บทที่ 317 แว่นตาที่หายไบทที่ 317 แว่นตาที่หายไปป

Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว

บทที่ 317 แว่นตาที่หายไป

บทที่ 317 แว่นตาที่หายไป

“ทำไมไม่มีใครอยู่ที่นี่เลย?”

เจ้าจิ้งจอกเน่าอธิบาย [ระบบจะปล่อยภารกิจตอนเก้าโมงของทุกเช้าในจำนวนน้อยมาก ทุกคนต้องแย่งชิงกัน]

“จะแย่งชิงกันได้ยังไง?”

เจ้าจิ้งจอกเน่าเหลือบมองเธออย่างอารมณ์เสีย [ด้วยวิธีดั้งเดิมที่สุด คุณเห็นเส้นสีเหลืองนี้ไหม?]

ซูโย่วอี๋พยักหน้า

[เมื่อประกาศการเริ่มต้น ซู่จู่ต้องรีบพุ่งไปข้างหน้า ใครก็ตามที่ได้รับบัตรภารกิจบนแพลตฟอร์มรับสมัครก่อนจะได้ภารกิจไป]

ก็แค่ต้องวิ่งเร็วไม่ใช่เหรอ???

นี่หมายความว่าคนที่วิ่งเร็วจะมีภารกิจทำทุกวัน ส่วนคนที่วิ่งช้าทำได้แต่ดูเฉย ๆ งั้นเหรอ?

ซูโย่วอี๋คิดถึงความเร็วในการวิ่งของเธอในใจ ก่อนรู้สึกว่าโอกาสที่จะชนะนั้นมีไม่สูงนัก “มีวิธีอื่นในการรับเม็ดช็อกโกแลตหรือเปล่า?”

[นอกจากได้รับ 1 เม็ดเมื่อลงชื่อเข้าใช้รายวัน ตอนนี้คุณได้สะสมโอกาสจับฉลากไว้เยอะพอควร คุณลองดูได้ แต่มีรางวัลหลายหมื่นอย่างในวงล้อ ซึ่งโอกาสได้รับเม็ดช็อกโกแลตนั้นน้อยมาก]

ซูโย่วอี๋เข้าใจเรื่องพวกนี้ดี “ขอดูสถานการณ์ก่อน”

หากไม่ได้ผล เธอก็ไปจับฉลาก

ในตอนเช้า หลังจากซูโย่วอี๋กินอาหารเช้ากับซูหยิน เธอบอกว่าจะออกไปข้างนอกสักพัก แต่ซูหยินมองเธอด้วยสายตาจริงจังเหมือนผู้ใหญ่ตัวเล็ก ๆ “ฉันรู้ว่าผู้ใหญ่ต้องไปทำงานหาเงิน ไปเร็ว ๆ แล้วกลับมาเร็ว ๆ นะ”

หลังจากพูดจบ ซูหยินและนางพยาบาลก็ไปส่งเธอที่ประตู ก่อนจะโบกมือ “ลาก่อน เสี่ยวอี๋”

ซูโย่วอี๋รู้สึกเหมือนมีลูกสาวเลย เธอบอกกับนางพยาบาล 2-3 คำ จากนั้นก็หันหลังและจากไป แต่เธอไม่ได้ไปไหนไกล กลับเปิดห้องโรงแรมที่อยู่ถัดไปไม่ไกลเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครรบกวน ก่อนที่จะเข้าสู่พื้นที่ของระบบ

เธอมาถึงสำนักงานรับสมัครในระบบก่อนเก้าโมง รอบ ๆ เต็มไปด้วยผู้คน ซูโย่วอี๋นับคร่าว ๆ ได้ประมาณ 40-50 คน

แสดงว่าในโลกนี้มีคนโกงมากมายเลยสินะ

เจ้าจิ้งจอกเน่ายื่นอุ้งเท้าออกมาแล้วโบกไปมา [ผิดแล้ว ที่นี่มีซู่จู่อยู่น้อยกว่าครึ่ง และมีซู่จู่กว่า 99 คนกระจายอยู่ทั่วโลกต่างหาก]

ซูโย่วอี๋ไม่ได้พูดอะไร ด้วยการวิเคราะห์ของเจ้าจิ้งจอกเน่าเมื่อวานนี้ เธอไม่ต้องการทักทายผู้คนจึงเฝ้ารออยู่ที่มุมเงียบ ๆ

