พอเฉินฮวนฮวนกับติงเซียงกลับไปถึงห้องเรียน เฉินชิงอวิ้นก็เริ่มสอนแล้ว
เฉินฮวนฮวนเคาะประตู แล้วพูดอย่างรู้สึกผิด “ขอโทษนะคะครูเฉิน หนูมีธุระนิดหน่อย เลยมาเรียนสายค่ะ”
“ไม่เป็นไร ครูรู้ เข้ามาเถอะ” เฉินชิงอวิ้นพยักหน้าให้ ไม่ได้ถามอะไรมาก แต่ในใจกลับรู้สึกสงสัย
เรื่องของเฉินฮวนฮวนกับหลินอวี่หยาง เธอได้ยินฉินฟางพูดแล้ว แต่ที่เธอสงสัยคือ ผู้หญิงธรรมดาๆอย่างเฉินฮวนฮวน กล้าทำแบบนั้นกับหลินอวี่หยางได้ยังไง?
ไม่กลัวโดนไล่ออกเหรอ?
เฉินฮวนฮวนก้มหน้า รู้สึกไม่สบายใจที่มาสาย จึงรีบลากติงเซียงกลับไปที่ตัวเอง แล้วเริ่มเรียน
กับเรื่องของหลินอวี่หยาง จัดการผ่านไปง่ายๆแบบนี้ เฉินฮวนฮวนรู้สึกมหัศจรรย์มาก เหมือนโชคชะตากำลังช่วยเธอ
นี่ดวงเธอเริ่มดีแล้วเหรอ?
แต่ว่า เธอเพิ่งสบายใจได้ไม่นาน พอเลิกคลาสสุดท้าย เธอจึงโดนหลินอวี่หยางดักหน้าห้องเรียนอีกครั้ง
“หลินอวี่หยาง เธอจะทำอะไรกันแน่?” สีหน้าเฉินฮวนฮวนไม่ดีเลย รู้สึกว่าหลินอวี่หยางจงใจหาเรื่อง
“ฉันไปถามครูกู้มาแล้ว เขาบอกว่าเขากับเธอแค่แลกเปลี่ยนความรู้กัน ฉันเข้าใจผิดเอง เธอพูดถูก ฉันไม่แยกแยะอะไรเลยแล้วใส่ร้ายเธอ” ท่าทางหลินอวี่หยางอ่อนน้อมมาก ยังโค้งให้เฉินฮวนฮวนอีก
เฉินฮวนฮวนจับหน้าผาก พูดอย่างหมดคำพูดว่า “ในเมื่อเธอรู้ว่าตัวเองผิดแล้ว งั้นก็ช่างเถอะ อีกหน่อยทางใครทางมัน คิดซะว่าเราไม่รู้จักกัน”
กับคุณหนูที่เอาแต่ใจชอบใช้ความรุนแรงแบบนี้ เฉินฮวนฮวนไม่อยากเกี่ยวข้องด้วยเลย
“ไม่ได้!” หลินอวี่หยางขวางทางเธอไว้ แล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันบอกแล้วไง ฉันจะเป็นเพื่อนกับเธอ เธอจะให้ฉันคิดว่าไม่รู้จักได้ยังไง?”
“ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอ” เฉินฮวนฮวนเหลือบมองเธอด้วยสีหน้าเย็นชา พูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น
“เธอ……” หลินอวี่หยางโดนคนอื่นตบครั้งแรก แล้วโดนปฏิเสธเป็นเพื่อนครั้งแรกด้วย
“ถอยหน่อย ฉันจะกลับไปพักแล้ว” เฉินฮวนฮวนไม่ได้ออกกำลังหนักขนาดนี้นานแล้ว ตอนนี้ปวดเมื่อยมาก
หลินอวี่หยางไม่ยอมถอยให้ แต่กลับถามอย่างไม่อยากเชื่อ “ฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอจริงๆ เธอแน่ใจเหรอว่าจะไม่เป็นเพื่อนกับฉัน เธอไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร?”
