บทที่ 343 จับเต่าในไหนั้นง่ายนิดเดียว

ฉินเถี่ยซานรู้สึกตกใจกับความเจริญอาหารของนกเหยี่ยวล่าเหยื่อตัวนั้นเป็นอย่างมาก รูปร่างช่างอวบอิ่มอย่างหาได้ยากยิ่งนัก และเมื่อเขาสบกับดวงตาที่ราวกับนกอินทรีของชายรูปงามผู้นั้น ก็ต้องหลุบตาลงด้วยความตกใจ

อย่างไรเสียก็เป็นท่านข่าน ความน่าเกรงขามที่แผ่ออกมาจึงหาได้ยากยิ่ง

“ฉินเถี่ยซาน แม่ทัพประจำเมืองหลูโจวคารวะท่านข่าน ท่านข่านเดินทางมาไกล ภายในเมืองหลูโจวได้เตรียมที่พักรับรองเอาไว้แล้ว ขอเชิญท่านข่านเข้าเมืองเถอะพ่ะย่ะค่ะ!”

อาฉื่อน่าถูลี่ไม่ขยับ แต่กลับพิจารณาทหารที่ฉินเถี่ยซานพามาตั้งแต่หัวจรดเท้า

เขาเคยเห็นทหารของต้าจิ้นที่ซีเป่ย พวกเขายืนมั่นคงราวกับต้นสน ไม่มีท่าทางเหลาะแหละและไม่มีความน่าเกรงขามของทหารเช่นนี้ ฉินเถี่ยซานผู้นั้นแม้แต่การคารวะก็ยังทำผิด ๆ ถูก ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงทหารอันธพาลที่อยู่ด้านหลังเขา บางคนก็กำลังถูจมูกอยู่ แม้แต่ชุดเกราะก็ยังสวมไม่เรียบร้อยอีกด้วย

ดูก็รู้ว่าไม่เคยออกรบ ยามปกติก็คงจะละเลยการฝึกซ้อมด้วย

แม้ว่าต้าจิ้นจะไม่ใช่แคว้นของเขา แต่ก็เป็นบ้านเกิดของเสด็จแม่ ถูลี่ย่อมมีความรู้สึกรักต้าจิ้นไม่น้อย ตอนเขาเป็นเด็กได้รับความรักและการเลี้ยงดูจากเสด็จพ่อกับเสด็จแม่มาโดยตลอด ดังนั้นจึงมักจะได้ยินเสด็จแม่พูดถึงภูเขาและแม่น้ำที่งดงามของต้าจิ้นอยู่เสมอ ทว่าสิ่งที่เขาเห็นตอนนี้ช่างน่าผิดหวังยิ่งนัก

หมูเหยี่ยวล่าเหยื่อส่งเสียงร้องออกมา ขยับปีกขึ้นเตรียมจะบิน พร้อมกับพองขนขึ้นมาราวกับจะเข้าไปจิกตาของฉินเถี่ยซานอย่างไรอย่างนั้น

ถูลี่ยื่นมือออกไปปลอบมันเล็กน้อย เจ้านกเหยี่ยวล่าเหยื่อตัวนี้เข้าใจการสื่อสารกับมนุษย์แต่กลับดุร้ายเป็นอย่างมาก เมื่อครู่ตอนที่มันถลาลงมาจากท้องฟ้า นักธนูฝีมือดีของถู่เจียต่างก็ยิงธนูเข้าใส่มัน ทว่ามันกลับสามารถหลบหลีกได้อย่างคล่องแคล่ว จากนั้นมันก็บินวนอยู่เหนือศีรษะของเขา จนกระทั่งถูลี่ยืดแขนออกไป มันจึงได้บินลงมาด้วยความเย่อหยิ่ง และส่งจดหมายที่เสด็จแม่ของเขาเขียนให้กับเขา

