บทที่ 235 ข้าไม่ได้แตะต้องนาง

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 235 ข้าไม่ได้แตะต้องนาง

“ไสหัวไป เจ้าไม่คู่ควรจะมาเทียบเคียงหยุนถิงได้เลย!” จวินหย่วนโยวใช้แรงทั้งหมดผลักซ่างกวนหรูออก ตัวเขาแทบล้ม เขาจับตู้ข้างๆเพื่อพยุงตัวให้มั่น

“เจ้าทำอะไรกับข้า?”

ซ่างกวนหรูดวงตาแดงก่ำด้วยแววริษยา นางไม่คิดว่าจวินหย่วนโยวจะลบหลู่ตนเช่นนี้ แต่นั่นจะอย่างไรเล่า บัดนี้ทุกสิ่งมันไม่สำคัญอีกแล้ว นางมีโอกาสแค่คืนนี้คืนเดียว ดังนั้นจะล้มเหลวไม่ได้

“ข้าจะทำอะไรซื่อจื่อได้ ก็แค่ใส่บางอย่างลงไปในเหล้าของท่านเท่านั้น หยุนถิงน่ะขี้หึงยิ่งนัก หากนางมาเห็นซื่อจื่ออยู่กับข้าในห้องเดียวกัน ไม่รู้ว่านางจะทนรับได้ไหม และยังจะยอมอยู่ข้างกายท่านหรือไม่” ซ่างกวนหรูแค่นเสียงหยัน เดินมากระชากเสื้อจวินหย่วนโยว

“ไสหัวไป อย่ามาแตะต้องข้า!” จวินหย่วนโยวตะคอกดัง อยากจะโจมตีซ่างกวนหรู แต่พบว่ากำลังภายในใช้ไม่ได้ ล้มลงกับพื้น

“ซื่อจื่อ ท่านอย่าดิ้นรนอีกเลย ข้าเตรียมตัวมาเต็มที่เพื่อคืนนี้ เพียงแต่ไม่คิดว่าคนมากมายขนาดนั้นจะช่วยข้า ดังนั้นคืนนี้ท่านหนีไม่รอดหรอก” ซ่างกวนหรูถอดเสื้อคลุมตัวนอกของจวินหย่วนโยวออก

นางตั้งใจให้คนมาจุดกำยานสลบที่ไร้สีไร้กลิ่นในห้องนี้ก่อนล่วงหน้า ตอนนี้เห็นจวินหย่วนโยวล้มลงกับพื้น ยอมให้นางทำอะไรก็ได้ ดวงตางามฉายแววสมใจและได้ใจ

จวินหย่วนโยวสายตาคมปลาบ ไม่คิดว่าซ่างกวนหรูจะบังอาจเช่นนี้ กล้าเล่นตุกติกในเหล้าของตน จนถึงตอนนี้องครักษ์เงามังกรยังไม่ปรากฏตัวเลย น่ากลัวจะโดนสกัดไว้กระมัง

ละครฉากนี้ดูจะใหญ่สักหน่อย

เขาไม่มีวันยอมให้ซ่างกวนหรูได้สมหวังแน่ และยิ่งไม่มีทางทำผิดต่อหยุนถิงแน่นอน

จวินหย่วนโยวไม่พูดอะไร และไม่ขยับ กลั้นหายใจทำสมาธิเอาไว้ คิดหาทางเคลื่อนย้ายจุดชีพจรมาขจัดฤทธิ์ยาเสีย

ซ่างกวนหรูคิดว่าจวินหย่วนโยวยอมแพ้แล้ว นางพอใจมาก และถอดเสื้อผ้าท่อนบนของเขาออกจนหมด และลากเขาขึ้นเตียงอย่างยากลำบาก จากนั้นซ่างกวนหรูถอดเสื้อผ้าตนเองออก โผเข้าหาจวินหย่วนโยวที่อยู่บนเตียง

ทางด้านหยุนถิงก็ตามโม่เหลิ่งเหยียนเร่งรุดไปตามหาจวินหย่วนโยว แต่ถามกี่คนๆก็บอกไม่เห็นจวินหย่วนโยวเลย หยุนถิงรู้ทันทีว่าเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากล

ห่างไปไม่ไกล ฮ่องเต้กับฮองเฮาพาคนกลุ่มหนึ่งเร่งรุดไปทางนั้น ทุกคนล้วนมีสีหน้าเคร่งเครียด ดูแล้วเหมือนมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น

ฉากนี้ หยุนถิงเคยเห็นมาในซีรี่ส์ยุคปัจจุบันมาเยอะแล้ว เป็นฉากที่จับชู้คาหนังคาเขา

จนถึงตอนนี้ยังหาซื่อจื่อไม่เจอ หรือว่าพวกเขาจะไปจับซื่อจื่อ?

