ชิง​จ้าน​คิด​ว่า​คำพูด​นั้น​ไม่ได้​พูดถึง​นาง​ ​นาง​เงยหน้า​ขึ้น​แล้ว​จ้องเขม็ง​ไป​ทาง​หนา​นกง​เลี่ย​ ​ก่อนที่​นาง​จะ​ตระหนัก​ได้​ว่า​เขา​ตั้งใจ​จะ​พูด​กับ​นาง​จริงๆ​ ​หลังจาก​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​นาง​ก็​เอ่ย​ว่า​ ​”​พระ​ชายา​ดี​กับ​ข้าเจ้า​ค่ะ​”

“​จริง​หรือ​”​ ​หนา​นกง​เลี่ย​กระตุก​ยิ้ม​ร้ายกาจ​ ​”​สรุป​แล้ว​เจ้า​ไม่​คิด​ที่จะ​กลับมา​สินะ​”

กลับ​ไป​หรือ​ ​ชิง​จ้าน​ขมวดคิ้ว​ ​ไม่ใช่​ว่านาง​เป็น​คนที​่​เขา​ไม่​อยาก​เห็น​หน้า​มาก​ที่สุด​หรอก​หรือ

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยิ้ม​อย่าง​เกียจคร้าน​ ​”​ไม่มีทาง​เสีย​ล่ะ​ ​สหาย​ ​อย่า​ลืม​ว่า​ตอนนี้​ชิง​จ้าน​เป็น​คน​ของ​ข้า​แล้ว​ ​เจ้า​นั่งลง​ซะ​ ​แล้ว​อย่า​ได้มา​รบกวน​การเรียน​ของ​พวกเรา​อีก​”

“​รบกวน​การเรียน​ของ​พวก​เจ้า​หรือ​”​ ​ดวงตา​ของ​หนา​นกง​เลี่ย​เย็นชา​ ​แต่​ใบหน้า​ของ​เขา​ยังคง​ชั่วร้าย​ ​”​นี่​เป็นครั้งแรก​เลย​ที่​ข้า​ได้ยิน​ว่า​คุณหนู​ใหญ่​เฮ่อ​เหลียน​จะ​ ​’​ตั้งใจ​เรียน​’​”

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ไม่ได้​ตอบ​ ​แต่​นาง​วางมือ​ของ​ตน​ลง​บน​บ่า​ของ​ชิง​จ้าน​ ​แล้ว​กระตุก​ยิ้ม​มุม​ปาก​ไป​ทาง​หนา​นกง​เลี่ย​ด้วย​สีหน้า​ชั่วร้าย​แต่​ก็​ยัง​ดู​สง่างาม​อยู่​ใน​ที

หนา​นกง​เลี่ย​ไม่ได้​มอง​นาง​ ​แต่​สายตา​ของ​เขา​กลับ​จับจ้อง​อยู่​ที่​ศิษย์​อีก​คน​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​ชิง​จ้าน​ไม่​ช่วย​ปกป้อง​เขา​เลย​แม้แต่น้อย​ ​มือ​ที่อยู่​ใต้​แขน​เสื้อ​ยาว​ของ​เขา​ก็​กำ​เข้าหา​กัน​แน่น​ ​อีกทั้ง​รอยยิ้ม​บริเวณ​มุม​ปากของ​เขา​ก็​เหยียด​กว้าง​ขึ้น​เช่นกัน​ ​”​ตามใจ​เจ้า​ ​จะ​ไป​ไหน​ก็​ไป​ ​ถ้า​เจ้า​ถูก​รังแก​ ​ก็​อย่า​คลาน​กลับมา​หา​ข้า​ก็แล้วกัน​!​”

พรึ่บ​!

หนา​นกง​เลี่ย​พลิก​หน้า​หนังสือ​ใน​มือ​เสียงดัง​ ​ทำให้​คุณหนู​กวน​ที่​ติดตาม​เขา​มาถึง​กับ​เม้ม​ริมฝีปาก​ด้วย​ความตกใจ​ ​”​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​เจ้า​คะ​”

“​ไม่มี​อะไร​หรอก​”​ ​หนา​นกง​เลี่ย​ยิ้ม​ ​แล้ว​เปลี่ยนไป​ใช้​น้ำเสียง​ปลอบประโลม​คุย​กับ​นาง​ ​”​ข้า​ทำให้​เจ้า​กลัว​หรือ​”