แม้เขาจะประหลาดใจกับการหายตัวไปของเสด็จแม่ แต่เมื่อได้รับจดหมายที่เป็นลายมือของนาง โดยบอกว่าตอนนี้นางอยู่ที่เมืองหลูโจว และขอให้เขาตามนกเหยี่ยวล่าเหยื่อตัวนี้เพื่อมาหานาง

ภายในใจของถูลี่จึงมีความสุขมากกว่าผิดหวัง

แน่นอนว่าในจดหมายเซี่ยวั่งซูยังกล่าวถึงเรื่องสกปรกในเมืองหลูโจวเอาไว้อีกด้วย และบอกให้เขาระวังเจ้าหน้าที่ของเมือง ส่วนรายละเอียดรอเขามาถึงแล้วค่อยคุยกัน

ดังนั้นเมื่อเห็นฉินเถี่ยซานที่ยังคงก้มตัวอยู่และแทบจะทนไม่ไหว ถูลี่จึงค่อย ๆ เอ่ยออกมา “ลำบากแม่ทัพฉินแล้ว”

ทันทีที่เอ่ยปากเขากลับใช้ภาษาทางการของต้าจิ้นได้อย่างคล่องแคล่ว

ฉินเถี่ยซานถอนหายใจด้วยความโล่งอกพลางแอบคิดภายในใจว่า เจ้าพวกคนถ่อยเหล่านี้ช่างวางท่าใหญ่โตจริง ๆ ดังนั้นจึงไม่พูดอะไรที่เป็นการเสียเวลาอีก ตอนนี้เขาต้องรีบกลับเข้าเมือง และไปจัดการองค์หญิงใหญ่ตัวปลอมนั่นต่างหากที่สำคัญที่สุด

หนีปู้เช่อขุนนางใกล้ชิดข้างกายของถูลี่–อี้ชุ่น เห็นต้าจิ้นส่งแม่ทัพเช่นนี้มาต้อนรับพวกเขา ก็เกิดความรู้สึกไม่พอใจ “ท่านข่าน ข้าว่าฮ่องเต้ต้าจิ้นผู้นี้ไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตาเลยนะพ่ะย่ะค่ะ”

[ตำแหน่งขุนนางบางตำแหน่งของถู่เจียจะเรียกว่า เช่อ / การปกครองแบบสืบราชสมบัติทั้งหมดถูกปกครองด้วยตระกูลอาฉื่อน่า ต่อไปนี้ผู้เขียนจะไม่เอ่ยถึงแซ่ของฝั่งถู่เจียอีก เพื่อเป็นลดทอนคำให้สั้นลง]

ถูลี่รู้ว่าระหว่างทางที่ผ่านมาอี้ชุ่นไม่พอใจกับสิ่งที่พบเจอในต้าจิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไทเฮาที่สูงส่งของพวกเขากลับแคว้น ทว่ากลับเจอนักฆ่าลอบสังหารระหว่างทางจนหายสาบสูญ และให้ราชทูตกลับไปทั้งอย่างนั้น ดังนั้นการที่เขาทิ้งภารกิจที่ถู่เจียเพื่อมาต้าจิ้นในครั้งนี้ ก็เพื่อมาขอคำอธิบาย

“ไม่แน่อาฉื่อน่าหลู่อาจอาศัยตอนที่พวกเราไม่อยู่ทำอะไรลับหลังก็ได้ ข้าว่าท่าทีของฮ่องเต้ต้าจิ้น หาได้เห็นพวกเราอยู่ในสายตาไม่นะพ่ะย่ะค่ะ” เมื่ออี้ชุ่นคิดถึงเรื่องที่ราชสำนักถู่เจียมีคนที่เลอะเลือนเช่นองค์ชายใหญ่อยู่ ก็กลัวว่าการที่พวกเขามาที่นี่จะเป็นการเดินมาเข้าปากเสือเสียเอง

ถูลี่จึงเอ่ยปลอบขึ้นมา “อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้เลย ไทเฮาส่งจดหมายมาให้ข้าแล้ว อีกไม่นานก็จะได้พบกันแล้ว”

