บทที่ 349 เตรียมการเอาไว้แล้ว

จี้จือฮวนคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้วว่าต้องเกิดสถานการณ์เช่นในวันนี้

แม้จะเตรียมแผนสำรองเอาไว้แล้ว ทว่าภายในใจก็ไม่อยากให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอยู่ดี แต่สิ่งที่ยากจะคาดเดาที่สุดก็คือจิตใจคน เพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเอง ก็ไม่ลังเลที่จะเสี่ยงและทำร้ายผู้อื่น คนเช่นนี้หากปล่อยเอาไว้จะเป็นหายนะที่แท้จริง

ไท่ซ่างหวงโมโหเป็นอย่างมาก เป็ดองครักษ์ที่อยู่บนพื้นส่งเสียงร้องสองที ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ อีก

จี้จือฮวนยกมือขึ้นลูบหลังให้เขา “ท่านเลิกโมโหได้แล้วเจ้าค่ะ ข้าจะบอกความลับบางอย่างให้ท่านทราบ เมื่อไม่กี่วันก่อนพวกท่านป้าหยางกับจั๋วฉวินออกไปนอกหมู่บ้าน ท่านลองเดาดูสิเจ้าคะว่าพวกเขาไปที่ใดกัน”

ตอนนั้นพวกเขาพาไป๋จิ่นไปด้วย ไท่ซ่างหวงจึงไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าคงไปซื้อของที่ตลาดกัน

แต่ตอนนี้เมื่อจี้จือฮวนเอ่ยเช่นนี้ ไท่ซ่างหวงจึงคิดขึ้นมาได้ “เจ้าให้พวกนางไปเมืองหลวงหรือ?”

ท่านป้าหยางไม่เพียงพาคนในหมู่บ้านไปเท่านั้น แต่ยังเลือกสมาชิกครอบครัวทหารเกราะเหล็กไปด้วย สตรีกลุ่มหนึ่งออกไปข้างนอกเขาจะคิดถึงที่อื่นได้อย่างไร

จี้จือฮวนพยักหน้ารับ “เรื่องนี้ข้าได้เตรียมการเอาไว้แล้ว คาดว่าแผงยาถอนพิษทางนั้นก็คงตั้งเรียบร้อยแล้ว”

เพื่อค่าข้าวเดือนหน้า หลังจากที่ปล้นเสร็จแล้ว ไป๋จิ่นกับเยว่พั่วหลัวจึงเข้าไปเมืองหลวงเป็นเพื่อนพวกท่านป้าหยางพร้อมกับอี เอ้อร์ ซาน ซื่อ และพักอยู่ที่จวนของกลุ่มกองเรือ

ตามความคิดของจี้จือฮวนก็คือ หากเกิดเรื่องเช่นการถูกพิษขึ้นมา การมอบหมายให้ไป๋จิ่นรับผิดชอบ เยว่พั่วหลัวย่อมไม่ยอม เพราะสำนักกู่ก็ได้ชื่อว่าเป็นยอดฝีมือในด้านการถอนพิษเช่นกัน ทั้งสองคนต่างไม่เชื่อใจกัน ดังนั้นจึงไปด้วยกันทั้งคู่

ดูจากที่พวกเขาสู้กันราวกับไก่ชนทุกวันแล้ว พิษในเมืองหลวงเกิดขึ้นไม่ถึงสองชั่วยาม คาดว่าก็คงหาวิธีถอนพิษได้แล้ว

จี้จือฮวนไม่ได้ขนยาสมุนไพรทั้งหมดไปที่หลูโจว ดังนั้นจึงเหลืออีกส่วนหนึ่งเอาไว้ใช้ในเมืองหลวง เช่นนี้จะสามารถช่วยยับยั้งพิษได้โดยเร็วที่สุด

ไท่ซ่างหวงได้ยินเช่นนี้ก็สบายใจขึ้นไม่น้อย “เจ้าเด็กคนนี้ ในเมื่อเตรียมการเอาไว้อยู่แล้วก็บอกกันก่อนสิ วางยาพิษในน้ำเช่นนี้เป็นอันตรายถึงชีวิต เจ้าหน้าขาวจะจัดการไหวหรือไม่!?”