โม่ฉือชิงที่อยู่แถวหลังสุดหันมองรอบด้านเป็นระยะ เมื่อครู่ได้ยินขันทีมารายงานว่าจวินซื่อจื่อกำลังกระทำการบัดสีกับสตรีอื่น โม่ฉือชิงตกใจจริงๆ ให้ตายเขาก็ไม่เชื่อ

โม่ฉือชิงอยากหาหยุนถิง แต่ก็หาไม่เจอ ร้อนใจยิ่งนัก ดังนั้นระหว่างทาง เขาเลยมองรอบด้านไม่หยุด อยากจะส่งให้หยุนถิงเร็วๆ

“ปุ๊กุปุ๊กุ” หยุนถิงส่งเสียงเบาๆ

นี่เป็นสัญญาณลับระหว่างเธอกับโม่ฉือชิง พอเขาได้ยินก็ดีใจมาก “พวกท่านไปก่อนเถอะ ข้าปวดท้อง อีกเดี๋ยวตามไป” พูดจบก็เดินออกไปเลย

คนอื่นไม่สนใจเขาสักนิด ต่างรีบจะไปดูจวินซื่อจื่อขายหน้า เลยไม่มีใครมีแก่ใจสนใจเขา

โม่ฉือชิงรีบพุ่งเข้ามา “หยุนถิง ในที่สุดข้าก็หาเจ้าเจอเสียที เมื่อครู่มีคนมารายงานว่า จวินหย่วนโยวกำลังทำการมิควรกับสตรีอื่น อยู่ตำหนักข้างทางตะวันออก”

หยุนถิงสีหน้าเย็นชาทันที “อยู่ที่ไหน รีบพาข้าไป ซวนอ๋อง รบกวนท่านช่วยข้าไปถ่วงเวลาพวกเขาไว้หน่อย”

“ได้ เจ้าระวังตัวด้วย” โม่เหลิ่งเหยียนรีบไปทันที

โม่ฉือชิงลากหยุนถิงวิ่งทันที แทบอยากจะเจอตัวจวินหย่วนโยวทันที เขาไม่อยากให้หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวเกิดเรื่องที่สุด เพราะทั้งสองคนทำให้โม่ฉือชิงเชื่อในความรัก

เสียงชิ้งดังขึ้น พลันมีคนชุดดำสองคนถือกระบี่ยาวพุ่งโจมตีฮ่องเต้จากทางด้านหน้า

เหล่าคนที่กำลังเดินไปข้างหน้าตกใจกันยิ่งนัก “ฝ่าบาทระวัง มีคนร้าย รีบมาเร็ว!” ฮองเฮาร้องเสียงดัง

คนอื่นตกใจพากันวิ่งหนีอุตลุด ฮ่องเต้สีหน้าเคร่งเครียด เหล่มองสองคนนั่น

โม่ฉีเฟิงและโม่ฉือหานที่เดินตามมาด้านหลังรีบเหาะเข้ามา ขวางหน้าฮ่องเต้ไว้ และต่อสู้กับนักฆ่าสองคนนั่น

เพียงแต่อีกฝ่ายฝีมือร้ายกาจนัก โม่ฉีเฟิงกับโม่ฉือหานไม่ได้เปรียบอะไรเลย ประกายดาบสาดส่อง ฆ่าฟันไปทั้งแถบ

“ฝ่าบาท พวกเรากลับไปกันก่อนดีหรือไม่?” ฮองเฮาถามอย่างกังวล

ฮ่องเต้สีหน้าดำทะมึน “ข้าอยากจะดูสิว่าใครกันบังอาจกล้ามาลอบฆ่าข้าถึงในพระราชวัง!”