เพื่อรอให้งานเริ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อสายตาจับจ้องไปที่ใบหน้าของซู่จู่คนอื่นทั้งโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ สิ่งที่เธอเห็นคือใบหน้าที่พร่ามัวไม่ชัดเจน

“มันเป็นกลไกการป้องกันที่กระตุ้นของระบบโดยอัตโนมัติ ในสายตาของคนอื่น คุณเองก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน”

ซูโย่วอี๋พยักหน้า

ประตูลานเปิดออกจนมีเสียงเอี๊ยดอ๊าด

เสมียนที่สวมผ้าสีน้ำเงินหาวปากกว้างพลางมองไปที่ฝูงชน ก่อนชำเลืองมองไปยังตำแหน่งของซูโย่วอี๋ “เฮ้ มีคนใหม่มาด้วย”

เสมียนใช้กระดานไม้กันดาลประตู ก่อนเดินกลับมาที่ลานโดยถือตะกร้าออกมา

“วันนี้มีภารกิจเพียง 3 ภารกิจ ทุกคนต้องวิ่งให้เร็วล่ะ”

เขาหยิบใบสีแดงออกมาจากตะกร้า “ภารกิจแรกคือช่วยยายเฒ่าซีตามหาแว่นสายตายาวที่หายไป ระยะเวลาไม่กำหนด ส่วนรางวัลคือเม็ดช็อกโกแลต 8 เม็ด

“เฮ้อ สายตาของยายเฒ่าซีแย่ลงเรื่อย ๆ”

เสมียนโบกมือของเขา ก่อนโต๊ะจะปรากฏขึ้นกลางแล้วร่อนลงเบา ๆ ตรงหน้าเขา ซึ่งเขาก็วางป้ายลงบนโต๊ะ

“งานที่สองคือการเฝ้าดูเสมียนที่ร้านเป่าจื่อบนถนนตะวันตก ใช้เวลา 4 ชั่วโมง รางวัลคือเม็ดช็อกโกแลต 7 เม็ด”

“งานสุดท้ายคือกำจัดวัชพืชบนสนามหญ้าของคฤหาสน์ส่วนตัว ใช้เวลา 4 ชั่วโมง รางวัลคือเม็ดช็อกโกแลต 15 เม็ด”

เสมียนผิวปาก “ภารกิจพวกนี้ง่ายมาก”

หลังจากประกาศภารกิจ ผู้คนจำนวนมากก็ลดลงจนเห็นได้ด้วยตาเปล่า

ซูโย่วอี๋แอบคุยกับเจ้าจิ้งจอกเน่า “พวกเขาไม่อยากได้ภารกิจแล้วเหรอ?”

[พวกเขาไม่พอใจกับจำนวนเม็ดช็อกโกแลต]

“อ้อ”

ยังไงก็ตาม ซูโย่วอี๋ไม่มีสิทธิ์เลือก เธอยังมีคู่แข่งอีกประมาณ 20 คน

มันยังไม่ง่ายที่จะแย่งภารกิจมา

ในบรรดาสามภารกิจ ซูโย่วอี๋อยากไปภารกิจแรกมากที่สุด เพราะไม่มีข้อบังคับด้านเวลา ส่วนงานที่สองและสามจะมีเวลาทำเพียง 4 ชั่วโมง

เจ้าจิ้งจอกเน่าบอกว่าระบบมีหน้าที่ควบคุมการไหลของเวลา แต่ภารกิจไม่มีฟังก์ชันนี้ หากซู่จู่ต้องการสร้างรายได้จากแรงกาย จะต้องอยู่ตามเวลาที่กำหนดอย่างซื่อสัตย์

เสมียนพูดเบา ๆ ว่า “กฎเหมือนเดิม ฉันจะเริ่มนับหนึ่งถึงสาม ผู้ที่ได้ภารกิจจะไม่ได้รับอนุญาตให้รับภารกิจเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์”

หนึ่ง

สอง

สาม!

ทันทีที่พูดจบ ซูโย่วอี๋ก็พุ่งไปข้างหน้าราวกับเครื่องจักร เธอชนเข้ากับคนตรงหน้าเพราะเธอรีบมากเกินไป

ซูโย่วอี๋ชำเลืองมองและรีบเร่งต่อไป จนทันรับใบภารกิจสีแดงที่เหลืออันสุดท้าย

ช่วยหญิงชราหาแว่นตา!

