บทที่ 367 ก็ไม่เลว
หลังอู๋ฝานนั่งลงแล้ว บริกรจึงนำชุดถ้วยชามและตะเกียบมาให้เพิ่ม ดังนั้นชายหนุ่มจึงร่วมทานอย่างเป็นทางการ เพื่อสานสัมพันธ์กับครอบครัวของเยี่ยเฟยเฟยให้เข้าใจตนเองมากขึ้น
เพียงแต่อู๋ฝานไม่ทราบว่าที่เยี่ยเฟยเฟยต้องการตอนนี้ ไม่ใช่การปรองดองทำความเข้าใจ แต่คือรีบไสหัวไปให้พ้นต่างหาก!
พ่อและแม่ของเยี่ยเฟยเฟยค่อนข้างถูกใจท่าทีของอู๋ฝาน เพราะพวกเขารู้สึกได้ถึงความสุภาพ สิ่งนี้ทำให้พวกเขายิ่งรับรู้ว่าระหว่างอีกฝ่ายกับลูกสาวของพวกเขานั้นมีความสัมพันธ์ต่อกันไม่ธรรมดา ร้านอาหารที่กิจการคึกคักเช่นที่นี่ คิดหาเวลาว่างไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาได้เห็นกับตาตัวเองกันแล้ว ชายหนุ่มที่เป็นทั้งเจ้าของและเชฟใหญ่ของที่นี่ ปกติแล้วจะมีแต่ยุ่งกับยุ่ง ทว่าปัจจุบันกลับเจียดเวลามาร่วมทานอาหารอย่างเป็นกันเองได้ ถ้าอย่างนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่มีหรือจะใช่ธรรมดา?
อู๋ฝานค่อนข้างเป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะกับบรรดาแขกที่มาใช้บริการในห้องส่วนตัว พวกเขาหลายคนต่างก็รู้จักชายหนุ่มกันทั้งสิ้น เมื่อพบเห็นเขา คนเหล่านั้นถึงขนาดเป็นฝ่ายออกมาพูดคุยทักทายด้วยตัวเอง ทำให้ครอบครัวของเยี่ยเฟยเฟยยิ่งมั่นใจว่าตัวตนเถ้าแก่ร้านนี้เป็นของอีกฝ่าย ทั้งยังได้รับรู้ถึงเส้นสายที่อู๋ฝานมีในครอบครอง
อาหารมื้อนี้ ครอบครัวของเยี่ยเฟยเฟยมีแต่จะชื่นชมและพึงพอใจในตัวอู๋ฝาน ขณะเดียวกันก็ยังเอ่ยปากชมบรรยากาศภายในร้านและรสชาติอาหารไม่ขาด ส่วนเยี่ยเฟยเฟย เธอกลอกตามองอีกฝ่ายอยู่หลายครั้ง เธอไม่ต้องการให้พ่อแม่ของตนเองชื่นชมอะไรเขามากนัก เพราะมีแต่จะยิ่งทำให้พวกท่านเข้าใจความสัมพันธ์ผิดไปจนกู่ไม่กลับ
แต่อู๋ฝานที่เห็นท่าทีเหม่อลอยของเยี่ยเฟยเฟย กลับคิดว่าอีกฝ่ายยังไม่พอใจตนเองอยู่ ดังนั้นจึงยิ่งเอาใจพ่อแม่ของเธอมากขึ้น แสดงออกให้เห็นมากขึ้น ส่วนผลลัพธ์นั้น…
ไม่นานอาหารมื้อนี้ก็จบลง พ่อและแม่ของเยี่ยเฟยเฟยเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอู๋ฝานผิดเป็นที่เรียบร้อย ทั้งยังโล่งใจที่ลูกสาวจะอยู่เจียงโจวได้อย่างปลอดภัย
“เฟยเฟย อีกไม่นานพวกแม่ก็ต้องกลับบ้านแล้ว ลูกอยู่ที่นี่ต้องดูแลตัวเองด้วยรู้ไหม?” หลังมื้ออาหาร แม่ของเยี่ยเฟยเฟยกล่าวออกมา
“คะ? กลับกันเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?” แม้เยี่ยเฟยเฟยไม่ชอบที่พ่อและแม่ของตัวเองเข้าใจความสัมพันธ์ผิดเพี้ยนไป แต่หากพูดถึงเรื่องที่ต้องแยกจากกันอีกครั้งอย่างกะทันหันแบบนี้ เธอก็รู้สึกใจหายเช่นกัน
