บทที่ 344 เปิดเผยฐานะ

เสียงเรียกเบา ๆ ทำให้ความโกลาหลที่หน้าประตูมลายหายไปในพริบตา

ชายหนุ่มที่เดิมนั่งอยู่บนหลังม้าโดยไม่สนใจสิ่งใด จู่ ๆ ก็เผยรอยยิ้มที่จริงใจออกมา จากนั้นก็กระโดดลงจากหลังม้า รวมถึงผู้คนที่อยู่ด้านหลังเขาต่างก็ลงมาจากหลังม้าเช่นกัน

ฉินเถี่ยซานยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเห็นเพียงยายแก่นั่นนั่งอยู่ตรงนั้น และก็เป็นลูกสมุนที่นางพามาที่กล้าลงมือกับเขา ดังนั้นเขาจึงตะโกนออกไป “จับเป็น! ข้าจะฆ่านางด้วยตัวเอง!!!”

ทว่าทันทีที่พูดจบ เขาก็ถูกเตะเข้าที่บั้นเอวอย่างแรงจนกระเด็นออกไป และถูกลากกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะพบว่าท่านข่านของถู่เจียเป็นคนทำ!

“ท่านข่าน! ท่านตีคนผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” ฉินเถี่ยซานไม่กล้าลงมือกับเขา ทำได้เพียงใช้มือบังหน้าของตัวเองเอาไว้

ทว่าชายหนุ่มแห่งทุ่งหญ้า ต่อให้สูงส่งเช่นท่านข่านก็ล้วนเป็นลูกผู้ชายที่เติบโตมาบนหลังม้า ดังนั้นทุกหมัดที่กระแทกลงไปจึงหาได้มีความเกรงใจไม่

“ข้าตีเจ้านั่นแหละ!”

ผู้ใต้บังคับบัญชาของฉินเถี่ยซานต่างก็ตกตะลึง แต่จู่ ๆ ก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งโผล่ออกมา เดิมพวกเขาก็สู้ไม่ได้อยู่แล้ว ตอนนี้แม้แต่พวกถู่เจียก็ยังมารุมตีพวกเขาด้วยอย่างนั้นหรือ? แล้วจะสู้อย่างไรกัน!

เพียงไม่นานคนกลุ่มนั้นก็หมอบลงกับพื้นด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว

จากนั้นถูลี่จึงได้สาวเท้าเดินเข้าไปหาเซี่ยวั่งซู น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความร้อนใจ “ท่านแม่!”

ฉินเถี่ยซานยังอยากกระโจนเข้าไป แต่เมื่อได้ยินประโยคนี้ก็หงายหลังทันที อะไรนะ!? เป็นองค์หญิงใหญ่ตัวจริงอย่างนั้นหรือ?

ใครบอกเขาได้บ้างว่าเหตุใดองค์หญิงใหญ่ถึงมาที่หลูโจวได้?!

ฉินเถี่ยซานไม่เชื่อ ดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองสองแม่ลูกเขม็ง เป็นตายอย่างไรก็ไม่เข้าใจ แต่ในขณะนั้นเองเงาอ้วนท้วนเงาหนึ่งจู่ ๆ ก็พุ่งมาหาเขา จากนั้นก็จิกลูกตาของฉินเถี่ยซานอย่างแรง ทำให้เขากลิ้งไปมากับพื้นด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะตาเหลือกและกระอักเลือดออกมา แล้วหมดสติไป!

เซี่ยวั่งซูผ่านความเป็นความตายมา คิดว่าจะกลับราชสำนักมาใช้ชีวิตยามแก่เฒ่าที่บ้านเกิดเมืองนอน แต่คิดไม่ถึงว่าเกือบจะต้องลาจากลูกชายไปชั่วนิรันดร์เสียแล้ว เมื่อเห็นเขาเดินมาหานาง ชั่วขณะหนึ่งราวกับได้เห็นภาพของสามีตัวเองอย่างไรอย่างนั้น ทำให้ขอบตาของนางแดงเรื่อขึ้นมาทันที

“ถูลี่” นางยื่นมือออกไปและเดินไปหาเขา ครู่เดียวก็ถูกถูลี่กอดเอาไว้ในอ้อมแขน

“ท่านแม่ ท่านทำให้ลูกเป็นห่วงมากเลยนะขอรับ!” ถูลี่เอ่ยจบก็พิจารณานางตั้งแต่หัวจรดเท้า “ท่านแม่ผอมลงมากเลยขอรับ”

น้ำเสียงของเขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก “ท่านอยู่ที่ถู่เจียของเราเป็นอัญมณีที่ล้ำค่าที่สุด กลับมาต้าจิ้น ฮ่องเต้นั่นให้ท่านสวมเสื้อผ้าเช่นนี้หรือขอรับ? ทั้งยังให้ท่านต้องมาโมโหเรื่องไม่เป็นเรื่องที่นี่อีกอย่างนั้นหรือขอรับ?! ไม่ได้ ท่านแม่ ท่านต้องกลับไปกับข้าเดี๋ยวนี้เลยขอรับ”

ไมตรีระหว่างสองแคว้นอะไรกัน พันธมิตรแบบนี้ไม่มีก็ไม่เป็นไร!

