ตอนที่ 344 โลกกลมจริงๆ

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 344 โลกกลมจริงๆ

มู่เถาเยาเล่านิทานให้พวกเด็กๆ ฟังสองเรื่อง ประมาณครึ่งชั่วโมงประตูลิฟต์ก็เปิด

คนข้างนอกรีบกุลีกุจอเข้ามาช่วยประคองคนในลิฟต์

ชายหนุ่มคนหนึ่งที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ใส่แว่นกรอบทอง ถามอย่างไม่กล้ากะพริบตา “ประธานหลิงโอเคดีใช่ไหมครับ”

บอสของเขาเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายนะ!

หลังจากที่รู้ว่าลิฟต์ขัดข้อง เขาก็ตกใจจนแทบจะเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายด้วยอีกคน!

“ไม่เป็นไร นายไปติดต่อคนมาซ่อมลิฟต์นะ ซ่อมไม่ได้ก็เปลี่ยน ห้ามปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก”

วันนี้โชคดีเหลือเกินที่ไม่มีใครบาดเจ็บ

“ครับ”

“จอมยุทธ์หญิง แล้วก็คุณผู้หญิงท่านนี้กับเด็กๆ ต้องขอโทษจริงๆ ครับ! เรื่องแบบนี้เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ผมรับรองว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายครับ! จอมยุทธ์หญิง คุณผู้หญิง พวกคุณลองดูนะครับว่าต้องการไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลไหม จากนั้นพวกเราค่อยมาหารือกันว่าจะชดเชยเยียวยาสภาพจิตใจยังไงดี”

มู่เถาเยาส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไรค่ะ แต่ถ้าคุณแม่ท่านนี้ไม่วางใจก็ลองพาลูกๆ ไปตรวจที่โรงพยาบาลดูนะคะ”

คุณแม่วัยสาวยังรู้สึกหวาดหวั่นอยู่ แข้งขาอ่อนแรง

ถ้าไม่ติดว่ากลัวลูกๆ จะกลัว เธอคงทรุดลงไปกองกับพื้นแล้ว

“น้องเป็นหมอเหรอคะ”

“ฉันเรียนปริญญาโทปีสองที่มหาวิทยาลัยแพทย์เย่ว์ตูค่ะ”

“พวกลูกๆ ของพี่ไม่เป็นไรจริงๆ เหรอ”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันรับรองได้ค่ะว่าพวกเขาไม่ได้รับผลกระทบอะไร แต่พี่ดูค่อนข้าง…”

“ขอแค่ลูกๆ ไม่เป็นอะไรพี่ก็ไม่เป็นไรจ้ะ งั้นพวกเราไม่ไปโรงพยาบาลแล้วค่ะประธานหลิง” เธอเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงได้ไว้ใจสาวน้อยที่ดูอายุเพิ่งจะสิบสี่สิบห้าคนนี้

หลิงอวิ๋น “งั้นเอาแบบนี้นะครับ พวกเราไปนั่งที่ชั้นหนึ่งก่อน อีกเดี๋ยวถ้าเปลี่ยนใจอยากไปโรงพยาบาลผมจะไปเป็นเพื่อนตลอดการตรวจ แต่ถ้าไม่อยากไป พวกเรามาหารือเรื่องเยียวยาสภาพจิตใจกันครับ”

มู่เถาเยาส่ายมือ “ฉันไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องชดเชย”

คุณแม่วัยสาวก็ส่ายหน้า

ขอแค่ไม่เป็นอะไร ทุกอย่างก็คุยง่าย

หลิงอวิ๋น “งั้นพวกเราไปนั่งพักที่ร้านกาแฟชั้นหนึ่งหน่อยดีไหมครับ”

มู่เถาเยาถาม “ด้านบนมีสวนสนุกของเด็กๆ ไหมคะ ฉันจะไปเล่นซ่อนแอบกับพวกเด็กๆ หน่อยค่ะ” เมื่อครู่รับปากไว้ตอนอยู่ในลิฟต์