ฮ่องเต้ไม่ได้กลับไป และไม่ได้ไปทางอื่น ยังคงยืนมองคนชุดดำสองคนในอุทยานนั่น ดวงตาคมปลาบดำขลับหรี่ลงเล็กน้อย

โม่เหลิ่งเหยียนที่อยู่ในที่มืดถึงลอบถอนหายใจโล่งอก แอบคิดว่า จวินหย่วนโยวเจ้าอย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ เพื่อเจ้าแล้ว ข้าถึงกับใช้ “ลอบฆ่า” เชียวนะ

ทางนี้ โม่ฉือชิงพาหยุนถิงพุ่งไปที่ตำหนักข้าง เพียงแต่ห้องหับมีมากเกินไป ทั้งสองคนหมดปัญญา ได้แต่หาทีละห้องๆ

ฤทธิ์ยาในตัวหยุนถิงที่สกัดไว้แรงเกินไป ตอนนี้ความรุ่มร้อนในกายผุดขึ้นมาระลอกใหม่ หยุนถิงเหมือนอยู่ในคลื่นลมร้อนก็ไม่ปาน อึดอัดนัก

เธอปาดหยดเหงื่อที่หน้าผาก และหาต่อไป พอคิดว่าจวินหย่วนโยวอยู่กับผู้หญิงอื่น หยุนถิงก็เดือดทะลุฟ้า

ห้องแต่ละห้องถูกเปิดออกและปิดลง จนถึงห้องสุดท้าย หยุนถิงรวบรวมความกล้าหาญเปิดประตูห้องออก

พอเห็นคนบนเตียง หยุนถิงมองตะลึงไปเลย

จวินหย่วนโยวที่อยู่บนเตียง ร่างท่อนบนไม่ได้ใส่เสื้อผ้า เหงื่อออกมาก ไรผมบนหน้าผากเปียกชื้นไปหมด ผ้าห่มและผ้าปูเตียงยับย่น ด้านข้างยังมีซ่างกวนหรูนอนอยู่ข้างๆ ซ่างกวนหรูในตอนนี้ใส่เพียงแค่เสื้อชั้นในสีแดงกุหลาบหนึ่งตัว เผยให้เห็นแผ่นหลังเปลือยเปล่าไปกว่าครึ่ง ภาพชวนคิดลึกนี่ยากนักที่จะไม่ทำให้คนคิดไปไกล

“จวินหย่วนโยว เจ้าสาระเลว ดันกระทำการบัดสีกับซ่างกวนหรูจริงๆ ข้ามองเจ้าผิดไปจริงๆ เจ้าทำเช่นนี้ถูกต่อหยุนถิงรึ?” โม่ฉือชิงตะคอกด้วยความโกรธ

“เจ้าตาบอดรึ ดูไม่ออกรึว่าซื่อจื่อโดนวางยาน่ะ?” หยุนถิงมองค้อนเขา

“หา?”

จวินหย่วนโยวที่อยู่บนเตียงเหมือนได้ยินเสียงหยุนถิง ถึงได้ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก พอเห็นหยุนถิงที่อยู่ห่างไปหลายเมตร จวินหย่วนโยวถึงปล่อยริมฝีปากที่กัดไว้แน่นมาตลอด “ข้าไม่ได้แตะต้องนาง และไม่ได้ทำผิดต่อเจ้า”

เสียงนั้นอ่อนเพลีย อ่อนแรง เขากัดริมฝีปากจนฉีกแตก เห็นได้ชัดว่าจวินหย่วนโยวทนความเจ็บปวดไว้มากแค่ไหน ทำเอาหยุนถิงปวดใจนัก

หยุนถิงพุ่งเข้าไปอย่างเร็ว เพราะว่าร่างไร้เรี่ยวแรง เธอเลยทรุดลงคุกเข่าลงข้างเตียง “ซื่อจื่อข้าเชื่อท่าน คืนนี้พวกเราสองคนโดนวางแผนแล้วล่ะ แค้นนี้ข้าจะให้พวกมันชดใช้คืนเป็นเท่าตัวแน่”

“หยุนถิงเชื่อเจ้า ข้าก็เชื่อเจ้า ตอนนี้ทำอย่างไรดี?” โม่ฉือชิงงถามอย่างเป็นห่วง

“รีบพาซื่อจื่อออกไปเร็ว” หยุนถิงบอก

“ตกลง” โม่ฉือชิงรีบเข้ามาดึงจวินหย่วนโยว

ด้านนอกประตูกลับมีเสียงฝีเท้าเร่งรีบมา ไม่ใช่คนเดียว เหมือนมีจำนวนมาก

“ฝ่าบาท ด้านหน้านี่เอง ข้าน้อยเห็นกับตาว่าจวินซื่อจื่อเข้าไป” เสียงสตรีผู้หนึ่งลอยมา

“หากเจ้ากล้าใส่ร้ายจวินซื่อจื่อ ข้าจะไม่ละเว้นเจ้าแน่” ฮ่องเต้ตะคอกดังอย่างเดือดดาล

“แย่ละ เสด็จพี่จะเข้ามาแล้ว ทำอย่างไรดี?” โม่ฉือชิงถามอย่างตื่นเต้น