บทที่ 313 ตระกูลอู๋พินาศย่อยยับ

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 313 ตระกูลอู๋พินาศย่อยยับ

อาการบาดเจ็บของเจียงหว่านไม่ได้รุนแรง ที่เยอะคือรอยถลอก มู่เซิ่งใช้ครีมลบรอยแผลเป็นที่สำรองเอาไว้ทาลงบนแผลของเจียงหว่าน แผลบนตัวเกือบจะหายดีหมดแล้ว

หลังจากทั้งสองคนกลับไป เมื่อย้อนคิดดูทั้งสองคนพูดไม่ออกเลย เรื่องนี้สำหรับมู่เซิ่งและเจียงหว่านถือเป็นหายนะครั้งหนึ่ง แต่มีหรือที่นี่จะไม่ใช่การขัดเกลา หลังผ่านเรื่องนี้ไป ความรักของทั้งสองคนยิ่งมั่นคงขึ้น ถึงกระทั่งที่การจูบในห้องผู้ป่วย ก็ดูยิ่งชำนาญขึ้นด้วย

“มู่เซิ่ง หลังกลับไปครั้งนี้ฉันอยากจัดงานแต่ง งานแต่งอย่างเป็นทางการ”

เจียงหว่านพูดด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ หลังจากเรื่องนี้ เธอรู้สึกว่าในชีวิตเธอไม่สามารถขาดมู่เซิ่งได้ ตอนมู่เซิ่งคุกเข่าในตอนนั้น ทรมานยิ่งกว่าฆ่าเธอเสียอีก ในเวลาเดียวกันเจียงหว่านก็กังวลมาก ถ้ามู่เซิ่งจากเธอไป มันคงเป็นความเจ็บปวดในใจที่ไม่สามารถลบได้ตลอดชีวิต

ด้วยเหตุนี้เจียงหว่านจึงไม่ได้สำรวมเหมือนก่อนหน้านี้ เธอพูดกับมู่เซิ่งตรงๆ ว่า “สามปีก่อนฉันไม่ยอมแต่งงานกับนาย แต่ตอนนี้ฉันอยากบอกทุกคนอย่างสง่าผ่าเผยว่าฉันแต่งกับนาย ฉันอยากให้ทุกคนรับรู้ว่าเราแต่งงานกัน!”

ในเวลาเดียวกันในใจเจียงหว่านก็มีอีกหนึ่งความคิด

นั่นก็คือหลังแต่งงาน จะ ‘ร่วมห้อง’ กับมู่เซิ่งอย่างสมบูรณ์แบบ

ดังนั้นงานแต่งนี้ถือเป็นการมอบความกล้าให้เธอ

“ได้” มู่เซิ่งเผยสีหน้าประทับใจ พยักหน้าพูดว่า “งานแต่งนี้จัดที่เมืองเยียนจิงก็ได้”

“เมืองเยียนจิงเหรอ” เจียงหว่านอึ้งไป เธอไม่คุ้นเคยกับเมืองเยียนจิง จัดงานที่เยียนจิงจะมีคนมาร่วมงานเหรอ

“เดี๋ยวถึงตอนนั้นเธอก็รู้เอง” มู่เซิ่งเอ่ยขึ้น

เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้ เจียงหว่านจึงตัดสินใจไม่ถามอะไรอีก เธอเอนตัวนอนลงบนเตียงผู้ป่วย แม้แผลบนตัวเธอหายแล้ว แต่ถ้าไม่นอนพักสักวันสองวัน มู่เซิ่งคงไม่วางใจแน่ๆ

ขณะนั้นมู่เซิ่งสังเกตเห็นเหยาเผิงที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องผู้ป่วย จึงพูดกับเจียงหว่านว่า “ฉันขอไปทำธุระก่อน อีกเดี๋ยวให้ท่านหลงไปส่งเธอ”

“อืม นายระวังด้วย” เจียงหว่านพยักหน้าอย่างว่าง่าย แล้วพูดกำชับเสียงเบา

“วางใจเถอะ” มู่เซิ่งลูบหัวเจียงหว่านแล้วเดินออกไป

เหยาเผิงที่ยืนรอมู่เซิ่งออกมาอยู่หน้าประตูห้องผู้ป่วย ถอนหายใจออกมาด้วยความอิจฉาอย่างอดไม่ได้ เป็นความรักที่ทำให้คนโหยหาจริงๆ ตอนเขาหนุ่มๆ ก็เคยมีเหมือนกัน แต่เพราะตอนนั้นเขาจนจึงเลิกกัน ตอนนี้หลังจากมีเงิน กลับหาความรู้สึกเหมือนรักแรกที่อยู่ด้วยกันในตอนนั้นไม่ได้อีกแล้ว