“มีครับ เดี๋ยวผมพาไปนะ”

มู่เถาเยาหันไปถามความต้องการของแม่เด็ก

“ได้จ้ะ พวกเราไปเล่นกับพวกเด็กๆ หน่อย” เธอต้องการพักอีกสักหน่อยถึงจะกลับบ้านไหว

เพราะตอนนี้มือเท้าอ่อนแรงไปหมด ขับรถไม่ได้

หลิงอวิ๋นกับชายหนุ่มเสื้อเชิ้ตขาวช่วยหิ้วของ

มือข้างหนึ่งของมู่เถาเยาหิ้วกล่องยา มืออีกข้างจูงเสี่ยวตัน

แม่เด็กจูงลูกชายกับลูกสาวเดินตามด้านหลัง

“น้องคะ พี่ชื่อเหลยจื่อนะ น้องชื่ออะไรคะ”

“มู่เถาเยาค่ะ”

หลิงอวิ๋นจดจำข้อมูลของจอมยุทธ์หญิงไว้ในใจ ว่าแต่ทำไมคุ้นๆ ชื่อนี้

เหลยจื่อถามด้วยความตกใจ “ทำไมอายุเท่านี้ก็เรียนป.โทปีสองแล้วล่ะ”

“หนูใกล้สิบเก้าแล้วค่ะ” จะบอกว่าสิบแปดครึ่งไม่ได้ เดี๋ยวจะถูกหัวเราะอีก

“สิบเก้าก็ยังเด็กนะ! สุดยอดไปเลย!”

“ค่ะ”

เหลยจื่อ “…”

สาวน้อยไม่มีท่าทีถ่อมตัวแบบนี้ทำไมเธอถึงรู้สึกอยากขำล่ะ

หลิงอวิ๋นหันไปยิ้มพูด “จอมยุทธ์หญิง หลานสาวของผมก็อยู่มหา’ลัยแพทย์เย่ว์ตูเหมือนกันครับ อายุเท่าจอมยุทธ์หญิงเลย แต่เพิ่งอยู่ปีสอง”

“เหรอคะ บังเอิญจัง! ลุงหลิงเรียกชื่อหนูก็ได้ค่ะ”

“โอเค เสี่ยวเถาเยาเรียนแพทย์โบราณใช่ไหม หลานสาวลุงเรียนนิติเวช”

“บังเอิญยิ่งกว่าค่ะ! หนูก็เรียนนิติเวชเหมือนกัน”

“ฮ่าๆ บังเอิญจริงๆ ! หลานสาวลุงบอกว่าในคลาสมีอัจฉริยะอยู่คน เพิ่งเรียนได้เทอมเดียวก็ข้ามชั้นไปอยู่ป.โทปีสองแล้ว…เอ๊ะเสี่ยวเถาเยา อัจฉริยะคนนั้นคงไม่ใช่หนูใช่ไหม อ๋า ต้องเป็นหนูแน่ๆ ! หนูรักษาเก่งขนาดนี้…ก็ว่า ทำไมชื่อนี้มันคุ้นๆ ที่แท้หลานลุงก็เคยพูดถึงนี่เอง!”

มู่เถาเยายิ้ม

“ไม่ถูกสิ ทำไมหนูไปเรียนนิติเวชล่ะ ไม่ใช่ว่าควรเรียนแพทย์โบราณเหรอ อายุแค่นี้ก็เก่งขนาดนี้แล้ว น่าจะเก่งทั้งครอบครัวเลยไหม”

“หนูเรียนแพทย์โบราณกับอาจารย์มาตั้งแต่เด็กค่ะ ลุงหลิงเป็นคนเซิ่งตูเหรอคะ”

ก็คงมีแค่เพื่อนสนิทเธอไม่กี่คนนั้นที่จะพูดถึงเธอหรือเปล่า

เซียวเซียวเป็นคนไห่ตู ไกลจากที่นี่เยอะ

ลุงของชิ่นชิ่นชื่อลั่วอัน แซ่ลั่ว

เหมือนจะมีแค่ชีสยาแล้วบราวนี่ออนไลน์

“ใช่ ลุงเป็นคนเซิ่งตู เสี่ยวเถาเยา หนูเป็นอัจฉริยะที่หลานสาวลุงพูดถึงจริงๆ !”

