บทที่ 313 ผู้ชายที่เธอเจอในปีนั้นคือนาย
ลี่จุนถิงมองเอกสารตรงหน้าอย่างยากที่จะเชื่อ สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความเหลือเชื่อ
ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ งั้นก็หมายความว่า……ถวนจื่อเป็นลูกของตัวเองงั้นเหรอ?
แต่มันเป็นไปได้ยังไง!
ตอนนี้ถวนจื่อห้าขวบแล้ว แต่ห้าปีก่อนเขาไม่เคยเจอเจียงหยุนเอ๋อเลย แล้วจะมีเพศสัมพันธ์กันจนมีลูกกันได้ยังไง?
แต่พอคิดถึงตรงนี้ ลมหายใจของลี่จุนถิงก็หยุดชะงัก จู่ๆก็นึกถึงความเป็นไปได้ที่แต่ก่อนไม่เคยได้นึกถึงมาก่อน
ไม่ใช่ว่าเขาตั้งใจจะคิดไปทางนั้น แต่ผลตรวจออกมาชัดเจนขนาดนี้แล้ว เขาก็จำเป็นต้องยอมรับความเป็นไปได้นี้
ถวนจื่อก็คือลูกของเขา!
แต่เขาเคยมีความสัมพันธ์กับเจียงหยุนเอ๋อที่ไหนกันล่ะ?
ลี่จุนถิงนึกขึ้นได้อย่างฉับพลัน เมื่อห้าปีก่อน เขาเคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งจริงๆ……
หรือว่า……
หรือว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในคืนนั้น?
เจียงหยุนเอ๋อก็เสียตัวให้กับผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ หรือว่า……ไปๆมาๆ ผู้ชายคนนั้นจะเป็นตัวเอง?
หลันเยว่เฉินที่อยู่ข้างๆเงียบอยู่นาน ลี่จุนถิงไม่พูด เขาก็ไม่กล้าเปิดปากพูด
แต่ดูสีหน้าของลี่จุนถิงที่เปลี่ยนไปมานี้ หลันเยว่เฉินก็พอจะเดาออกได้รางๆแล้วว่า ลี่จุนถิงต้องปิดบังอะไรที่ตัวเองไม่รู้แน่ๆ
และเรื่องพวกนี้ก็ต้องมีส่วนข้องเกี่ยวกับการเกิดมาของถวนจื่อ!
คิดอยู่สักพัก หลันเยว่เฉินก็ลองหยั่งเชิงถามลี่จุนถิงว่า “จุนถิง นายคิดอะไรออกแล้วใช่หรือเปล่า?”
สีหน้าของลี่จุนถิงเคร่งเครียดมากผิดปกติ หันไปมองหลันเยว่เฉินพูดว่า “เด็กคนนี้…..อาจจะเป็นลูกของฉันจริงๆก็ได้”
ถึงแม้ลี่จุนถิงพยายามบอกกับตัวเองว่าต้องใจเย็น แต่กว่าจะพูดประโยคนี้ออกมาได้จบประโยค เขาก็ยังต้องใช้แรงไม่น้อยเลยกว่าจะพูดออกมาได้
เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขาจะมีความสัมพันธ์แบบนี้กับเจียงหยุนเอ๋อเมื่อนานมาแล้ว
ถึงแม้ต่อถวนจื่อแล้ว ก่อนที่ลี่จุนถิงจะรู้ถึงการเกิดมาของเขา ก็รู้สึกมีความใกล้ชิดแบบแปลกๆกับเขามาก่อนแล้ว
และตอนนี้……ในที่สุดลี่จุนถิงก็รู้แล้วว่าความรู้สึกใกล้ชิดนี่มาจากไหน
หลังจากที่ได้ยินลี่จุนถิงพูด หลันเยว่เฉินก็ตกตะลึงมากเช่นกัน
แม้ว่าหลังจากที่เห็นผลตรวจแบบนั้น ในใจของหลันเยว่เฉินก็มีการคาดเดารางๆแล้วก็ตาม
แต่ต่อให้จะทำใจมาแล้วระดับหนึ่ง แต่พอได้ยินลี่จุนถิงพูดแบบนี้ เขาก็ยังคงไม่สามารถควบคุมความรู้สึกตะลึงในใจนี้ได้อยู่ดี
“นี่มัน……แต่พวกเธอ……แต่ก่อนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนไม่ใช่เหรอ?”