ผู้หญิงพวกนั้นที่อยู่กับเขา ถ้าไม่ใช่เพราะเงินของเขา ก็เพราะตำแหน่งของเขา ตอนหนุ่มเขาไม่สนใจ แต่เมื่อผ่านมาหลายปีก็ยังไม่ได้สร้างครอบครัว เขาอดคิดไม่ได้ว่าแม้แต่เพื่อนคุยความในใจสักคนก็ยังไม่มีเลย

“คุณมู่ จัดการเรื่องเรียบร้อยแล้ว” เมื่อเหยาเผิงเห็นมู่เซิ่งเดินออกมา จึงพูดอย่างนอบน้อม

ข่าวเช้าเขียนไว้ว่าที่คฤหาสน์ของสองพ่อลูกตระกูลอู๋ เพราะสูบบุหรี่บนเตียง จึงทำให้เกิดไฟไหม้คฤหาสน์ สองพ่อลูกตายในกองไฟ เรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุ ทำให้คนบนเกาะตกใจมาก เพราะอู๋หนานฝ่ากับอู๋ซื่อซวินเป็นใหญ่บนเกาะสองใจ ทว่าตอนนี้กลับเสียชีวิตลงแล้ว

หลังจากสาวที่เป็นเจ้าของร้านชุดแต่งงานที่หนีไปจากเกาะสองใจตั้งนานแล้วรู้เรื่องนี้ยิ่งตกตะลึงเข้าไปใหญ่ อู๋หนานฝ่ากับอู๋ซื่อซวินตายแล้วงั้นเหรอ โดนไฟคลอกตายเหรอ เธอไม่เชื่อสาเหตุการตายเลยสักนิด ทำไมถึงบังเอิญขนาดนั้น ตายในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้

แต่ว่า……

เจ้าของร้านชุดแต่งงานก็ไม่เชื่อว่าพวกเขาโดนมู่เซิ่งฆ่าตาย เพราะจะทำลายสองพ่อลูกตระกูลอู๋ ต้องมีอำนาจยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน

แต่ไม่ว่ายังไง เจ้าของร้านชุดแต่งงานก็ไม่กล้ากลับไปที่เกาะสองใจอีกแล้ว เธอหวังแค่ว่าหลังเรื่องนี้จบ มู่เซิ่งจะไม่มาหาเรื่องเธอก็พอแล้ว

แน่นอนว่ามู่เซิ่งไม่ใช่คนใจแคบ ถือสาหาความเจ้าของร้านชุดแต่งงาน

“พวกผู้หญิงที่โดนทำร้ายล่ะ” มู่เซิ่งถาม

เขาจำได้ว่าในห้องใต้ดินที่คฤหาสน์ของอู๋ซื่อซวิน มีผู้หญิงได้รับการทรมานเยอะมาก ผู้หญิงพวกนี้โดนอู๋ซื่อซวินบังคับและจับตัวมา

“คุณมู่ เราช่วยผู้หญิงพวกนั้นออกมาหมดแล้ว หลังจากจัดการอาการบาดเจ็บเรียบร้อย ก็ส่งพวกเธอกลับไปหาครอบครัว มีบางคนที่หาพ่อแม่ไม่เจอ ผมจึงให้พวกเธอทำงานในบริษัทพี่ ตามความสมัครใจของพวกเธอ” เหยาเผิงเอ่ยขึ้น

เขาจัดการทั้งหมดได้อย่างเหมาะสมและเรียบร้อยมาก

ส่วนการปิดตระกูลอู๋ก็เริ่มขึ้นนานแล้ว อีกไม่นานตระกูลอู๋ที่ไม่มีใครเทียบได้จะพังพินาศย่อยยับ ถึงตอนนี้จะมีคนออกมารับช่วงตำแหน่งเจ้าบ้านดูแลตระกูลอู๋ ก็ไม่มีทางต้านทานทั้งหมดนี้ได้

