บทที่ 311 ไปได้ยิ่งไกลยิ่งดี

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่ 311 ไปได้ยิ่งไกลยิ่งดี

เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้าพร้อมกับพิงหัวของตัวเองตรงอกของลี่จุนถิง ฟังเสียงหัวใจที่เต้นแรงของเขาก็รู้สึกสบายใจ

“โอเค เธอไปพักผ่อนก่อนนะ ฉันต้องไปบริษัทจัดการเรื่องอีกหน่อย” ลี่จุนถิงตบหลังของเจียงหยุนเอ๋อเบาๆ

เจียงหยุนเอ๋อปล่อยลี่จุนถิงแล้วพูดขึ้นอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย “รีบไปเถอะ อย่าเสียเวลาเลย”

ลี่จุงถิงมองเจียงหยุนเอ๋ออย่างอาลัยอาวรณ์ หยิบเสื้อแจ็คเก็ตแล้วเดินออกไปเลย

ลี่จุนถิงเพิ่งไปได้ไม่นาน โม่เสี่ยวฮุ่ยก็มา

“แม่คะ” เจียงหยุนเอ๋อเห็นว่าเป็นโม่เสี่ยวฮุ่ยก็เริ่มระมัดระวังตัวขึ้นมาและตื่นเต้นเล็กน้อย

โม่เสี่ยวฮุ่ยไม่มองเจียงหยุนเอ๋อแม้แต่สายตาเดียว แต่ตรงไปหาพ่อบ้านทันที “พ่อบ้าน มานี้หน่อย”

“คุณนาย มีอะไรหรือครับ?” พ่อบ้านเองก็ตื่นเต้นเช่นกัน ทุกครั้งที่โม่เสี่ยวฮุ่ยมาก็มักจะเกิดเรื่องเสมอ

“คุณให้ผู้หญิงคนนี้กับลูกของเธอเก็บสัมภาระของพวกเธอซะ แล้วให้ออกไปยิ่งเร็วยิ่งดี” โม่เสี่ยวฮุ่ยไม่อยากให้เจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่ออยู่ข้างกายลูกชายของตนอีกแม้แต่วินาทีเดียว

พ่อบ้านรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย คิดพินิจพิเคราะห์อยู่สักพักค่อยเริ่มพูดขึ้น “คุณนายครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้ควรให้คุณชายลี่ทราบจะดีกว่านะครับ ถึงยังไงคุณหนูก็เป็นคนของคุณชายลี่”

พ่อบ้านรู้ว่าในใจของลี่จุนถิงแล้ว เจียงหยุนเอ๋อสำคัญมากขนาดไหน ถ้าไล่คนออกไปแบบนี้ ตัวเขาคงต้องประสบกับความหายนะเป็นแน่

“คุณเห็นว่าฉันโง่เหรอ?” โม่เสี่ยวฮุ่ยโมโห “ถ้าให้จุนถิงรู้ ฉันยังจะให้ผู้หญิงคนนี้ออกไปได้เหรอ? อะไรคือคนของจุนถิง? ลูกของผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ของจุนถิงซะหน่อย จะเป็นคนของจุนถิงได้ยังไง?”

วันนี้ผลของ DNA ออกมาแล้ว รู้ว่าถวนจื่อเป็นลูกของโมเฉินยี่ โม่เสี่ยวฮุ่ยก็ยิ่งโมโห

ครั้งก่อนเถียงว่าไม่ใช่ลูกของโมเฉินยี่ ยังไงก็จะตรวจ DNA ให้ได้ ผลสุดท้ายก็ยังเหมือนเดิมไม่ใช่หรือไง?

ตอนนี้ยังกล้าหน้าด้านอยู่บ้านของลูกชายตัวเองอีก ทำไมถึงได้มีผู้หญิงที่ไร้ยางอายขนาดนี้

ครั้งนี้โม่เสี่ยวฮุ่ยจะไม่ใจอ่อนอีกเด็ดขาด พอรู้ว่าลูกชายไปแล้วก็เลยรีบมาไล่เจียงหยุนเอ๋อออกไปทันที

“คุณนาย เรื่องนี้ผมก็ตัดสินใจไม่ได้นะครับ นิสัยของคุณชายลี่คุณนายก็รู้ดี” พ่อบ้านก็ยังไม่กล้าทำอยู่ดี

โม่เสี่ยวฮุ่ยได้ยินก็ยิ่งโมโหมากขึ้นกว่าเดิม “คุณคิดว่าตระกูลลี่ของเราจะยอมรับผู้หญิงที่มีเล่ห์เหลี่ยมมาก เต็มไปด้วยคำพูดเหลวไหล ไม่มีการอบรมสั่งสอนเข้ามาในตระกูลเหรอ? คุณคิดว่าตระกูลลี่จะยอมรับลูกของผู้ชายขายบริการเข้ามาในตระกูลลี่งั้นเหรอ?”

