ตอนที่ 357 ต้องแต่งงาน
ตอนที่ 357 ต้องแต่งงาน
เย่ไป๋เป็นคนช่างพูดช่างจา ทุกคำพูดนั้นล้วนจริงใจ จนเซี่ยอวี่พยักหน้า “ในเมื่อคุณพูดอย่างนั้น ฉันว่ามันก็น่าจะจริง”
เฉินเจียเหอและหลินเซี่ยกลับมาพร้อมข้าวของมากมาย
ส่วนหู่จือถือไอศกรีมหลายอันจนเต็มมือน้อย ๆ ของเขา
เขาวิ่งไปด้วยขาสั้นป้อมแล้วยื่นไอศกรีมให้เซี่ยอวี่กับเย่ไป๋ “คุณป้าครับ กินไอศกรีมก่อนครับ”
“ไอศกรีมครับลุงหมอเย่”
เซี่ยอวี่มองพวกเขาด้วยความประหลาดใจ “ยังไม่กลับกันหรอกเหรอ?”
หลินเซี่ยอธิบายด้วยรอยยิ้ม “เราไปซื้อของใช้ประจำวันสำหรับเอ้อร์เลิ่งจากข้างนอกมาค่ะ ก่อนหน้านี้พวกเราเห็นว่าคุณกำลังคุยกับหมอเย่จริงจังขนาดนั้น เราเลยไม่อยากรบกวนพวกคุณ”
หลินเซี่ยหยิบถุงขนมปังเล็ก ๆ ออกมาจากถุง แล้วมอบให้เซี่ยอวี่ แต่เซี่ยอวี่ส่ายหน้า “ฉันไม่ค่อยกินแป้งน่ะ เดี๋ยวจะอ้วนเอา”
เซี่ยอวี่ไม่รับขนมปังจากหลินเซี่ย แต่กลับกินไอศกรีมที่ลูกชายของเธอซื้อมาฝาก ทำให้หู่จือรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่ง ถามอย่างตื่นเต้น “อร่อยไหมครับคุณป้า?”
เซี่ยอวี่กัดไอศกรีมแล้วพยักหน้าพลางตอบกลับ “อร่อยมากเลยจ้ะ”
“ลุงหมอเย่ อร่อยไหมฮะ?” หู่จือมองไปยังเย่ไป๋อีกครั้ง
เย่ไป๋เอามือลูบหัวเขาแล้วพูดว่า “ของที่หู่จือซื้อมาต้องอร่อยอยู่แล้ว”
ทุกคนนั่งอยู่ด้วยกันและกินไอศกรีม เฉินเจียเหอมอบถุงใส่ของที่เขาซื้อให้เอ้อร์เลิ่งกับเย่ไป๋ ขอให้เขาช่วยเก็บมันไว้ก่อนแล้วค่อยมอบให้เอ้อร์เลิ่งหลังตื่นนอน
เมื่อเซี่ยเหลยเสร็จสิ้นการรักษาและเดินออกมา ก็เห็นว่าเฉินเจียเหอและหลินเซี่ยยังไม่กลับ พอมองไปทางเย่ไป๋ที่กำลังนั่งข้างเซี่ยอวี่และกำลังกินไอศกรีมอยู่ ดวงตาของเขาก็หม่นแสงลงเล็กน้อย
หู่จือเห็นเซี่ยเหลยออกมา ก็รีบวิ่งไปหาพร้อมไอศกรีมในมือ “คุณลุง กินไอศกรีมกันฮะ”
หมอเย่ที่เพิ่งออกมาจากห้องรักษาหยุดหู่จือไว้ “หู่จือ ลุงของเธอยังกินของพวกนี้กินไม่ได้”
“แต่คุณปู่หมอเทวดากินได้นี่นา” หู่จือมอบไอศกรีมให้หมอแผนจีนเย่
หมอแผนจีนเย่รับไว้ด้วยรอยยิ้ม
หู่จือเงยหน้าขึ้นมองหมอแผนจีนเย่และพูดอย่างจริงจัง
“คุณปู่หมอเทวดาต้องรักษาลุงคนนี้กับลุงเอ้อร์เลิ่งให้หายนะครับ”
หมอแผนจีนเย่หัวเราะเสียงดัง “หู่จือ เธอกำลังกดดันฉันอยู่นะเนี่ย!”