อี้ชุ่นแม้จะรู้สึกประหลาดใจ แต่ว่าเขาเชื่อฟังถูลี่อย่างมาก เมื่อได้ยินดังนั้นก็โค้งคำนับให้เขาขณะนั่งอยู่บนหลังม้า แล้วจึงขี่ม้าไปอยู่ด้านหลังถูลี่ บราวนี่ออนไลน์

ฉินเถี่ยซานกำลังคิดว่าต้องพูดอะไรกับเขาสักหน่อย เพียงแต่ทุกครั้งที่หันกลับไปนกเหยี่ยวล่าเหยื่อนั่นก็จะอ้าปากใส่เขาทันที ทำราวกับว่าอยากจะกินเขาอย่างไรอย่างนั้น จึงทำให้เขาพูดไม่ออกขึ้นมา

ถูลี่ย่อมไม่มีทางเป็นฝ่ายสนใจเขาก่อนอยู่แล้ว ฉินเถี่ยซานเองก็ตัดสินใจเรียบร้อยแล้วเช่นกัน

เมื่อใกล้ถึงประตูเมือง เขาจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่ามีเรื่องเกิดขึ้นภายในเมืองหลูโจว จากนั้นก็จะให้คนที่เขาส่งกลับไปล่วงหน้าแสร้งทำเป็นมารายงานว่าในเมืองหลูโจวมีคนปลอมเป็นองค์หญิงใหญ่

เพราะนั่นเป็นถึงแม่แท้ ๆ ของท่านข่านผู้นี้ รอเขาพิโรธและส่งกองกำลังเข้าเมืองด้วยตัวเอง เช่นนั้นยังจะสามารถประจบเขาได้อีกด้วย ไม่อย่างนั้นหากทิ้งเขาไว้ด้านนอกแล้วเข้าเมืองไปเอง หากเกิดความวุ่นวายขึ้นมาราชสำนักก็ต้องโทษเขาน่ะสิ

ฉินเถี่ยซานคำนวณทุกอย่างเอาไว้อย่างรอบคอบ ถึงเวลาก็โยนความผิดทั้งหมดให้กับเจ้าเมิ่งซื่อที่ไร้ประโยชน์นั่น ส่วนเขาก็ยังสามารถอยู่อย่างสุขสบายในเมืองหลูโจวได้ดังเดิม เป็นแม่ทัพใหญ่ เป็นผู้นำทหารของตัวเอง ใช้อำนาจบาตรใหญ่ได้อย่างเต็มที่

เมื่อคิดดังนั้นฉินเถี่ยซานก็รู้สึกคันไม้คันมือขึ้นมา เพราะการแสดงอำนาจต่อหน้าท่านข่านของถู่เจีย ไม่ใช่โอกาสที่จะหาได้ง่าย ๆ

และก็เป็นไปตามที่ฉินเถี่ยซานวางแผนไว้ เมื่อใกล้ถึงประตูเมืองคนที่เขาเตรียมเอาไว้ก็รีบพุ่งเข้ามา บอกว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในเมืองหลูโจว

ฉินเถี่ยซานชักดาบยาวในมือออกมา “เจ้าโจรชั่วช่างกล้าดียิ่งนัก ถึงกับกล้าปลอมเป็นองค์หญิงใหญ่ ท่านข่านได้โปรดรออยู่ที่นี่ก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมขอไปจัดการโจรเหล่านั้นก่อน”

ถูลี่หรี่ตาลง มองฉินเถี่ยซานที่อยากจะควบม้าจากไปเต็มแก่ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา “หืม? ในเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับไทเฮาแห่งถู่เจียของเรา ขอแม่ทัพฉินนำทางด้วย ให้ข้าได้ไปเปิดหูเปิดตาเสียหน่อย”

ฉินเถี่ยซานอึ้งไปเล็กน้อย “เอ่อ ท่านข่าน กระบี่ไม่มีตา…หากว่าทำให้ท่านได้รับบาดเจ็บขึ้นมา”

