บทที่ 281 ยืดเส้นยืดสาย

บทที่ 281 ยืดเส้นยืดสาย

“โกงหรือ? ไม่มีทางหรอก!” เสี่ยวปาพูดเสียงเย็น

ความรู้สึกนี้ทำให้ต้วนซิงกั๋วรู้สึกอึดอัดมาก

“ลุกขึ้น!”

“ต้วนซิงกั๋วใช่ไหม? นายบอกมาเลยว่าคิดยังไง หลังจากนี้จะยังทำหนังสือหายอยู่ไหม?”

เสี่ยวปาอยู่ในช่วงเสียงแตกหนุ่ม ถึงจะไม่น่าฟัง แต่ตอนที่เขาพูดมันเต็มไปด้วยความมั่นใจ!

ต้วนซิงกั๋วอาศัยอำนาจมาตั้งหลายปี จะรับความรุนแรงนี้ได้อย่างไรกัน?

เขามองไปรอบ ๆ ถึงจะอายที่ต้องนอนคว่ำ แต่รอบข้างก็มีแค่พวกลูกน้องที่ดูอยู่

และตะโกนด่าทอเสียงดัง “พวกแกตายกันหมดแล้วหรือไง? ทำไมไม่เข้ามาด้วยกันเลยล่ะ?”

ต้วนซิงกั๋วรวบรวมเด็กหัวโจกหลายสิบคนไว้รอบตัว และคนพวกนั้นก็ตกใจจังหวะที่เสี่ยวปาทุ่มต้วนซิงกั๋วลงกับพื้น

ต้วนซิงกั๋วคิดว่าถ้าไอ้พวกนี้เข้ามาด้วย ต่อยกันคนละมัดก็สามารถจัดการเสี่ยวปาได้

แต่เสี่ยวปาไม่คิดว่าต้วนซิงกั๋วจะขัดขืนขนาดนั้น เขาจึงออกแรงที่เท้ามากกว่าเดิม

ต้วนซิงกั๋วที่รู้สึกถึงแรงกดทับบนหลังก็ตะคอกออกมา

“นายควรฟังฉันนะ ไม่งั้นเท้าฉันคงไม่เชื่อฟังหรอก!” เสี่ยวปาพูดเสียงเย็นเยียบ

ไม่มีใครสังเกตว่าเสี่ยวปากระแทกเท้าอย่างแรง

ต้วนซิงกั๋วไม่เชื่อ เขาเอ่ยปากด่าด้วยน้ำเสียงที่ย่ำแย่มาก

เสี่ยวปาเหมือนจะอ่อนโยนนะ แต่เป็นคนที่ไร้ความปรานี ทั้งยังใส่พลังส่วนหนึ่งไปที่ต้วนซิงกั๋วด้วย

คนใต้ฝ่าเท้ากรีดร้องในทันที

ไอ้เลวนี่มันแกร่งขนาดไหน เหยียบลงมาทีกระดูกแทบจะแตกแล้ว

“ไอ้เตี้ย แกกล้าดียังไงมาทรมานพี่ต้วนแบบนี้!” ในที่สุดก็มีคนตอบสนองได้เสียทีว่าหัวหน้ากลุ่มโดนทรมานอยู่

ว่าจบแล้วก็พุ่งตัวเข้าไป

เสี่ยวปามองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา “งั้นก็เข้ามาพร้อมกันเลย ถ้าไม่เข้ามาก็หลบไปข้าง ๆ ซะ เห็นพวกนายแล้วรำคาญลูกหูลูกตา!”

อย่ามากวนจะได้ไหม? อุตส่าห์ได้มาเรียนทั้งทียังโดนเจ้าพวกนี้เอาไปอีก!

เสี่ยวจิ่วหงุดหงิดมากเหมือนกัน คนพวกนี้มาดอมดมอยู่ได้ เหมือนแมลงวันเลย

พวกเราสองคนกำลังตั้งใจเรียนอย่างหนัก

เรียนชั้นเดียวกับน้องเล็ก แถมยังเห็นอีกว่าน้องผลการเรียนดีกว่าพวกเขามาก จะไม่ให้รู้สึกอายได้อย่างไร?

