ตอนที่ 307 หมอกหนาทึบ

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

วัน​เวลา​ล่วงเลย​ไป​จน​เริ่ม​เข้าสู่​ช่วง​เหมันตฤดู​ ​อากาศ​ค่อยๆ​ ​เย็น​ลง​ ​นับวัน​ดอก​เบญจมาศ​ก็​ยิ่ง​ส่งกลิ่น​หอม​รัญจวน​ไป​ทั่ว

เจียง​ซื่อ​จำได้​ว่า​ ​ช่วง​รัช​ศก​จิ​่ง​หมิง​ปี​ที่​สิบ​เป็นช่วง​ที่​อากาศ​หนาวเย็น​เป็นพิเศษ

แม้นาง​จะ​มิใช่​คนที​่​มีความจำเป็น​เลิศ​ ​แต่​เพราะ​ใน​ปีนั​้น​เป็น​ปี​ที่นา​งอ​อก​เรือน​ ​แต่กลับ​กลายเป็น​ว่า​ต้อง​ใช้ชีวิต​อ้างว้าง​เพียงลำพัง​ ​ซ้ำร้าย​นาง​ยัง​ต้อง​เผ​ชิกั​บกา​รสูญ​เสีย​ทั้ง​พี่ชาย​และ​พี่สาว​ใน​ช่วงเวลา​ไล่เลี่ยกัน​ ​เมื่อ​นาง​หวนนึก​ถึง​ความทุกข์​แสนสา​หัส​ที่​ถาโถม​เข้ามา​ไม่หยุดหย่อน​ใน​ปีนั​้น​ ​นาง​พบ​ว่า​ภาพ​ที่​เกลื่อนกลาด​อยู่​ใน​ความทรงจำ​คือ​ความ​หนาวเหน็บ​และ​พายุ​หิมะ​ครั้ง​ใหญ่​ที่​ลอย​วน​อยู่​ใน​อากาศ

เดิมที​บรรยากาศ​ใน​จวน​ตง​ผิงปั​๋​วก​็​ไม่​สู้​ดี​อยู่​แล้ว​ ​ความ​เอื่อย​เฉื่อย​ที่​ไม่​อาจ​บรรยาย​ออกมา​เป็น​คำพูด​แทรกซึม​อยู่​จน​ทั่ว​ ​แม้​ถึง​เวลา​ที่​ต้อง​เปลี่ยน​อาภรณ์​เป็น​ชุด​ฤดูหนาว​ ​ภายใน​จวน​กลับ​ยัง​ไร้​ซึ่ง​ความเคลื่อนไหว

ตลอด​หนึ่ง​ปี​ที่ผ่านมา​ ​สิ่งเลวร้าย​ที่เกิด​ขึ้น​อย่าง​ไม่รู้​จัก​จบ​จัก​สิ้น​ทำให้​จวน​ตง​ผิงปั​๋​วที​่​อ่อนแอ​เป็น​ทุนเดิม​ทรุดโทรม​ลง​อย่าง​ไม่​อาจ​หลีกเลี่ยง

ใบ​ของ​ต้น​ไห่​ถัง​กลาง​สวน​ใน​เรือน​ไห่​ถัง​ร่วงโรย​จน​แทบจะ​หมด​ต้น​ ​เหลือ​ทิ้ง​ไว้​แต่​กิ่งก้าน​อ้อนแอ้น​ที่​พลิ้วไหว​ไป​ตาม​ลม​ ​เศษ​ใบไม้​สีเหลือง​แห้ง​กรอบ​ปลิด​ปลิว​เป็นครั้งคราว​ ​ให้​ภาพ​ของ​ผีเสื้อ​ที่​กำลัง​โบยบิน​อย่างไร​อย่างนั้น

เจียง​ซื่อ​เอื้อมมือ​ออก​ไป​จับ​ใบไม้​ที่​กำลัง​ร่วง​ลงมา​พลาง​นับวัน​เวลา​เงียบๆ​