“ฉันรู้ว่าเธอเป็นใคร คุณหนูตระกูลหลิน แต่ที่ฉันมาที่นี่ คือมาร่วมรายการ ไม่ได้มาหาเพื่อน ระหว่างฝึกอบรม ฉันแค่อยากตั้งใจฝึก” สีหน้าเฉินตามตื๊อฮวนเข้มงวดมาก
พูดจบ เธอก็จับมือติงเซียงไว้ เดินอ้อมหลินอวี่หยาง กำลังจะกลับไปที่หอพัก
หลินอวี่หยางไม่ยอม เธอดึงแขนเฉินฮวนฮวนไว้ แล้วพูดตรงๆว่า “ฉันรู้ว่าความสามารถเธอไม่เก่ง ถ้าเธอเป็นเพื่อนกับฉัน อย่างน้อยจากซีนของตัวฉันเอง ฉันก็พาเธอเข้าสามสิบอันดับแรกได้”
“ไม่ต้อง ฉันแค่อยากพึ่งตัวเอง เข้าไปถึงรอบไหน นั่นเป็นทางที่ฉันเดินเอง ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่น” เฉินฮวนฮวนปฏิเสธอย่างไม่ลังเล
ถ้าเธอต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่นจริง งั้นเธอคงยอมให้เฟิงหานชวนช่วยแล้ว ไม่รอถึงตอนนี้หรอก
สำหรับเธอ เธออยากพึ่งสมองกับความสามารถตัวเอง แล้วเข้ารอบให้ได้
เฉินฮวนฮวนปฏิเสธ ทำให้หลินอวี่หยางอึ้งไปเลย แล้วรู้สึกชื่นชมเธอมากกว่าเดิม
เฉินฮวนฮวนไม่สนใจเธอ แล้วรีบดึงติงเซียงไปด้วยกัน
ตอนที่กลับหอพัก ติงเซียงกลับร้อนใจแทน “ฮวนฮวน เธอปฏิเสธหลินอวี่หยางทำไม? เขามีแฟนคลับ มีประเด็นร้อน แถมที่บ้านยังรวยอีก เขาจะเป็นเพื่อนกับเธอ มีแต่ข้อดีไม่มีข้อเสียนะ!”
ที่เฉินฮวนฮวนสู้กลับหลินอวี่หยาง ติงเซียงก็เตรียมใจแล้วว่าเธอต้องโดนไล่ออก แต่เฉินฮวนฮวนกลับได้อยู่ต่อ แล้วหลินอวี่หยางยังมาตามตื๊ออีก
แล้วตอนนี้ ถ้าเฉินฮวนฮวนตกลงเป็นเพื่อนกับหลินอวี่หยาง ถ้าอย่างนั้น เธอเป็นเพื่อนเฉินฮวนฮวน ก็จะได้ตีสนิทหลินอวี่หยางด้วย แล้วจะได้เป็นเพื่อนเขาด้วย
ถ้าได้เป็นเพื่อนกับหลินอวี่หยาง ก็ถือว่าเธอได้เกาะบริษัทหวงเทียนด้วย นั่นเป็นความฝันของผู้หญิงหลายๆคนเลยล่ะ
แต่ว่า เฉินฮวนฮวนปฏิเสธ!
ตอนนี้ติงเซียงงงมาก ไม่รู้ว่าเฉินฮวนฮวนคิดอะไรอยู่!
“เซียงเซียง ฉันแค่อยากพึ่งตัวเอง ไม่อยากพึ่งคนอื่น ไม่ว่าจะเพื่อน หรือว่าใครก็ตาม” เฉินฮวนฮวนถอนหายใจ แล้วเงยหน้ามองท้องฟ้า
บนท้องฟ้า มีแต่ความมืดมน ไม่มีดาวเลยสักดวง แม้แต่พระจันทร์ก็ไม่เห็น
อยู่ดีๆ เฉินฮวนฮวนก็รู้สึกเศร้า
สิ่งที่คุณยายเกลียดที่สุดคือดนตรี แต่หลังจากที่คุณยายเสียไปแล้ว เธอกลับมาเดินเส้นทางนี้
เขาว่ากันว่า ถ้าคนเราตายไปแล้วจะกลายเป็นดาวบนท้องฟ้าแล้วมองคนที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่เธอไม่เห็นดาวเลย เพราะคุณยายไม่อยากมามองเธอเหรอ?