คนหลายคนมองหน้ากัน และเข้าใจความหมายที่เขาจะสื่อ

พวกเขาตั้งใจที่จะเอาชนะซูเสี่ยวปาตามที่ต้วนซิงกั๋วกล่าวไว้

คนจำนวนมากลงมือร่วมกันไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะตัวเล็กหรือเปล่า

แต่ไม่คิดว่าก้าวไปแค่สองก้าวก็โดนเสี่ยวจิ่วหยุดไว้

“แกอยากจะสู้ด้วยหรือ?”

“ไม่สู้หรอก ๆ ฉันเป็นคนมีการศึกษานะ!” เสี่ยวจิ่วยิ้ม

“งั้นก็อย่ามาขวางพวกเรา!”

“พี่แปดกับต้วนซิงกั๋วกำลังกระชับมิตร พวกนายอย่าเข้าไปยุ่งเลย”

คนฝั่งตรงข้ามถึงกับนิ่งอึ้ง นี่เรียกว่ากระชับมิตรหรือ? เห็นชัด ๆ ว่าโดนจัดการอยู่ฝ่ายเดียวเนี่ยนะ?

“ออกไปให้พ้น!”

“ไปได้ก็เอาสิ จะยื้อฉันได้สักเท่าไรกัน?” เสี่ยวจิ่วพูดออกมาตรง ๆ

ทุกคนไม่คิดว่านอกจากเสี่ยวปาจะสู้ได้ เสียวจิ่วก็กล้าออกหน้ามาด้วย

หรือว่าเสี่ยวจิ่วจะสู้ได้เหมือนกัน?

คนที่ต้วนซิงกั๋วนำมากลัวทันที

เห็นวิธีการของเสี่ยวปาแล้ว พวกเขาไม่กล้าประเมินเสี่ยวจิ่วต่ำเลย

เพราะเลี้ยงมาจากครอบครัวเดียวกัน ใครจะไปรู้ว่าใช้ความรุนแรงกันขนาดไหนน่ะ!

คนบ้านซูมันเป็นคนอย่างไรเนี่ย แต่ละคนเรียนดีไม่พอยังสู้ได้อีกหรือ?

“พวกเราไม่ ไม่สู้…” เสียงคนพูดสั่นเครือมาก

ต้วนซิงกั๋วไม่คิดเลยว่าคนของตนจะกลัวไอ้เด็กเหลือขอคนนี้ น่าอับอายเหลือเกิน

แต่ตอนนี้ตนลืมไปเสียสนิทเลยว่ากำลังถูกเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า น่าอายกว่าอีก

เฝิงเสียงอวี่ยืนอยู่ข้างซูเสี่ยวเถียน และรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

ต้องแบบนี้สิ พี่ชายบ้านซูมีทักษะที่แท้จริง!

เขามองเสี่ยวเถียนอย่างครุ่นคิด ไม่รู้ว่าสมาชิกบ้านซูคนไหนมีพลังมากกว่ากัน

“ต้วนซิงกั๋ว ตอนนี้ไม่มีใครอยู่แล้ว พวกเรามากระชับมิตรดีไหม?” พอเห็นเสี่ยวจิ่วขวางทุกคนไว้ เสี่ยวปาก็ถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม

แต่เสี่ยวเถียนหมดความอดทนแล้ว พวกเขาทำอะไรเนี่ย? ลีลาไปทำอะไร?

“พี่แค่ต่อยไปตรง ๆ ก็พอแล้ว พูดอะไรเยอะแยะมากมาย!”

มัวแต่รอพูดอยู่ได้ ต่อยให้มันเสร็จ ๆ ก็จะได้กลับห้องไว ๆ ไปอ่านหนังสือไม่ดีหรือไง?

พูดอะไรก็พูดไปเถอะ ต่อยไปให้มันจบ ๆ

ถ้าหมัดเดียวไม่พอก็สองหมัด ต่อยจนกว่าจะยอมก็พอ

ต้วนซิงกั๋วไม่คิดว่าเลยว่ายังจัดการกับเสี่ยวปาไม่ทันเสร็จเรียบร้อย ก็มีสาวน้อยอีกคนปรากฏตัวขึ้น

แถมยังบอกให้คนที่เหยียบเขาอยู่ไม่ต้องพูดมากแล้วต่อยเขาด้วย

ขณะที่กำลังจะเอ่ยปากด่าสวนกลับไป แต่ก็โดนสายตาอาฆาตจ้องมองมา

เพราะสัมผัสได้ถึงมัน แล้วเขาจะกล้าพูดมันออกไปได้อย่างไร?