“ใช่ ทีแรกพวกพ่อมาก็เพราะอยากเจอลูกแค่นั้นเอง อันที่จริงทิ้งงานมาด้วยซ้ำ ทำให้อยู่ที่นี่นานมากไม่ได้” พ่อของเยี่ยเฟยเฟยตอบกลับ
“ตอนแรกพวกเรากังวลว่าลูกจะปรับตัวอยู่ที่นี่ไม่ได้ เพราะยังไงลูกก็ออกมาอยู่นอกบ้านเป็นครั้งแรก แล้วพวกแม่ก็ไม่ได้คอยอยู่ดูแล แต่พอได้พบเสี่ยวอู๋วันนี้ พวกเราก็โล่งใจกันแล้ว” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยร่วมบอกกล่าว
“เดี๋ยวนะคะ เจอเขาแล้วโล่งใจ? หนูอยู่บ้านกับคนอื่น ทั้งยังเป็นเพศตรงข้าม พ่อกับแม่ต้องห่วงให้มากขึ้นไม่ใช่เหรอคะ?” เยี่ยเฟยเฟยพูดออกมา แม้เดิมทีเธออยากให้พ่อกับแม่สบายใจที่ได้อยู่ร่วมบ้านกับอู๋ฝาน แต่ตอนนี้พวกท่านเข้าใจผิดจนเธอไม่พอใจขึ้นมา กระทั่งว่านึกเสียดายที่เลือกมาเจียงโจวเสียด้วยซ้ำ
“ถ้าเป็นคนอื่น พวกแม่ก็คงกังวลแหละนะ แต่กับเสี่ยวอู๋ พวกเราวางใจได้” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยตอบรับ
อู๋ฝานหันหน้ามายิ้มให้เห็น ราวกับถามว่าเป็นไงล่ะ ฉันทำได้ดีเลยใช่ไหม และที่ครอบครัวของเยี่ยเฟยเฟยพึงพอใจก็เป็นเรื่องจริง
“ยิ้มอะไร?” เยี่ยเฟยเฟยตอบอู๋ฝานอย่างโกรธเคือง เธอกำลังโทษอีกฝ่ายที่หว่านโปรยเมล็ดพันธุ์มากจนเกินควร แสดงท่าทีสุภาพ ดี และเป็นมิตรเกินไป ทำให้ความเข้าใจผิดยิ่งกู่ไม่กลับ!
“คือ… ที่ยิ้มก็เพราะมีความสุขที่คุณลุงกับคุณป้าชมยังไงล่ะครับ” อู๋ฝานไม่เข้าใจว่าเหตุใดเยี่ยเฟยเฟยจึงโกรธ
“ใช่แล้วเสี่ยวอู๋ ลุงกับป้าถูกใจเธอมากเลย อันที่จริงพวกเราก็ไม่ใช่คนหัวโบราณหรอกนะ แต่เฟยเฟยยังเด็ก ถ้าพวกเธอรักกันดีพวกเราก็ไม่ได้คัดค้านอะไร แต่ละคนต่างก็มีชีวิตเป็นของตัวเอง เธอเข้าใจป้าใช่ไหมจ๊ะ?” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยบอกกับอู๋ฝาน
พูด… ถึงเรื่องรักกันงั้นเหรอ?!
อู๋ฝานที่ได้ยินคำพูดจากปากแม่ของเยี่ยเฟยเฟยถึงกับเผยรอยยิ้มแข็งค้าง ทั้งกายชะงัก ดวงตาเบิกกว้างตื่นตกใจ สายตามองแม่ของเยี่ยเฟยเฟยราวกับได้ยินอะไรผิดไป หรือหากไม่ผิดก็ไม่ทราบว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงพูดออกมาเช่นนี้
“แม่คะ พูดอะไรกันคะเนี่ย! หนูก็บอกแล้วยังไงล่ะคะว่าพวกเราไม่ได้มีสัมพันธ์อะไรแบบนั้น!” เยี่ยเฟยเฟยทั้งโกรธทั้งร้อนรนขณะเห็นสีหน้าท่าทีของอู๋ฝาน
“จ้า จ้า ไม่ใช่ก็ไม่ใช่” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยหัวเราะตอบ เห็นได้ชัดว่าเชื่อไปตามที่พูดอย่างไร้ข้อกังขาแล้วด้วยซ้ำ
“คุณป้าครับ ผมว่าต้องมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรสักอย่างแน่ครับ” อู๋ฝานรีบพูดขึ้นมา
หรือเพราะเขาแสดงได้ดีเกินไป ครอบครัวของเยี่ยเฟยเฟยจึงเกิดพอใจตัวเขาขึ้นมา เลยอยากได้เป็นลูกเขยอย่างนั้นเหรอ?