“หนูสนิทกับชีสยาค่ะ”

“ฮ่าๆๆ…ดีๆๆ นึกไม่ถึงจริงๆ !”

หลิงอวิ๋นดีใจมาก คราวนี้ไม่ต้องกลัวหาตัวผู้มีพระคุณไม่เจอแล้ว!

เหลยจื่อฟังทั้งสองคนคุยกันจนลืมเรื่องเมื่อครู่ไปสนิท มือเท้าก็ไม่อ่อนแรงแล้ว

“เสี่ยวเถาเยา เธอยังเรียนอยู่ก็รักษาคนได้แล้วเหรอ”

“รักษาได้ค่ะ แต่สอบใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะเดือนนี้ หรือก็หมายความว่า ขอแค่ผ่านก็จะได้ใบอนุญาตเป็นหมอแล้วค่ะ” ทักษะปฏิบัติสอบไปเมื่อเทอมที่แล้ว

เหลยจื่ออดพูดชมไม่ได้ “เก่งมากเลยนะ!”

มู่เถาเยาพยักหน้า “ค่ะ”

“อุ๊บ…”

เหลยจื่อ หลิงอวิ๋น และชายหนุ่มเสื้อเชิ้ตขาวต่างหัวเราะออกมา

ทุกคนเดินไปที่สวนสนุก มู่เถาเยาวางกล่องยาลง จากนั้นก็เล่นซ่อนแอบที่ไร้เดียงสากับแฝดสาม

เธอไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมเด็กน้อยถึงชอบเล่นเกมนี้

แต่ก็ไม่ได้เล่นแบบขอไปที เธอตั้งใจเล่นกับพวกเด็กๆ

เหลยจื่อยิ้มพูด “พวกเราไม่เป็นไรค่ะประธานหลิง ไม่ต้องมาอยู่เป็นเพื่อนก็ได้ค่ะ”

หลิงอวิ๋น “ผมก็ไม่มีธุระอะไรครับ แค่อยากนัดเวลาเหมาะๆ กับเสี่ยวเถาเยาหน่อย ให้หลานสาวผมพาเธอไปกินข้าวที่บ้าน ผมเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย เธอเคยช่วยชีวิตผมไว้ ผมตามหาเธอมานาน ครั้งนี้บังเอิญเจอกัน ต้องนัดเธอกินข้าวให้ได้ครับ”

“เสี่ยวเถาเยาอายุเท่านี้ก็ช่วยชีวิตคนได้แล้ว เก่งมากจริงๆ ค่ะ!” ก็แค่น้องชายของพี่สะใภ้เธอ…

“อ๊า” เหลยจื่อร้องด้วยความตกใจ

อยู่ๆ เธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าผู้อำนวยการเฉิงน้องชายของพี่สะใภ้เธอมีศิษย์น้องชื่อเสี่ยวเยาเยา!

“เป็นอะไรไปครับ”

“เสี่ยวเถาเยาอาจจะเป็นศิษย์น้องของญาติฉันน่ะค่ะ! เดี๋ยวนะคะ ฉันขอถ่ายรูปให้พี่ชายดูก่อน”

เหลยจื่อหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าแล้วถ่ายรูปด้านข้างของมู่เถาเยาที่กำลังเล่นกับพวกเด็กๆ ส่งให้พี่ชายดู

ทางนั้นโทรกลับมาอย่างรวดเร็ว

“พี่ใหญ่”

“…”

“ใช่ค่ะ พวกเราบังเอิญเจอกันที่ห้าง เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยเลยรู้จักกัน”

“…”

“ได้ค่ะๆ”

เหลยจื่อวางสาย ยิ้มพูดกับหลิงอวิ๋น “เสี่ยวเถาเยาเป็นศิษย์น้องของน้องชายพี่สะใภ้ฉันจริงๆ ค่ะ! มิน่าถึงรักษาคนได้แล้ว!”