หลังจากการรักษาเซี่ยเหลยสิ้นสุดลง ทุกคนต่างอำลาหมอแผนจีนเย่และเตรียมแยกย้ายกันกลับ
“งั้นทางเราขอตัวกันก่อนนะคะ”
เซี่ยเหลยบอกว่าเขากำลังจะไปที่ร้าน เซี่ยอวี่จึงอยากตามเขาไปด้วย
เมื่อเห็นพวกเขากำลังออกไป เย่ไป๋จึงถามหมอแผนจีนเย่ว่า “คุณลุงรอง ช่วงบ่ายอยากให้ผมทำอะไรดีครับ?”
หมอแผนจีนเย่เหลือบมองเขาแล้วตอบกลับว่า “ก็ตามฉันไปรักษาเสิ่นอวี้หลงไง จะให้ไปทำอะไรได้อีก?”
“ผมควรตามไปด้วยเหรอ?” เย่ไป๋ถาม
หมอเย่อธิบายด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ “นั่นก็คนไข้เก่าของเธอไม่ใช่หรือไง คิดว่าไม่ไปได้ไหมเล่า?”
เมื่อเห็นว่าคุณลุงรองหงุดหงิดเล็กน้อย เย่ไป๋จึงเหลือบมองประตูแล้วรีบเดินกลับเข้าไปในบ้าน “ครับ ผมขอไปเตรียมกล่องยาก่อน”
…
ระหว่างทางกลับ ขณะทุกคนนั่งอยู่ในรถจู่ ๆ เซี่ยเหลยก็พูดกับเซี่ยอวี่ว่า “เสี่ยวอวี่ ถึงเวลาที่เธอต้องมีแฟนแล้วนะ”
เมื่อเซี่ยอวี่ได้ยินสิ่งที่พี่ชายพูดออกมา ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเซี่ยเหลยด้วยสีหน้าแปลก ๆ “พี่ใหญ่ ไปไงมาไงถึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกล่ะ?”
ไม่เห็นมีความจำเป็นต้องรีบแต่งงานเลย พวกเรายังคงเป็นครอบครัวที่อบอุ่นดี
“ฉันว่าถึงเวลาแล้วที่เธอกับเสี่ยวไห่จะต้องแต่งงาน”
ขณะเซี่ยอวี่กำลังจะโต้กลับ เซี่ยเหลยขัดจังหวะแล้วพูดเสริมขึ้นว่า “ฉันทำให้เธอเสียเวลามาหลายปีแล้ว ตอนนี้ฉันหายดีจนพอดูเลี้ยงตัวเองได้ ถึงเวลาที่เธอและเสี่ยวไห่ต้องวางแผนเรื่องตัวเองกันบ้างแล้ว”
เซี่ยอวี่ปวดหัวทันที ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “พี่ใหญ่ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่ล่ะ? ไม่ต้องห่วงพวกเราหรอก พวกเรามีชีวิตที่ดีจะตายไป ทำไมถึงต้องรีบแต่งงานด้วย?”
เซี่ยเหลยมองไปทางเฉินเจียเหอพร้อมถามว่า “เจียเหอ หลานชายหมอเย่อายุเท่าไหร่?”
เฉินเจียเหอได้ยินแล้วก็เหลือบมองเซี่ยอวี่โดยไม่รู้ตัว ก่อนตอบว่า “เขาแก่กว่าผมแค่ปีเดียวครับ”
“เหมือนได้ยินมาว่าเขายังไม่แต่งงานใช่ไหม?” เซี่ยเหลยถามอีกครั้ง
เฉินเจียเหอพยักหน้า “ใช่ครับ”
เมื่อเซี่ยอวี่ได้ยินพี่ชายถามเกี่ยวกับเย่ไป๋ หล่อนก็ทำหน้าสยอง และรีบห้ามปรามเขา “พี่ใหญ่ นี่มันหมายความว่ายังไง? พี่กำลังจะจับคู่ให้ฉันอยู่เหรอ”
เซี่ยเหลยเพิกเฉยต่อเซี่ยอวี่ ถามเฉินเจียเหอต่อไปอีกว่า “เขามีคนที่จะแต่งงานด้วยหรือเปล่า?”