คุณหนู​กวน​คน​นั้น​มอง​เด็กรับใช้​ ​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​”​นิดหน่อย​เจ้าค่ะ​”

“​ข้า​ขอโทษ​ ​เจ้า​อ่านหนังสือ​ไป​เถอะ​”​ ​หนา​นกง​เลี่ย​ก็​ยังคง​เป็น​หนา​นกง​เลี่ย

คุณหนู​กวน​ไม่เข้าใจ​ว่าความ​เย็นชา​ของ​เขา​โผล่​มาจาก​ไหน

ชิง​จ้าน​ไม่ได้​พูด​อะไร​ตั้งแต่​ต้น​จน​จบ​ ​นาง​หยิบ​พู่กัน​ที่​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​จะ​ใช้​ออกมา​วาง​เรียง​กัน​อย่างเป็นระเบียบ​ตามหน้าที่​ด้วย​ท่าทาง​เยือกเย็น​และ​ขยันขันแข็ง

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​มอง​ทั้งสอง​แล้ว​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​แผ่วเบา​ว่า​ ​”​ถ้า​เจ้า​ไม่​อยาก​อยู่​ที่นี่​และ​เห็นภาพ​นี้​ ​เจ้า​ออก​ไป​เดินเล่น​ข้างนอก​ก็ได้​นะ​ ​ข้า​ไม่มีปัญหา​ ​อย่างไร​ข้า​ก็​ตั้งใจ​ว่า​จะ​นอนหลับ​ใน​คาบ​อยู่​แล้ว​ ​ดังนั้น​เจ้า​ไม่จำเป็น​ต้อง​มาท​รมา​นอยู​่​ที่นี่​ก็ได้​”

ชิง​จ้าน​เงยหน้า​ขึ้น​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​”​หม่อมฉัน​จะ​อยู่​ข้าง​กาย​พระ​ชายา​เพ​คะ​”

“​เช่นนั้น​ก็​อย่า​ทำ​หน้า​เหมือน​กำลังจะ​ร้องไห้​เช่นนี้​สิ​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยื่นมือ​ออก​ไป​ลูบ​ศีรษะ​ของ​อีก​ฝ่าย​ ​จากนั้น​จึง​ยิ้ม​ออกมา​เล็กน้อย​ ​”​ก็​แค่​ผู้ชาย​คนเดียว​ ​บน​แผ่นดิน​นี้​อาจจะ​มี​ของ​บางอย่าง​ที่​มี​เพียง​น้อย​ชิ้น​ ​แต่​ไม่ต้องสงสัย​เลย​ว่า​ผู้ชาย​นั้น​มีมาก​มาย​เพียงใด​ ​โดยเฉพาะ​ใน​สำนัก​ไท่​ไป๋​แห่ง​นี้​ ​ถ้า​เจ้า​เจอ​คนที​่​ถูกใจ​เมื่อไหร่​ก็​บอก​ให้​ข้า​รู้​ด้วย​ล่ะ​”

“​บอก​ให้พระ​ชายา​รู้​ด้วย​หรือ​เพ​คะ​”​ ​ชิง​จ้าน​ถาม

“​ข้า​จะ​ได้​สืบ​เรื่อง​ของ​เขา​ให้​ ​และ​ทำให้​เขา​เป็น​ของ​เจ้า​เร็ว​ๆ​ ​อย่างไร​ล่ะ​”​ ​เสียง​ของ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​นั้น​เบา​มาก​ ​และ​มัน​เต็มไปด้วย​ความ​เกียจคร้าน​ ​”​ข้ามี​น้องชาย​หลาย​คน​ ​เมื่อถึง​เวลา​แล้ว​ข้า​จะ​แนะนำ​พวกเขา​ให้​เจ้า​รู้จัก​ ​สอง​สาม​คนใน​นั้น​ดู​ไม่เลว​ทีเดียว​”

ชิง​จ้าน​ ​…​ทำไม​ท่าน​ถึง​พูด​เหมือนกับ​ว่า​ผู้หญิง​เรา​ต้อง​ต่อสู้​แย่งชิง​สามี​อย่าง​กับ​เป็น​โจร​เลย​ล่ะ​เพ​คะ

แม้ว่า​เสียง​จาก​ทาง​ด้าน​ข้าง​นั้น​จะ​เบา​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​ผู้​บวงสรวง​อัจฉริยะ​อย่าง​เขา​ย่อม​สามารถ​ได้ยิน​บทสนทนา​ของ​พวก​นาง​ได้​ ​มือ​ของ​เขา​กำ​เข้าหา​กัน​แน่น​ขึ้น