ที่แท้ก็เป็นลูกศิษย์ปิดสำนักของสำนักแพทย์โบราณ!

คุณพระช่วย!

หลิงอวิ๋น “น้องชายของพี่สะใภ้คุณเหรอครับ”

“ค่ะ ผู้อำนวยการเฉิงโรงพยาบาลผิงคัง”

“อ้อ! ผู้อำนวยการเฉิงนี่เอง! ผมเป็นคนไข้ของเขา…อ๋า งั้นเสี่ยวเยาเยาก็คนของสำนักแพทย์โบราณ…”

เหลยจื่อพยักหน้ายิ้มตาโค้งมน “ใช่ค่ะ!”

“ศิษย์น้องเหรอ หมอเทวดาหยวนมีลูกศิษย์ที่เด็กขนาดนี้ด้วยเหรอครับ”

“มีค่ะ ลูกศิษย์ปิดสำนัก คนนอกไม่รู้”

เธอเองก็รู้เพราะครั้งก่อนไปบ้านพี่ชายแล้วผู้อำนวยการเฉิงอยู่ด้วยพอดี ได้ยินพี่ชายพี่สะใภ้บอกว่าอยากชวนเสี่ยวเยาเยามากินข้าวที่บ้าน เธอจึงถามไปว่าเสี่ยวเยาเยาคือใคร…

“ที่แท้ก็แบบนี้ ผมโชคดีมากเลยครับ!”

เวลานี้ชายหนุ่มเสื้อเชิ้ตขาวซื้อพวกชานมกับขนมเค้กมา

หลิงอวิ๋นไล่ผู้ช่วยตัวเองกลับไป

เหลยจื่อยิ้มพลางตะโกนเรียก “เสี่ยวเถาเยา เสี่ยวตัน เสี่ยวหาน เสี่ยวเหิง มากินชานมจ้ะ”

มู่เถาเยาพาพวกเด็กๆ ที่วิ่งเล่นจนหน้าแดงดวงตาเปล่งประกายแต่ก็ไม่มีวี่แววจะอยากหยุด เดินกลับมา

“เสี่ยวเถาเยา เมื่อกี้พี่คุยกับประธานหลิง…”

โทรศัพท์ดัง

มู่เถาเยา “ขอโทษทีค่ะ ขอรับสายก่อนนะคะ”

เหลยจื่อพยักหน้า

“อาจารย์สาม”

“…”

“ไม่เป็นไรค่ะ หนูอยู่ห้าง เดี๋ยวกลับแล้วค่ะ”

“…”

“ไม่ต้องให้พี่เหลียงจีมารับหรอกค่ะ เรียกรถจากถนนคนเดินสะดวก”

“…”

“ค่ะ หนูจะระวังตัว”

เหลยจื่อรอให้มู่เถาเยาวางสายถึงพูดต่อ “เสี่ยวเถาเยา เมื่อกี้พี่กับประธานหลิงคุยไปคุยมาจนพูดถึงผู้อำนวยการเฉิง…” บลาๆๆ

มู่เถาเยาอดทึ่งไม่ได้ โลกมันกลมจริงๆ !

กลมจนถึงขั้นที่ว่าบังเอิญเจอคนที่เกี่ยวข้องกับเธอทั้งนั้น!

“พี่เหลยบอกว่าพี่เขยเหลยกับเหลยถิงจะมาเหรอคะ”

“จ้ะ ตอนนี้พี่ไม่สะดวกขับรถ อาถิงเลยจะมารับพวกเรา พี่ชายพี่จะไปส่งหนูจ้ะ”

“ก็ได้ค่ะ”