“​คุณหนู​…​”​ ​อาหมาน​ผลัก​ประตู​หน้า​ลาน​และ​รีบ​วิ่ง​เข้ามา

หัวใจ​ของ​เจียง​ซื่อ​เริ่ม​เต้น​ไม่​เป็นจังหวะ

ใน​วันที่​น่าเบื่อหน่าย​เช่นนี้​ ​ท่าที​ร้อนรน​ของ​อาหมาน​ทำให้​นาง​มั่นใจ​ได้​ว่า​มี​ข่าวคราว​ใหม่​ๆ​ ​อย่างแน่นอน

และ​แล้ว​อาหมา​นก​็​นำ​ข่าวดี​มาดัง​ที่​คาด​ ​“​คน​ของ​คุณชาย​อวี​๋​แจ้ง​ว่า​คน​ของ​นายท่าน​จู​…​”

เมื่อ​ได้​เห็น​สายตา​เย็นชา​ของ​เจียง​ซื่อ​ ​อาหมา​นก​็​นึก​บางอย่าง​ขึ้น​มา​ได้​ ​นาง​กลืนน้ำลาย​อึก​หนึ่ง​ก่อน​จะ​บอก​ ​“​บ่าว​รับใช้​คน​นั้น​ของ​นายท่าน​จู​แอบ​ไป​ที่​เรือน​หลัง​หนึ่ง​ซึ่ง​อยู่​ห่างไกล​ออก​ไป​ ​และ​ใน​เรือน​หลัง​นั้น​มีส​ตรี​นาง​หนึ่ง​อาศัย​อยู่​ด้วย​เจ้าค่ะ​!​”

ใจ​ของ​เจียง​ซื่อ​พลัน​เต้น​แรง

การ​ที่​คนรับใช้​ของ​จู​จื่อ​อวี​้​แอบ​ไป​ที่​เรือน​หลัง​นั้น​ ​แน่นอน​ว่า​ต้อง​เป็น​คำสั่ง​จาก​ผู้​เป็น​นาย​ ​หรือว่า​คนที​่​ซ่อนตัว​อยู่​ที่นั่น​จะ​เป็นชู้​ของ​จู​จื่อ​อวี​้​?

นาง​อยาก​จะ​เห็น​หน้านา​งบำ​เรอ​ที่ซ่อน​ตัว​อยู่​ใน​รัง​รัก​นั้น​เสีย​จริง​!

เจียง​ซื่อ​ตัดสินใจ​ได้​อย่างรวดเร็ว​

นาง​ปลอมตัว​เป็นสาว​รับใช้​เพื่อ​จะ​ออก​ไปนอก​จวน​ ​แล้ว​ทิ้ง​ให้​อาหมาน​เฝ้า​รับ​กรรม​อยู่​ที่นี่

คนที​่​คอย​จับตาดู​ความเคลื่อนไหว​ของ​คนรับใช้​ของ​จู​จื่อ​อวี​้​คือ​องครักษ์​นาย​หนึ่ง​ของ​อวี​้​จิ​่น​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​เจียง​ซื่อ​มาถึง​แล้ว​ ​อวี​้​จิ​่​นก​็​สั่ง​ให้​เขา​ขึ้น​มา​ ​“​เล่า​สิ่ง​ที่​เจ้า​เห็น​มา​ให้​คุณหนู​เจียง​ฟัง​”

องครักษ์​ไม่กล้า​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ ​ก้ม​ศีรษะ​ค้อม​ต่ำ​ตาม​ขนบ​พลาง​รายงาน​ ​“​พวก​ข้ามี​กัน​สอง​คน​ ​คอย​สลับ​เวร​กัน​เฝ้า​บ่าว​รับใช้​คน​นั้น​ขอรับ​ ​โดยปกติ​แล้ว​เขา​จะ​ออกจาก​เรือน​สอง​ช่วงเวลา​คือ​ ​ตอนเช้า​ออก​ไป​ส่ง​คุณชาย​จู​ที่​สำนัก​ฮั่น​หลิน​ ​และ​ตอนเย็น​ออก​ไปรับ​คุณชาย​จู​กลับ​จวน​ขอรับ​ ​แต่เช้า​วันนี้​หลังจากที่​ส่ง​คุณชาย​จู​แล้ว​ ​เขา​ไม่ได้​เดิน​กลับ​ทาง​เดิม​ ​แต่กลับ​เดิน​อ้อม​ไป​อ้อม​มา​จน​มาถึง​เรือน​หลัง​หนึ่ง​ซึ่ง​อยู่​ห่าง​ออก​ไป​ขอรับ​ ​ข้า​แอบ​ปีน​กำแพง​เข้าไป​ดู​พบ​ว่า​ด้านใน​มีส​ตรี​นาง​หนึ่ง​อาศัย​อยู่​ ​อายุ​อานา​มน​่า​จะ​ราวๆ​ ​สิบห้า​สิบ​หก​ปี​ขอรับ​”

