บทที่ 285 เช่าที่ดิน 2

เมื่อหลิวต้าจ้วงและเถาต๋าได้ยินคำตอบ ทั้งคู่ก็มองหน้ากันอย่างตะลึงงันราวกับว่าพวกเขาไม่ได้ยินคำพูดของกู้เสี่ยวหวานอย่างชัดเจน และเอ่ยถามอย่างโง่เขลา “สาวน้อย เจ้าพูดอะไรนะ?”

ป้าจางที่อยู่ด้านข้างยิ้มและกล่าวว่า “พวกเจ้าทั้งสอง สาวน้อยเสี่ยวหวานบอกว่านางจะเอาค่าเช่าสามส่วนตามรายได้ของเจ้าทุกปี และถ้าเจอปีที่ข้าวยากหมากแพง นางจะเอาสองส่วนของค่าเช่า เข้าใจหรือยัง?”

ใบหน้าของหลิวต้าจ้วงและเถาต๋าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ด้วยใบหน้าสีเข้มและฟันขาว ตื่นเต้นมากจนแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้

“ท่านลุงหลิว ท่านลุงเถา ท่านต้องการเช่าที่ดินกี่หมู่? และเช่านานเท่าไรหรือเจ้าคะ?” กู้เสี่ยวหวานถามอีกครั้งเมื่อเห็นว่าป้าจางตอบคำถามแทนนางแล้ว

หลิวต้าจ้วงและเถาต๋าลุกขึ้นทันที และกล่าวอย่างตื่นเต้น “สาวน้อย รอก่อน พวกเราขอปรึกษากันสักครู่”

เขาก้าวออกไปทันทีและก้มศีรษะลงเพื่อพูดคุย

หลิวต้าจ้วงและเถาต๋าได้พูดคุยกับสมาชิกในครอบครัวก่อนที่พวกเขาจะมาถึง เดิมทีพวกเขาเช่าที่ดินห้าหมู่จากบ้านของเจ้าของบ้าน ในปีที่ดีเจ้าของบ้านจะได้รับค่าเช่าสี่ส่วน ครอบครัวของพวกเขาจึงแทบจะไม่พอเลี้ยงปากท้อง ต่อมาเจ้าของที่ดินไม่เต็มใจ และต้องเพิ่มค่าเช่าอีกหนึ่งส่วน กลายเป็นห้าส่วน ทั้งครอบครัวนี้ตลอดทั้งปีกลับได้เงินเพียงครึ่งเดียวของการเก็บเกี่ยวอย่างยากลำบาก มันพอประทังปากท้องที่ไหนกันเล่า

เมื่อเห็นว่าลูก ๆ ในครอบครัวโตขึ้นเรื่อย ๆ การกินก็เพิ่มมากขึ้น เช่นนี้จะพอกินได้อย่างไร

หลิวต้าจ้วงและเถาต๋าไปที่บ้านของเจ้าของที่ดินหลายครั้งเพื่อต้องการลดค่าเช่าลง จนเจ้าของที่ดินเริ่มรำคาญ และกล่าวตรง ๆ ว่า “ถ้าเจ้าอยากเช่าก็เช่า ถ้าไม่อยากเช่าก็มีคนอื่นที่ต้องการเช่าอยู่”

หลิวต้าจ้วงก็หงุดหงิดและกล่าวกลับไปทันทีว่าพวกเราจะไม่เช่าแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อคำพูดนี้ออกไปแล้ว พวกเขาก็ไม่มีทั้งที่อยู่และไม่มีอาหารกิน เขาจึงทำได้เพียงกลับไปหาเจ้าของบ้าน แต่เจ้าของบ้านก็ใจจืดใจดำ และเพิ่มค่าเช่าเป็นหกส่วน หลิวต้าจ้วงจึงโกรธจัด ที่ดินในบ้านของเจ้าของบ้านนี้ไม่สามารถเช่าได้อีกต่อไป เขาจึงต้องมองหาที่ดินอื่น