เฮ้ เธอต้องการพอดี

หลังจากภารกิจทั้งสามส่งมอบสำเร็จ เสมียนก็โบกมือ “ทุกคน ไว้กลับมาพรุ่งนี้นะ”

แล้วเขาก็หายไป

ซูโย่วอี๋ถูป้ายในมือของเธออย่างสับสนเล็กน้อย ไปอย่างนี้เลยเหรอ?

ไม่มีแม้แต่คำอธิบายหรือคนนำทางเลย?

เธอเงยหน้าขึ้นและพบว่าคนที่เธอเพิ่งชนไปยืนมองเธออยู่ห่าง ๆ

ซูโย่วอี๋เอามือแตะจมูกด้วยความลำบากใจ เธออยากจะขึ้นไปขอโทษ แต่อีกฝ่ายกลับหายตัวไปในวินาทีต่อมา

เจ้าจิ้งจอกเน่ากระดิกหาง [ไม่จำเป็นหรอก อีกอย่าง ถึงคุณอยากจะพูดอะไรก็พูดอะไรไม่ได้]

[รีบไปทำงานเถอะ]

ซูโย่วอี๋มองไปรอบ ๆ อย่างเหม่อลอย “ฉันจะไปบ้านของยายเฒ่าซีได้ยังไง?”

[ใส่บัตรภารกิจของคุณลงในช่องเก็บของส่วนตัวสิ]

ซูโย่วอี๋ทำตาม คำอธิบายภารกิจปรากฏขึ้นบนหน้าเพจทันที

ยายเฒ่าซีมีแว่นอ่านหนังสือหลายร้อยอัน แต่อันโปรดของเธอคืออันที่สามีผู้ล่วงลับมอบให้เธอ แว่นอ่านหนังสือที่หายไปเป็นสีดำ กรอบทรงกลม ฝั่งขมับด้านซ้ายมีสีถลอกเล็กน้อย ทำให้เห็นเป็นสีขาว

เพราะแว่นที่หายไป ยายเฒ่าซีจึงกินไม่ได้นอนไม่หลับ เธอสัญญาว่าถ้าใครหาแว่นให้เธอเจอ เธอจะมอบบางอย่างให้คนคนนั้น

เมื่อเห็นประโยคสุดท้าย เจ้าจิ้งจอกเน่าก็อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ [งานนี้ระดับต่ำมาก แต่คุณยังได้รับรางวัลพิเศษอีก อย่างนี้คนที่ออกไปก่อนเวลาจะต้องเสียใจมากแน่]

“รางวัลพิเศษ?” ซูโย่วอี๋ไม่ค่อยเข้าใจนัก

[ใช่ สิ่งนี้ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของระบบ มันแล้วแต่นายจ้างยินดีจ่าย]

ระบบเตือนขึ้น [ซู่จู่ต้องการไปที่บ้านของยายเฒ่าซีเพื่อทำงานให้เสร็จในตอนนี้เลยหรือไม่]

ซูโย่วอี๋กดปุ่มยืนยัน จากนั้นเมื่อลืมตา เธอก็มาถึงประตูบ้านของยายเฒ่าซีแล้ว

คราวนี้ไม่ใช่ลานบ้าน แต่เป็นบ้านสองชั้นขนาดเล็ก

ขณะที่ซูโย่วอี๋ผลักประตูบ้านก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

ซู่จู่ ซูโย่วอี๋ เข้าไปในบ้านของยายเฒ่าซีแล้ว ภารกิจเริ่มต้นขึ้น

เจ้าจิ้งจอกเน่าไม่สามารถอยู่กับเธอได้

ซูโย่วอี๋ทำได้เพียงแค่สำรวจและเดินไปในบ้านด้วยตัวเอง ในลานเล็ก ๆ มีดอกไม้และต้นไม้มากมาย พวกมันส่งกลิ่นหอมสดชื่น เห็นได้ชัดว่าหญิงชราเป็นคนขยันขันแข็ง

หญิงชราผมหงอกเดินออกมาด้วยความงุนงง

“เธอคือสาวน้อยที่มาช่วยฉันหาแว่นเหรอจ๊ะ?”