ทันทีที่สิ้นเสียงของฉินเถี่ยซาน เหล่านายพลข้างกายของถูลี่ก็ชักอาวุธในมือของตัวเองออกมา พลางมองมาทางเขาด้วยท่าทางดุดัน แต่ละคนดั้งโด่งตาคม รูปร่างกำยำ ใบหน้ายังมีรอยสักอีกด้วย จากนั้นเขาก็มองไปที่หัวหน้ากองทหารฝ่ายตัวเอง ช่างเป็นทหารที่ไร้กฎระเบียบจริง ๆ

“ข้าจะให้คนไปช่วยแม่ทัพฉินอีกแรง ท่านจะปฏิเสธข้าอย่างนั้นหรือ?” ถูลี่เอ่ยถาม

ฉินเถี่ยซานสะอึก “มิกล้า ๆ เชิญท่านข่านตามกระหม่อมมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”

เรื่องมาถึงขั้นนี้ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ขอเพียงแค่จับคนที่ปลอมเป็นองค์หญิงใหญ่ได้ ก็นับเป็นการสร้างความดีความชอบเช่นกัน!

ฉินเถี่ยซานประเมินเอาไว้อยู่แล้ว เสิ่นหงเหวินผู้นั้นสามารถจับกุมคนได้ ต้องสมคบคิดกับโจรภูเขาหรือไม่ก็คนอื่นเป็นแน่ แต่ทหารของเขาบวกกับคนของถู่เจียจะเข้าเมืองไม่ได้หรืออย่างไร?

ดังนั้นตอนที่เขารีบเข้าไปในเมืองหลูโจว และตะโกนว่าจะเอาหัวของนางโจรแก่นั่น ก็ถูกทหารเกราะเหล็กที่ดักซุ่มอยู่ที่นั่นดึงลงจากหลังม้าทันที เขาไม่ทันรู้ตัวเลยแม้แต่น้อย

ฉินเถี่ยซานกลิ้งไปกับพื้นสองตลบ อย่างไรเสียก็ยังพอมีความสามารถอยู่บ้าง จึงลุกขึ้นมาตะโกนเสียงดังลั่น ก่อนจะพุ่งเข้าไปต่อสู้กับเหล่าทหารเกราะเหล็ก

ส่วนทหารม้าของถู่เจียที่บอกว่าจะช่วยเขา กลับเอาแต่นั่งนิ่งอยู่บนหลังม้า

ถูลี่มองไปที่กลุ่มคนที่พุ่งตัวออกมาอย่างกะทันหัน ดวงตาฉายแววชื่นชม คนเช่นนี้ถึงจะสมควรถูกเรียกว่าทหาร เมื่อเห็นผู้ใต้บังคับบัญชาของฉินเถี่ยซานถูกกดและถูไปกับพื้น ไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้ตอบโต้ ทหารม้าของถู่เจียก็รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก

“ต้าจิ้นของพวกเจ้าแสดงละครให้คณะทูตของพวกเราดูหรืออย่างไร!”

“ได้ยินว่าละครลิงของจงหยวนสนุกยิ่งนัก วันนี้ดูแล้วก็ไม่เสียแรงที่พวกเรามาที่นี่วันนี้”

มีคนเริ่มพูดจาเย้ยหยันอย่างโจ่งแจ้ง

ถูลี่มองไปด้านข้างเล็กน้อย ทันใดนั้นนกเหยี่ยวล่าเหยื่อที่อยู่บนแขนของเขาก็ส่งเสียงร้องยาวขึ้นมา จากนั้นก็ขยับปีกบินไปที่ประตูเมือง

ก่อนจะเห็นว่าประตูบานใหญ่ที่เดิมเปิดอ้าไว้เล็กน้อยถูกเปิดออกพร้อมกันทั้งสองด้าน หญิงชราที่นั่งดื่มชาและอาบแดดอยู่กลางถนน กำลังมองมาที่พวกเขาด้วยรอยยิ้ม

“ถูลี่”