ต่อมาพวกเขาบังเอิญได้ยินญาติบอกว่ามีคนต้องการให้เช่าที่ดิน เช่นนั้นจึงต้องการลองเสี่ยงดู อย่างน้อยค่าเช่าคงไม่เกินหกส่วนหรอก? ถึงแม้ค่าเช่าจะเป็นห้าส่วน พวกเขาก็จะเช่า

ก่อนที่พวกเขาจะมาหากู้เสี่ยวหวาน หลิวต้าจ้วงและเถาต๋าได้พูดคุยกับครอบครัวของพวกเขาว่า ไม่ว่าค่าเช่าจะเท่าไร พวกเขาจะเช่าที่ดินเจ็ดหมู่ ซึ่งมากกว่าเดิมสองหมู่ เพราะมันสามารถให้ครอบครัวอิ่มท้องได้

เมื่อเห็นว่าค่าเช่าของกู้เสี่ยวหวานต่ำมาก ทั้งเถาต๋าและหลิวต้าจ้วงก็รู้สึกดีใจ

ค่าเช่าของกู้เสี่ยวหวานนั้นต่ำมาก พวกเขามีความสุขมาก เมื่อดูเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยเช่นนี้ แน่นอนว่าพวกเขากำลังคิดที่จะเช่าที่ดินเพิ่ม!

ในอดีตเมื่อเช่าที่ดิน เจ้าของจะเก็บค่าเช่าสี่ส่วนทุกในปี ถ้าปีที่ดีต้องมากกว่าสี่ส่วน และในปีข้าวยากหมากแพงต้องไม่น้อยกว่าสี่ส่วน ในปีนี้ทั้งเหนื่อยและยากลำบาก แต่เจ้าของก็จะเพิ่มค่าเช่าอีกหนึ่งส่วน

ครั้งนี้ เมื่อได้ยินว่ากู้เสี่ยวหวานจะเก็บค่าเช่าเพียงสามส่วนและในปีข้าวยากหมากแพงจะเก็บเพียงสองส่วน นี่เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับหลิวต้าจ้วงและเถาต๋าที่ทำการเกษตรเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวตลอดทั้งปี

หลิวต้าจ้วงถูฝ่ามืออย่างตื่นเต้น และทำให้เกิดเสียงกรอบแกรบ มันเป็นเสียงของผิวหนังที่ด้านและตายในมือของเขาหลังจากทำงานหนักมาหลายปี เมื่อมองดูมือสีคล้ำคู่นั้น กู้เสี่ยวหวานก็ถอนหายใจ

พวกเขามีความสุขมากที่นางเก็บค่าเช่าสามส่วน หากพวกเขาเช่าจากบ้านของเจ้าของที่เก็บสี่หรือห้าส่วน นั่นจะเป็นเรื่องยากมากสำหรับชาวนาเหล่านี้ที่ต้องหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินอย่างพวกเขา

ในครอบครัวมีแรงงานหนุ่มสาวสองคน ลูก ๆ ในครอบครัวโตแล้วจึงสามารถช่วยงานได้ และภรรยาของตนเองก็ขยันขันแข็งไม่ว่าจะงานนอกบ้านหรือในบ้านก็ต่างช่วยเหลือกันดี ถ้าทุกคนในครอบครัวขยันมากขึ้น พวกเขาก็จะดีขึ้นอย่างแน่นอน

หากเช่าเพิ่มอีกนิด ถึงเวลานั้นก็จะประหยัดค่าอาหารที่บ้านได้อีกเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม หนึ่งหมู่ก็ต้องเพาะปลูก สองหมู่ก็ต้องเพาะปลูก หากปลูกเพิ่มมากขึ้น ลูก ๆ ก็จะได้กินอิ่ม

ทั้งสองมีความเห็นตรงกัน และหลังจากคุยกันแล้ว พวกเขาก็กลับเข้ามาอย่างตื่นเต้น

ดังนั้นพวกเขาจึงกล่าวกับกู้เสี่ยวหวานอย่างตรงไปตรงมา “เราต้องการเช่าที่ดินสิบหมู่ และเช่าเป็นเวลาสามปีก่อน”