พ่อบ้านเงียบ จริงอยู่ที่ว่าสถานะอย่างตระกูลลี่ไม่มีทางยอมรับเรื่องพวกนี้ได้แน่ๆ “แต่ว่า……”

พ่อบ้านยังอยากจะพูดแทนเจียงหยุนเอ๋ออีกสักหน่อย อย่างน้อยๆก็ต้องรอให้ลี่จุนถิงกลับมาก่อนค่อยตัดสินใจ แต่โม่เสี่ยวฮุ่ยตัดบทของพ่อบ้านเสียก่อน “คุณเอาเงินเดือนจากใคร? คุณไม่เห็นฉันที่เป็นคุณนายใหญ่ของตระกูลลี่อยู่ในสายตางั้นเหรอ? คุณคิดว่าฉันไม่กล้าไล่คุณออก?”

พ่อบ้านได้ยินดังนั้น เหงื่อก็ไหลพลั่กออกมา ทำงานคั่นกลางระหว่างสองแม่ลูกคู่นี้ช่างยากเย็นจริงๆ “คุณนาย ผมไม่กล้าจริงๆครับ”

“คุณยังไม่รีบไปอีก”

พ่อบ้านจนปัญญาแล้ว จะให้เสียงานไปก็ไม่ได้ จึงได้แต่สั่งให้คนใช้ไปเก็บข้าวของของเจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อ

พ่อบ้านไปปุ๊บ โม่เสี่ยวฮุ่ยก็ชี้หน้าเจียงหยุนเอ๋อพูดว่า “ตอนแรกฉันสุภาพกับเธอเพราะคิดว่าเธอผู้หญิงคนเดียวเลี้ยงเด็กก็ไม่ง่าย แต่ตอนนี้เธอลองดูตัวเองซิ เธอคิดว่าฉันยังยอมรับเธอได้มั้ย?”

เจียงหยุนเอ๋อกัดริมฝีปาก “แม่คะ……ฉันไม่คิดว่าฉันทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อลี่จุนถิงเลยนะคะ”

โม่เสี่ยวฮุ่ยยิ้มเยาะ สองมือกอดอก ทำสีหน้าดูถูก “เธอไม่ได้ทำอะไรผิดต่อจุนถิง แต่แค่เธออยู่ข้างกายเขาก็คือสิ่งที่ผิด เธอรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้เธอส่งผลกระทบด้านลบกับผลประโยชน์ของจุนถิงแล้ว”

ได้ยินโม่เสี่ยวฮุ่ยพูดแบบนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกปวดใจ

โม่เสี่ยวฮุ่ยมองเจียงหยุนเอ๋ออย่างดูแคลนแล้วพูดต่อว่า “จุนถิงต้องการคนที่วงศ์ตระกูลเท่าเทียมกัน คนที่สามารถมีกำลังช่วยเหลือเขาได้ เธอคิดว่าเธอนอกจากสร้างปัญหาให้เขาแล้วยังทำอะไรได้อีก?”

เจียงหยุนเอ๋อก้มหน้า คิดๆดูแล้วก็เป็นแบบนี้จริงๆ ตั้งแต่ที่เธอรู้จักกับลี่จุนถิงก็เหมือนจะสร้างปัญหาให้เขาตลอดจริงๆ แถมปัญหาพวกนี้ก็ยังมีเรื่อยๆไม่หยุดหย่อน

ตัวเองเหมือนจะทำได้แค่ถ่วงลี่จุนถิงจริงๆ คิดถึงตรงนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็ยิ่งรู้สึกหดหู่กว่าเดิม

“ในเมื่อเธอไม่รู้เหตุรู้ผลขนาดนี้ งั้นฉันก็จะบอกสถานการณ์ของตระกูลลี่ให้เธอฟังเอง” โม่เสี่ยวฮุ่ยเดินไปนั่งลงที่โซฟา

“ในเมืองจิ่งเฉิงไม่มีใครไม่รู้จักตระกูลลี่ ตระกูลลี่ใหญ่โต มีสายแยกมากมายนับไม่ถ้วน ตอนที่ปู่ของลี่จุนถิงสามารถคว้าตำแหน่งของผู้คุมอำนาจได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว”