จี้จือฮวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ถ้าไม่ไหว เก็บเขาไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรอีก”

อีกอย่าง คนเหล่านั้นทำเพื่อชื่อเสียง ไม่ได้ต้องการฆ่าล้างเมือง พิษนั่นคงไม่มีทางถึงแก่ชีวิต แต่ต้องเป็นประเภทที่เรื้อรังและถอนได้ยากเป็นแน่

ไป๋จิ่นที่กำลังตรวจสอบอยู่จามขึ้นมาทันที…

จางตงไหลอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นมา “นายท่าน ฟังที่ท่านพูดสิขอรับ แม่นางจี้จะรู้ได้อย่างไรว่าจะมีคนทำเรื่องเช่นนี้จริง สามารถคิดและเตรียมการป้องกันไว้ได้ก็ไม่ง่ายแล้วนะขอรับ”

ไท่ซ่างหวงเม้มริมฝีปาก ก่อนจะเอ่ยขอโทษ “ฮวนฮวน เมื่อครู่ข้าร้อนใจไปหน่อย ไม่ได้มีเจตนาจะโทษเจ้าจริง ๆ นะ”

แน่นอนว่าจี้จือฮวนไม่ถือสาอยู่แล้ว “ท่านพักผ่อนก่อนเถอะเจ้าค่ะ ปรับลมหายใจ อย่าตื่นตระหนกเกินไป ข้าจะไปหาเผยยวนแล้วพวกเราก็เก็บของไปเมืองหลวงกัน”

ไท่ซ่างหวงมองดูนางเดินจากไป ก็เอามือกุมหัวใจและหลับตาลง

เรื่องเป็นอย่างที่จี้จือฮวนคาดการณ์เอาไว้จริง ๆ

ผลการสอบสวนของฝั่งเยว่พั่วหลัวกลับไม่ค่อยดีนัก ไม่รู้ว่าเจ้าสารเลวคนใดเป็นคนวางยาพิษ แม้ว่าจะไม่ใช่ยาพิษที่ยากจะถอนพิษได้ แต่การปรุงยาถอนพิษกลับยากเป็นอย่างมาก และไม่ใช่ว่ายาขนานเดียวจะสามารถถอนพิษได้ อีกทั้งยังต้องใช้เวลาเจ็ดหรือแปดวันในการล้างพิษ

ในสำนักพิษ พิษชนิดนี้ปกติจะใช้ในการทรมานผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไม่เชื่อฟังบราวนี่ออนไลน์

ทว่าผู้ที่วางยาพิษเหล่านั้นคงกลัวว่ายาพิษที่ใส่ลงไปจะออกฤทธิ์ไม่แรงพอและไม่เกิดผลใด ๆ ดังนั้นพวกเขาจึงวางยาพิษที่ทางใต้ของเมืองหลวงด้วย และหลังจากได้รับพิษแล้ว หากสัมผัสผู้คนผ่านทางแหล่งน้ำหรือน้ำลาย ก็จะสามารถบรรลุผลที่เลวร้ายยิ่งกว่า นั่นก็คือสามารถแพร่จากคนสู่คนได้อีกด้วย

“น้ำทางทิศใต้นี้ไหลไปที่ใด?” ไป๋จิ่นเอ่ยถามขึ้นมา

การปนเปื้อนในแหล่งน้ำไม่ใช่ปัญหาเล็ก ๆ โดยทั่วไปสำนักพิษของพวกเขารับเงินมา หากอยากกำจัดทั้งตระกูลก็จะใช้วิธีการนี้ ก่อนจะวางยาพิษต้องถามก่อนว่าเป็นที่น้ำไหลผ่านหรือน้ำนิ่ง เพื่อรับประกันว่าจะไม่มีผู้ใดรอดชีวิต