เจียง​ซื่อ​เอ่ย​ถามถึง​ลักษณะ​ภายนอก​ ​องครักษ์​เกา​หัว​แกรก​ๆ​ ​ก่อน​จะ​ตอบ​ ​“​หน้าตา​สะสวย​เอา​การ​เลย​ขอรับ​”​ ​ครั้น​กล่าว​จบ​ก็​หันไป​มอง​เจ้านาย​ด้วย​ท่าที​กระดากอาย

อวี​้​จิ​่น​หัวเราะ​พลาง​บอก​ ​“​อา​ซื่อ​ ​เจ้า​ถาม​เช่นนี้​เขา​ก็​ลำบากใจ​ ​ใน​สายตา​เจ้า​คน​พวก​นี้​ ​ต่อให้​เป็น​แม่​หมู​ก็​ยัง​บอกว่า​สวย​”

ใบหน้า​องครักษ์​ขึ้น​สีแดง​ระเรื่อ​ ​โมโห​แต่​ไม่กล้า​ตอบโต้​ ​“​พา​ข้า​ไปดู​หญิง​นาง​นั้น​ที​”

หาก​ยึด​สำนัก​ฮั่น​หลิน​เป็น​จุดกึ่งกลาง​ ​เรือน​หลัง​นั้น​จะ​อยู่​ใน​ทิศ​ตรงข้าม​กับ​จวน​จู​พอดิบพอดี​ ​แม้ว่า​จะ​ห่างไกล​แต่​ที่นั่น​ก็​คลาคล่ำ​ไป​ด้วย​ผู้คน​มากหน้าหลายตา

องครักษ์​นำ​อวี​้​จิ​่น​และ​เจียง​ซื่อ​ไป​หยุด​อยู่​หน้า​ประตู​เรือน​ธรรมดาๆ​ ​หลัง​หนึ่ง​ ​พลาง​กระซิบ​บอก​ ​“​ที่นี่​แหละ​ขอรับ​”

เจียง​ซื่อ​พิจารณา​ดูก่อน​จะ​เลิก​คิ้ว​เล็กน้อย

ประตู​บาน​นั้น​ทำ​มาจาก​ไม้​ ​สีเขียว​ที่​ใช้​ทาเคลือบ​ใน​ตอนแรก​หลุด​ลอก​ออกมา​นาน​แล้ว​ ​และ​ที่​สำคัญ​คือ​ประตู​บาน​นั้น​ถูก​ลงกลอน​จาก​ด้านนอก

เมื่อม​อง​ดูร​อบ​ๆ​ ​จะ​พบ​ว่า​มีต​รอก​ซอกซอย​ที่​มีเรือน​ขึ้น​เรียง​ติดกัน​ ​ส่วน​เรือน​นี้​จะ​ตั้งอยู่​ตรง​หัวมุมถนน​พอดี​ ​ดู​จาก​ภายนอก​แล้ว​คาด​ว่าน​่า​จะ​ถูก​ทิ้ง​ร้าง​มา​เป็นเวลา​เนิ่นนาน

หาก​ไม่มี​องครักษ์​นำทาง​มา​ ​เจียง​ซื่อ​คง​เดินผ่าน​เรือน​นี้​ไป​เพราะ​คิด​ว่า​ไม่น่า​จะ​มี​ผู้อยู่อาศัย