ขอเวลาแค่ครึ่งเดือน จะไม่มีตระกูลอู๋บนเกาะสองใจอีกต่อไป

หลังจากนั้นมู่เซิ่งมายังห้องพักผู้ป่วยอีกห้องหนึ่ง

ผู้ป่วยในห้องพักนั้นอาการสาหัสมาก กระดูกทั้งตัวหักหลายแห่ง โดนผ้าพันแผลพันไว้เหมือนบ๊ะจ่าง มีเพียงตาสองข้างโผล่ออกมา ยังโชคดีที่ส่งมาโรงพยาบาลทันเวลา ไม่งั้นคงหมดทางช่วยเหลือ

“หยางเหนิง นายเป็นไงบ้าง” มู่เซิ่งเดินเข้ามาถาม “ครั้งนี้ลำบากนายแล้ว”

“ไม่ลำบากหรอกครับ ครั้งนี้ผมปกป้องคุณหนูเจียงไม่ได้ ครั้งนี้ผมบกพร่องต่อหน้าที่” หยางเหนิงส่ายหน้าพูด

หลังจากเขาฟื้นขึ้นมา ก็ได้ยินข่าวการตายของอู๋หนานฝ่ากับอู๋ซื่อซวิน เขาตกใจเป็นอย่างมาก ในเวลาเดียวกันก็ดีใจมาก ครั้งนี้เขาเดิมพันได้ถูกต้อง! สิ่งที่เขาตัดสินใจถูกต้องเป็นที่สุด!

“งั้นนายพักผ่อนเถอะ” มู่เซิ่งตบไหล่หยางเหนิงแล้วเอ่ยขึ้น

ในเวลาเดียวกัน เขาหันมาพูดกับจางเสวียนหลงว่า “จางเสวียนหลง ลูกน้องนายคนนี้เป็นคนมีความสามารถฝีมือไม่เลว รักษาเอาไว้ให้ดีล่ะ”

จางเสวียนหลงพยักหน้า

ไม่ต้องให้มู่เซิ่งบอก ความดีความชอบที่หยางเหนิงทำ ต่อไปเขาต้องให้ความสำคัญแน่นอน

หลังจากมู่เซิ่งออกไป จางเสวียนหลงตบไหล่หยางเหนิงแล้วพูดว่า “ดูไม่ออกเลยว่าเด็กอย่างนายนอกจากชอบถ่ายภาพแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะมีความชอบธรรมขนาดนี้ ต่อไปคงต้องมอบตำแหน่งผู้จัดการสโมสรรอยัลคลับให้นายแล้วล่ะ”

“ขอบคุณท่านหลงที่ให้ความสำคัญกับผม” หยางเหนิงยิ้มอย่างดีใจแล้วเอ่ยขึ้น ได้เข้าไปในสโมสรรอยัลคลับ หมายความว่าต่อไปเขาจะกลายเป็นคนสนิทของท่านหลง

“ขอบคุณอะไรกันล่ะ นี่คือสิ่งที่นายสมควรได้รับ” จางเสวียนหลงส่ายหน้าแล้วเอ่ยขึ้น

รอจนทุกอย่างเรียบร้อย มู่เซิ่งเก็บข้าวของเล็กน้อย เตรียมออกทะเลกับเหยาเผิง

สิ่งที่ทำให้มู่เซิ่งประหลาดใจเล็กน้อย ครั้งนี้เหยาเผิงยังได้ข่าวเกี่ยวกับสมุนไพรพิเศษ จากคำอธิบายวิธีกลั่นยาของตำราทองตำนานเสวียน สมุนไพรนี้สามารถช่วยให้เขายกระดับพละกำลังของนักเสวียนได้ ถึงทะลุระดับขั้นสามก็มีหวัง ดังนั้นการออกทะเลครั้งนี้ของมู่เซิ่งจึงมีอีกหนึ่งเป้าหมาย

แต่จากที่เหยาเผิงพูด ทุกครั้งเส้นทางการเดินเรือของโจรสลัดพวกนี้ไม่แน่นอน ลงมือแบบไม่มีแบบแผน ครั้งก่อนปล้นเรือสินค้า ครั้งนี้กลับปล้นเรือสำราญ ดังนั้นเหยาเผิงจึงตั้งใจซื้อตั๋วเรือสำราญให้มู่เซิ่งและตัวเอง เตรียมออกเดินทาง

มู่เซิ่งไม่ได้ให้ความสำคัญกับอะไรพวกนี้ พยักหน้าตอบตกลงไปอย่างนั้น