คิดว่าสมองอย่างฮ่องเต้เซี่ยเจินคงไม่คิดที่จะให้คนลงไปตรวจสอบ ว่าในหมู่บ้านที่ใกล้กับเมืองหลวงเกิดสถานการณ์มีคนได้รับพิษหรือไม่ เพราะเรื่องเช่นนี้ต้องใช้กำลังคน ทรัพยากร และเวลาในการดำเนินการ

หากไม่รีบตัดตอนก็จะทำให้พิษเพียงเล็กน้อย กลายเป็นโรคร้ายแรงได้!

ชาวบ้านมากมายที่ไม่ได้รับยาก็จะป่วยตาย

อาอู๋ที่ถูกฮวาเส้าจงส่งมาช่วย เมื่อได้ยินดังนั้นก็ส่ายหน้าไปมา “ข้าเองก็ไม่ใช่คนในเมืองหลวง เรื่องนี้เลยไม่แน่ใจจริง ๆ”

อีและเอ้อร์ชะโงกหน้ามา “ในเมืองล้วนเป็นน้ำนิ่ง น้ำที่ไหลตลอดเวลาจะอยู่ด้านนอก”

ไป๋จิ่นพยักหน้ารับรู้ “น้ำนิ่งเช่นนั้นก็จัดการได้ง่าย พวกเจ้าสองคนก็นับว่ามีประโยชน์เหมือนกันนี่นา”

เสียงกระดิ่งดังขึ้นทางด้านหลัง เยว่พั่วหลัวยังสวมผ้ากันเปื้อนอยู่ นางเอ่ยอย่างหมดความอดทนขึ้นมา “เจ้ารีบบอกวิธีถอนพิษของเจ้าออกมา ไม่อย่างนั้นข้าจะใช้วิธีของข้า ใส่หนอนลงไปแล้วนะ”

ไป๋จิ่นกลอกตามองบน “เจ้าตั้งใจจะทำให้คนขยะแขยงจนตายอย่างนั้นหรือ?”บราวนี่ออนไลน์

ใส่หนอนลงไปเพื่อใช้พิษสู้พิษ หากเป็นเขาจะยอมถูกพิษจนตายดีกว่าดื่มน้ำที่มีหนอนอยู่

จั๋วฉวินจึงเอ่ยแทรกขึ้นมา “พวกเจ้าสองคนทะเลาะกันมาตลอดทางแล้ว หยุดสักพักเถอะ อย่าลืมภารกิจที่ท่านแม่ทัพกับฮูหยินมอบหมายให้พวกเจ้าเสียล่ะ”

คราวนี้ทั้งสองคนต่างก็เงียบลงทันที อาอู๋ยกมือแล้วเอ่ยขึ้นมา “พิษนี้แก้ได้หรือไม่?”

ไป๋จิ่นสะบัดผมที่ม้วนเป็นลอน “เจ้ากำลังดูถูกบุรุษรูปงามอันดับหนึ่งของสำนักพิษแห่งแดนตะวันตกอย่างข้าหรือ?”

เขาดึงกระดาษออกมาจากแขนเสื้อ แล้วเขียนตัวหนังสือแถวหนึ่ง “ลูกพี่ฮวนบอกว่าให้ไปเบิกยาที่หย่งอันถังได้เลย ฝากเจ้าไปบอกเถ้าแก่ของที่นั่นที่ชื่อถังซุ่นด้วย ข้าต้องการให้เขาช่วย”

หากต้องการตั้งแผงเพื่อบริจาคยาในเมืองหลวง ต้องเป็นร้านเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง มิเช่นนั้นใครจะกล้ากินส่งเดชกัน