หลันเยว่เฉินมองสีหน้าของลี่จุนถิงอย่างจริงจังแล้วถามออกมา
สีหน้าของลี่จุนถิงก็ยังคงเคร่งขรึมมากเหมือนเดิม ราวกับว่าตกอยู่ในห้วงความทรงจำบางอย่าง
“แต่ก่อนหยุนเอ๋อเคยบอกกับฉันว่าถวนจื่อ……คือเธอเสียตัวโดยไม่ตั้งใจแล้วคลอดออกมา……”
ฟังที่ลี่จุนถิงพูด หลันเยว่เฉินก็ขมวดคิ้วแน่น
“เพราะฉะนั้น ผู้ชายที่เธอเจอคนนั้น……คือนาย?”
หลันเยว่เฉินตาโต คิดไม่ถึงว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้
ลี่จุนถิงลูบคางครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ เรื่องทั้งหมดตอนนี้ก็เหมือนจะแจ่มชัดแล้ว แต่ว่า……
เพื่อรับประกันเรื่องทั้งหมดนี้ได้จริงๆ เขาก็จำเป็นที่ต้องไปถามเจียงหยุนเอ๋อให้เรื่องกระจ่าง
ดังนั้น ลี่จุนถิงจึงไม่ได้ยอมรับทันที แต่แค่ส่ายหน้าเบาๆว่า “เมื่อห้าปีก่อน ฉันก็มีคืนที่แสนพิเศษคืนหนึ่งจริงๆ……แต่ว่า……”
“บนโลกนี้จะมีเรื่องที่บังเอิญขนาดนี้จริงๆเหรอ?” หลันเยว่เฉินยังคงตกอยู่ในความตะลึง อดที่จะพึมพำออกมาไม่ได้
“จะบังเอิญขนาดนี้หรือเปล่า กลับไปถามก็รู้” ลี่จุนถิงพูดพึมพำเช่นนี้
หลันเยว่เฉินชะงักไปสักพักแล้วพยักหน้าเห็นด้วย “อืม ถึงแม้เรื่องนี้จะ……แต่กลับไปถามให้ชัดเจนจะดีกว่า”
“โอเค ฉันจะกลับไปตอนนี้เลย” ลี่จุนถิงหยิบเอกสารบนโต๊ะเตรียมตัวออกไป
เห็นสภาพที่ลี่จุนถิงตื่นเต้นจนปิดไม่มิดนั้น หลันเยว่เฉินก็อดเป็นห่วงขึ้นมาไม่ได้
“จุนถิง สภาพนายตอนนี้ จะให้ฉันให้คนส่งนายกลับหรือเปล่า……” หลันเยว่เฉินมองลี่จุนถิงแล้วพูดขึ้นอย่างจริงๆจัง
เดิมทีลี่จุนถิงอยากจะปฏิเสธจากจิตใต้สำนึก แต่พอก้มหน้าลงมาก็เห็นมือของตัวเองสั่นเล็กน้อย
ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบทางใจต่อเขามาก
สุดท้ายพอลองคิดไตร่ตรองดูแล้ว ลี่จุนถิงก็เริ่มคิดว่าสภาพของเขาตอนนี้ไม่เหมาะที่จะขับรถ จึงเห็นด้วยกับหลันเยว่เฉินให้คนขับรถของหลันเยว่เฉินส่งตัวเองกลับ
ลี่จุนถิงในตอนนี้อยากกลับบ้านมากเหมือนกับธนูที่พุ่งออกจากแหล่ง
รายละเอียดแต่ก่อนค่อยๆผุดขึ้นมาในสมองของเขาทีละเรื่องๆ ความเหมือนระหว่างเขากับถวนจื่อก็ให้เขาหาออกมาเจอทีละอย่างๆ
ลี่จุนถิงมักจะรู้สึกว่าถวนจื่อกับเขามีความคล้ายคลึงกันอยู่บ่อยๆ แต่ก่อนเขาคิดว่าตัวเองคิดไปเองหรือเป็นแค่เรื่องบังเอิญ
ตอนนี้ดูแล้ว น่าจะเป็นวาสนาแปลกๆที่วิเศษระหว่างพ่อลูกสินะ?