ก่อนท่านพ่อจะเสียได้จับมือเขาเอาไว้และขอให้เขาสาบานว่าจะดูแลท่านแม่แทนท่านพ่อให้ดี แต่ท่านพ่อกลับต้องทนมองดูท่านแม่มาตกระกำลำบากที่ต้าจิ้น ถูลี่จึงรู้สึกโมโหขึ้นมาจนอยากจะยกกองทัพมาทำลายต้าจิ้นให้ราบคาบเสียเดี๋ยวนี้

เซี่ยวั่งซูรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องโมโหมาก “ห้ามพูดว่าเสื้อผ้าชุดนี้ไม่ดี เสื้อผ้าชุดนี้แม้จะราคาถูก แต่ทุกฝีเข็มล้วนมาจากใจ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องนี้ แม่เห็นเจ้าสบายดี แม่ก็สบายใจแล้ว”

ถูลี่ขมวดคิ้วแน่น คณะทูตของถู่เจียที่อยู่ด้านหลังต่างก็คารวะให้กับเซี่ยวั่งซู พลางเอ่ยเรียกไทเฮาสามครั้ง

ความจริงแล้วหลายปีมานี้ถู่เจียได้เรียนรู้วัฒนธรรมจงหยวนมาไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องในราชสำนัก แต่คนที่หวังอยากจะได้จงหยวนก็มีไม่น้อย ข่าวที่องค์ชายใหญ่รับสมัครทหารและซื้อม้าทางเหนือ เซี่ยวั่งซูเองก็รู้เช่นกัน

นอกจากนี้เขายังมีฉายาว่าท่านข่านใหญ่ อาศัยที่อายุมากกว่าถูลี่ จึงคิดที่จะตั้งตัวเป็นอิสระ ทว่าถูลี่ยังสามารถวางเรื่องของถู่เจียมาตามหานางด้วยตัวเองได้ นางที่เป็นแม่ก็พอใจมากแล้ว

“ลุกขึ้นเถอะ! ถูลี่ แม่จะแนะนำคนหนึ่งให้เจ้ารู้จัก อาฉือมานี่มา!”

เผยจี้ฉือที่ติดตามเซี่ยวั่งซูมาตลอด ตอนนี้ก็ได้เดินมาตรงหน้านาง พลางพิจารณาถูลี่อย่างตั้งใจ

“ถูลี่อายุมากกว่าพ่อเจ้า เจ้าต้องเรียกเขาว่าท่านลุง”

ถูลี่มองหนุ่มน้อยตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยด้วยความสงสัย “ท่านแม่ นี่เป็นเด็กของตระกูลเซี่ยหรือขอรับ?”

เซี่ยวั่งซูไม่ได้ตอบตรง ๆ เพราะไม่อยากให้เซี่ยเจินฉวยโอกาสเนื่องจากมีฐานะเป็นปู่ของอาฉือ จึงเอ่ยขึ้นมา “เขาคือพระราชนัดดา เป็นเด็กดีมาก ตอนที่ข้ามีภัยก็ได้ครอบครัวของพวกเขาช่วยข้าเอาไว้ จนถึงตอนนี้ก็ยังดูแลข้าอยู่ หากไม่มีแม่ของเขา เกรงว่าเจ้าคงไม่ได้พบแม่แล้ว”

ถูลี่ได้ยินดังนั้น ท่าทีที่มีต่ออาฉือก็เปลี่ยนไปทันที “เด็กดี ต่อไปเจ้าก็คือหลานของข้า หากมีคนรังแกเจ้า จำไว้ให้มาบอกลุงได้เลย”

ชายหนุ่มแห่งทุ่งหญ้ายึดถือมิตรภาพของพี่น้อง ช่วยแม่ของเขาก็ถือเป็นผู้มีพระคุณของเขาด้วย

ดูเหมือนว่าตระกูลเซี่ย ยังมีคนที่พอคบหาได้อยู่เหมือนกัน

พวกเสิ่นหงเหวินที่ซ่อนตัวอยู่ในโรงน้ำชาใกล้ ๆ คิดไม่ถึงว่าองค์หญิงใหญ่จะปราบฉินเถี่ยซานได้อย่างง่ายดาย!บราวนี่ออนไลน์

จางหยวนเฉียวส่งเสียงชิชะออกมา “ข้าบอกเจ้าแล้วว่าเจ้าไม่ต้องกังวล องค์หญิงใหญ่ไม่ใช่คนที่ทำอะไรบุ่มบ่าม”

เดินหนึ่งก้าว ก็คิดไปถึงสามก้าวแล้ว ดูตอนนี้สิ จัดการทุกอย่างได้เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่!?

จัดการนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ทำให้ฉินเถี่ยซานตกหลุมพรางได้แล้ว ทั้งยังพาลูกของนางกลับมาส่งอีกด้วย มีคนช่วยเหลือเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งแรงแล้ว

แต่ตอนนี้เสิ่นหงเหวินไม่ได้กำลังชมว่าองค์หญิงใหญ่คาดการณ์แม่นยำเพียงใด แต่…ในที่สุดเขาก็คิดออกแล้วว่าเหตุใดเผยจี้ฉือถึงดูคุ้นหน้าเพียงนี้!

พระราชนัดดา ทายาทของตำหนักบูรพา! ใบหน้าคล้ายกับอดีตองค์รัชทายาทเซี่ยอวี้เพียงนี้ เขาบอกแล้วว่าเคยเห็นมาก่อน

เมื่อคิดว่าองค์หญิงใหญ่พาพระราชนัดดามาพบท่านข่านแห่งถู่เจียเช่นนี้ คนสมองช้าอย่างเสิ่นหงเหวินก็ค่อย ๆ ได้สติขึ้นมา

แต่เขาดีใจอย่างมาก หากองค์หญิงใหญ่สามารถสนับสนุนพระราชนัดดาจนขึ้นครองราชย์ได้ มีกษัตริย์ที่ทรงห่วงใยราษฎร เข้าใจความทุกข์ยากของราษฎรเช่นนี้ ต้าจิ้นยังจะต้องกังวลอะไรอีก!

เขาทนลำบากเรียนหนังสือมาหลายปี ก็เพื่อต้องการจะรับใช้กษัตริย์ที่มีพระปรีชาญาณไม่ใช่หรือ!?

“มัวอึ้งอะไรอยู่ องค์หญิงใหญ่เรียกหาเจ้าอยู่นะ” จางหยวนเฉียวผลักเสิ่นหงเหวินที่ยืนอึ้งอยู่ออกไป

ผู้คนบนถนนต่างปิดประตูและหน้าต่างกันไปนานแล้ว เพราะกลัวว่าจะเป็นภัยต่อตัวเอง แต่เวลานี้เมืองหลูโจวที่ซบเซากลับทำให้เสิ่นหงเหวินรู้สึกมีความหวังมากที่สุด

เพราะเขาตระหนักได้ว่า ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงของราชวงศ์ต้าจิ้นกำลังจะมาถึง และเขาก็คือสักขีพยาน

เซี่ยวั่งซูทักทายเขาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยกับถูลี่ “นี่ก็คือผู้ว่าการของหลูโจว เสิ่นหงเหวิน ที่แม่มาครั้งนี้เพราะได้คุยกันท่านตาของเจ้าเอาไว้แล้วว่าจะร่วมเป็นร่วมตายกับเมืองหลูโจว ลูกแม่ เจ้ายินดีที่จะร่วมต่อสู้กับแม่หรือไม่?”

ถูลี่ไม่เข้าใจเรื่องเขื่อนอะไรนั่น แต่เขารู้ว่าสิ่งที่ท่านแม่ของตัวเองตัดสินใจ ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน

“ลูกย่อมยินดีอยู่แล้วขอรับ”

“ดี! พาคณะทูตกลับที่ว่าการกับแม่ก่อน ศึกที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้น”

พระราชนัดดาปรากฏตัวที่หลูโจว นางจะให้ทั้งสองแคว้นรู้ว่าเซี่ยฉือยังมีชีวิตอยู่ เซี่ยเจินต่อให้อยากจะปิดบังอย่างไรก็ไม่สามารถปิดบังได้อีก

และให้ขุนนางและประชาชนทั้งใต้หล้าได้เห็น ว่าพระราชนัดดาพระองค์นี้เหมาะสมกับตำแหน่งเพียงใด

ขณะเดียวกัน หมู่บ้านตระกูลเฉิน

“ตรงนี้ใส่ของเรียบร้อยแล้ว”

“ทางเจียงหนานก็ส่งข่าวกลับมาแล้ว กลุ่มกองเรือสกัดกั้นข้าวสารและสมุนไพรได้จำนวนมาก ถึงเวลาจะส่งไปที่หลูโจวเลยขอรับ”

“หลูโจวตอนนี้น้ำขึ้น อย่าลืมเตือนพวกเขาว่าทางที่ดีให้เปลี่ยนวิธีเดินทางมาใช้ทางบกแทน” จี้จือฮวนปิดสมุดบัญชี จำนวนของที่ปล้นมาจากเมืองหลวงในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ดูเหมือนจะเพียงพอสำหรับการซ่อมเขื่อนแล้ว

เอี๋ยนเฉาที่กินตีนเป็ดตุ๋นอยู่ข้าง ๆ ได้ยินดังนั้นก็ลุกขึ้นพลางเอ่ยออกมา “เช่นนั้นถึงเวลาแล้วใช่หรือไม่ขอรับ?”

จี้จือฮวนเงยหน้ามองฟ้า “ปล่อยข่าวออกไปได้แล้ว ต้องล่องูออกจากถ้ำ เจ้าเองก็อย่าเอาแต่กิน หาเวลาไปที่มั่นบนเขาของเป่ยป้าเทียน แสดงละครของเจ้าต่อไปด้วยล่ะ”

.