บทที่ 312 ยื้อโทษหมอพิษฟาง

ความจริงแล้วเว่ยจื่ออั๋งเองก็คิดถึงบิดาเช่นกัน แต่เพราะในวันธรรมดาเขามักจะยุ่งกับการเรียนในสำนักศึกษา หลังจากบิดากลับมาที่ชิงเหอนั้นก็ได้พบกันเพียงแค่ครั้งเดียว ตอนนี้แม้เว่ยจื่ออั๋งจะโตแล้ว แต่ในหัวใจยังคงโหยหาบิดาเสมอ

สองพ่อลูกพูดคุยกันได้สักพัก เด็กหนุ่มรู้ว่ามารดาของเขากำลังรอบิดาอยู่ จึงไม่คิดรบกวนเวลาของพวกเขา โดยบอกกับบิดาว่าตัวเองง่วงนอนแล้วขอตัวก่อน เมื่อคล้อยหลังบุตรชายเว่ยฉิงก็รีบมุ่งหน้าไปที่ห้องนอนใหญ่ เมื่อเปิดประตูเข้าไปด้านใน พบว่าถังลี่นั่งอยู่ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง

ถังลี่สวมชุดคลุมสีขาวมีผ้าคาดเอวเรียวบาง

ตอนที่นางกำลังถอดปิ่นทันทีที่ได้ยินเสียงประตูเปิดออกก็รู้ว่าเป็นผู้ใด นางจึงไม่ได้หันกลับไปมอง เว่ยฉิงเดินมาที่ด้านหลังมองใบหน้างดงามที่สะท้อนอยู่ในกระจก เป็นใบหน้าที่เขาคิดถึงและโหยหามาตลอด

“ฮูหยิน ให้ข้าช่วยนะ” เว่ยฉิงพูดเบา ๆ

ได้ยินเช่นนั้นถังหลี่จึงละมือออก เว่ยฉิงเป็นคนที่มือใหญ่และแรงเยอะเหมาะกับการต่อสู้ ทำให้ไม่คุ้นชินกับงานที่ต้องเบามือเช่นนี้ เขาค่อย ๆ ถอดมันออกอย่างระมัดระวังเพราะกลัวจะเกี่ยวรั้งเส้นผมจนทำให้นางเจ็บ ร่างกายของเขาแข็งเกร็งทำให้ถังหลี่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะกับท่าทางของเขา สีหน้าของชายหนุ่มดูจริงจังราวกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่แสนร้ายกาจ นางสัมผัสได้ถึงหัวใจที่อ่อนโยนของชายคนนี้ พลันหัวใจของนางก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา เขาดึงผ้าที่ผูกผมของนางให้คลายออก เส้นผมสีดำแผ่สยายลงมา ทำให้ใบหน้าของถังหลี่ดูเล็กลง

“ฮูหยิน ข้าทำได้” เว่ยฉิงพูดอย่างมีความสุข

ถังหลี่ยืนขึ้น ชายหนุ่มโอบกอดนางจากด้านหลัง เขาโน้มตัวลงกอดเอวของภรรยา รอบเอวของถังหลี่นั้นบอบบางจนเขาสามารถจับได้ด้วยฝ่ามือข้างเดียว ตัวของนางมีกลิ่นหอมมาก ในตอนนั้นเองถังหลี่ก็คว้ามือที่เริ่มซุกซนของเขาเอาไว้

“เว่ยฉิง หมอฟางถูกจับได้แล้ว คงไม่มีเด็กคนไหนเจอเรื่องเช่นนี้อีกแล้ว” ถังหลี่กล่าว

นางมีความสุขและรู้สึกโล่งใจเมื่อหมอฟางโดนจับ หากเรื่องดำเนินไปเหมือนในนิยายที่เคยอ่าน หมอฟางจะใช้พิษเปลี่ยนคนให้เป็นซากศพเดินได้ที่ไม่รู้ว่าจะคร่าชีวิตคนอีกมากเท่าไหร่ และเมือง ๆ หนึ่งก็คงต้องสูญสิ้น…

แต่หลังจากที่หมอยาพิษคนนี้ถูกจับ เด็กบริสุทธิ์และชาวบ้านก็จะรอดชีวิตไม่ต้องพบเจอการกระทำชั่วช้าเช่นนั้นอีกต่อไป

“คนผู้นี้สมควรถูกประหาร” เว่ยฉิงพูด

“เขาฆ่าคนไปมากมาย สมควรที่จะได้รับโทษตามกฎหมายอย่างสาสมและทรมาน” การให้เขาตายเลยนั้นเป็นสิ่งที่มีเมตตาเกินไป ชายคนนั้นสมควรที่จะตายอย่างช้า ๆ ด้วยความทรมาน นางพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของสามี หวังว่าต่อจากนี้จะไม่มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นอีก

เมื่อจูบของเว่ยฉิงประทับลงที่ริมฝีปากของนาง หัวสมองของถังหลี่ก็ขาวโพลน

…..