“​วิธี​ที่​ดีที​่​สุดที​่​จะ​ลืม​ความสัมพันธ์​ครั้งก่อน​คือ​การ​ได้​พบ​กับ​ผู้ชาย​คน​ใหม่​”​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​ยิ้ม​ ​”​ชิง​จ้าน​ ​ท้ายที่สุด​แล้ว​เจ้า​ก็​ต้อง​เริ่มต้น​ใหม่​อยู่ดี​”

เริ่มต้น​ใหม่​หรือ

ชิง​จ้าน​ชะงัก​ไป​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​”​หม่อมฉัน​จะ​ไป​เพ​คะ​”

เมื่อ​หนา​นกง​เลี่ย​ได้ยิน​คำพูด​นั้น​ ​เขา​ก็​ผงะ​ไป​ชั่วขณะ​ ​จากนั้น​เขา​ก็​หลุด​หัวเราะเยาะ​ออกมา​โดยไม่รู้ตัว

เขา​ดูเหมือน​อยาก​จะ​พูด​อะไร​มากกว่า​นั้น​ ​แต่​แล้ว​เขา​ก็​เห็น​ว่า​อาจารย์​กำลัง​ย่างสามขุม​เข้ามา​หา​เขา​พร้อมกับ​รอยยิ้ม​ ​เสื้อคลุม​สีขาว​ที่​เขา​สวม​อยู่​ทำให้​ชาย​ร่าง​ท้วม​ดูเหมือน​พระ​สัง​กัจ​จายน์

“​เงียบ​ ​เงียบ​ได้​แล้ว​!​”​ ​อาจารย์​คน​นั้น​ยก​แขน​ขึ้น​ ​แล้ว​กล่าวว่า​ ​”​วันนี้​มี​ศิษย์​ใหม่​เข้ามา​เรียน​กับ​พวกเรา​ ​ขอให้​ทุกคน​ต้อนรับ​เขา​ด้วย​”

ทันทีที่​เขา​พูด​จบ​ ​ชายหนุ่ม​รูปร่าง​สูง​เพรียว​คน​หนึ่ง​ก็​เดิน​เข้ามา

แทบจะ​ในทันที​ที่​ชาย​คน​นั้น​ก้าว​เท้า​เข้ามา​ภายใน​ห้อง​ ​บรรยากาศ​ทั้งหมด​ก็​ราวกับ​ถูก​ดูด​หาย​ไป​ ​ทุกคน​ตก​อยู่​ใน​ความ​เงียบ​ ​มัน​เงียบ​เสีย​จน​สามารถ​ได้ยิน​เสียง​เข็ม​ร่วง​ลงพื้น​ได้​เลย

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​เงยหน้า​ขึ้น​ ​แล้ว​นาง​ก็​เข้าใจ​ทันที​ว่า​ทำไม​ทุกคน​ถึง​เงียบ​กัน​เพียงนี้

ไม่​เพียงแค่​เพราะ​ผู้ชาย​คน​นั้น​ดู​โดดเด่น​ยิ่งกว่า​คนอื่นๆ​ ​แต่​เขา​ยัง​ดู​หล่อเหลา​ไม่​แพ้​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋ย​เลย

เขา​มี​ฟัน​สีขาว​งาช้าง​ ​เส้น​ผม​สีน้ำเงิน​เข้ม​ดูรา​วกับ​ผ้าแพร​ที่​ทิ้งตัว​ลง​บน​ไหล่​ทั้งสอง​ข้าง​ ​คอเสื้อ​ของ​เขา​ไร้​ซึ่ง​รอย​เปรอะเปื้อน​ ​ใบหน้า​ราวกับ​หยก​ของ​เขา​นั้น​ล้วนแต่​ทำให้​คนที​่​เห็น​รู้สึก​ชื่นชม​ ​คิ้ว​ราวกับ​ดวงดาว​ของ​เขา​เป็น​เหมือนกับ​หิมะ​แรก​ ​แสงสว่าง​ภายใน​ห้อง​ถูก​เขา​กด​เอาไว้​อย่างกะทันหัน