คิดถึงตอนนี้ ลี่จุนถิงก็ยิ่งรีบอยากเจอถวนจื่อกับเจียงหยุนเอ๋อเร็วๆ จึงอดไม่ได้ที่จะเร่งคนขับรถ
“ขับเร็วกว่านี้ได้ไหมครับ? ผมรีบ”
ลี่จุนถิงที่อยากกลับบ้านมาก บอกกับคนขับรถอย่างจริงจัง
หน้าผากของคนขับรถผุดเหงื่อออกมา เขารู้ดีว่าลี่จุนถิงคือคนที่เขาขัดใจด้วยไม่ได้ จึงได้แต่เพิ่มความเร็วขึ้นอย่างเงียบๆ
แต่แล้วในระหว่างทาง ลี่จุนถิงกลับได้รับสายจากลี่จุนซิน
“ฮัลโหล พี่ ถ้าพี่ไม่มีอะไรเดี๋ยวค่อยมาหาผมนะ” ลี่จุนถิงพูดพลางมองออกไปนอกกระจกด้วยความร้อนรน คิดประมาณคร่าวๆในใจว่าอีกนานเท่าไหร่ถึงบ้าน
“จุนถิง พี่มีเรื่องจะบอกนาย นาย……นายต้องใจเย็นๆนะ” ลี่จุนซินลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ตัดสินใจพูด
ลี่จุนถิงชะงัก รู้สึกได้จากจิตใต้สำนึกว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเจียงหยุนเอ๋อแน่ๆจึงรีบถามขึ้น “เรื่องอะไร?”
“ก็คือ……เมื่อกี้แม่มาแล้วไล่หยุนเอ๋อกับถวนจื่อออกไป”
สีหน้าของลี่จุนถิงเปลี่ยนไปอย่างมหันต์ รีบเร่งให้คนขับขับเร็วกว่านี้อยู่หลายครั้ง
พอกลับมาถึงบ้าน ลี่จุนถิงก็เจอเข้ากับภาพที่คนไม่อยู่แล้วและในบ้านก็ว่างเปล่า
“หยุนเอ๋อกับถวนจื่ออยู่ไหน?” เข้ามาในบ้าน ลี่จุนถิงก็เห็นพ่อบ้านที่กลัวจนตัวสั่นอยู่ จึงถามขึ้นเสียงดัง
พ่อบ้านสะดุ้งตกใจกับความเดือดดาลของลี่จุนถิง ได้แต่พูดอ้ำๆอึ้งๆว่า “ไป……ไปแล้วครับ”
ได้ยินที่พ่อบ้านพูด ลี่จุนถิงก็โกรธมากขึ้นกว่าเดิมและถามอีกครั้งว่า “ไปไหน?”
ทิศทางไปของเจียงหยุนเอ๋อ พ่อบ้านจะรู้ได้อย่างไร ดังนั้นจึงก้มหน้าพูดเสียงเบาว่า “เรื่องนี้……ผมก็ไม่ทราบครับ”
“แม่งเอ้ย!”
ลี่จุนถิงบอกได้ว่าตอนนี้อัดอั้นไปด้วยความโกรธ แต่ต่อให้ระบายความโกรธออกมาก็หาเจียงหยุนเอ๋อไม่เจออยู่ดี จึงได้แต่ออกไปอย่างเดือดจัด เตรียมโทรหาซู่จี้งยี้ให้ไปหาคน