของท่านเถอะ ครั้งที่แล้วที่ข้ามาคำนวณบัญชีนั้นก็ค่อนข้างเข้าใจสถานการณ์ของร้านอยู่พอสมควรแล้ว”

หลี่ฝานยิ้มอย่างพึงพอใจ และเพราะมีอีกหลายเรื่องที่เขาต้องทำ ดังนั้นจึงขอตัวไปก่อน กู้เสี่ยวหวานมาถึงข้างหลังของโต๊ะแปดเซียนและนั่งลง จากนั้นเสี่ยวเซิ่งจื่อก็มาส่งข้อมูลการจัดซื้อวัตถุดิบพอดี

กู้เสี่ยวหวานได้คำนวณรายได้และค่าใช้จ่ายทั้งหมดในช่วงเวลาก่อนหน้า ดังนั้นนางจึงหมกมุ่นอยู่กับงานของตนเอง

เมื่อถึงเวลาก่อนรับประทานอาหารกลางวัน กู้เสี่ยวหวานก็ได้คำนวณบัญชีในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเสร็จเรียบร้อย

หลังจากตรวจสอบหลายครั้ง และยืนยันว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ดังนั้นจึงไปที่ห้องรับรองของหลี่ฝานพร้อมสมุดบัญชี

หลี่ฝานมีความสุขมากเมื่อได้ยินว่ากู้เสี่ยวหวานได้คำนวณบัญชีเสร็จสิ้น ความถูกต้องและความรวดเร็วในการคำนวณบัญชีของกู้เสี่ยวหวานนั้นชัดเจนสำหรับทุกคน ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่เชิญกู้เสี่ยวหวานให้มาพร้อมกับเงื่อนไขที่พิเศษเช่นนี้

เพราะเขาต้องการเชิญกู้เสี่ยวหวานให้มาจริง ๆ จึงเสนอเงื่อนไขที่สะดวกเช่นนี้ให้นาง โดยให้นางมาที่ร้านอาหารสัปดาห์ละสองครั้งเท่านั้น

หลี่ฝานรู้ดีว่ากู้เสี่ยวหวานนั้นเป็นผู้มีความสามารถ

หลังจากตรวจสอบสมุดบัญชีกับหลี่ฝานเสร็จแล้ว กู้เสี่ยวหวานจึงเก็บสมุดบัญชีไว้ในตู้ที่มีแม่กุญแจคล้องอย่างแน่นหนาในห้องรับรองของนาง

ตู้ขนาดใหญ่ในห้องรับรองนี้ใช้สำหรับเก็บสมุดบัญชีโดยเฉพาะ และยังมีแม่กุญแจขนาดใหญ่อยู่ด้านนอก มีเพียงกู้เสี่ยวหวานและหลี่ฝานเท่านั้นที่มีกุญแจห้องนี้ หนึ่งอันสำหรับแต่ละคน และมีเพียงกู้เสี่ยววหานเท่านั้นที่มีกุญแจของตู้ขนาดใหญ่ด้านใน

หลังจากคำนวณบัญชีเสร็จแล้ว หลี่ฝานก็ต้องการให้กู้เสี่ยวหวานอยู่ทานอาหารค่ำ เดิมทีได้ลงนามในสัญญาว่ากู้เสี่ยวหวานสามารถรับประทานอาหารที่ร้านจิ่นฝูได้โดยไม่ต้องเสียเงิน

เนื่องจากเป็นมื้อแรกของนางที่นี่ หลี่ฝานจึงพากู้เสี่ยวหวานไปรับประทานอาหารเป็นการส่วนตัว และเสี่ยวเซิ่งจื่อก็อยู่ที่นั่นด้วย

เด็กชายที่พากู้เสี่ยวหวานเข้ามาในวันนี้ เขามีขื่อว่าฉางเซิง

เนื่องจากฉางเซิงและเสี่ยวเซิ่งจื่อไม่ได้กินข้าวร่วมกับลูกจ้างคนอื่น ๆ ในครัวด้านหลังวันนี้ ลูกจ้างคนอื่นจึงต่างก็สงสัยว่าสองคนนี้ไปที่ไหน คนที่รู้ความจริงกล่าวอย่างรวดเร็วว่าวันนี้เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเข้าไปในห้องรับรองของหลี่ฝาน และต่อมาก็พาเด็กหญิงผู้นั้นไปที่ห้องรับรองชั้นในสุดของชั้นสอง

ห้องรับรองชั้นในสุดของชั้นสองเพิ่งทำความสะอาด และว่ากันว่าสงวนไว้สำหรับคนทำบัญชีของร้านอาหาร

คงไม่ใช่ …

ลูกจ้างหล่านั้นตื่นเต้นและกระซิบทันทีว่า “เป็นไปได้ไหมว่ามีคนทำบัญชีหญิงอยู่ในร้านอาหารของเรา”

บางคนคิดว่าเป็นเรื่องอุกอาจ “เป็นไปได้อย่างไร ตั้งแต่สมัยโบราณคนทำบัญชีล้วนเป็นผู้ชายเท่านั้น จะเป็นผู้หญิงได้อย่างไร”