บน​ริมฝีปาก​ของ​เขา​มี​รอยยิ้ม​อัน​งดงาม​และ​ได้รับ​การอบรม​มา​เป็น​อย่างดี​ปรากฏ​อยู่​ ​เขา​ดูเหมือน​กับ​คนที​่​เพิ่ง​เดิน​ออกมา​จาก​ภาพวาด​ไม่มี​ผิด​ ​เขา​เดิน​เข้ามา​พร้อมกับ​กลิ่น​สมุนไพร​อ่อน​ๆ​ ​ทุกคน​ต่าง​พากั​นรู​้​สึก​ว่าการ​ชำเลือง​มอง​เขา​แม้​เพียง​เล็กน้อย​ก็​อาจ​ทำให้​เขา​แปดเปื้อน​ได้​ ​แต่​พวกเขา​ก็​ไม่​สามารถ​ห้าม​ตัวเอง​ไม่​ให้​อยาก​เข้าใกล้​เขา​ได้​เช่นกัน

แต่​ใบหน้า​ของ​เขา​กลับ​ดู​คุ้นตา​สำหรับ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย

ถึงแม้นา​งกับ​เขา​จะ​ไม่ได้​พบ​หน้า​กัน​บ่อย​ ​แต่​นาง​ก็​เคย​หลบหนี​ออกจาก​ที่นี่​ด้วย​การซ่อน​ตัว​ใน​รถม้า​ของ​อีก​ฝ่าย​มาก​่อน

แม้แต่​อาวุธ​ของ​นาง​ก็​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​เขา

เฮ้อ

คุณชาย​อู๋​ซวง​ผู้สูงศักดิ์​และ​มีฝีมือ​ไม่​เป็น​สอง​รอง​ใคร​มา​เป็น​ศิษย์​ใหม่​ที่นี่​ ​มิหนำซ้ำ​ยัง​เลือก​ที่จะ​เข้า​หอ​สามัญ​อีกด้วย​…

เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กระตุก​ยิ้ม​ ​เรื่อง​คงได้​สนุก​ขึ้น​อีก​แน่

“​สวรรค์​ ​คน​ผู้​นี้​เป็น​ใคร​กัน​”

แน่นอน​ว่าย​่​อม​มีคำ​ถาม​ตามมา

อาจารย์​มอง​ไป​ยัง​บรรดา​ลูกศิษย์​ที่​ตกตะลึง​รอบ​ๆ​ ​ห้อง​ ​แล้ว​ใช้​มือ​ของ​ตน​ขยับ​แว่นตา​ ​จากนั้น​จึง​กล่าวว่า​ ​”​เพราะ​ปัญหา​ด้าน​สุขภาพ​ ​ศิษย์​ผู้​นี้​จึง​เข้าเรียน​ช้า​กว่า​กำหนด​ ​เอาล่ะ​ ​ศิษย์​ใหม่​ ​เจ้า​แนะนำตัว​ได้​แล้ว​”

เมื่อ​อาจารย์​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​มอง​ชายหนุ่ม​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​ตัว​ ​ชาย​คน​นั้น​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​แล้ว​ก้าว​ออกมา​ข้างหน้า​ช้าๆ

“​ข้ามี​นาม​ว่า​จิ​่ง​ไป่​ซวง​”​ ​ริมฝีปาก​ของ​ชายหนุ่ม​หยัก​ขึ้น​เป็น​รอยยิ้ม​เล็กน้อย​ ​ระหว่าง​ที่​เขา​พึมพำ​ชื่อ​นั้น​ออกมา​ด้วย​น้ำเสียง​ทุ้ม​ต่ำ​ชวน​ฟัง

จิ​่ง​ไป่​ซวง​หรือ

เขา​เพิ่งจะ​พูด​ออกมา​ได้​เพียง​ไม่​กี่​คำ​ ​แต่​มัน​กลับ​เหมือน​การโยน​ก้อนหิน​ลง​ไป​ใน​น้ำนิ่ง​จน​เกิด​เป็น​คลื่น​น้ำ​ลูก​เล็ก​ๆ​

ทันใดนั้น​ห้อง​ที่​เคย​อยู่​ใน​ความเงียบสงบ​ก็​พลัน​ตก​อยู่​ใน​ความโกลาหล

ทุกคน​ต่าง​ก็​กระซิบกระซาบ​ทุกสิ่ง​ที่​รู้​เกี่ยวกับ​เขา​ออกมา

ใน​เมืองหลวง​ ​ไม่มีใคร​เคย​ได้ยิน​ชื่อสกุล​ ​’​จิ​่ง​’​ ​มาก​่อน

เขา​มาจาก​ที่อื่น​หรือเปล่า

อย่า​บอก​นะ​ว่า​เขา​ก็​เป็น​เหมือนกับ​อีก​สอง​คนที​่​อยู่​ใน​หอ​สามัญ​…

บรรดา​ลูกศิษย์​จม​อยู่​ใน​ความคิด​ของ​ตัวเอง​ ​พวกเขา​อด​ที่จะ​มอง​ไป​ทาง​ไป๋​หลี​่​เจีย​เจ​วี​๋​ยกับ​หนา​นกง​เลี่ย​ไม่ได้

