บทที่ 280 กุ้ยซื่อยอมรับผิด

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 280 กุ้ยซื่อยอมรับผิด

“โอ้ ป้ากุ้ย คำพูดนี้ไม่ใช่แล้ว ท่านใส่ร้ายข้าได้ แต่ข้าใส่ร้ายท่านไม่ได้อย่างนั้นหรือ? ลูกสาวท่านเป็นคน แล้วข้ากู้เสี่ยวหวานไม่ใช่คนอย่างนั้นหรือ?” กู้เสี่ยวหวานกล่าวประโยคสุดท้ายด้วยสีหน้าเย็นชา นางตะโกนเสียงดังและทั้งร่างกายของนางก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง

หัวใจของกุ้ยซื่อเต้นแรง และเมื่อนางเห็นท่าทีเช่นนี้ของกู้เสี่ยวหวานและไม่สามารถต้านทานได้ ถ้าไม่ขอโทษในวันนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้เรื่องที่ลูกสาวคนโตของตนกำลังคบกับเด็กหนุ่มผู้หนึ่งคงจะถูกเปิดเผย

กุ้ยซื่อกัดฟันด้วยความโกรธ กู้เสี่ยวหวานไม่คิดว่าเรื่องที่นางจะพูดเช่นนั้น จะทำให้นางยอมรับความพ่ายแพ้ “ตกลง ข้าจะไปเดินรอบ ๆ หมู่บ้านสามครั้งและขอโทษเจ้า!”

ถ้าไม่ยอมก้มหัวลง ก็ไม่รู้ว่ากู้เสี่ยวหวานจะกล่าวอะไรออกมาอีก และไม่รู้ว่าเรื่องของกุ้ยชุนเจียวกับเด็กหนุ่มผู้นั้นจะถูกกู้เสี่ยวหวานพบเห็นมากน้อยแค่ไหน

นางเคยเตือนกุ้ยชุนเจียวแล้วว่าอย่าคบหากับเด็กหนุ่มผู้นั้นอีก แต่ไม่เคยคิดเลยว่าชุนเจียวจะชอบเด็กหนุ่มที่ร่ำรวยผู้นั้นมากขนาดนี้ และเด็กหนุ่มยังชอบซื้อของมาให้กุ้ยชุนเจียวอีก

จริง ๆ เลย…

กุ้ยซื่อกระทืบเท้าด้วยความโกรธ แต่นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมแพ้

เมื่อเห็นกุ้ยซื่อก้มศีรษะลงเพื่อสารภาพความผิด นี่จึงรู้ได้ว่าเป็นการใส่ร้ายป้ายสีของกุ้ยซื่อจริง ๆ ไม่เช่นนั้นนางจะไม่ทำเช่นนี้

“กุ้ยซื่อ ทำไมเจ้ายังไม่รีบไปอีก!” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงรู้ว่าการใส่ร้ายครั้งนี้ล้มเหลว เขาจึงเร่งเร้ากุ้ยซื่อทันที ที่นี่มีผู้อาวุโสอยู่จำนวนมาก ถ้าตนเองยังไม่แสดงท่าทีอะไรก็จะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างแน่นอน

สีหน้าของผู้อาวุโสหลายคนที่มาดูไม่สงบนิ่ง เดิมทีพวกเขาต้องการมาเพื่อประณามจริง ๆ แต่ความชอบธรรมของกู้เสี่ยวหวานได้สอนพวกเขา กุ้ยซื่อผู้นี้สมควรโดนสั่งสอนสักที ข่าวลือดังกล่าวสามารถแพร่กระจายได้โดยไม่กลัวที่จะถูกตัดลิ้น