“ที่ดินสิบหมู่?” กู้เสี่ยวหวานคิดอยู่ครู่หนึ่ง ที่ดินห้าสิบหมู่ที่นางเคยเห็นครั้งล่าสุด มีพื้นที่หลายหมู่ และแปลงที่เล็กที่สุดก็มีพื้นที่มากกว่าหนึ่งหมู่ “ตกลง พวกเราตกลงกันได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ที่ดินที่พวกท่านจะเลือก เลือกให้ติด ๆ กันไว้ดีกว่า ข้าจะได้สามารถให้คนอื่นเช่าที่ดินอื่นได้”

ทันทีที่กู้เสี่ยวหวานกล่าวเช่นนี้ หลิวต้าจ้วงและเถาต๋าก็มองหน้ากันและยิ้ม แล้วตอบกลับทันที “สำเร็จ สำเร็จ สำเร็จ! เป็นอย่างนั้นแน่นอน!” หลังจากพูดสามคำติดต่อกัน เขาก็มีท่าทีที่พึงพอใจมาก

กู้เสี่ยวหวานเห็นการแสดงสีหน้าของเถาต๋า ตอนนี้ใบหน้าของเขาเผยรอยยิ้มออกมา เขายืนขึ้นอย่างตื่นเต้น ทั้งตกใจและทั้งดีใจ เขามองไปที่หลิวต้าจ้วงและกล่าวว่า “ท่านพี่ พวกเรา พวกเราเจอเจ้าของที่ดีแล้ว”

หลิวต้าจ้วงยืนขึ้นอย่างตื่นเต้นและกล่าวว่า “ใช่แล้ว ใช่แล้ว ขอบคุณสาวน้อย เราสัญญาว่าจะส่งค่าเช่าตรงเวลา สาวน้อยช่างใจดีกับเราจริง ๆ ข้าและน้องเขยขอกล่าวขอบคุณแทนครอบครัวของพวกเราจริง ๆ”

เมื่อกล่าวเช่นนั้น ทั้งสองก็ต้องการคำนับกู้เสี่ยวหวาน เมื่อเห็นเช่นนั้นนางจึงตกใจในทันที นางอายุเพียงเก้าขวบ นางจะกล้ารับการคำนับจากผู้อาวุโสได้อย่างไร นางจึงหลบเลี่ยงทันที แล้วกล่าวว่า “ท่านลุงเถา ท่านลุงหลิว อย่าทำเช่นนี้เลย ข้าเป็นเด็ก การที่พวกท่านทำเช่นนี้ พวกท่านอย่างจะลดอายุขัยของข้าหรือ?”

ป้าจางที่อยู่ถัดจากพวกเขาก็ดีใจมากเช่นกันเมื่อเห็นว่าพวกเขาได้ตกลงกันแล้ว และยังเกลี้ยกล่อมว่า “ใช่แล้ว ๆ พวกเจ้าอย่าเป็นเช่นนี้ ผู้อาวุโสที่ไหนเขาคำนับเด็กกันล่ะ พวกเจ้าอยากจะลดอายุของสาวน้อยผู้นี้อย่างนั้นหรือ!”

หลิวต้าจ้วงและเถาต๋าก็รู้ว่าสิ่งนี้ไม่สมเหตุสมผล และพวกเขาทั้งคู่ก็ลูบหลังศีรษะและยิ้มอย่างเขินอายเล็กน้อย

หลังจากนั้นกู้เสี่ยวหวานก็ได้เขียนสัญญาด้วยตนเอง และขอให้ป้าจางเป็นคนกลาง และเรื่องนี้ก็คลี่คลายลง

หลังจากเขียนสัญญาแล้ว กู้เสี่ยวหวานก็พาพวกเขาไปในเมืองหลิวเจีย

เพราะในวันนี้หลิวต้าจ้วงเช่าเกวียนวัวมา จึงขับเกวียนไปที่เมืองหลิวเจียทันที เมื่อมาถึงที่ดิน นางก็ให้พวกหลิวต้าจ้วงเลือกที่ดินสิบหมู่ด้วยตนเอง จากนั้นจึงตกลงร่วมกันเกี่ยวกับที่ดินสิบหมู่ที่พวกเขาต้องการ เช่นนี้ก็ถือว่าสำเร็จแล้ว

________________________________________