เมื่อม​อง​ดูป​ระ​ตูบาน​สีเขียว​กระดำกระด่าง​ ​เจียง​ซื่อ​ก็​รู้สึก​ประหลาดใจ​ขึ้น​มา​เล็กน้อย​ ​การ​ลงกลอน​ประตู​ใน​ช่วงเวลา​กลางวัน​หมายความว่า​คน​ด้านใน​ไม่​สามารถ​ออกมา​พูดคุย​กับ​เพื่อนบ้าน​ได้​ ​หาก​นาง​คือ​หญิง​ใน​ดวงใจ​ที่​จู​จื่อ​อวี​้​ตั้งใจ​จะ​ซ่อน​ไว้​จริง​ ​แต่ละวัน​ของ​นาง​ก็​คงจะ​ผ่าน​ไป​อย่าง​ทุกข์ระทม​?

ใช่​ว่า​เจียง​ซื่อ​ไม่เคย​ได้ยิน​เรื่องราว​ของ​บุรุษ​ที่​มีบ​้าน​เล็ก​บ้าน​น้อย​ ​แต่​ส่วนใหญ่​มักจะ​หา​เรือน​ให้​นาง​เหล่านั้น​ได้​ใช้ชีวิต​อย่างสงบ​สุข​ ​แม้​ทุกครั้งที่​ไป​เยือน​เรือน​หลัง​นั้น​ยาก​ที่จะ​พูดว่า​เป็นการ​เฉลิมฉลอง​ ​แต่​ก็​ยัง​นับว่า​เป็นการ​สร้าง​ความสง่า​ผ่าเผย​ให้​แก่​ตนเอง

ทั้งนี้​เป็นที่รู้กันดี​ว่า​ ​บุรุษ​เป็น​คน​จัดการ​เรื่อง​ภายนอก​ ​ส่วน​สตรี​เป็น​คน​จัดการ​เรื่อง​ภายใน​ ​ภรรยา​ที่อยู่​ใน​เรือน​เป็นเวลา​นาน​ก็​ไม่​อาจ​ส่ง​คน​ไป​สะกดรอย​ตาม​สามี​ของ​ตน​ได้​ตลอดเวลา​ ​หาก​เรือน​นอก​พวก​นั้น​มิได้​อุ้มท้อง​โย้​มาป​ระ​ณาม​ถึง​หน้า​เรือน​ ​ก็​เป็นไปได้​ว่า​ภรรยา​เอก​คง​ไม่มีวัน​ได้​ทราบ​เรื่อง​นี้

จู​จื่อ​อวี​้​ใน​ท่าทาง​สง่าผ่าเผย​ปรากฏ​กาย​ขึ้น​ใน​ความคิด​ของ​เจียง​ซื่อ​ ​หัวใจ​ของ​นาง​ก็​พลัน​จมดิ่ง​สู่​เบื้องลึก

หาก​ชายหนุ่ม​ระมัดระวัง​ตัว​ถึงขั้น​นี้​ ​เกรง​ว่า​คง​มิใช่​นางบำเรอ​ทั่วๆ​ ​ไป​แล้ว

เมื่อ​ชาติ​ภพ​ก่อน​เขา​ฆ่า​พี่สาว​คนโต​ ​เป็นไปได้​ไหม​ว่าวาง​แผน​จะ​ให้​เรือน​นอก​ขึ้น​ครองตำแหน่ง​นั้น​แทน

แต่​เมื่อ​ชาติที่แล้ว​หลังจาก​พี่สาว​เสียชีวิต​ ​กว่า​จู​จื่อ​อวี​้​จะ​แต่งงาน​ใหม่​ก็​ใช้เวลา​ตั้ง​สาม​ปี​ ​อีกทั้ง​ภรรยา​ที่​แต่ง​เข้ามา​ใหม่​ก็​เป็น​เพียง​บุตรี​ของ​ข้าราชการ​ธรรมดาๆ​ ​คน​หนึ่ง​ ​มิใช่​นางบำเรอ​ที่ไหน

หรือว่า​เขา​รอ​ให้​พี่สาว​ของ​นาง​ตาย​ไป​ก่อน​แล้ว​ค่อย​แอบ​พานา​งบำ​เรอ​นาง​นั้น​เข้ามา​อยู่​ใน​จวน​?