คิดได้ดังนั้น อู๋ฝานจึงมองเยี่ยเฟยเฟยโดยไม่รู้ตัว ภาพที่ได้เห็นในห้องน้ำเมื่อตอนเช้ายังไม่ลบเลือนจากห้วงความคิด
ถ้ามีแฟนทั้งสวยและน่ารักแบบนี้ ก็คงไม่เลวเหมือนกัน
“ป้ารู้น่า พวกคนหนุ่มสาวก็เขินอายกันแบบนี้แหละ ป้าไม่พูดแล้วก็ได้” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยตอบกลับมา
“รถมาแล้ว” ตอนนี้เองที่พ่อของเยี่ยเฟยเฟยเอ่ยขึ้น
“งั้นพวกเราขอตัวกลับก่อน ไม่ต้องไปส่งพวกเรานะจ๊ะ ใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้ดี เสี่ยวอู๋ เฟยเฟยของพวกเราบางครั้งก็อารมณ์ร้ายไปบ้าง มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจากัน ถ้ามีอะไรเกินรับมือก็โทรหาป้าได้นะ ตกลงไหม?” แม่ของเยี่ยเฟยเฟยพูดขึ้นมา
“อา… ครับ…” อู๋ฝานตอบรับราวสติไม่ได้อยู่กับตัว
ทั้งพ่อและแม่ของเยี่ยเฟยเฟยต่างก็พยักหน้ารับ จากนั้นคนทั้งสองจึงขึ้นรถที่เรียกมารับ ก่อนจะโบกมือให้ทั้งอู๋ฝานและเยี่ยเฟยเฟย สุดท้ายก็มุ่งหน้าไปสนามบิน
“ทำได้ดี ดีกับผี!” หลังรถออกไปแล้ว เยี่ยเฟยเฟยจึงโพล่งโทสะเตะอู๋ฝานอย่างรุนแรงถึงสองครั้ง
“แม่ของคุณฝากให้ผมช่วยดูแลคุณอย่างดี ผมก็ต้องรับปากน่ะสิ!” อู๋ฝานตอบกลับ
“ความผิดคุณคนเดียวเลย ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว …จบสิ้นกันหมดแล้ว พ่อแม่ฉันเข้าใจผิดแบบกู่ไม่กลับ!” เยี่ยเฟยเฟยจ้องอู๋ฝาน
“เข้าใจผิด?” อู๋ฝานนึกถึงที่แม่ของเยี่ยเฟยเฟยพูดตอนท้าย ทำให้เข้าใจเรื่องราว “คุณกำลังบอกว่า พ่อและแม่ของคุณคิดว่าพวกเราคบกัน และคุณก็เป็นแฟนผมงั้นสินะ?”
“แล้วจะคิดอะไรอื่นได้อีกล่ะ?” เยี่ยเฟยเฟยตอบกลับ
“อา! เรื่องเข้าใจผิดนี่ชักใหญ่โตเกินไปแล้ว” อู๋ฝานบ่นพึมพำ “ไม่นึกว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้นะครับ ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องเข้าใจผิดตอนเช้า ผมจะต้องเอาใจพ่อกับแม่ของคุณเป็นการชดใช้รึไง แต่ตอนนี้คุณกลับระบายความโกรธใส่ผมเนี่ยนะ”
“เพราะคุณเอาใจพวกท่านดีเกินไปต่างหาก มันทำให้พวกท่านเข้าใจผิดจนเลยเถิดขนาดนี้!” เยี่ยเฟยเฟยตอบกลับ “แล้วเรื่องเมื่อเช้านั่นคืออะไร คุณไม่ได้รับอนุญาตให้พูดถึงมันอีก ห้ามแม้แต่จะคิด เข้าใจที่ฉันพูดใช่ไหม!?”
“ครับ รู้แล้วครับ ต่อไปผมจะไม่พูดถึงมันอีก” อู๋ฝานรีบตอบรับ เขาเองก็หวังว่าเยี่ยเฟยเฟยจะไม่หยิบเรื่องในห้องน้ำมาพูดอีกเช่นกัน “แต่ว่านะ การที่พ่อแม่ของคุณจะเข้าใจความสัมพันธ์ของพวกเราผิดไป มันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรนี่ครับ”
“หมายความว่ายังไง? จะบอกว่าคุณคิดกับฉันแบบนั้น?” เยี่ยเฟยเฟยจ้องอู๋ฝานอย่างระแวดระวัง
“ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น คิดให้ดีสิครับ พ่อแม่ของคุณเข้าใจผิดเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเรา พวกท่านพอใจผม คิดว่าพวกเราอยู่ด้วยกัน ผมคอยดูแลคุณอย่างดี เท่ากับพวกท่านโล่งใจที่คุณจะใช้ชีวิตอยู่ที่เจียงโจวไม่ใช่รึไงครับ? เรื่องหลังจากนี้พวกท่านก็วางใจแล้ว คุณได้อยู่เจียงโจวคนเดียวอย่างที่ต้องการ ไม่ต้องกลัวพวกท่านมาหาอย่างกะทันหันแบบนี้อีก รวม ๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องดีหรือไงครับ?” อู๋ฝานเอ่ยถาม