หลังจากที่ผู้อาวุโสหลายคนหารือกัน ผู้ที่อายุมากที่สุดก็กล่าวกับกู้เสี่ยวหวานด้วยท่าทีขออภัย “สาวน้อยกู้ ขออภัยจริง ๆ วันนี้พวกข้าจะเดินรอบหมู่บ้านสามรอบกับกุ้ยซื่อเพื่อชดใช้ให้เจ้า และพวกเราได้หารือกันแล้วว่า กุ้ยซื่อผู้นี้จะเดินแค่หนึ่งรอบก็ไม่ได้หรือจะตะโกนเสียงเบาก็ไม่ได้เช่นกัน เจ้าวางใจได้ พวกเราจะให้ความยุติธรรมแก่เจ้าอย่างแน่นอน”

กู้เสี่ยวหวานรีบโค้งคำนับ แสร้งทำเป็นซาบซึ้งและกล่าวว่า “ขอบคุณมากผู้อาวุโสทุกท่าน”

“เฮ้อ ถ้าหากพวกเราเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ จะทำให้สาวน้อยผู้นี้คับข้องใจถึงขนาดไหน!”

“ไม่เป็นไรผู้อาวุโส เรียนรู้จากความผิดพลาด พ่อแม่ของข้าเคยสอนมาก่อน”

“เฮ้อ น่าเสียดายที่เจ้าสองและเถียนซื่อจากไปเร็วเกินไป ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าคงไม่มีช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงกล่าวด้วยท่าทีอวดดี

กู้เสี่ยวหวานเยาะเย้ยในใจ แต่นางไม่ได้หักล้างคำพูดของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง พวกนางยังคงต้องอยู่ในหมู่บ้านอู๋ซี ถ้าเกิดไปล่วงเกินหัวหน้าหมู่บ้านก็คงไม่มีผลดีอะไร

กู้เสี่ยวหวานแสร้งทำน่าสงสารและกล่าวว่า “ขอบคุณทุกท่านและหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง ข้ารู้สึกขอบคุณมากที่ทุกท่านสามารถล้างมลทินให้ข้าได้ในวันนี้”

ทุกคนหยุดพูดและกระตุ้นกุ้ยซื่อ “กุ้ยซื่อ ยังไม่รีบไปอีก!”

กุ้ยซื่อไม่กล้าที่จะต่อต้านผู้อาวุโสเหล่านี้ ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงจ้องไปที่กู้เสี่ยวหวานอย่างโกรธจัดก่อนจะเดินจากไป

กู้เสี่ยวหวานรอให้พวกเขาทั้งหมดเดินจากไป จากนั้นจึงพ่นลมอย่างเย็นชา

เรื่องที่กล่าวกับกุ้ยซื่อเมื่อสักครู่นี้ กู้เสี่ยวหวานก็ฟังมาจากกู้หนิงผิงอีกที ในวันนั้นกู้หนิงผิงไปที่แม่น้ำเพื่อหาบน้ำและบังเอิญเห็นกุ้ยชุนเจียวที่มาซักผ้าพอดี และห่างออกไปไม่ไกลก็มีเด็กหนุ่มกำลังเล่นน้ำอยู่

กู้หนิงผิงไม่ชอบกุ้ยซื่อ และกุ้ยชุนเจียวก็มีนิสัยเหมือนกับแม่ของนางไม่มีผิด ดวงตาของนางมองตรงไปข้างหน้า และไม่ได้สนใจกู้หนิงผิงเลย

กู้หนิงผิงที่ตักน้ำเสร็จพอดีก็กลับไป

เมื่อเขากำลังจะหันหลังกลับ กู้หนิงผิงก็เหลือบมองกลับมา

เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มอยู่ห่างจากกู้ชุนเจียวเพียงครึ่งหมี่ ทั้งสองดูสนิทสนมกันมาก กู้หนิงผิงไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดกัน แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาน่าจะคุ้นเคยกันมากพอสมควร

กู้หนิงผิงไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มผู้นั้นเป็นใคร แต่ไม่ใช่คนในหมู่บ้านอย่างแน่นอน