ฟัง​ดู​ไม่​สมเหตุสมผล​เลย​สักนิด

ใครๆ​ ​ก็​รู้​ว่า​พี่สาว​คนโต​เป็น​สตรี​อ่อนโยน​และ​เข้า​อก​เข้าใจ​ ​หาก​นาง​ได้​ทราบ​ว่า​จู​จื่อ​อวี​้​มี​ความประสงค์​เช่นนั้น​ ​ถึงแม้​ผู้​เป็น​สามี​มิได้​เอ่ย​ ​พี่สาว​คนโต​ของ​นาง​คงจะ​พาส​ตรี​นาง​นั้น​เข้ามา​อยู่​ใน​จวน​เสีย​เอง​ ​จึง​ดู​ไม่มี​ความจำเป็น​ใดๆ​ ​ให้​จู​จื่อ​อวี​้​ลงมือ​กับ​พี่สาว​ของ​นาง

ขณะที่​ความคิด​เหล่านี้​วนเวียน​อยู่​ใน​หัว​ของ​เจียง​ซื่อ​ ​จู่ๆ​ ​ก็​มีเสียง​ของ​อวี​้​จิ​่น​เอ่ย​ถาม​ขึ้น​ ​“​วางแผน​ว่า​จะ​พบ​นาง​อย่างไร​”

เจียง​ซื่อ​หลุด​จาก​ภวังค์​ ​หญิงสาว​หันไป​มอง​กำแพง​สูง​ที่​ล้อมรอบ​เรือน​อีกครั้ง​พลาง​เอ่ย​เสียง​เบา​ ​“​ตอนนี้​อย่า​เพิ่ง​ไปร​บก​วน​คน​ด้านใน​เลย​จะ​ดีกว่า​ ​เดี๋ยว​ข้า​ลองดู​รอบ​ๆ​ ​ก่อน​แล้วกัน​”

“​ได้​”​ ​อวี​้​จิ​่น​ตอบ​แผ่วเบา​ ​ชายหนุ่ม​เอื้อมมือ​ข้าง​หนึ่ง​ไป​โอบ​เอว​เจียง​ซื่อ​แล้ว​พานา​งก​ระ​โดด​ขึ้นไป​บน​กำแพง​ ​และ​ไต่​ไป​ตามหลัง​คา​

หลังคาเรือน​หลัง​นั้น​มี​ลักษณะ​ลาดเอียง​ ​แต่​นั่น​มิได้​ส่งผล​ใดๆ​ ​ต่อ​อวี​้​จิ​่น​เลย​แม้แต่น้อย

กว่า​เจียง​ซื่อ​จะ​ตั้งสติ​ได้​ ​เขา​ทั้งคู่​ก็​นอน​หมอบ​อยู่​บน​หลังคา​เรียบร้อย​แล้ว

ลาน​เล็ก​ๆ​ ​ด้านใน​ไร้​ซึ่ง​ผู้คน

เจียง​ซื่อ​ขยับตัว​เล็กน้อย​ ​ทว่า​ถูก​เสียงต่ำ​ของ​ชายหนุ่ม​ปราม​ไว้​เสียก่อน​ ​“​อย่า​เพิ่ง​ขยับ​ ​ข้า​จะ​เรียก​นาง​ออกมา​เอง​”

หลังจาก​เงียบงัน​ชั่ว​อึดใจ​ ​เจียง​ซื่อ​ก็​กลั้นใจ​เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ ​“​เอา​มือ​ของ​เจ้า​ออก​ไป​”

ไอ้​คน​กะล่อน​ ​แอบ​จับ​ก้น​นาง​เสีย​ได้​!