“เข้าใจแล้ว” อาอู๋คว้าสูตรยาของเขามา และพาคนไปที่หย่งอันถังทันที

“เช่นนั้นตอนนี้พวกเราจะทำอะไรต่อหรือ?” อีและเอ้อร์ถามขึ้นมาหนึ่งประโยค

เยว่พั่วหลัวจึงเตะพวกเขาไปหนึ่งที “ไปช่วยพวกท่านป้าน่ะสิ ทำโรงแจกยานั่นให้ใหญ่หน่อย อย่าให้คนต้องเบียดกันล่ะ”

ตำหนักองค์ชายรอง

“ธิดาหงส์บัญชาสวรรค์? นี่มันสมญานามอะไรกัน?” เย่จิ่งฝูเอ่ยถามด้วยความรังเกียจ

คนรับใช้ส่ายหน้า “คนในเมืองหลวงล้วนนับถือท่านผู้นี้มาก แม้แต่องค์ชายรองก็เรียกนางเช่นนี้เจ้าค่ะ”

“ในเมื่อเป็นธิดาหงส์บัญชาสวรรค์ ยังจะต้องให้ข้าไปช่วยอีกอย่างนั้นหรือ? ช่วยอะไรกัน?” เย่จิ่งฝูเอ่ยถาม

“บอกแค่ว่าเมื่อท่านไปก็จะทราบเองเจ้าค่ะ”

“ทำเป็นมีลับลมคมใน” เย่จิ่งฝูลุกขึ้นยืน บนกายยังมีกลิ่นของสมุนไพรติดอยู่ “ไปเถอะ ไปดูว่าพวกเขาจะทำอะไร”

จี้หมิงซูช่วงนี้ร้อนใจจริง ๆ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่รีบร้อนมาขอร้องเซี่ยหยาง เพื่อขอยืมตัวทายาทของตระกูลหมอเทวดา

เซี่ยหยางรู้ว่าที่นางทำก็เพื่อรักษาใบหน้าของตนเอง แม้ว่าเขาจะแอบรู้สึกว่าการที่นางขอร้องเช่นนี้ในช่วงเวลาที่สำคัญเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ

“พี่เซี่ยหยาง ครั้งนี้ขอบคุณท่านมากจริง ๆ”

“ระหว่างเราไม่จำเป็นต้องขอบคุณอะไร”

เมื่อเย่จิ่งฝูมาถึงก็เห็นท่าทางเสน่หาของทั้งสองคนผ่านผ้าคลุมหน้า

เซี่ยหยางจึงกระแอมเล็กน้อย “ท่านธิดาเทพ นี่ก็คือ เย่จิ่งฝู เป็นผู้ที่มีฝีมือทางการแพทย์สูงส่งอย่างมาก”

แน่นอนว่าจี้หมิงซูไม่เห็นเย่จิ่งฝูอยู่ในสายตา แต่ก็ยังลุกขึ้นต้อนรับนาง “ท่านหมอเทวดาเย่ ข้าได้ยินชื่อเสียงของท่านมานานแล้ว”

เย่จิ่งฝูเอ่ย “เจ้าเสียโฉมอย่างนั้นหรือ?”

นางเป็นคนพูดตรง ๆ เมื่อได้กลิ่นของยาผงบนใบหน้าของจี้หมิงซูก็เอ่ยขึ้นมาทันที

“ยานี้ใช้สร้างกล้ามเนื้อและล้างพิษ ไม่เหมาะกับใบหน้าของเจ้านัก แต่ตามปริมาณที่ใช้งานแล้ว คาดว่าใบหน้าของเจ้าคงไม่เหลือผิวส่วนที่ดีแล้วกระมัง”

จี้หมิงซูถูกคนเปิดเผยข้อบกพร่องต่อหน้าผู้คน ก็รู้สึกอับอายและโมโหเป็นอย่างมาก “ท่านหมอเทวดาเย่เหตุใดต้องย้ำข้อบกพร่องของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย”

เย่จิ่งฝูรู้สึกแปลกใจ ทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายเรียกนางมาตรวจดูอาการ นางก็แค่บอกไปตามตรงแล้วมีปัญหาอะไรกัน!?

.