เฉินเจียเหอฟังจบแล้ว สีหน้าก็มืดมนลง เหลือบมองเซี่ยอวี่อย่างระมัดระวัง แล้วกระแอมไอเบา ๆ ก่อนตอบกลับ “ไม่มีนะครับ… เย่ไป๋โสดสนิท”
เมื่อเซี่ยเหลยได้ยินดังนั้น เขาก็ตอบรับอย่างสุขใจ
ราวกับมีความมั่นใจผุดขึ้นกลางใจ
หลังลงจากรถ เซี่ยเหลยฝากให้หลินเซี่ยไปบอกหลิวกุ้ยอิงว่าครั้งที่แล้วหล่อนไม่ได้เอาเครื่องรีดแป้งในครัวกลับไปด้วย วันนี้เขาว่างพอดี เลยจะแวะไปหาเพื่อเอาเครื่องรีดแป้งไปคืน
หลินเซี่ยตอบรับ และฝากข้อความไปให้หลินจินซานซึ่งอยู่ในร้านอาหารใกล้ ๆ อีกทอดหนึ่ง
ระหว่างวันหลินจินซานพักผ่อนอยู่ที่บ้าน เมื่อเขาได้รับข้อความ เขาจะต้องขอให้หลิวกุ้ยอิงมารับคืนด้วยตัวเองอย่างแน่นอน
เซี่ยอวี่พยายามหาทางเลี่ยงพี่ชายของตนเพราะคำพูดไม่มีปี่มีขลุ่ยซึ่งเขาพูดในรถเมื่อครู่ หล่อนจึงหาข้ออ้างจะไปที่ร้านของหลินเซี่ยเพื่อสระผม และขอให้หลินเซี่ยช่วยคิดทรงผมใหม่ให้
แต่เซี่ยเหลยกลับหยุดหล่อนไว้ เนื่องจากต้องรอหลิวกุ้ยอิงเพียงลำพัง จึงขอให้เซี่ยอวี่อยู่คุยกับเขาไปพลาง ๆ
เซี่ยอวี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขากำลังจะพูดอะไร หล่อนจึงพยายามเลี่ยงอีกครั้ง “ให้เจียเหออยู่เป็นเพื่อนพี่แทนสิ ฉันมีอย่างอื่นต้องทำ”
“เธอนั่นแหละมานี่”
น้ำเสียงของเซี่ยเหลยค่อนข้างหนักแน่น เซี่ยอวี่ไม่กล้าแม้แต่จะปฏิเสธ ดังนั้นจึงต้องอยู่กับเขา
เซี่ยเหลยนั่งบนเก้าอี้ มองเซี่ยอวี่อย่างจริงจัง และพูดว่า “ฉันคิดว่าหลานชายของหมอเย่เขาก็ดูเป็นคนดีนะ”
เซี่ยอวี่กลอกตาอย่างไร้คำพูด ก่อนตอบกลับอย่างจริงจัง “พี่ใหญ่ เขาเพิ่งจะอายุเท่าไหร่ และฉันอายุตั้งเท่าไหร่? พี่ไม่สิทธิ์มาจับคู่แบบสุ่มสี่สุ่มห้า นอกจากนี้ฉันอยู่ในสถานะที่ยังแต่งงานไม่ได้ ไม่มีประโยชน์หรอกที่จะแนะนำใครให้ฉันคบหากับใคร”
สีหน้าของเซี่ยเหลยมืดมนลง ทำเสียงแข็งเหมือนไม่อนุญาตให้มีการโต้แย้ง “เธอต้องแต่งงาน”
เซี่ยอวี่กำมืออย่างช่วยไม่ได้ “ทำไมฉันต้องแต่งงานด้วย? ถ้าแต่งงาน ฉันก็ต้องอยู่บ้านดูแลสามีและเลี้ยงลูกไปวัน ๆ น่ะสิ ฉันไม่ยอมเอาหน้าที่การงานไปแลกหรอก”
ขณะนั้นเซี่ยไห่เห็นร้านของพี่ใหญ่เปิดอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน เขายิ้มร่าและเดินเข้าไป ก่อนบังเอิญเห็นว่าพี่ชายและพี่สาวมีสีหน้าไม่สู้ดีเหมือนเพิ่งถกเถียงเรื่องอะไรสักอย่าง จึงถามออกไปว่า
“มีเรื่องอะไรกันเหรอทั้งสองคน?”