ภายในห้องของโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มรูปร่างผอมเพรียวยืนหันหลังให้กับประตู ด้านหลังของเขามีชายชุดดำสองคนกำลังคุกเข่าเนื้อตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัวอย่างหนัก

“นายท่านขอรับ… ตอนที่ข้าน้อยไปถึง หมู่บ้านแห่งนั้นก็ถูกเผาจนไม่มีอะไรเหลือแล้วขอรับ”

“ยา? สูตรยาล่ะ?” ชายคนนั้นพูดขึ้น น้ำเสียงของเขาแม้ฟังดูอ่อนโยนแต่ก็แฝงไว้ด้วยความเย็นชา

“คือ…หมอฟางถูกทางการจับตัวไป ตอนนี้ถูกขังอยู่ในคุกขอรับ” ชายชุดดำตัวสั่น

ชายหนุ่มคนนั้นหันกลับไป ทำให้เห็นใบหน้าที่ดูหล่อเหลาดูสง่างาม คนผู้นี้คือรุ่ยอ๋อง จ้าวชูนั่นเอง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาน่ากลัว เมื่อได้ยินคำรายงาน เขาก็ขว้างจอกชาในมือไปหาชายชุดดำ

“ไม่ได้เรื่อง!” แผนที่เขาวางมาหลายปีได้พังทลายลงแล้ว!

ยาพวกนั้นหายไป ไม่เหลือแม้กระทั่งวิธีปรุงยา!

“มันโดนจับได้อย่างไร?” จ้าวรุ่ยชูถาม

หมู่บ้านแห่งนี้มีทางเข้าที่ลึกลับซับซ้อน เขามั่นใจว่าจะไม่มีทางถูกค้นพบได้แน่ ดังนั้นจึงไม่ได้ส่งคนไปคอยเฝ้าระวังเอาไว้

“ก่อนหน้านี้นักฆ่าหกคนถูกส่งให้ไปขโมยลูกของแม่นางคนหนึ่งที่ชื่อว่าถังหลี่แต่ถูกจับได้ หลังจากนั้นอู่อวี้ก็ตามเบาะแสจนเจอหมู่บ้านขอรับ” ชายชุดดำรายงาน

ถังหลี่….

เขาจำชื่อนี้ได้

ในตอนที่เขากำลังเดินทางจากเมืองหลวงมายังชิงเหอ ได้ยินว่าอู่เสี่ยวโหวกำลังหลงรักแม่หม้ายคนหนึ่ง เขาแค้นที่อู่อวี้มาแทนเขาจึงได้ส่งนักฆ่าไปชิงตัวบุตรของนาง…

เขาต้องการแก้แค้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่คาดว่าจะกลายเป็นต้นเหตุของความล้มเหลวในครั้งนี้! จ้าวชูหายใจเข้าลึกเพื่อระงับอารมณ์โกรธของตัวเอง

ถังหลี่…อู่อวี้ ข้าจะจำชื่อพวกเจ้าเอาไว้!

โชคดีที่หมอยาพิษผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อคนยังอยู่ อย่างไรเสียก็สามารถปรุงยาขึ้นมาได้อีกครั้ง

…..

หมอได้ตรวจร่างกายของพวกเด็กๆ แล้ว ทำให้รู้ว่าพวกเขามีอาการบาดเจ็บไม่เท่ากัน โชคดีที่ยังไม่หนักหนาจนถึงขั้นรักษาไม่ได้ หากได้รับการดูแลอย่างดีก็จะปลอดภัย สงสารก็แต่คนทดลองเหล่านั้น ไม่ว่าหมอคนใดต่างบอกว่าไม่มีหนทางรักษา