“ใช่ค่ะ”

ยายเฒ่าซีดูกังวล “เร็วเข้า ถ้าไม่สวมแว่นตา ฉันมองเห็นไม่ชัด”

ซูโย่วอี๋ถาม “คุณเห็นแว่นตาครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่คะ?”

ยายเฒ่าซีขมวดคิ้ว “ดูเหมือนว่าจะเป็นเมื่อสองวันก่อนหรือสามวันก่อน ฉันจำไม่ได้ ตอนที่ฉันกินอาหารเย็น จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกตัวว่าแว่นตาของฉันหายไป เมื่อเร็ว ๆ นี้ฉันไม่ได้ออกไปข้างนอกเลย ฉันอยู่แต่บ้าน”

ซูโย่วอี๋ทำได้แค่เพียงปลอบใจอีกฝ่ายก่อน “คุณยายคะ อย่ากังวลไปค่ะ ฉันจะช่วยคุณหาเอง”

“ขอบคุณจ้ะ สาวน้อย”

ซูโย่วอี๋ได้รับอนุญาตจากหญิงชราให้เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในบ้าน เธอจึงขึ้นไปชั้นบนและไปที่ห้องนอนของหญิงชราก่อน พื้นห้องปูด้วยพรมสีแดงและสีน้ำเงิน ทั้งโคมไฟบนโต๊ะข้างเตียงยังคงเปิดอยู่ ซูโย่วอี๋เปิดไฟทั้งหมดในห้องนอน ค้นหาจากเตียง ถอดเครื่องนอนออก ดูใต้เตียงอย่างระมัดระวัง แม้แต่พรมก็ยังพลิกขึ้น

เธอพบแว่น 2-3 อัน แต่ไม่มีอันที่ยายเฒ่าซีทำหาย หลังจากที่ซูโย่วอี๋จัดทุกอย่างกลับเข้าที่แล้ว เธอก็ยืนอยู่กลางห้องนอนพยายามตรึกตรอง ชีวิตประจำวันของหญิงชราไม่มีอะไรมากไปกว่าห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว และสนามหญ้า

โชคดีที่ยายเฒ่าซีไม่ได้ไปห้องทำงาน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใหญ่ที่สุดในบ้าน ไม่อย่างนั้นคงจะหาลำบากกว่าเดิม

ซูโย่วอี๋มองไปที่แผงงาน เวลาผ่านไป 40 นาที เธอทำได้เพียงจดจ่อกับงานและค้นหาต่อไป แต่ก่อนที่เธอจะเริ่ม เธอก็ได้ยินเสียงร้องดังมาจากชั้นล่าง “โอ๊ย”

[ยายเฒ่าซีตกบันไดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซู่จู่เลือกได้ว่าจะช่วยหรือไม่ ความช่วยเหลือเป็นความปรารถนาส่วนตัวของซู่จู่]

ซูโย่วอี๋ลงไปข้างล่างโดยไม่ลังเล

ตอนนี้ยายเฒ่าซีนอนอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด

โอ๊ย

ซูโย่วอี๋ก้าวไปข้างหน้าเพื่อตรวจสอบและพบว่าข้อเท้าของหญิงชราบวมแดง มันน่าจะหัก “คุณยาย ข้อเท้าคุณหัก ให้ฉันไปตามหมอไหมคะ?”

ยายเฒ่าคว้ามุมเสื้อผ้าของเธอไว้ “ช่วยฉันลุกขึ้นก่อนนะ”

ซูโย่วอี๋พยุงร่างกายท่อนบนของหญิงชรา ดึงเธอขึ้น และนำเก้าอี้มาให้เธอนั่งลง

ยายเฒ่าซีชี้ไปที่ตู้ข้างโต๊ะอาหาร “ข้างในมีขวดยาสีเหลืองอยู่ เธอเอามาให้ฉันซิ คนแก่มักไร้ประโยชน์ แม้กระทั่งกระดูกกระเดี้ยว”

ซูโย่วอี๋นำยามาดู มันดูเหมือนผลิตภัณฑ์ผิดกฎหมาย

ระบบจำเป็นต้องปรับปรุงความสวยงามจริง ๆ

ซูโย่วอี๋เปิดยาและพูดว่า “ให้ฉันทาให้นะคะ”