อวี​้​จิ​่น​ชำเลือง​ลง​ไป​มอง​ ​ใบหน้า​ของ​ชายหนุ่ม​พลัน​ร้อนผ่าว​

ไม่ทันสังเกต​เลย​ว่าวา​งมือ​ผิด​ที่​…

เอว​ของ​หญิงสาว​ผอม​เพรียว​เนื่องจาก​อยู่​ใน​ท่านอนคว่ำ​ ​อาภรณ์​ที่​สวม​แนบติด​ไป​กับ​เรือนร่าง​บอบบาง​ ​เผย​ให้​เห็น​บั้นท้าย​โค้ง​งอน​เล็ก​ๆ​ ​อย่างชัดเจน

แต่​นี่​ไม่ใช่​เวลา​จะ​มาคิด​ฟุ้งซ่าน

อวี​้​จิ​่​นรี​บถอน​สายตา​กลับมา​พลาง​เอ่ย​เคร่งขรึม​ ​“​ขอโทษ​”

ทว่า​ใน​ใจ​กู่​ร้อง​เริงร่า

อืม​ ​จะ​แสดงออก​ว่า​มีความสุข​ไม่ได้​ ​เดี๋ยว​ถูก​ตบหน้า

เขา​กลั้น​ยิ้ม​มุม​ปาก​ก่อน​จะ​หันไป​หยิบ​เศษ​กระเบื้องมุงหลังคา​แล้ว​โยน​ลง​ไป​กลาง​ลาน

เศษ​กระเบื้อง​กระทบ​เข้าที่​หน้าต่าง​ ​ส่งเสียง​ดัง​ไม่น้อย

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​ประตู​เรือน​ก็​ถูก​ผลัก​ออก​ ​หญิงสาว​ใน​ชุด​กระโปรง​ที่​ตัดเย็บ​อย่าง​เรียบง่าย​ย่างกราย​ออกมา​ ​นาง​หยุด​ยืน​อยู่​ที่​กลาง​ลาน​ก่อน​จะ​มอง​ซ้าย​มอง​ขวา

“​ไม่มีใคร​นี่​”​ ​หญิงสาว​พึมพำ​ ​และ​รีบ​เดิน​ไป​ผลัก​ประตู​ใหญ่​หน้า​เรือน

แต่​เนื่องจาก​ประตู​บาน​นั้น​ถูก​ลงกลอน​จาก​ด้านนอก​จึง​ไม่​ขยับเขยื้อน​เป็นธรรมดา

เด็กสาว​หันหลัง​เดิน​กลับ​ไป​พร้อมกับ​ความรู้สึก​ประหลาดใจ​ที่เกิด​ขึ้น​ ​เห็นได้ชัด​ว่านา​งดู​หดหู่​กว่า​เดิม

ไม่ช้าไม่นาน​เด็กสาว​ก็​เดิน​กลับ​เข้าไป​ใน​เรือน​ ​ประตู​เรือน​ถูก​ปิด​สนิท​อีกครั้ง

เมื่อ​เห็น​ว่า​เจียง​ซื่อ​จ้อง​ตา​ไม่​กะพริบ​ ​อวี​้​จิ​่น​จึง​ถาม​เบา​ๆ​ ​“​เห็นชัด​ไหม​”

เจียง​ซื่อ​พยักหน้า​ช้าๆ​ ​และ​หันไป​จับมือ​เขา​แน่น​ ​เสียง​ของ​นาง​สั่น​เล็กน้อย​ ​“​ให้​ข้า​ดู​อีกที​!​”

อวี​้​จิ​่น​ประหลาดใจ​เล็กน้อย​ก่อน​จะ​ใช้​กลยุทธ์​เดิม​เรียก​เด็กสาว​ผู้​นั้น​ออกมา​อีกครั้ง

เจียง​ซื่อ​จ้อง​เด็กสาว​นาง​นั้น​ด้วย​ใบหน้า​ขาวซีด​ ​นาง​รู้สึก​เหมือน​หลงทาง​อยู่​ใจกลาง​หมอก​หนา​ทึบ​ ​เย็นวาบ​ตั้งแต่​หัวใจ​จรด​ปลายนิ้ว​ทั้ง​สิบ

ที่แท้​เด็กสาว​คน​นั้น​ก็​คือ​ฉิง​เอ๋อร​์​!

เช่นนั้น​…​ ​พี่ใหญ่​พา​ใคร​ไปล่ะ​?