ถ้าพูดอีกครั้ง คนที่เหยียบเขาอยู่คงทำให้กระดูกหลังของเขาหักได้

ตอนที่ครูใหญ่กัวเข้ามา นี่คือฉากที่เขาเห็น

สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ ต้วนซิงกั๋วที่ทำให้โรงเรียนวุ่นวายกำลังนอนอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเสี่ยวปา?

แถมอีกอย่างหนึ่งคือยังเชื่อฟังมาก ไม่กล้าส่งเสียงแม้แต่ประโยคเดียว

ที่จริงเสี่ยวปาอยากจะปล่อยแล้วล่ะ แต่อยากให้ต้วนซิงกั๋วทนทุกข์อีกหน่อย

แต่ในฐานะครูใหญ่ พอเห็นแบบนี้ ถ้าเขาไม่พูดอะไรบ้างก็คงจะไม่ดีสักเท่าไร

ถ้าคนนอกรู้เข้า จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของโรงเรียนแน่นอน

“ไอ๊หยา นักเรียนกำลังทำอะไรกันเนี่ย? ฝึกต่อสู้กันอยู่งั้นหรือ?”

ครูใหญ่กัวทำท่าทำทางสนใจการแสดง รอยยิ้มบนใบหน้าเหมือนคนมีเล่ห์เหลี่ยมเยอะ

พวกนักเรียนรอบ ๆ ก็แสดงออกว่านี่คือการฝึกต่อสู้เหมือนกัน

ส่วนคนอื่น ๆ ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร เห็นชัด ๆ ว่ากำลังพูดเรื่องไร้สาระออกมาตรง ๆ ในเมื่อกล้าถาม อีกคนก็กล้าตอบ

“โรงเรียนเราควรจะมีการออกกำลังกายแบบนี้เหมือนกันนะ ไม่ควรมุ่งเน้นไปที่การเรียนเท่านั้น แต่การฝึกฝนสมรรถภาพทางกายก็สำคัญด้วย” คำพูดของครูใหญ่เรียกได้ว่าเพื่อให้เกิดความยุติธรรม

สายตาคนรอบข้างแทบจะกระตุก

พวกเขาต่างสงสัยว่า ครูใหญ่ตรงหน้าใช่ครูใหญ่คนเดิมหรือเปล่า?

มองอย่างไรถึงเห็นว่าเป็นการฝึกสู้กระชับมิตร?

นี่มันต่อสู้กันชัด ๆ

แต่ใครจะกล้าพูดล่ะ?

ไม่มีใครกล้าหรอก!

พวกนักเรียนเอาแต่ดู ไม่กล้าพูดอะไรเลย

ล้อกันเล่นหรือเปล่า ต้วนซิงกั๋วว่าจัดการยากแล้ว แต่พี่น้องบ้านซูกลับยากยิ่งกว่า เห็นแบบนี้จะไม่ให้พวกลูกน้องแตกตื่นกันได้อย่างไร?

เสี่ยวจิ่วไหลตามน้ำ “ครูใหญ่ครับ พวกเราเอาแต่ยุ่ง ๆ เรื่องเรียน ร่างกายก็เลยแย่ลง เลยต้องยืดเส้นยืดสายสักหน่อย!”

ยืดเส้นยืดสาย?

ครูใหญ่สงสัยว่าได้ยินผิดหรือเปล่า

อีกอย่าง ยืดเส้นยืดสายอย่างไรให้มีคนนอนอยู่ใต้เท้า?

ต้วนซิงกั๋วไม่ใช่พวกชอบเสียเปรียบ เขาอยากฟ้องและให้ครูใหญ่พาออกไปจากฝ่าเท้าอันชั่วร้าย เขาพยายามขยิบตาหลายครั้ง แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่เห็นเลย

สุดท้ายการแข่งขันมวยปล้ำกระชับมิตรก็จบลงด้วยดี ครูใหญ่กัวกล่าวสอนก่อนจะให้เสี่ยวปาเป็นคนชนะไป