ยายเฒ่าซีกล่าวว่าเธออาย แต่ก็ไม่ปฏิเสธ

เมื่อสัมผัสเย็นเยียบจากข้อเท้า ยายเฒ่าซีก็ยกยิ้ม

ช่างเป็นสาวน้อยที่จิตใจดี

มันเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ที่ทันทีที่ทายา ข้อเท้าของหญิงชราก็ฟื้นตัวจนเดินบนพื้นได้

ซูโย่วอี๋ยังคงมองหาแว่นตาต่อไป

ซูโย่วอี๋คิดว่ามันเป็นงานง่าย ๆ แต่เธอหามันไม่พบหลังจากค้นหาไปกว่าสามชั่วโมง

ตอนนี้ยายเฒ่าซีทำอาหารกลางวันและมองออกไปนอกประตู “ทำไมเสี่ยวมี่ยังไม่กลับบ้านนะ?”

“คุณยาย คุณกำลังรอใครอยู่เหรอคะ?”

“โอ้ แมวน้อยของฉันเอง มันชอบไปวิ่งเล่นข้างนอกทั้งวัน”

“สาวน้อย กินข้าวก่อนเถอะ”

ซูโย่วอี๋หิวมาก แต่เธอต้องการหาแว่นแล้วออกไปก่อนเวลา จึงไม่อยากรอช้า

“คุณยายคะ ฉันไม่หิว คุณกินก่อนเถอะค่ะ”

ยายเฒ่าซียืนอยู่ที่ประตูพลางมองไปรอบ ๆ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ยอมกินจนกว่าลูกแมวจะกลับมา

ซูโย่วอี๋ถือโอกาสค้นหาห้องนั่งเล่นและห้องครัว

เหมียว

เสียงแมวร้องดังขึ้น ในวินาทีต่อมา แมวสีทองก็กระโดดเข้าสู่อ้อมแขนของยายเฒ่าซี

ยายเฒ่าซีแค่นหัวเราะ “คราวหน้าอย่ากลับบ้านดึกนะ รู้ไหม?”

เหมียว

ยายเฒ่าซีพาแมวไปกินอาหารเย็น หญิงชรานั่งข้างหนึ่ง แมวนั่งอีกข้างหนึ่ง

ซูโย่วอี๋มองแล้วถอนสายตาของเธอออก

เมื่อค้นหาไปรอบ ๆ ก็ยังไร้ประโยชน์ ซูโย่วอี๋รู้สึกท้อแท้เล็กน้อย แต่จู่ ๆ เธอก็นึกถึงบางอย่าง จะเกิดอะไรขึ้นหากภารกิจล้มเหลว?

เหมือนระบบจะรับรู้ถึงปัญหาของเธอ [หากงานล้มเหลว ซู่จู่จะถูกหักเม็ดช็อกโกแลตออกในจำนวนที่เท่ากัน!]

ทำเงินไม่ได้แล้วยังถูกหักเงินอีก!

ดูเหมือนว่าภารกิจเสริมนี้จะไม่ใช่งานง่าย ทั้งยังมีความเสี่ยงที่จะเสียเงินอีก

เมื่อผ่านไป 7 ชั่วโมง ซูโย่วอี๋ก็ยอมจำนนต่อชะตากรรม

ซูโย่วอี๋ค้นทั่วบ้านแล้ว แม้แต่ห้องอ่านหนังสือที่หญิงชราไม่ได้ไปเธอก็ค้นหาถึง 2 ครั้ง แต่เธอก็ไม่เห็นแว่นตาที่มีสีลอกเลย

เธอเดินลงไปข้างล่างด้วยอารมณ์ซับซ้อน ไม่ต้องพูดถึงวันยุ่ง ๆ ของเธอ ทั้งยังจะถูกหักเม็ดช็อกโกแลต 7 เม็ดอีก

แมวของหญิงชราร้องเหมียว ๆ เมื่อเห็นเธอ แล้วก็เดินเข้ามาหาเธอ

จู่ ๆ ซูโย่วอี๋ก็มีไอเดียหนึ่งขึ้นมา เธอสงสัยขึ้นมาว่า [ความสามารถในการใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยง] เอามาใช้ในภารกิจได้หรือเปล่า?