“ฮวนฮวน เธอเป็นอะไร?” ติงเซียงรู้สึกว่าเธอผิดปกติ จึงถามอย่างสงสัย “เธอดูเหมือนไม่ค่อยมีความสุข หลินอวี่หยางจะเป็นเพื่อนกับเธอ ก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีนะ!”
“ไม่ใช่เพราะหลินอวี่หยาง ฉันไม่เป็นอะไร แค่คิดถึงบ้านมั้ง” เฉินฮวนฮวนแอบเช็ดหางตา พยายามควบคุมน้ำตาไว้ จากนั้นจึงยิ้ม “เรากลับไปอาบน้ำนอนกันเถอะ”
พูดตามตรง เธอเหนื่อยมากๆ
ติงเซียงไม่ได้ถามอะไรอีก เธอรู้สึกว่าในใจเฉินฮวนฮวนแอบซ่อนเรื่องอะไรอยู่ เหมือนหมอกควัน ที่จับต้องไม่ได้
……
พอกลับไปถึงหอพัก ต่อแถวอาบน้ำเสร็จแล้ว เฉินฮวนฮวนจึงนอนลงบนที่นอนที่เคยเป็นของเกาเหวิน
ตอนที่เธอกำลังจะหลับตานอน แต่ผู้หญิงคนอื่นในหอพักกลับเม้าท์มอยกัน
“ฉันจะบอกพวกเธอ วันนี้ครูซูไปขอภาพกล้องวงจรจากคุณหนีซวง บอกว่าจะเช็กผู้ชายที่ไปจากที่นี่ตอนเย็นคนนั้น แต่ว่า……” จ้าวซีหยุดพูด
“แต่ว่าอะไร? เธอรีบพูดสิ!” หัวหน้าหอพักฉิวอิ๋งรีบถาม เพราะผู้ชายคนนั้นตรงสเปกเธอเลย
“ใช่ เสี่ยวซี เธออย่าเสียเวลาเลย ฉันอยากรู้มากว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร” หวังซูเหม่ยก็ถามอย่างใจร้อน
ติงเซียงกับเฉินเจี๋ยก็อยู่ในวงด้วย ทั้งหอพัก มีแค่เฉินฮวนฮวนคนเดียวที่ไม่พูดอะไรเลย
พวกเธอก็ไม่ได้สนใจเฉินฮวนฮวน เพราะความสัมพันธ์จ้าวซีกับเฉินฮวนฮวนไม่ค่อยดี เพราะจ้าวซีเป็นคู่อริของเกาเหวิน เพราะฉะนั้นพอเฉินฮวนฮวนมาแทน พวกเธอจึงไม่ชอบด้วย
พูดตรงๆก็คือ เฉินฮวนฮวนไม่ได้ทำอะไรเลย ก็ทำให้จ้าวซีขัดหูขัดตาแล้ว
เพราะฉะนั้น เฉินฮวนฮวนจึงไม่ร่วมวงด้วย นี่ก็ถือว่าปกติ
“แต่ว่า เช็กอะไรไม่ได้เลย! คุณหนีซวงบอกว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนสำคัญ ไม่ให้ครูซูดู ยังบอกอีกว่าผู้ชายคนนั้นลบภาพกล้องวงจรหมดแล้ว” จ้าวซีรีบพูดอย่างตื่นเต้น “ดูเหมือนว่า ผู้ชายคนนั้นต้องเป็นคนมีอำนาจแน่ๆ”
“พวกเธอว่า หลินอวี่หยางรู้จักผู้ชายคนนั้นไหม? เธอเป็นถึงคุณหนูตระกูลหลิน โตมาในสังคมผู้ดี อาจจะรู้จักก็ได้?” หวังซูเหม่ยเสนอ
“นิสัยอย่างหลินอวี่หยาง ใครจะกล้าไปยุ่งด้วย เดี๋ยวหาเรื่องเปล่าๆ แล้วเหมือนหลินอวี่หยางก็ไม่เคยเห็นหน้าเขาด้วย!” ฉิวอิ๋งคิดไปมา แล้วส่ายหน้า
จ้าวซีมองไปมา ชี้เฉินฮวนฮวนที่อยู่ตรงข้าม แล้วพูดกับทุกคนว่า “ที่นี่มีแหล่งข่าวตัวเป็นๆแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“เฉินฮวนฮวน?” ผู้หญิงคนอื่นๆพูดพร้อมกัน