เมื่อกู้หนิงผิงกลับมา เขาก็เล่าเรื่องสนุกนี้ให้กู้เสี่ยวหวานฟัง เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินก็ไม่ได้คิดสิ่งใดมาก

แต่วันนี้กู้เสี่ยวหวานต้องปกป้องตนเอง นางจึงเล่าเรื่องในวันนั้นแบบเกินจริงไปเสียหน่อย เมื่อเห็นท่าทีที่ราวกับเห็นผีของกุ้ยซื่อ เรื่องนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าสองคนนั้นที่กู้หนิงผิงเห็นคงไม่ใช่แค่รู้จักกันแน่นอน

ดูเหมือนว่ากุ้ยซื่อก็คงจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ กู้เสี่ยวหวานก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ในที่สุดเรื่องนี้ก็ได้รับการแก้ไข และสามารถรับกู้หนิงผิงกับกู้เสี่ยวอี้กลับมาบ้านได้

ป้าจางและลุงจางอยู่ที่บ้าน และฉือโถวกำลังเล่นกับกู้หนิงผิงและกู้เสี่ยวอี้อยู่ เพราะเมื่อวานกู้เสี่ยวหวานบอกให้ป้าจางพากู้หนิงผิงไปและไม่ให้พวกเขากลับบ้าน ป้าจางตอบตกลงและมองดูพวกกู้หนิงผิงทั้งสองคนต่อไป

กู้เสี่ยวหวานไม่ต้องการให้กู้หนิงผิงรู้เรื่องนี้

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความบริสุทธิ์ของหญิงสาว พูดตามตรง กู้เสี่ยวหวานมีความคิดค่อนข้างทันสมัยจึงไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก กู้เสี่ยวหวานต้องการสั่งสอนและให้นางกล่าวขอโทษ จากนั้นจึงปล่อยให้กุ้ยซื่อไปฟื้นฟูชื่อเสียงของนางก็พอแล้ว

แต่ถ้ากู้หนิงผิงอยู่ที่นี่ ด้วยความที่เขาเป็นคนอารมณ์ร้อน ไม่รู้ว่าเขาจะสร้างปัญหามากแค่ไหน ดังนั้นนางจึงส่งกู้หนิงผิงออกไป เพื่อไม่ให้เขาเห็นเหตุการณในวันนี้

และกู้เสี่ยวอี้ เรื่องสกปรกพรรค์นั้น กู้เสี่ยวหวานไม่ต้องการให้กู้เสี่ยวอี้ได้รับรู้ กู้เสี่ยวอี้นั้นยังเด็กเกินไป นางจึงยังไม่เข้าใจในเรื่องราวเหล่านั้น รอให้นางโตกว่านี้ก่อนแล้วกู้เสี่ยวหวานจะค่อย ๆ สอนนางเอง

ทั้งเช้าวันนี้ ลุงจางและป้าจางก็ไม่ได้สานกล่องไม่ไผ่ เมื่อทั้งคู่มองหน้ากันก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร แต่เมื่ออยู่ต่อหน้ากู้หนิงผิง ทั้งคู่จึงไม่ได้กล่าวอะไรออกมา

รอจนกู้หนิงผิงไปอีกด้าน ลุงจางจึงลดเสียงของเขาและกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “สาวน้อยเสี่ยวหวานจะจัดการเรื่องนี้ได้หรือไม่?”

แม้ว่าป้าจางรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว แต่นางก็ยังกังวลอยู่เล็กน้อย นางกลัวว่ากู้เสี่ยวหวานที่เป็นเพียงเด็กผู้หญิงจะไม่สามารถรับมือกับหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงผู้ชั่วร้ายได้

แต่เมื่อคิดถึงท่าทางที่มั่นใจของกู้เสี่ยวหวานเมื่อวานนี้ นางก็ต้องเชื่ออีกครั้ง ป้าจางพยักหน้าและกล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล สาวน้อยเสี่ยวหวานจะจัดการกับมันได้อย่างแน่นอน”