“พี่ใหญ่เขาอยากให้นายแต่งงานน่ะ” เซี่ยอวี่เห็นเซี่ยไห่แล้วก็เหมือนเห็นผู้ช่วยชีวิต จึงรีบตอบกลับและวิ่งหนีไป “ช่วยอยู่รอพี่อิงจื่อเป็นเพื่อนพี่ใหญ่ไปก่อนนะ ฉันขอตัวไปทำผมก่อน”
เมื่อได้ยินเรื่องแต่งงาน เซี่ยไห่ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่เข้าท่าแล้ว จึงอยากจะหนีตามหล่อนไป “พี่ใหญ่ นั่งพักไปก่อนนะ ผมมีงานต้องทำเหมือนกัน”
“หยุด นั่งลง”
เซี่ยเหลยหยุดเขาเสียงเข้ม และมองเซี่ยไห่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “เมื่อไหร่นายจะแต่งงาน?”
เซี่ยไห่รู้สึกขบขันกับคำพูดของเขา “พี่ใหญ่ ผมยังไม่มีแฟนเลย จะให้ไปแต่งกับใคร?”
เซี่ยเหลยพูดอย่างจริงจัง “ฉันจะหาใครสักคนแล้วแนะนำให้นายรู้จัก”
เซี่ยไห่ตกใจมากจนรีบโบกมือไปมา “ไม่เอาๆ พี่ใหญ่ไม่ต้องห่วงผมหรอก ตอนนี้ผมยังไม่อยากมีใครจริง ๆ”
“แต่นายต้องแต่งงาน” เซี่ยเหลยบอกเซี่ยไห่อีกครั้งด้วยประโยคเดิมที่เขาเพิ่งพูดกับเซี่ยอวี่
ดวงตาของเซี่ยไห่สั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มเจื่อนว่า “พี่ใหญ่ ถ้าพี่อยากให้เราแต่งงาน พี่ที่เป็นพี่ชายคนโตก็ควรแต่งงานก่อนสิ ช่วยเป็นตัวอย่างให้เราก่อน พอพวกเราเห็นเดี๋ยวก็ทยอยแต่งเอง”
เซี่ยเหลยรู้สึกไม่สบายใจทันที “แล้วฉันจะแต่งงานกับใครได้?”
เซี่ยไห่มองผู้หญิงที่เดินมาถึงหน้าประตูร้านจากหางตา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเน้นหนักว่า “พี่อิงจื่อไง”
เซี่ยเหลยหันหลังให้กับประตูร้าน ทำให้ไม่เห็นคนที่อยู่นอกประตูร้าน จึงดุเขาอย่างเชื่องช้า “อย่าพูดไร้สาระน่า”
“ใครพูดไร้สาระ?” เซี่ยไห่มองหลิวกุ้ยอิงที่เดินเข้ามา แล้วทักทายด้วยรอยยิ้ม “พี่อิงจื่อ มาแล้วเหรอครับ?”
หลังจากเซี่ยเหลยได้ยินสิ่งที่น้องชายพูด เขาก็หันกลับไปอีกครั้ง และเห็นว่าหลิวกุ้ยอิงกำลังเดินเข้ามาพอดี
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ทำไมจู่ๆ พี่เหลยถึงอยากเป็นพ่อสื่อให้น้องๆ ขึ้นมาล่ะเนี่ย พี่แต่งงานเป็นตัวอย่างก่อนสิ
ไหหม่า(海馬)