ใต้เท้าเหวินสั่งติดประกาศไปทั่วเมืองชิงเหอว่าตอนนี้พวกเขาได้คลี่คลายคดีและพบเด็กที่ถูกลักพาตัวไปแล้ว วันถัดมาพวกบิดามารดาที่ลูกถูกลักพาตัวต่างทยอยมาที่ศาลาว่าการ บางคนเมื่อได้พบหน้าลูกก็แทบจะคุกเข่าคำนับเจ้าหน้าที่ แต่บางคนก็ต้องกลับไปด้วยความผิดหวัง ความรู้สึกของพวกเขาจมดิ่งสู่ความมืดมิดอีกครั้ง

นอกจากนี้มีเด็กบางคนที่ครอบครัวได้เจอกับอุบัติเหตุทำให้ไม่มีใครมาอ้างสิทธิ์ในตัวเด็ก

ในส่วนนี้ใต้เท้าเหวินก็จัดหาที่อยู่ให้แก่พวกเขา

ทว่า ในตอนนี้สิ่งที่ตึงมือที่สุดคือคนที่ถูกนำมาทดลองให้กลายเป็นซากศพ…

ผู้ที่เป็นซากศพกว่าสามสิบชีวิต มีผู้ปกครองกว่าสิบสองคนมาอ้างสิทธิ์ แต่เมื่อเห็นบุตรหลานกลายสภาพเป็นเช่นนี้ความสุขที่มีก็จมดิ่งลงสู่ความทุกข์อีกครั้ง บุตรของพวกเขากลายเป็นสภาพเหมือนซากศพเดินได้เช่นนี้ต้องทุกข์ทรมานมากเพียงใด!

“นายท่าน ได้โปรดช่วยลูกของข้าด้วยขอรับ”

“ใต้เท้าได้โปรด ข้าตามหาเขามาเป็นสิบปี ก่อนที่ปู่เขาจะเสียเขายังคิดถึงหลานคนนี้เสมอ ตอนจากไปเขาเสียใจมากที่ไม่ได้เจอหลานคนนี้””

“นายท่าน ได้โปรดให้ลูกของข้าตื่นขึ้นมาด้วยเถอะ”

แม้จะมีเหตุผลว่าหมอฟางควรถูกตัดสินโทษประหาร แต่เมื่อบิดามารดาของเด็กเหล่านี้ได้ข่าวว่าเขาคือคนเดียวที่จะช่วยลูกๆ ได้ พวกเขาจึงรวมตัวกันขอร้องว่าอย่าเพิ่งประหารหมอยาพิษผู้นั้นเลย ให้รอจนกว่าทุกคนจะหายแล้วค่อยลงโทษเขาภายหลัง

ท้ายที่สุดแล้วเพื่อเห็นแก่สามสิบชีวิต ใต้เท้าเหวินเจ้าเมืองชิงเหอ ก็ยื้อโทษประหารชีวิตของหมอยาพิษออกไปก่อน เพื่อให้สามสิบชีวิตนี้มีที่พึ่งพิง เมื่อหมอฟางได้ยินเช่นนั้นก็หยิ่งผยองทันที เขายื่นข้อแลกเปลี่ยนว่าหากจะให้ช่วยคนสามสิบชีวิตนี้ตัวเขานั้นต้องได้ออกจากคุกและได้รับการดูแลอย่างดี เขาฉวยโอกาสนี้ยื่นข้อเรียกร้องอื่น ๆ อีกเป็นจำนวนมาก

หมอฟางเป็นคนจิตใจคับแคบและเต็มไปด้วยความแค้น แน่นอนว่าโอกาสนี้แหละที่เขาจะได้แก้แค้นนางผู้หญิงแพศยาหลิวหลานที่ทรยศเขา!

หมอฟางจึงยื่นข้อเสนอว่าให้ใต้เท้าเหวินปล่อยตัวหลิวหลานออกมาเพื่อเป็นผู้ช่วยเขา ทำให้ใต้เท้าเหวินโมโหมากจนอยากจะฆ่าหมอฟางทันที แต่หากทำเช่นนั้นสามสิบกว่าชีวิตเล่า จะทำอย่างไร?

“ใต้เท้าเหวิน ข้าเองก็ลืมบอกท่านอย่างหนึ่ง ตอนนี้เหลือเวลาครึ่งเดือน…หากพวกเขาไม่ได้รับยาถอนพิษ พวกเขาก็จะกลายเป็นเช่นนี้ตลอดไป ไม่มีทางรักษาได้” หมอฟางขู่ด้วยรอยยิ้ม

ยามนี้ใบหน้าของใต้เท้าเหวินมืดครึ้มลงด้วยความโกรธ