เมื่อ​เทียบ​กับ​ทั้งสอง​คน​แล้ว​ ​คน​หนึ่ง​นั้น​ดู​เกียจคร้าน​เป็นอย่างมาก​ ​เขา​ยกมือ​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​เท้าคาง​ ​ใบหน้า​ของ​เขา​นั้น​ดู​ไร้อารมณ์​ ​นิ้ว​เรียว​ยาว​ของ​เขา​ดู​ขัด​กับ​ม้วน​กระดาษ​เก่าๆ​ ​ใน​มือ​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​และ​เมื่อ​แสงส่อง​ลง​บน​ร่าง​เขา​ ​เขา​ก็​ดู​งดงาม​ชวน​ตกตะลึง​ยิ่งนัก

กลับกัน​ ​อีก​คน​กลับ​วางมือ​ของ​ตัวเอง​ไว้​ด้านหลัง​เก้าอี้​ ​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​ ​แล้ว​จ้องมอง​ตรง​ไป​ยัง​ชาย​ที่​เรียกตัว​เอง​ว่า​ ​’​จิ​่ง​ไป่​ซวง​’

จากนั้น​เขา​ก็​ยก​ขา​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​ขวางทาง​ชาย​คน​นั้น​เอาไว้

ชาย​คน​นั้น​ดูเหมือน​จะ​มี​ความอดทน​ดียิ่ง​นัก​ ​ใน​ดวงตา​ของ​เขา​ทอแสง​วาบ​ ​เขา​เหลือบมอง​หนา​นกง​เลี่ย​อย่างแรง​ ​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ ​”​ไม่ได้​เจอกัน​เสียนาน​”​ ​เขา​ลังเล​ ​แต่​สุดท้าย​ก็​เลือก​หนทาง​ที่​ปลอดภัย​กว่า​คือ​การ​เรียก​อีก​ฝ่าย​ด้วย​ตำแหน่ง​ ​”​คุณชาย​เจ็ด​”

หนา​นกง​เลี่ย​เป็นสมาชิก​คนที​่​เจ็ด​ของ​ตระกูล​ ​และ​มี​เพียง​คน​ไม่​กี่​คน​เท่านั้น​ที่​รู้เรื่อง​นี้

บรรดา​ผู้คน​ที่​ได้ยิน​ตำแหน่ง​ที่​เขา​เรียก​ต่าง​ก็​มอง​เขา​ด้วย​ความประหลาดใจ​ ​”​สอง​คน​นี้​รู้จัก​กัน​หรือ​”

“​ไม่ได้​เจอกัน​นาน​ทีเดียว​ ​คุณชาย​ซวง​”​ ​หนา​นกง​เลี่ย​ชัก​ขากลับ​พลาง​ครุ่นคิด​ ​จากนั้น​จึง​เอ่ย​ว่า​ ​”​ข้า​ไม่​นึก​เลย​ว่า​เจ้า​ก็​มาเรีย​นที​่​สำนัก​นี้​เหมือนกัน​”

คุณชาย​อู๋​ซวง​เม้ม​ริมฝีปาก​ ​แล้ว​กระแอม​เบา​ๆ​ ​แม้​สภาพร่างกาย​ของ​เขา​จะ​ดู​ย่ำแย่​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​มัน​ก็​ไม่ได้​ทำให้​ความสง่างาม​ของ​เขา​ลดน้อยลง​แต่อย่างใด​ ​มัน​กลับ​ทำให้​เขา​ดู​อ่อนโยน​และ​เฉยเมย​ ​ความ​เฉยชา​ของ​เขา​นั้น​ยาก​จะ​ต้านทาน​ได้​ ​”​แม้แต่​คุณชาย​เจ็ด​ก็​ยัง​สามารถ​มา​อยู่​ที่นี่​ได้​ ​แล้ว​ทำไม​ข้า​ถึง​จะ​มา​อยู่​ที่นี่​เหมือนกัน​ไม่ได้​ล่ะ​”