“ตอนนี้ทั้งหมดนี้ก็ให้กับจุนถิง จุนถิงก็ทำได้ดีมาตลอด แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ก็ยังมีคนมากมายที่จ้องตำแหน่งของจุนถิงตาเป็นมันอยู่เบื้องหลัง”

พูดถึงตรงนี้ โม่เสี่ยวฮุ่ยก็หยุดพูดชั่วขณะ

“และเท่าที่ฉันรู้ มีคนในตระกูลมากมายที่รู้เรื่องของจุนถิงกับเธอ เธอเป็นจุดอ่อนของจุนถิงแล้ว เธออยู่ข้างกายของจุนถิงก็เป็นได้แค่จุดอ่อนของเขาเท่านั้น และช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย”

เจียงหยุนเอ๋อยิ่งก้มหน้าต่ำลงเรื่อยๆ

โม่เสี่ยวฮุ่ยดื่มน้ำไปอึกหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “จุนถิงควบคุมดูแลตระกูลที่ใหญ่ขนาดนี้ ควบคุมยับยั้งคนมากมายก็ลำบากอยู่แล้ว ตอนนี้ยังต้องเบนความสนใจให้เธอกับลูกเธออีก เธอดูสถานะของตัวเองตอนนี้ซิ มีเด็กอยู่ข้างๆก็ได้แค่สร้างปัญหาให้กับจุนถิงเท่านั้น หน้าตาของจุนถิงกับตระกูลลี่ของเราก็เสียหายเพราะเธอ”

เจียงหยุนเอ๋อที่อยู่ข้างๆเงียบสนิท

โม่เสี่ยวฮุ่ยเงยหน้าชายตามองเธอแวบหนึ่ง “ฉันว่าพูดถึงขนาดนี้แล้ว เธอก็น่าจะเข้าใจได้แล้วใช่ไหม?”

ถ้าตัวเองพูดถึงขนาดนี้แล้วเจียงหยุนเอ๋อก็ยังไม่เข้าใจ เธอก็จนปัญญาแล้วจริงๆ

เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า

โม่เสี่ยวฮุ่ยมองเจียงหยุนเอ๋อแล้วถอนหายใจออกมา “เพราะฉะนั้นที่ฉันทำก็เพราะดีต่อลูกฉันเอง เธอก็เป็นแม่ ถ้าเธออยู่ในสถานะแบบฉัน เธอก็จะทำแบบนี้เหมือนกัน เธอแค่ต้องไปจากจุนถิง ไปได้ยิ่งไกลยิ่งดี”

ได้ยินที่โม่เสี่ยวฮุ่ยพูดมาเยอะขนาดนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็อดไม่ได้ที่อยากจะร้องไห้ออกมา เธอกัดริมฝีปากแน่นไม่พูดอะไรสักคำ

แต่เธอก็อดกลั้นไว้ได้

“ฉันเข้าใจความหมายของคุณป้าค่ะ” เจียงหยุนเอ๋อเงยหน้าขึ้น สบตากับโม่เสี่ยวฮุ่ยด้วยนัยน์ตาที่น้ำตาคลอเบ้า

โม่เสี่ยวฮุ่ยมองสีหน้าของเจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกจนใจ รูปลักษณ์งดงามอ่อนหวานแบบนี้ ใครเห็นก็ต้องหวั่นไหว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงลูกชายของตัวเอง แต่ว่า……นี่ก็ยิ่งห้ามให้เจียงหยุนเอ๋ออยู่ข้างกายของลี่จุนถิง

“พ่อบ้าน เก็บเรียบร้อยแล้วหรือยัง?” โม่เสี่ยวฮุ่ยถาม

“เก็บเรียบร้อยแล้วครับ” พ่อบ้านตอบ

“เอาล่ะ เธอไปดูซิว่ายังมีอะไรที่ยังไม่ได้เก็บหรือเปล่า พอตรวจเสร็จก็พาลูกเธอออกไปเถอะ จำที่ฉันพูดด้วยล่ะ อย่ากลับมาอีก รู้หรือเปล่า?” ที่โม่เสี่ยวฮุ่ยทำแบบนี้ก็ยอมเสี่ยงกับที่จะถูกลี่จุนถิงโกรธเหมือนกัน

แต่ต่อให้เป็นแบบนั้น โม่เสี่ยวฮุ่ยก็รู้ว่าเธอต้องทำ

ในฐานะที่เป็นแม่ของลี่จุนถิง โม่เสี่ยวฮุ่ยคิดมาตลอดว่าการทำแบบนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง